อ่านสรุป บทที่ 511.1 ผู้อาวุโสข้ายอมให้ท่านสามหมัดก็แล้วกัน จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet
บทที่ บทที่ 511.1 ผู้อาวุโสข้ายอมให้ท่านสามหมัดก็แล้วกัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตลอดทางที่รอนแรมกันมานี้ได้ผ่านแคว้นเถาจือ แต่กลับไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนจวนชิงชิ่ง แม่นางน้อยชุดดำรู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่พอได้อ้อมผ่านตำหนักจินอูที่เล่าลือกันว่ามักจะมีแสงกระบี่พุ่งสวบๆๆ เป็นประจำ แม่นางน้อยก็กลับมาอารมณ์ดีได้อีกครั้ง
อารมณ์ของแม่นางน้อยไม่ต่างจากก้อนเมฆบนท้องฟ้า
วันนี้ขณะอยู่ที่ท่าเรือขนาดเล็กของตระกูลเซียนที่ทุกหนแห่งล้วนมีแต่เรื่องแปลกใหม่ ในที่สุดก็จะได้โดยสารเรือข้ามฟากทะยานเมฆหมอกเดินทางไปเยือนสวนน้ำค้างวสันต์แล้ว! ตลอดทางที่เดินกันมา เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
แม่นางน้อยชุดดำยืนอยู่ในหีบไม้ไผ่ใบใหญ่ เบิกตากลมโต อีกนิดเดียวก็จะทำให้ตาตัวเองเจ็บได้แล้ว น่าเสียดายก็แต่สองฝ่ายตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เมื่อไปถึงสถานที่ที่มีผู้ฝึกตนรวมกลุ่มกันมากมาย นางจำเป็นต้องยืนอยู่ในหีบไม้ไผ่แล้วทำตัวเป็นคนใบ้น้อยอย่างว่าง่าย อันที่จริงในหีบไม้ไผ่ใบใหญ่ไม่ได้มีสิ่งของอะไร ก็แค่กระบี่ผุๆ ที่ไม่เคยเห็นเขาชักออกจากฝักเล่มหนึ่ง นางจึงแอบเตะมันอยู่สองสามที เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่นางคิดจะย่อตัวลงไปดึงออกจากฝัก คนผู้นั้นก็จะต้องเปิดปากบอกนางว่าอย่าทำแบบนั้นดีกว่า อีกทั้งยังข่มขู่นางด้วยว่า กระบี่เล่มนี้อดทนกับเจ้ามานานมากแล้ว หากยังได้คืบแล้วจะเอาศอก เขาจะไม่สนใจอีก
นี่ทำให้นางอัดอั้นอยู่นาน เวลานี้จึงยกมือข้างหนึ่งขึ้น ลังเลอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็ยังเขกมะเหงกลงบนท้ายทอยของเจ้าหมอนั่น จากนั้นก็ใช้มือสองข้างจับหีบไม้ไผ่ แสร้งทำเป็นงีบหลับ อีกทั้งยังเป็นการหลับแบบกรนเสียงดังครอกๆ ด้วย ตอนแรกบัณฑิตยังไม่สนใจ เขากำลังต่อรองราคากับเถ้าแก่ในร้านแห่งหนึ่งเพื่อซื้อสมุดคัดลอกลายหนึ่งชุด ภายหลังแม่นางน้อยรู้สึกว่าสนุก จึงม้วนชายแขนเสื้อแล้วเขกรัวๆ ดังก๊อกๆๆ บัณฑิตชุดขาวเดินออกจากร้านมาแล้ว เขาจ่ายเงินเกล็ดหิมะสิบเหรียญเพื่อซื้อแผ่นคัดลอกลายที่ทั้งชุดมีสามสิบสองแผ่น แล้วก็ไม่ได้หันหลังกลับมามอง เพียงถามว่า “ยังไม่เลิก?”
