ภูตถือพัดยกเท้าถีบลูกสมุนผู้นั้นจนอีกฝ่ายลอยกระเด็นไปหลายจั้ง จากนั้นก็พูดพึมพำกับตัวเองว่า “บุรุษหน้าตาอัปลักษณ์ผู้นั้นโยนแหออกมาอีกหนึ่งปาก เหมือนกันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ยังคงเป็นสมบัติอาคมที่ได้มาจากการเผาผลาญเงินเทพเซียน แล้วยังบอกว่าความสามารถอย่างอื่นเขาไม่มี แต่ความสามารถในการนอนรับเงินนั้น ต่อให้เป็นตัวเขาเองก็ยังกลัวตัวเอง บุรุษเช่นนี้ก็ถือว่าโชคดีที่หน้าตาขี้เหร่ ไม่อย่างนั้นแม้แต่ข้าคงอยากจะฉี่รดหัวเขาด้วยอีกคน”
ปีศาจทุกตนร้องฮือฮา
รู้สึกเพียงว่าตัวเองกำลังฟังภาษาสวรรค์ที่ฟังเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่อง
ผู้เฒ่าเคราแพะถามเบาๆ “หลังจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ? ทางฝ่ายของนครจิงกวานนั่นได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดยิ่งกว่าเดิมหรือไม่? หากทั้งสองฝ่ายสู้กันจนปลาตายตาข่ายขาด มอดม้วยกันไปทั้งคู่ แบบนั้นถึงจะดีที่สุด!”
“เหล่าหยาง หน้าตาของเจ้าก็พอๆ กับเจ้าโจวเฝยผู้นั้น ยังจะวาดฝันสวยหรูอีก แบบนี้ไม่ดีหรอกนะ ต้องเปลี่ยนแปลงเสียบ้าง”
หลังจากภูตภูเขาเอ่ยสัพยอกแล้วก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย “ไม่มีเรื่องภายหลังอะไรอีก นครใต้อาณัติมากมายของนครจิงกวานที่อยู่ทางทิศเหนือเริ่มเปิดการป้องกันอย่างเข้มงวด ไม่มีข่าวลือใดๆ แพร่มาทางทิศใต้ของพวกเราอีก ข่าวของนครถงโช่วก็มีเพียงแค่นี้ เฮ้อ สตรีสองคนนั้นคงจะกลายเป็นลูกแกะที่เข้าปากเสือไปแล้ว ต่อให้สมบัติอาคมของเจ้าคนอัปลักษณ์จะร้ายกาจแค่ไหน แต่จะมีตบะสูงได้เท่าเจ้านครจิงกวานหรือ?”
เฉินผิงอันสะกดรอยตามอยู่ไกลๆ
เขารู้สึกสงสัยไม่เข้าใจ เหตุใดเจียงซ่างเจินถึงได้ย้อนกลับมาที่อุตรกุรุทวีป อีกทั้งยังจับมือกับเทพหญิงฉีลู่ที่เดินออกมาจากภาพวาดผู้นั้นบุกไปยังนครจิงกวานของหุบเขาผีร้ายด้วย?
หรือว่าหลังจากที่เทพหญิงฉีลู่ไปชนตออยู่ที่ท่าเรือลำคลองเหยาเย่ก็เลยเปลี่ยนใจหันไปเลือกเจียงซ่างเจินเป็นเจ้านายแทน?
แล้วผู้ฝึกตนหญิงอีกคนที่เดินทางไปด้วยกันล่ะ เป็นใครกันแน่?
ยังไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้ เพราะต่อให้เขาอยากสนก็ไม่มีอำนาจจะไปเจ้ากี้เจ้าการอะไรได้ เพราะหากเจียงซ่างเจินลงมือต่อสู้โรมรันอยู่กับนครจิงกวานจริงๆ นั่นก็ต้องเป็นเทพเซียนตีกันที่แท้จริงครั้งหนึ่ง
ลองไปเจอกับปี้สู่เหนียงเนียงผู้นี้ก่อนดีกว่า
……
ลำธารลึกกึ่งกลางภูเขากระจกวิเศษ หยางฉงเสวียนนั่งอยู่ริมน้ำด้วยความเบื่อหน่าย เขายกมือนวดคลึงข้างแก้ม นั่งเฝ้าตอรอกระต่ายอยู่ที่นี่มานานหลายปีก็ช่างน่าเบื่อและชวนให้คนอึดอัดใจเสียจริง
หลังจากได้โชควาสนามาอยู่ในมือแล้วจะต้องเดินทางไปเยือนทิศเหนือดูให้ได้ ทางที่ดีที่สุดคือไปเปิดฉากต่อสู้อย่างสาแก่ใจบนภูเขาตี้ลี่สักหลายๆ ครั้ง
ตลอดหลายปีที่ไม่ปรากฏตัว อานุภาพของนามแฝงอีกชื่อหนึ่งก็ถูกพวกหนุ่มสาวที่โดดเด่นข่มทับไปหมดแล้ว
แล้วหยางฉงเสวียนก็ยกมือขึ้นเกาหัว เมื่อหลายปีก่อนเคยชินกับหัวที่โล้นโล่งไปแล้ว ตอนนี้จึงยังปรับตัวไม่ได้เท่าไหร่
คำทำนายประโยคนั้น สรุปว่าแม่นหรือไม่แม่นกันแน่? แม้จะบอกว่าการที่มาอยู่ที่นี่ก็ถือเป็นการฝึกตนเหมือนกัน ขอแค่มีเวลาว่างก็จะลงไปแช่ตัวอยู่ในน้ำ ซึ่งสามารถขัดเกลาจิตวิญญาณได้ แต่เมื่อเทียบกับการหล่อหลอมเรือนกายด้วยลาวาในภูเขาไฟของปีนั้น อันที่จริงยังห่างชั้นอยู่มาก แล้วนับประสาอะไรกับที่นิสัยของเขาไม่ชอบถูกพันธนาการ หากไม่เป็นเพราะทางตระกูลออกคำสั่งเข้มงวด ท่านแม่เกือบจะยกเอาหลักของความกตัญญูมาข่มเขาแล้ว ไม่อย่างนั้นหยางฉงเสวียนก็คงไม่ยินดีจะมาที่นี่ ยกหน้าที่ให้น้องชายที่รักที่ทำอะไรสุขุมรอบคอบ ขอบเขตก็ไม่ต่ำ แถมชื่อเสียงยังโด่งดังผู้นั้นไปจัดการ จะไม่ยิ่งดีกว่าหรอกหรือ? อีกอย่างต่อให้ตนได้กระจกซานซานเล่มนั้นมา สุดท้ายตระกูลก็ยังต้องมอบให้น้องชายนำไปหลอมเป็นวัตถุแห่งชะตาชีวิตอยู่ดี
ไม่ใช่ว่าเขาเกิดยอกแสลงใจเพราะเรื่องนี้ ใช่ว่าเห็นน้องชายได้ดีกว่าไม่ได้ เพียงแต่มาอยู่บนภูเขากระจกวิเศษที่แม้แต่นกก็ยังไม่มาขี้แห่งนี้ก็น่าเบื่อเกินไป และนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่จิ้งจอกเฒ่าภูเขาตะวันตกตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่รอดมาได้ เห็นอีกฝ่ายเป็นตัวตลกหาความบันเทิงก็พอจะคลายเหงาได้บ้าง
หยางฉงเสวียนเอื้อมมือไปคว้าหินกำหนึ่งจากก้อนหินใหญ่สีขาวหิมะมาอย่างง่ายๆ บีบฝ่ามือหนึ่งครั้ง ก้อนหินที่ปริแตกกลายเป็นหลายก้อนก็ถูกเขาขว้างลงไปในน้ำ
เขากับน้องชายที่ได้ดิบได้ดีมีชื่อเสียงโด่งดังคนนั้นก็แค่เป็นคู่พี่น้องที่ไม่ชอบขี้หน้ากันและกัน แต่กลับอยู่ไกลเกินกว่าจะเกลียดแค้นจนกลายเป็นศัตรูกัน
เขาที่เป็นพี่ชายทนมองดูน้องชายทำตัวแก่เกินวัยเหมือนหนอนหนังสือคนหนึ่งมาตั้งแต่เด็กไม่ได้ ส่วนอีกฝ่ายที่เป็นน้องชายก็ไม่ชอบพี่ชายที่ก่อเรื่องก่อราวมาตั้งแต่เด็กอย่างเขา
หากสองพี่น้องเปลี่ยนสถานะกัน บางทีเรื่องวุ่นวายใจอาจจะน้อยกว่านี้
มารดามันเถอะ หากรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรก ปีนั้นเขาออกมาจากท้องมารดาก่อนโดยไม่ทันระวัง ขอแค่ทำได้ เขาจะต้องรีบคลานกลับไปทันทีแน่นอน
หยางฉงเสวียนทอดถอนใจอย่างหดหู่ เงยหน้ามองไปทางทิศเหนือแล้วพูดระบายความในใจเสียงดัง “มารดาของข้า ชีวิตที่ยากลำบากเช่นนี้เมื่อไหร่จะถึงจุดสิ้นสุดสักที?”
