กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 465

ชั้นที่หนึ่งของเรือนไม้ไผ่ได้จัดวางชั้นโบราณเรียงไว้ชั้นหนึ่ง สีไม้เรียบง่ายแต่ประณีตงดงาม ช่องว่างเยอะ แต่สมบัติมีน้อย

เฉินผิงอันจึงคิดจะหยิบเอาสิ่งของที่อยู่ในวัตถุฟางชุ่นและวัตถุจื่อชื่อออกมาวางเติมให้ดูมีหน้ามีตาเสียหน่อย ผลกลับกลายเป็นว่าเฉินผิงอันต้องอึ้งตะลึง ตามหลักแล้วเฉินผิงอันออกเดินทางไกลมานานหลายปีขนาดนี้ ก็ถือว่าได้เห็นของดีๆ และได้จับผ่านมือมาแล้วไม่น้อย แต่ดูเหมือนว่านอกจากสิ่งของที่ลู่ไถซื้อจากถนนเรียกสวรรค์ของสำนักฝูจีแล้วมอบให้กับเขา ของขวัญที่อู๋ยวนจวนจื่อหยางมอบให้ บวกกับภาพสตรีงดงามที่เฉินผิงอันซื้อมาจากถนนวานร่ำไห้ของนครน้ำบ่อ รวมไปถึงของชิ้นเล็กๆ ที่เถ้าแก่ร้านมอบให้เป็นของรางวัล ก็ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วจะเหลือสิ่งของอีกไม่มาก ทรัพย์สมบัติเหลือน้อยกว่าที่เฉินผิงอันคิดไว้ สมบัติแต่ละชิ้นเหมือนจอกแหนแต่ละใบที่หมุนวนอยู่กลางน้ำ นึกจะไปก็ไป นึกจะไม่มีก็ไม่มีเสียอย่างนั้น

อยู่ดีๆ เฉินผิงอันก็หวนนึกไปถึง ‘ด่านหลิวเซี่ย’ ซึ่งเป็นด่านที่ตั้งอยู่ชายแดนระหว่างแคว้นสือหาวกับแคว้นเหมยโย่วขึ้นมา มีชื่อว่าหลิวเซี่ย (รั้งไว้/อยู่ต่อ) แต่แท้จริงแล้วกลับรั้งอะไรไว้ไม่เคยได้เลย

บางอย่างก็ให้คนอื่นยืมไปชั่วคราว ยกตัวอย่างเช่น ‘ซีเยว่’ เสื้อเกราะรับน้ำค้างรุ่นบรรพบุรุษที่อยู่บนร่างของเว่ยเซี่ยน ดาบแคบหยุดหิมะที่พกตรงเอวหลูป๋ายเซี่ยง กระบี่ชือซินที่สะพายอยู่ด้านหลังสุยโย่วเปียน แผ่นหยก ‘ข้าเชี่ยวชาญการบ่มเพาะจิตใจที่ซื่อตรงและยิ่งใหญ่’ ที่อยู่ในมือเว่ยป้อ ตำหนักพญายมราชคุกล่างและหอแก้วจำลองสองชิ้นที่อยู่กับกู้ช่าน เป็นต้น

ที่มากกว่านั้นคือยกให้คนอื่นไปเลย ยกตัวอย่างเช่นตราประทับเสี่ยนโย่วโป๋เทพอภิบาลเมืองแยนจือแคว้นไฉ่อี ทุกคนที่อยู่บนภูเขาลั่วพั่ว ทุกคนที่อยู่ในสำนักศึกษาซานหยา มีใครบ้างที่ไม่เคยได้ของขวัญจากเฉินผิงอัน? ไม่พูดถึงคนสนิทเหล่านี้ ต่อให้เป็นที่ร้านขายเนื้อหมาของแคว้นสือหาว เฉินผิงอันก็ยังมอบเงินร้อนน้อยหนึ่งเหรียญออกไป ตอนอยู่ในผืนป่าริมแม่น้ำชุนฮวาแคว้นเหมยโย่ว เฉินผิงอันก็ทั้งควักเงินทั้งมอบยา ย้อนไปไกลกว่านั้น ตอนอยู่บนเกาะกุ้ยฮวายังโยนหินดีงูกำมือใหญ่ลงไปในน้ำเพื่อเลี้ยงเจียวน้อยวัยเยาว์ตัวนั้น เรียกได้ว่ามากมายนับไม่ถ้วนจริงๆ

เฉินผิงอันเอ่ยเยาะหยันตัวเอง “ตอนมอบให้คนอื่นมีเพียงความห้าวเหิม หลังจบเรื่องคิดขึ้นมาก็ปวดใจ”

คิดแล้วเฉินผิงอันก็นวดคลึงปลายคาง พยักหน้ากับตัวเอง “เป็นกลอนที่ดี!”