แขนข้างหนึ่งของแม่นางน้อยชุดดำค้างอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ตบไหล่บัณฑิตด้วยท่าทางนุ่มนวล “เอาล่ะ คราวนี้ก็ไม่มีฝุ่นแล้ว ยิ่งดูเหมือนบัณฑิตมากกว่าเดิมแล้ว เจ้าคนแซ่เฉิน ไม่ใช่ว่าข้าตำหนิเจ้าหรอกนะ แต่เจ้าน่ะเป็นตอไม้ทื่อที่ไม่เข้าใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เอาเสียเลย ไปขวางเรือหอเรือนอยู่บนแม่น้ำใหญ่ บนเรือมีสตรีชนชั้นสูงดีๆ ตั้งเท่าไรที่มองเจ้าด้วยสายตาเหมือนจะกินคน ทำไมเจ้าไม่ขึ้นเรือไปดื่มชาสักถ้วยเล่า? พวกนางไม่ได้จะกินคนจริงๆ เสียหน่อย”
เฉินผิงอันกลับเปลี่ยนหัวข้อ “เจ้าตีข้าสิบหกที ข้าจดไว้ในสมุดบัญชีแล้ว หนึ่งทีหนึ่งเหรียญเงินเกล็ดหิมะ”
แม่นางน้อยยกสองมือกอดอก เขย่งปลายเท้ายืนอยู่ในหีบหนังสือ หลุดหัวเราะพรืด “เงินเล็กๆ น้อยๆ เหมือนฝนปรอยๆ!”
เฉินผิงอันพานางขึ้นเรือข้ามฟากลำนั้นไปด้วยกัน
สะพายภูตน้อยไว้แบบนี้ค่อนข้างจะดึงดูดสายตาผู้คน
ทว่าสายตาที่มองมาส่วนใหญ่ล้วนมีแต่แววดูถูกเหยียดหยาม ออกมาอยู่ข้างนอก ผู้ฝึกตนที่สามารถขี่ราชันแห่งขุนเขาเป็นภาหนะขึ้นเขาลงห้วย ขี่เจียวหลงลงน้ำข้ามมหาสมุทร นั่นต่างหากจึงจะเป็นผู้กล้าที่ยิ่งใหญ่ เป็นเทพเซียนที่แท้จริง
เฉินผิงอันรู้สึกว่าเป็นแบบนี้ก็ดีมาก
ช่วงเวลาฝนธัญพืชมักจะมีฝนตกตอนกลางคืน กลางวันฟ้าโปร่ง สายฝนให้กำเนิดร้อยธัญพืช หมื่นสรรพสิ่งในฟ้าดินล้วนใสสะอาดแจ่มกระจ่าง อันที่จริงจึงเหมาะแก่การเดินเท้าชื่นชมภูเขาสายน้ำอย่างยิ่ง
เพียงแต่เฉินผิงอันยังคงหวังว่าจะสามารถไปทันช่วงท้ายของงานชุมนุมที่สวนน้ำค้างวสันต์ ตนที่เป็นร้านผ้าห่อบุญจะเอาแต่อยู่ว่างๆ เที่ยวเล่นไปวันๆ ก็คงไม่ค่อยดี
แม่นางน้อยชุดดำยังไม่ยอมเลิกราง่ายๆ “ขึ้นเรือหอเรือนไปดื่มชาก็ดีจะตายไป ตอนนั้นข้าที่อยู่บนฝั่งเห็นชัดเลยล่ะว่ามีสตรีอายุน้อยแต่งกายงดงามหรูหราสองคน หน้าตาก็ไม่เลวเลยจริงๆ นี่คือเรื่องดีที่จะมีสาวงามมาเคียงกายเชียวนะ”
เฉินผิงอันพูดกลั้วหัวเราะเบาๆ “หากเจ้าเป็นบุรุษ ข้าคาดว่าอยู่ที่ทะเลสาบคนใบ้นานวันเข้า ไม่ช้าก็เร็วเจ้าต้องเห็นสาวงามแล้วเกิดความปรารถนาจนสร้างภัยพิบัติให้กับพื้นที่นั้นแน่ๆ หากข้าเจอกับเจ้าในเวลานั้น แล้วจวนชิงชิ่งจะจับตัวเจ้าไปเป็นแม่ย่าลำคลอง หรือไม่ตำหนักจินอูจะลักพาตัวเจ้าไปเป็นสาวใช้ ข้าก็ไม่มีทางลงมือ มีแต่จะปรบมือร้องสนับสนุนอยู่ด้านข้าง”
แม่นางน้อยชุดดำโมโหจึงต่อยไหล่เจ้าคนปากเปราะผู้นี้ “พูดจาเหลวไหล ข้าคือภูตน้ำใหญ่ แต่กลับไม่เคยทำร้ายใคร! ขนาดจะข่มขู่คนข้ายังไม่อยากทำเลย!”