ริมตลิ่งฝั่งตรงข้ามมีชายฉกรรจ์ร่างกำยำคนหนึ่งวิ่งออกมาจากผืนป่า ในอ้อมอกกอดผลไม้ป่าที่ไปเด็ดจากภูเขาลูกอื่นวิ่งตุปัดตุเป๋ตรงมาพลางตะโกนเสียงดังว่า “พี่ใหญ่หยาง ท่านเองก็คิดถึงมารดาเหมือนกันหรือ?”
หยางฉงเสวียนเอามือเท้าคาง คร้านจะพูดกับอีกฝ่าย เป็นตนนี่ต้องเหนื่อยใจทุกวันเลยสินะ
คนผู้นั้นกระโดดข้ามลำธารลึกมาหยุดอยู่ข้างกายหยางฉงเสวียน แล้วยื่นผลไม้ป่าผลหนึ่งไปให้อีกฝ่าย “พี่ใหญ่หยาง เจ้านี่น่ะกรุบกรอบ อร่อยนักล่ะ”
หยางฉงเสวียนรับผลไม้ป่าลักษณะคล้ายลูกหลีสีขาวมากัดกิน พูดเสียงอู้อี้ไม่ชัดเจน “เหวยเกาอู่ สรุปว่าพี่สาวของเจ้ามีบุรุษที่แอบชอบอยู่ในใจหรือไม่?”
ชายฉกรรจ์ร่างกำยำที่หอบผลไม้มาประจบเอาใจผู้นี้ก็คือเหวยเกาอู่ บุตรชายคนเล็กของจิ้งจอกเฒ่าภูเขาตะวันตก น้องชายของเหวยไท่เจินปีศาจจิ้งจอกที่ถือร่ม ส่วนชื่อของคนทั้งสองนี้ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ชื่อแห่งชะตาชีวิตของพวกเขาสองพี่น้อง
เหวยเกาอู่ส่ายหน้า “ย่อมไม่มีอยู่แล้ว พี่สาวข้าสายตาสูงจะตายไป เห็นไหมล่ะ แม้แต่พี่ใหญ่หยางก็ยังไม่เข้าตาของนาง คาดว่าชั่วชีวิตนี้พี่สาวข้าคงถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องเป็นสาวแก่ขึ้นคาน”
หยางฉงเสวียนจึงไม่ซักถามต่อ
คนโง่ตัวโตที่เหมือนทึ่มทื่อเซ่อซ่าผู้นี้ เมื่ออยู่ท่ามกลางกลุ่มภูตบนภูเขากระจกวิเศษก็ถูกคนอื่นรังแกมาจนชินแล้ว ต่อให้เป็นผีลูกกระจ๊อกประเภทที่ชูธงร้องสนับสนุนเจ้านายก็ยังสามารถตวาดสั่งสอนเขาได้ หากไม่เป็นเพราะหน้าตาหล่อหลา เกรงว่าทุกวันคงต้องคอยเช็ดก้นให้คนเหล่านั้นแล้ว
แต่แท้จริงแล้วเหวยเกาอู่กลับไม่ได้โง่
ถึงขั้นพูดได้ว่าในบรรดาครอบครัวสามคนนี้ เขาคือคนที่ฉลาดที่สุด
ฉลาดจนถึงขั้นเดาออกว่าชะตาชีวิตในท้ายที่สุดของพี่สาวเขา อาจจะไม่ค่อยดีนัก
สิ่งที่สามารถทำได้ เหวยเกาอู่ล้วนทำไปหมดแล้ว อะไรที่ไม่ควรทำ เขาก็ไม่ได้ทำแม้แต่เรื่องเดียว
แต่ก็ยังคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงจุดจบของพี่สาวเขาได้
หยางฉงเสวียนสงสัยใคร่รู้อย่างยิ่งว่า หากถึงวันนั้นจริงๆ เหวยเกาอู่จะยังแสร้งโง่ต่อไป หรือจะสู้สุดชีวิต? หรือว่าจะอดทนรับความอัปยศอย่างใหญ่หลวง มีชีวิตอยู่รอดไปวันๆ ในหุบเขาผีร้าย พยายามดิ้นรนต่อต้าน หวังว่าในอนาคตจะสามารถแก้แค้นให้กับตัวเองได้?
นี่ก็เป็นวิธีแก้เบื่ออย่างหนึ่งของหยางฉงเสวียนเช่นกัน ลองคิดเรื่องที่เล็กน้อยสำหรับตัวเอง แต่กลับเป็นเรื่องใหญ่เทียมฟ้าสำหรับผู้อื่น เป็นอะไรที่สนุกอยู่ไม่น้อย
หยางฉงเสวียนรับผลไม้ป่ามาอีกลูก ใช้ชายเสื้อที่ขาดวิ่นเช็ดพลางถามชวนคุย “ทางฝั่งของนครเฟิ่นหลางนั่นคืออย่างไรกันแน่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!