คนจิ๋วดอกบัวเดิมทีนั่งพักอยู่บนโต๊ะ พอได้ยินประโยคนี้ของเฉินผิงอันก็ทิ้งตัวนอนหงายลงไปทันที แขนเล็กที่เหลือเพียงข้างเดียวตบท้องตัวเองหัวเราะก๊ากไม่หยุด

เห็นท่าทางน่ารักของเจ้าตัวน้อยที่ร่าเริงนี้ เฉินผิงอันก็รู้สึกมีความสุขมาก

อยู่ที่ภูเขาลั่วพั่วนี้ ขอแค่ไม่ใช่คำพูดประจบเอาใจ เฉินผิงอันก็รู้สึกว่าไม่ว่าอะไรก็ไพเราะน่าฟังทั้งนั้น

เฉินผิงอันยื่นนิ้วข้างหนึ่งมาเกาตรงรอยบุ๋มใต้รักแร้เจ้าตัวน้อย เจ้าตัวน้อยพลิกตัวกลิ้งหลบไปทั่วโต๊ะ สุดท้ายก็ยังหนีไม่พ้นการหยอกเย้าของเฉินผิงอัน จึงได้แต่รีบลุกขึ้นนั่งตัวตรงอย่างสำรวม พองแก้ม แขนที่เหลือเพียงข้างเดียวโบกเบาๆ ยื่นนิ้วชี้ไปยังตำราที่กองทับกันอยู่บนโต๊ะหนังสือ ราวกับต้องการบอกอาจารย์น้อยผู้นี้ว่า จะเล่นสนุกบนโต๊ะหนังสือไม่ได้

เฉินผิงอันหัวเราะแล้วหยุดการกระทำลง

เขาหยิบสมบัติที่อยู่ในวัตถุฟางชุ่นและวัตถุจื่อชื่อออกมาวางลงบนโต๊ะทีละชิ้น

ตอนนี้ทรัพย์สินก็แค่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่เอาเข้าจริงสมบัติของเฉินผิงอันก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ไม่เพียงแต่จะมีภูเขาเข้าบัญชีรายรับ ตอนนี้ยังสะพายกระบี่เซียนเล่มหนึ่งไว้บนหลัง นี่ไม่ใช่เนื้อขายุงที่ตระกูลฝูนครมังกรเฒ่ายื่นโยนมาให้ แต่เป็นสมบัติกึ่งเซียนชิ้นหนึ่งอย่างแท้จริง

ชุดคลุมอาคมจินหลี่ที่ได้มาจากร่างของเจียวเฒ่าก่อกำเนิดในร่องเจียวหลงตัวนั้น เดิมทีก็เป็นสมบัติตกทอดของเซียนที่ฝึกตนอยู่นอกทะเล เซียนไม่ทราบชื่อที่บินทะยานไม่สำเร็จ ได้แต่ปลิดวิญญาณแล้วไปจุติใหม่ผู้นั้น จินหลี่ไม่ได้แหลกสลายตามร่างและดวงจิตของเขาไปด้วย เดิมทีนี่ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างหนึ่งแล้ว ดังนั้นเมื่อรู้ว่าจินหลี่สามารถอาศัยการกินเหรียญทองแดงแก่นทองแล้วจะกลายเป็นอาวุธกึ่งเซียนชิ้นหนึ่งได้ เฉินผิงอันจึงไม่ได้ประหลาดใจเท่าใดนัก

สร้อยข้อมือแกนลูกท้อที่ไม่สมบูรณ์เส้นหนึ่ง แกนลูกท้อทุกแกนล้วนเทียบเท่าได้กับการโจมตีถึงแก่ชีวิตของเซียนดินโอสถทองทั่วไป

ชุดคลุมอาคมที่เป็นเสื้อสีเขียวตัวบาง ระดับขั้นไม่ถึงสมบัติอาคม เพียงแต่เฉินผิงอันชอบมาก ด้วยรู้สึกว่าสีขาวผุดผ่องเหนือหิมะของชุดคลุมอาคมจินหลี่ตัวนั้นสะดุดตาเกินไป

ประคำเม็ดลูกท้อและชุดคลุมอาคมสีเขียว ยามที่เดินทางไปยังอุตรกุรุทวีปก็ต้องพกติดตัวไปด้วย

