กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 456

กู้ช่านประสานสายตากับเฉินผิงอัน “เฉินผิงอัน ข้าจะไหว้วานเจ้าเรื่องหนึ่งได้ไหม? ช่วยส่งท่านแม่ข้าออกไปจากทะเลสาบซูเจี่ยนได้ไหม? ยกตัวอย่างเช่นกลับไปที่ตรอกหนีผิง หรือไม่ก็ส่งไปอยู่ข้างกายท่านพ่อข้า”

เฉินผิงอันถาม “แล้วเจ้าล่ะ?”

กู้ช่านกล่าว “เจ้าเคยบอกว่า ใช้เหตุผลหรือไม่ใช้เหตุผล อันที่จริงล้วนต้องจ่ายค่าตอบแทน ค่าตอบแทนของการไม่มีเหตุผล ข้าเข้าใจแล้ว ค่าตอบแทนของการใช้เหตุผลที่เจ้าพูดถึง ข้าก็อยากจะลองทำดู การเดินทางไปตอนใต้ของทะเลสาบซูเจี่ยน ข้าจะไปกับเจิงเย่ เจ้าแค่ต้องส่งท่านแม่ข้าออกจากทะเลสาบซูเจี่ยนก็พอ”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ตกลง”

ราวกับว่าเขารอคอยประโยคนี้มานานมากเหลือเกินแล้ว

กู้ช่านสอดสองมือไว้ในชายแขนเสื้อ เฉินผิงอันก็สอดสองมือประสานกันไว้ในแขนเสื้อเช่นกัน พวกเขามองซากปรักตรงหน้าอยู่ด้วยกัน

หลังจากนั้นกู้ช่านก็กลับไปที่จวนชุนถิง เกี่ยวกับข้อตกลงใหม่ที่มีกับเฉินผิงอัน เขาไม่ได้เล่าให้มารดาฟังแม้แต่คำเดียว เพียงแค่เอ่ยประโยคปลอบใจนางเล็กน้อย

ส่วนเฉินผิงอันก็ไปเยือนนครน้ำบ่อมาหนึ่งรอบ

แผ่นป้ายสงบสุขปลอดภัยของต้าหลีแผ่นนั้น แม้จะพบหน้าซูเกาซานไม่ได้ แต่จะพบผู้ฝึกตนติดตามกองทัพที่ปักหลักเฝ้าพิทักษ์เมืองแห่งนี้กลับยังถือว่ามีน้ำหนักมากพอ

ผลกลับกลายเป็นว่าพอเขามาเยือนจวนสกุลฟ่านที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาและได้พบหน้าผู้ฝึกตนหนุ่มคนนั้นแล้ว คนทั้งสองต่างก็มองหน้ากันตาปริบๆ

กวนอี้หราน

เฉินผิงอัน

โลกมักจะกลมเช่นนี้เสมอ

กวนอี้หรานเกรงอกเกรงใจอย่างมาก ทั้งกระตือรือร้นและจริงใจ

แต่พอเฉินผิงอันบอกว่าจะส่งมารดาของกู้ช่านที่อยู่บนเกาะชิงเสียไปยังเขตการปกครองหลงเฉวียน กวนอี้หรานกลับไม่ได้รับปาก แต่ทำงานไปตามหน้าที่ บอกว่าเรื่องนี้จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก เขาไม่อาจตัดสินใจได้เองโดยพลการ จำเป็นต้องแจ้งให้แม่ทัพใหญ่ซูเกาซานทราบ

เฉินผิงอันย่อมไม่มีความเห็นต่าง

นี่ต่างหากคือกฎเกณฑ์ที่สมควรมีในการกระทำเรื่องใดๆ ก็ตาม

ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนปะปนซับซ้อน ไม่แยกแยะส่วนรวมและส่วนตัว มองดูเหมือนใช้วิธีแสวงหาความก้าวหน้าเดินทางลัด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนราบรื่นอย่างถึงที่สุด การคบค้าสมาคมหวานชื่นชั่วครั้งชั่วคราว แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับทิ้งโรคร้ายไว้บนเส้นทางของชีวิตคน ไม่แน่ว่าวันใดอาจต้องเจอกับกรรมตามสนอง

