เฉินผิงอันนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จึงเล่าถึงหมึกรมควันไม้สนที่เชื้อพระวงศ์ของแคว้นเสินสุ่ยใช้กันซึ่งวางขายในหอชิงฝูของท่าเรือภูเขาตี้หลง
เว่ยป้อยิ้มกล่าว “หากเปิดราคาด้วยเงินร้อนน้อยห้าเหรียญก็นับว่าคุ้มมากแล้ว หอชิงฝูยังสายตาตื้นเขินเกินไป ไม่รู้จักดูของ แต่จะโทษพวกเขาก็ไม่ได้ ความมหัศจรรย์ของวัตถุชิ้นนี้ เกรงว่าทุกวันนี้คงมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จริง เดี๋ยววันหน้าข้าจะสั่งให้คนรีบไปที่หอชิงฝูดูสักครั้ง”
เฉินผิงอันเอ่ย “การไปกลับครั้งนี้ก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน เงินเทพเซียนก้อนนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น”
เว่ยป้อยิ้ม ถามว่า “เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย? ไม่ใช่ข้าเป็นคนควักเงินสักหน่อย เจ้าเดาดูสิว่าอาณาเขตภูเขาเหนือในตอนนี้ คนที่อยากจะเดินทางไปกลับ จ่ายเงินโดยเสียเปล่าก้อนนี้ให้แทนข้ามีกี่มากน้อย? กี่สิบคน? กี่ร้อยคน? ในทางกลับกัน จ่ายเงินร้อนน้อยห้าเหรียญก็ดี สิบเหรียญก็ช่าง น้ำใจนี้ที่ข้ามอบให้ไปก็เหมือนยาสงบใจเม็ดหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็ได้กำไรไปก้อนใหญ่แล้ว”
เฉินผิงอันในเวลานี้ แน่นอนว่าแค่ฟังคำชี้นำเล็กน้อยก็กระจ่างแจ้ง
เว่ยป้อทะยานร่างวูบหายไป ก่อนจะจากไปได้เตือนเฉินผิงอันว่าเรือข้ามทวีปลำนั้นใกล้จะมาถึงแล้ว อย่าได้มัวเสียเวลาอยู่
มาถึงศาลเทพภูเขาใหญ่โตโอฬารที่อยู่บนยอดเขาพีอวิ๋น เว่ยป้อก็ไปนอนอยู่บนหลังคา ใช้ท้องฟ้าต่างผ้าห่ม แล้วจึงนอนหลับสนิทไป
จุดที่แม่น้ำและลำคลองสายใหญ่ตัดกัน กระแสน้ำหักมุมเปลี่ยนผัน ภูเขาสูงเคียงข้าง มังกรพันลี้มาพักพิง
เหวลึกรวมตัวปลา สกุณาเกาะร่มไม้ ภูเขาเขียวน้ำใส พื้นที่กำเนิดอัจฉริยะบุคคล
……
ฟ้าเริ่มสางแล้ว
เผยเฉียนที่ดวงตายังงัวเงียเดินมาเปิดประตู ในมือถือไม้เท้า หลังจากเดินอาดๆ ข้ามธรณีประตูมาก็แหงนหน้ามองท้องฟ้า ตะโกนพูดเสียงดังว่า “สวรรค์ ข้าขอเดิมพันกับเจ้า วันนี้หากข้าฝึกวิชากระบี่ล้ำโลกไม่สำเร็จ อาจารย์ก็จะมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าทันที ตกลงไหม? กล้าเดิมพันหรือไม่?”
เผยเฉียนพยักหน้ากับตัวเอง “ไม่พูดหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าตกลงแล้ว! หากเดิมพันแล้วเล่นแง่ไม่ยอมจ่ายก็จะไม่ใช่สวรรค์ที่ดีแล้วนะ!”
เผยเฉียนกระโดดเข้าไปในลานบ้าน ผลกลับกลายเป็นว่าต้องอึ้งงันอยู่กับที่
ใต้ชายคาห้องข้างของสือโหรว ดูเหมือนว่าอาจารย์กำลังนั่งมองตนจากตรงนั้น?