บนโต๊ะมีสิ่งของวางอยู่มากมาย

ตราประทับสองชิ้นวางไว้ตำแหน่งตรงกลางสุด ประหนึ่งดวงเดือนที่ถูกล้อมด้วยหมู่ดาว

เฉินผิงอันเริ่มคิดบัญชีเงียบๆ ติดหนี้แล้วไม่ชำระคืน ย่อมไม่ได้แน่นอน

จูเหลี่ยนเคยเล่าประสบการณ์อย่างหนึ่งให้ฟัง บอกว่าเรื่องของการยืมเงินนั้น คือหินทดสอบทองคำของมิตรภาพที่ดีที่สุด คนหลายคนที่เป็นเพื่อนกัน เมื่อยืมเงินกันไปก็เป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกแล้ว แต่ก็ต้องมีอยู่สักคนสองคนที่ยืมเงินแล้วยอมคืน จูเหลี่ยนยังบอกอีกว่าการคืนเงินแบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทหนึ่งคือคืนให้ทันทีที่มีเงิน อีกประเภทหนึ่งคือยังคืนไม่ได้ ซึ่งฝ่ายที่หายากและล้ำค่ามากกว่าก็คือฝ่ายที่ยังคืนเงินไม่ได้ แต่ก็ยังคงไปมาหาสู่ ไม่หลบเลี่ยง รอให้วันใดที่มีเงินใช้จ่ายไม่ฝืดเคืองแล้วจึงจะคืน ระหว่างนี้หากเจ้าไปเร่งรัด ในใจของเขาก็จะรู้สึกผิดและละอายใจ แต่ไม่รู้สึกตำหนิหรือไม่พอใจแม้แต่น้อย

จูเหลี่ยนบอกว่าเพื่อนประเภทสุดท้ายนี้ สามารถคบค้ากันไปได้อย่างยาวนาน เป็นเพื่อนกันชั่วชีวิตก็ยังไม่รู้สึกว่านานเกินไป เพราะว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ สำนึกในบุญคุณผู้อื่น

ตอนนั้นเฉินผิงอันยิ้มถามจูเหลี่ยนว่า นี่คือคิดจะยืมเงินเขาใช่หรือไม่? อีกทั้งยังไม่คิดจะคืนข้าในทันทีด้วย?

จูเหลี่ยนก้มหน้าค้อมเอว ถูมือเข้าด้วยกัน บอกว่านายน้อยช่างเป็นยอดฝีมือความรู้กว้างขวาง ล่วงรู้อนาคตล่วงหน้าจริงๆ

แล้วผู้เฒ่าหลังค่อมก็ทำหน้าหนาขอยืมเงินเกล็ดหิมะส่วนหนึ่งไปจากเฉินผิงอันจริงๆ อันที่จริงก็แค่สิบเหรียญ บอกว่าต้องการจะสร้างหอเก็บตำราส่วนตัวไว้ด้านหลังเรือนที่พักอาศัย

แน่นอนว่าเฉินผิงอันย่อมต้องให้ยืม ผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดินทางไกลคนหนึ่ง ก็คือบุคคลที่มีความเกี่ยวพันกับโชคชะตาบู๊ของหนึ่งแคว้นในระดับหนึ่ง มีชีวิตอยู่อย่างอนาถาจนถึงขั้นต้องขอยืมเงินเกล็ดหิมะสิบเหรียญจากคนอื่น แล้วยังต้องพร่ำพูดเกริ่นนำก่อนเสียตั้งมากมาย ขนาดเฉินผิงอันยังรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนจูเหลี่ยน แต่ว่าในเมื่อตกลงกันแล้วว่าแค่เงินเกล็ดหิมะสิบเหรียญ ก็จะไม่มากไปกว่านั้นแม้แต่เหรียญเดียว

เฉินผิงอันตั้งเงื่อนไขว่าวันหน้าเมื่อจูเหลี่ยนสร้างหอเก็บตำราส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องให้ที่นั่นเป็นพื้นที่ต้องห้ามของภูเขาลั่วพั่ว ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกโดยพลการ

จูเหลี่ยนตกปากรับคำ เฉินผิงอันคาดเดาเอาว่ากิจการร้านขายหนังสือของเขตการปกครองหลงเฉวียนคงต้องรุ่งเรืองกันสักพักหนึ่ง

คนจิ๋วดอกบัวยังคงจัดวางสิ่งของแต่ละชิ้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เฉินผิงอันถึงขั้นไม่รู้แล้วว่านิสัยนี้ของเจ้าตัวน้อยเหมือนใครกันแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!