เฉินผิงอันไม่เห็นเป็นสำคัญ “เงินเกล็ดหิมะอีกเหรียญหนึ่งแล้ว”
แม่หนูน้อยกำลังจะปล่อยหมัดต่อยเข้าที่ท้ายทอยของคนผู้นั้น คิดไม่ถึงว่าคนผู้นั้นจะเอ่ยว่า “หากตีหัว ครั้งละหนึ่งเหรียญเงินร้อนน้อย”
แม่นางน้อยลองคิดคำนวณทรัพย์สมบัติของตัวเอง หากไม่นับรวมเงินฝนธัญพืชที่ใช้ไถ่ตัวเองแล้ว อันที่จริงก็เหลือสมบัติอีกไม่มากแล้ว
มิน่าเล่าพวกคนในยุทธภพที่เดินทางผ่านทะเลสาบคนใบ้ถึงได้ชอบบ่นว่าเงินทองก็คือความกล้าหาญของวีรบุรุษ
นางขมวดคิ้ว คิดแล้วก็เอ่ยว่า “เจ้าคนแซ่เฉิน เจ้าให้ข้ายืมเงินฝนธัญพืชหนึ่งเหรียญสิ? ตอนนี้ข้าเงินขาดมือ ตีเจ้าได้แค่ไม่กี่ทีเอง”
เฉินผิงอันไม่สนใจนาง เพียงแค่ถามว่า “รู้หรือไม่ว่าทำไมก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในเมือง ข้าถึงได้ซื้อผักดองมาหนึ่งไห?”
แม่นางน้อยกล่าวอย่างสงสัย “ข้าจะไปรู้ความคิดเจ้าได้ยังไง หรือว่าระหว่างที่เดินทางมานี้กินผักดองหมดแล้ว? ข้าก็กินไม่มากนี่นา เจ้าขี้เหนียว ทุกครั้งพอข้าคีบผักดองขึ้นมาทีไร เจ้าก็ต้องเหล่มองข้าทุกที”
เฉินผิงอันหัวเราะ “ปลาผักดองอร่อยนักล่ะ”
แม่นางน้อยรู้สึกว่าตัวเองฉลาดมากจริงๆ เพราะนางเข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายได้ทันที นางน้ำตาคลอเจียนจะหยด นั่งยองลงในหีบไม้ไผ่ แอบเช็ดน้ำตาเงียบๆ นางทั้งฉลาดเฉลียว ทั้งชีวิตรันทดยิ่งนัก
เพียงแต่ว่าพอไปถึงห้องที่อยู่ชั้นล่างของเรือ เจ้าหมอนั่นวางหีบไม้ไผ่ลงแล้ว นางก็กระโดดออกมา เอาสองมือไพล่หลัง จุ๊ปากพูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “คนยากจน!”
แม่นางน้อยคิดตาม สายตายังคงฉายแววไม่พอใจ เพียงแต่ว่าคำพูดของอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะมีเหตุผล
ยังดีที่คนผู้นั้นยังพอมีมโนธรรมในใจอยู่บ้าง “ห้องชั้นหนึ่งของเรือข้ามฟากลำนี้ไม่มีรายงานบนภูเขามามอบให้ เจ้าไปซื้อมาสักฉบับ หากมีฉบับก่อนหน้าที่ขายไม่ออกก็ซื้อกลับมาด้วยได้ แต่ถ้าแพงเกินไปก็ไม่ต้องซื้อมา”
แม่นางน้อยร้องอ้อทีหนึ่ง ขอแค่ได้ออกไปเดินอยู่ข้างนอกเรือสักสองสามก้าวก็ถือว่าไม่ขาดทุนแล้ว นางจึงกระโดดลงจากเก้าอี้ คลี่ห่อสัมภาระออก ควักเอาถุงใบหนึ่งที่แสงอัญมณีเรืองรองเปล่งประกายจ้าตาออกมา คนผู้นั้นสะบัดชายแขนเสื้อปิดประตูเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังโยนยันต์เต่าแบกศิลาแผ่นหนึ่งไปแปะไว้บนหน้าต่าง แม่นางน้อยเห็นมาจนชินตา นางเพียงแค่หยิบเงินเกล็ดหิมะเหรียญหนึ่งออกมาจากห่อใบเล็ก คิดดูแล้วก็หยิบเงินร้อนน้อยอีกเหรียญหนึ่งออกมาจากข้างใน ระหว่างนี้ในถุงก็ส่งเสียงดังกรุ้งกริ้ง นอกจากเงินเทพเซียนแล้วยังบรรจุของชิ้นเล็กๆ น้อยๆ ไว้อีกมากมาย เหมือนกับกระพรวนสีขาวหิมะที่เคยมอบให้คนอื่นในปีนั้นที่ต่างก็เป็นสมบัติที่นางเก็บสะสมมาอย่างยากลำบากตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากนั้นนางก็เอาถุงใส่กลับเข้าไปในห่อสัมภาระ แล้ววางลงบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ ตอนที่ออกจากประตูไปยังเอ่ยเตือนอีกว่า “ท่องอยู่ในยุทธภพต้องมีไหวพริบสักหน่อย อย่าปล่อยให้พวกโจรมาขโมยทรัพย์สมบัติของพวกเราไปได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าก็ต้องไปดื่มลมตะวันตกเฉียงเหนือแทนกินข้าวแล้ว!”
เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “โอ้โห วันนี้มือเติบไม่เบา ยอมควักเงินตัวเองด้วย”
แม่นางน้อยชุดดำที่เดินออกไปนอกห้องแล้วเลิกคิ้ว หันหน้ากลับมาเอ่ยว่า “หากเจ้ายังหลอกด่าข้าแบบนี้อีก เงินที่ซื้อรายงาน พวกเราสองคนต้องรับผิดชอบกันคนละครึ่ง!”
คนผู้นั้นหุบปากเงียบอย่างที่คาด
แม่นางน้อยชุดดำถอนหายใจ พูดเหมือนคนแก่ว่า “เจ้าท่องอยู่ในยุทธภพแบบนี้ จะทำให้พวกเทพธิดาบนภูเขาชื่นชอบเจ้าลงได้อย่างไร”
เฉินผิงอันเดินนิ่งไม่หยุด เพียงยิ้มกล่าวว่า “กฎเดิม ห้ามทำตัวเหลวไหล ซื้อรายงานข่าวเสร็จก็กลับมา”
ประมาณหนึ่งก้านธูปต่อมา แม่นางน้อยก็ผลักประตูเปิดออก เดินอาดๆ กลับเข้ามาข้างใน ตบหนังสือรายงานข่าวปึกใหญ่ลงบนโต๊ะอย่างแรง ทว่าตอนที่คนผู้นั้นเดินหันหลังให้ตน นางกลับรีบแสยะปาก สูดปากน้อยๆ กลืนน้ำลาย รอจนคนผู้นั้นเดินนิ่งวกกลับมา นางถึงรีบยกสองแขนกอดอก นั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้
เฉินผิงอันหยุดท่าหมัด หยิบพัดพับออกมา นั่งลงข้างโต๊ะ ชำเลืองตามองนางแวบหนึ่ง “ซื้อมาราคาแพงไหม?”
นางยิ้มเยาะ “ข้าเป็นคนโง่แบบนั้นหรือ รายงานบนภูเขาที่ล้ำค่าขนาดนี้ ราคาเดิมคือสองเหรียญเงินร้อนน้อย แต่ข้าจ่ายไปแค่หนึ่งเหรียญเงินร้อนน้อยเท่านั้น! ข้าคือใคร ภูตน้ำใหญ่แห่งทะเลสาบคนใบ้เชียวนะ เคยพบเจอพ่อค้าที่ทำการค้ามามากมาย หากข้าหั่นราคาขึ้นมา ก็สามารถทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนถูกมีดแร่เนื้อ กลุ้มอกกลุ้มใจได้เลย”
เฉินผิงอันรู้สึกระอาใจเล็กน้อย พลิกเปิดดูรายงานเหล่านั้น บางส่วนเป็นของเมื่อปีก่อน หากอิงตามราคาตลาดปกติ ราคารวมต้องจ่ายหนึ่งเหรียญเงินร้อนน้อยจริง แต่รายงานข่าวก็เหมือนผักผลไม้ตามฤดูกาล หากหมดอายุก็ได้แต่ต้องทิ้ง รายงานพวกนี้มองดูเหมือนมีจำนวนมาก แต่อันที่จริงกลับมีค่าไม่ถึงครึ่งเหรียญเงินร้อนน้อยด้วยซ้ำ สิ่งเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นอะไรได้ การค้าขายก็คือการค้าขาย ขอแค่เจ้ายินยอมข้าพร้อมใจ ใต้หล้าก็ไม่มีการค้าขายที่ควรมีแต่ข้าที่ได้กำไร ทว่าเรื่องบางอย่าง ในเมื่อไม่ใช่การค้าขาย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ควรพูดง่ายขนาดนี้
—–
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!