เฉินผิงอันมองใบหน้าดำเกรียมแล้วยังบวมเป่งเหมือนหมั่นโถว นี่ยังเป็นเพราะทายาลดบวมไปบ้างแล้ว แค่คิดก็พอจะรู้ได้ว่าตอนที่เพิ่งวิ่งจากภูเขาฉีตุนกลับมาถึงเขตการปกครองหลงเฉวียนนั้นจะมีสภาพน่าเวทนาแค่ไหน
เผยเฉียนขยี้ตา “อาจารย์? ข้าคงไม่ได้ฝันไปหรอกกระมัง?”
เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ตบบ้องหูตัวเองหนึ่งที”
เผยเฉียนกะพริบตาปริบๆ แล้วร้องหึ “ข้าไม่ได้โง่สักหน่อย”
นางหันไปทางห้องหลักแล้วตะโกนเสียงดัง “พี่หญิงเป่าผิง อาจารย์มาแล้ว!”
แม่นางชุดแดงเรือนกายสะโอดสะองคนหนึ่งเดินเร็วๆ ออกมาจากในห้อง บนใบหน้าบวมแดงยิ่งกว่าเผยเฉียนเสียอีก ดังนั้นพอมองปราดๆ จึงไม่ได้เห็นความงามสักเท่าไหร่
อีกทั้งนางเองก็ไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนใดๆ กับการที่ใบหน้าตัวเองอยู่ในสภาพนี้ กลับกันยังสะบัดแขนวิ่งเหยาะๆ มาหาเฉินผิงอัน แล้วพลันหยุดยืนนิ่ง คลี่ยิ้มเจิดจ้า “อาจารย์อาน้อย!”
เฉินผิงอันยืนอยู่ตรงหน้าคนสองคนที่อยู่ในวัยเดียวกัน ยื่นมือสองมือออกไปวัดระดับความสูง
เผยเฉียนหน้าบูด
เหตุใดพี่หญิงเป่าผิงทำอย่างนี้ อาจารย์ก็ทำอย่างนี้เหมือนกันด้วยเล่า
อันที่จริงครั้งแรกที่เฉินผิงอันเห็นหลี่เป่าผิง เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเท่าไหร่
เหตุใดเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา แม่นางน้อยสวมชุดผ้าฝ้ายบุนวมในปีนั้นถึงได้ตัวสูงขนาดนี้แล้ว?
สือโหรวยกม้านั่งสองตัวมาให้ เผยเฉียนอยากนั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกับอาจารย์ แต่กลับถูกพี่หญิงเป่าผิงที่นั่งลงบนเก้าอี้แล้วมองมาเสียก่อน เผยเฉียนจึงรีบยกก้นขึ้น ขยับไปนั่งข้างหลี่เป่าผิงทันที
เฉินผิงอันมองใบหน้าบวมแดงของคนทั้งสองแล้วก็กลั้นยิ้ม ถามว่า “พวกหลี่ไหวติดตามเจ้าขุนเขาเหมาเดินทางขึ้นเหนือไปแล้วหรือ?”
หลี่เป่าผิงพยักหน้ารับอย่างแรง “เดี๋ยวหลังจากนี้ท่านปู่จะพาข้าเร่งเดินทางไปให้ทันขบวนใหญ่เอง อาจารย์อาน้อยท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
เฉินผิงอันถาม “เจอกับต่งสุ่ยจิ่งหรือยัง?”
หลี่เป่าผิงยิ้มกล่าว “ข้ากับเผยเฉียนไปที่ภูเขาเฟิงเหลียงมาแล้ว เกี๊ยวน้ำของที่ร้านรสชาติพอใช้ได้ ไม่อร่อยเหมือนฝีมือของอาจารย์อาน้อย”
เผยเฉียนตีหน้าเคร่ง นั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิก
เจ้าถ่านดำน้อยผู้นี้บ่นอยู่ในใจตัวเอง นางจำได้ว่าตอนนั้นที่อยู่ในร้านเกี๊ยวน้ำของต่งสุ่ยจิ่ง พี่หญิงเป่าผิงกินไปตั้งสองชามใหญ่
เพียงแต่ว่านางหรือจะกล้าพูดต่อหน้าพี่หญิงเป่าผิง หากในอนาคตพี่หญิงเป่าผิงรังเกียจที่นางพูดมาก ไม่พานางไปเที่ยวเล่นด้วยกันแล้ว จะทำอย่างไรเล่า?