กวนอี้หรานบอกว่าภายในสิบวัน ช้าสุดคือครึ่งเดือน แม่ทัพใหญ่ก็จะมอบคำตอบมาให้ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เขาจะแจ้งให้เฉินผิงอันทราบในทันที

คุยเรื่องงานกันเสร็จแล้ว

คนทั้งสองก็ดื่มเหล้าด้วยกันหนึ่งมื้อ เฉินผิงอันเป็นคนเลี้ยง

ก็เหมือนอย่างที่กวนอี้หรานผู้ฝึกตนหนุ่มของต้าหลีเคยพูดล้อเล่นตรงหน้าประตูเมืองแคว้นสือหาวแห่งนั้น ไม่ว่าเรื่องไหนก็ติดหนี้เขาได้ ทว่าแม้แต่เทพยดาบนสวรรค์ก็ไม่สามารถติดค้างเหล้าเขากวนอี้หรานได้

แม้ว่ากวนอี้หรานจะเป็นหลานทวดของเจ้าประมุขสกุลกวนอันเป็นเสาหลักของต้าหลีในปัจจุบัน แต่ก็เหมือนที่เฉินผิงอันคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ ยิ่งเป็นลูกหลานขุนนางที่มีภาระรับผิดชอบเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นความสำคัญกับสองคำว่ากฎเกณฑ์มากเท่านั้น หากเปลี่ยนมาเป็นกู้ชานที่มาที่นี่ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งกว่ากวนอี้หรานจะให้เขากินน้ำแกงประตูปิด อีกทั้งช่วงนี้คนอย่างพวกหวงเฮ้อก็คอยเป่าหูกวนอี้หรานอยู่ไม่น้อยจริงๆ มีเจตนาชั่วร้าย แต่วิธีที่ใช้ไม่ถือว่าฉลาด กวนอี้หรานมองออกในทันที ต้องรู้ว่าสกุลกวนคือเสาหินที่ตั้งอยู่กลางกระแสน้ำของวงการขุนนางต้าหลีมานานถึงสองร้อยปี สำหรับกลอุบายประเภทนี้ เขาเห็นมานักต่อนักแล้ว กวนอี้หรานถึงขั้นรู้สึกวาพวกหวงเฮ้อยังไม่นับว่าฉลาดพอ ต่อให้สามารถใช้กู้ช่านคนหนึ่งมาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในระยะสั้นได้ แต่อย่างน้อยที่สุดเมื่ออยู่บนเส้นสายของเขากวนอี้หรานนี้ ก็อย่าหวังว่าจะมาทาบทามติด ผลได้ผลเสียที่อยู่ในนั้น หวงเฮ้ออาจคิดได้แล้ว เพียงแต่ว่าผลประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้าล่อลวงใจมากเกินไป หรือหากคิดไม่ได้ก็เป็นเพราะเขาไม่อาจคาดการณ์ได้ถึงความลึกล้ำของรากฐานตระกูลกวนอี้หรานเลย และกวนอี้หรานเองก็ไม่เคยเปิดเผยตัวตนของตัวเองต่อคนนอกมาก่อน

ทว่าเรื่องวงในเหล่านี้ก็เหมือนอย่างที่เฉินผิงอันไม่เคยเล่าคำเตือนของหลิวเหล่าเฉิงให้หลี่ฝูฉวีฟัง ต่อให้กวนอี้หรานจะรู้สึกถูกชะตากับเฉินผิงอันมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีทางนำพวกคนอย่างหวงเฮ้อ เถียนหูจวินแห่งเกาะซู่หลินมาเป็นหัวข้อพูดคุยในวงเหล้าอย่างแน่นอน

สิบวันผ่านไป กระบี่บินส่งข่าวจากนครน้ำบ่อก็มาถึงเกาะชิงเสีย กวนอี้หรานบอกกับเฉินผิงอันว่าท่านแม่ทัพใหญ่ซูเกาซานรับปากเองว่า มารดาของกู้ช่านสามารถนั่งโดยสารเรือตระกูลเซียนกลับไปที่เขตการปกครองหลงเฉวียนได้ แต่ห้ามนำเงินเทพเซียน หรือสมบัติในคลังลับของเกาะชิงเสียออกไปด้วยมากนัก ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เฉินผิงอันก็จำเป็นต้องมอบป้ายสงบสุขปลอดภัยคืนให้แก่ต้าหลี อีกทั้งในเอกสารคดีของเขาที่อยู่ในที่ว่าการกรมพิธีการก็จะเท่ากับว่าสูญเสียยันต์คุ้มกันกายของผู้ฝึกตนอันดับต้นของต้าหลีไปอย่างสิ้นเชิง วันหน้าหากคิดจะได้มาครอบครองอีกครั้งก็จำเป็นต้องอาศัยคุณความชอบแลกมา

