กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 514

เวลาเลิกเรียน บางครั้งเผยเฉียนก็จะไปหยิบเอามดตัวหนึ่งมาจากใต้ต้นไม้ แล้วมาวางลงบนกระดาษเซวียนจื่อสีขาวหิมะแผ่นหนึ่ง เอาแขนข้างหนึ่งขวางไว้ด้านหน้าโต๊ะ มือข้างหนึ่งถือพู่กันเดี๋ยวก็ตวัดแนวขวาง เดี๋ยวก็ตวัดแนวนอน ขัดขวางเส้นทางการหลบหนีของมด นางสามารถขีดเขียนจนเต็มแผ่นกระดาษ จนกระดาษเหมือนกลายมาเป็นเขาวงกต มดที่น่าสงสารตัวนั้นก็ได้แต่เดินวนเวียนอยู่ในเขาวงกตแล้ว เนื่องจากคุณชายเฉินจากลำธารหลงเหว่ยเคยกำชับอาจารย์ทุกคนว่า ให้ปฏิบัติต่อเผยเฉียนเหมือนกับเด็กในเขตการปกครองหลงเฉวียนทั่วไป ดังนั้นเด็กนักเรียนไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือเด็กโตจึงรู้แค่ว่าถ่านดำน้อยผู้นี้มีบ้านอยู่ในร้านยาสุ้ยตรอกฉีหลง จะเปิดปากพูดก็ต่อเมื่ออาจารย์ถามเท่านั้น ทุกครั้งเวลาอยู่ในโรงเรียนนางแทบไม่เคยพูดคุยกับใคร ตอนเช้าที่เข้าเรียนและตอนเย็นหลังเลิกเรียนนางจะชอบไปเดินทางขั้นบันไดของตรอกฉีหลง แถมยังชอบเบี่ยงตัวเดินในแนวขวาง สรุปแล้วก็คือเป็นคนผู้หนึ่งที่ประหลาดมาก พวกเพื่อนนักเรียนต่างก็ไม่ค่อยใกล้ชิดสนิทสนมกับนางมากนัก

เมื่ออยู่ในโรงเรียนนานวันเข้าก็เริ่มมีข่าวบางอย่างแพร่ออกมา บอกว่าถ่านดำน้อยคือพวกหลงใหลในทรัพย์ ทุกวันยามอยู่ในร้านยาสุ้ยจะต้องทำการค้ากับคนอื่น ช่วยทางร้านหาเงิน น่าจะไม่มีพ่อแม่ ถึงได้มาอยู่กับตาเฒ่าสกปรกที่เป็นเถ้าแก่ร้านคนนั้น

นอกจากนี้ก็มีเด็กนักเรียนบางส่วนพูดจาอย่างน่าเชื่อถือว่าเมื่อก่อนเคยเห็นกับตาว่าเจ้าถ่านดำน้อยชอบไปทะเลาะกับห่านสีขาวตัวใหญ่ในตรอก แล้วก็มีเด็กนักเรียนที่เป็นเพื่อนบ้านในตรอกฉีหลงบอกว่าทุกวันตอนเช้าตรู่ที่ต้องไปโรงเรียน เผยเฉียนจะต้องจงใจเลียนแบบไก่ขัน หนวกหูมาก ร้ายจริงๆ นอกจากนี้ยังมีคนบอกว่าหลังจากที่เผยเฉียนรังแกห่านใหญ่สีขาวไปแล้วก็ยังจะไปทะเลาะกับไก่ตัวผู้ตัวใหญ่ที่อยู่ทางเหนือสุดของเมืองเล็กด้วย แถมยังพูดเสียงดังว่าจงมากินเท้าลมหมุนของข้าอะไรสักอย่างนี่แหละ หรือไม่บางครั้งก็นั่งลงออกหมัดใส่ไก่ตัวใหญ่ นางบ้าไปแล้วหรือไร

หลังจากครั้งหนึ่งที่จูเหลี่ยนไปโรงเรียน พอกลับร้านมาก็ได้มาพูดคุยกับเผยเฉียน ในที่สุดเผยเฉียนก็ไม่วาดคนจิ๋วลงในหนังสือ แล้วก็ไม่สร้างบ้านให้มดบนกระดาษเซวียนจื่ออีก

แต่หลังเลิกเรียนนางจะไปนั่งอยู่ในมุมเงียบๆ แห่งหนึ่ง เอาดินผสมน้ำปั้นคนจิ๋ว จากนั้นก็จัดขบวนทัพ บัญชาการณ์ให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเอง นางปั้นคนจิ๋วได้ถึงสามสิบสี่สิบตัว ทุกครั้งที่ต่อสู้กันเสร็จ นางก็จะส่งสัญญาณถอนทัพ เอาคนจิ๋วเหล่านั้นไปซ่อนไว้บริเวณใกล้เคียงอย่างมิดชิด

สือโหรวเห็นแล้วก็ไปพูดคุยกับจูเหลี่ยนเป็นการส่วนตัว จูเหลี่ยนบอกแค่ว่าเรื่องนี้ปล่อยนางไป ไม่ต้องไปยุ่ง