เฉินผิงอันเอ่ยกำชับ “ตอนที่เดินทางผ่านเมืองหลวง จะต้องไปหาสือชุนเจียด้วย”
หลี่เป่าผิงอืมรับหนึ่งที “เขียนจดหมายส่งไปให้นางแล้ว เจ้าเด็กผมแกละกำลังรอข้าอยู่เลยนะ”
จากนั้นเฉินผิงอันก็หันหน้ามามองเผยเฉียน “คิดได้แล้วหรือยัง จะไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนหรือไม่?”
เผยเฉียนไหล่ลู่คอตก “คิดได้แล้ว พี่หญิงเป่าผิงต้องการให้ข้าไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ยังลากข้าไปที่โรงเรียนนั่นมารอบหนึ่งด้วย ไปมาตั้งหลายวัน บอกว่าจะไปตรวจสอบสถานการณ์ดูก่อน ต้องรู้เขารู้เรา ต้องรู้นิสัยของอาจารย์แต่ละท่านอย่างชัดเจน วันหน้าถึงจะได้โดนตีและโดนทำโทษให้คัดตัวอักษรน้อยลง พี่หญิงเป่าผิงยังไม่อนุญาตให้ข้าเอาหีบหนังสือใบนั้นไปโอ้อวดกับคนอื่นด้วย แล้วก็ไม่อนุญาตให้ข้าแปะแผ่นยันต์ไปเรียน แล้วก็ยังมีกฎเกณฑ์อีกมากมาย พี่หญิงเป่าผิงเขียนใส่กระดาษไว้ให้แล้ว ต้องให้ข้าคัดตามทุกวัน วันละรอบ”
หลี่เป่าผิงตบศีรษะเผยเฉียน “นี่เรียกว่ายากมาก่อนง่าย พอไปถึงโรงเรียนแล้วก็ไม่ต้องกลัวพวกอาจารย์ที่สอนหนังสือ มีคำถามก็ถาม เวลาอยู่กับเพื่อนร่วมชั้นเรียน หากถูกรังแกก็ไม่ต้องดีแต่ร้องไห้กลับมาฟ้องพี่หญิงสือโหรว จะต้องอาศัยความสามารถของตัวเองแก้ไขปัญหาตั้งแต่อยู่ที่โรงเรียน พอไปถึงโรงเรียนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่สุดเลยคืออะไร คืออะไร?”
เผยเฉียนตอบอย่างอ่อนระโหยโรยแรง “คือต้องเรียนรู้หลักการเหตุผลในการวางตัวจากเหล่าอาจารย์ เนื้อหาที่เป็นรายละเอียดในตำราเป็นเพียงแค่วิชา ไม่ใช่วิถีทาง หากมีทั้งสองอย่างได้พร้อมกันย่อมดีที่สุด หากทำไม่ได้ ก็ต้องเลือกวิถีทางสละวิชา ห้ามเลือกเมล็ดงาแต่ทิ้งแตงโมเด็ดขาด”
หลี่เป่าผิงถึงได้พยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ
เผยเฉียนเงยหน้าขึ้น ยู่หน้ามองเฉินผิงอันอย่างน่าสงสาร เรียกด้วยน้ำเสียงเหมือนคนได้รับความอยุติธรรม “อาจารย์”
หลี่เป่าผิงยื่นมือไปกดศีรษะของเผยเฉียน เผยเฉียนรีบเค้นรอยยิ้มส่งมาให้ทันที “พี่หญิงเป่าผิง ข้ารู้แล้ว ข้าความจำดีนักล่ะ!”
เฉินผิงอันหยิบแท่นฝนหมึกและตราประทับคู่ออกมามอบให้เผยเฉียน จากนั้นก็ยิ้มกล่าวว่า “นี่เป็นของขวัญที่ซื้อไว้ให้เจ้าระหว่างเดินทาง ส่วนของเป่าผิง ไม่เจออะไรที่เหมาะกับเจ้า อาจารย์อาน้อยก็ขอติดเจ้าไว้ก่อน”
เผยเฉียนชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อย นางที่ในมือหนึ่งถือแท่นฝนหมึก อีกมือหนึ่งกำตราประทับคู่ก็หันหน้าไปถามหลี่เป่าผิง “พี่หญิงเป่าผิง ท่านเลือกชิ้นหนึ่งสิ? ข้ายกให้ท่าน!”
หลี่เป่าผิงส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ข้าชอบอ่านบันทึกการท่องเที่ยวภูเขาแม่น้ำมากกว่า”
เผยเฉียนร้องอ้อหนึ่งที ท่าทางผิดหวังเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!