เฉินผิงอันตอบรับอย่างไม่ลังเล

ทางฝ่ายของจวนชุนถิง สตรีแต่งงานแล้วที่จู่ๆ ก็ได้ยินข่าวนี้รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ประหนึ่งได้ยินข่าวร้ายที่ใหญ่เทียมฟ้า

หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เห็นว่าทั้งเฉินผิงอันและกู้ช่านต่างก็ไม่พูดอะไรราวกับนัดกันมา สตรีแต่งงานแล้วก็คล้ายจะยอมรับชะตากรรม สอบถามเฉินผิงอันว่ากู้ช่านจะทำอย่างไร แล้วยังพูดว่าหากนางไม่อาจออกไปจากทะเลสาบซูเจี่ยนได้พร้อมกับกู้ช่าน ต่อให้ตายนางก็ไม่มีทางไปจากเกาะชิงเสีย

กู้ช่านมองมาทางเฉินผิงอัน

เฉินผิงอันเอ่ยว่า “ออกไปพร้อมกันได้ การเดินทางไปยังกลุ่มภูเขาทางทิศใต้ของทะเลสาบซูเจี่ยน ข้าสามารถไปเองได้”

กู้ช่านถาม “ท่านแม่ข้ากลับตรอกหนีผิงคราวนี้จะปลอดภัยไหม?”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ซูเกาซานก็ดี กวนอี้หรานก็ช่าง ขอแค่ตกปากรับคำแล้วก็ล้วนเชื่อถือได้ หากไม่วางใจจริง ข้าเองก็หวังว่าเจ้าจะสามารถกลับไปพร้อมกับท่านแม่ของเจ้า เรื่องบางอย่าง ขอแค่เจ้าอยากทำด้วยความจริงใจก็ล้วนทันเวลาเสมอ”

กู้ช่านจมเข้าสู่ภวังค์ความคิด

สตรีแต่งงานแล้วถามอย่างขลาดๆ “วันหน้ายังกลับมาอีกได้ไหม?”

เฉินผิงอันเอ่ย “มีโอกาสนี้ แต่ตอนนี้ข้าไม่กล้ารับประกัน”

หลังจากนั้นสตรีแต่งงานแล้วก็ถามถึงรายละเอียดอีกมากมายในการหวนคืนสู่บ้านเกิด เฉินผิงอันไล่ตอบไปทีละคำถาม เห็นได้ชัดว่าทุกเรื่องที่นางคิดถึง เฉินผิงอันก็คิดถึงเหมือนกัน ถึงขั้นที่ว่าเขายังคิดถึงเรื่องที่สตรีแต่งงานแล้วนึกไม่ถึงด้วย

นี่ทำให้สตรีแต่งงานแล้วที่จิตใจเหมือนถูกมีดกรีดพอจะผ่อนคลายขึ้นได้หลายส่วน

สามารถนำสมบัติส่วนหนึ่งของจวนชุนถิงกลับไปได้ ยกตัวอย่างเช่นเงินเทพเซียนกองใหญ่ และยังสามารถเลือกสาวใช้ห้าหกคนในจวน พวกอักษรภาพ ของเล่นโบราณทั้งหลายก็มีอยู่ถึงสามหีบใหญ่ อีกทั้งนางยังสามารถเลือกสมบัติวิเศษสิบชิ้นและสมบัติอาคมหนึ่งชิ้นในคลังลับของเกาะชิงเสียไปได้ด้วยตัวเอง

หลังจากนั้นสตรีแต่งงานแล้วที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์อันฮึกเหิมก็ทำเหมือนกับมดย้ายรัง ดั่งนกนางแอ่นคาบดินมาก่อร่างสร้างรังตัวเองดุจครั้งที่ยังอยู่ในตรอกหนีผิงปีนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!