แต่สองเรื่องที่เกิดขึ้นในภายหลัง เรื่องแรก คือมีวันหนึ่งเผยเฉียนคัดตัวอักษรเสร็จแล้วก็วิ่งไปทำหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่ผู้บัญชาการณ์กองทัพบนสนามรบอย่างฮึกเหิม ทว่าเพียงไม่นานก็กลับมา

สือโหรวถาม เผยเฉียนก็ทำท่าอัดอั้น ยืนอยู่บนม้านั่งด้านหลังโต๊ะคิดเงิน เอาศีรษะวางพาดไว้บนโต๊ะ บอกว่าหลายวันก่อนหน้านี้มีฝนตกหนัก เหล่าทหารของสองกองทัพจึงล้มตายกันหมดแล้ว

นี่ทำให้สือโหรวรู้สึกกลัดกลุ้มกังวลใจเล็กน้อย ด้วยความฉลาดของเผยเฉียน ไหนเลยจะยอมให้สมบัติของตัวเองเปียกน้ำฝนจนเสียหายได้ แต่ภายหลังจูเหลี่ยนก็ยังคงพูดว่าให้ปล่อยนางไป

ทว่าเรื่องที่สอง แม้แต่จูเหลี่ยนเองก็ยังต้องขมวดคิ้ว พอได้ข่าวจากสือโหรวก็เดินทางออกจากภูเขาลั่วพั่วมาที่ตรอกฉีหลงทันที

สือโหรวบอกกับเขาว่ามีวันหนึ่งหลังเลิกเรียน เผยเฉียนแบกห่านขาวตัวใหญ่ที่ตายไปแล้วกลับมายังตรอกฉีหลงด้วย จากนั้นก็ไม่รู้ว่านางเอาห่านขาวตัวนั้นไปฝังไว้ที่ไหน

ตอนนั้นเผยเฉียนนั่งคัดตัวอักษรอยู่ในห้องเพียงลำพัง

จูเหลี่ยนยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ของร้าน สือโหรวบอกว่าเผยเฉียนไม่ยอมเล่าอะไรเลย เป็นนางที่ไปสืบข่าวมาด้วยตัวเอง

ระหว่างทางที่เผยเฉียนกลับร้านหลังเลิกเรียนได้ถูกสตรีแต่งงานแล้วคนหนึ่งขวางทางเอาไว้ บอกว่าต้องเป็นเผยเฉียนที่ทุบห่านขาวของนางจนตายอย่างแน่นอน นางด่าเผยเฉียนด้วยถ้อยคำหยาบคายเสียงดัง ตอนแรกเผยเฉียนบอกว่านางไม่ได้เป็นคนทำ สตรีผู้นั้นก็ยังลงไม้ลงมือเอากับนาง เผยเฉียนหลบมาได้ก็พูดแค่ว่าไม่ใช่ฝีมือของนาง ถึงท้ายที่สุดเผยเฉียนจึงเอาเงินเก็บของตัวเองออกมา เป็นเศษเงินสองเม็ดกับเงินเหรียญทองแดงทั้งหมดที่อดออมสะสมมาอย่างยากลำบากถุงหนึ่ง นางยกให้กับสตรีผู้นั้นไปทั้งหมด บอกว่านางสามารถซื้อห่านขาวตัวใหญ่ที่ตายนั่นมาได้ แต่นางไม่ได้เป็นคนตีมันตาย

สือโหรวกลัดกลุ้มยิ่งนัก ถามจูเหลี่ยนว่าควรจะทำอย่างไรดี ควรจะพูดคุยกับเผยเฉียนหรือไม่

ตอนนั้นจูเหลี่ยนยืนหันหลังให้โต๊ะคิดเงิน หันหน้าไปมองยังถนนของตรอกฉีหลง บอกว่าใช่ว่าจะคุยกันไม่ได้ แต่คงไม่มีประโยชน์ เผยเฉียนมีนิสัยอย่างไร นางเชื่อฟังแค่ใคร ใช่ว่าเจ้าสือโหรวจะไม่รู้เสียหน่อย

สือโหรวจึงเสนอความเห็นบอกว่าตนจะไปพูดคุยกับสตรีคนนั้นด้วยตัวเอง แล้วค่อยใช้วิธีการเล็กๆ น้อยๆ หาตัวเด็กเกเรของโรงเรียนคนนั้นมา ให้ทั้งสองฝ่ายมาขอโทษเผยเฉียน

ผลคือจูเหลี่ยนที่แต่ไหนแต่ไรมามักจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอกลับสบถด่า บอกว่าจะมีประโยชน์กับผายลมอะไร นี่มันใช่วิธีแก้ปัญหาหรือ?

ทำเอาสือโหรวตกใจจนหน้าซีดเผือด

แต่สุดท้ายจูเหลี่ยนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูร้านเป็นนานก็ทำเพียงแค่กลับไปยังภูเขาลั่วพั่วเงียบๆ ไม่ได้ลงมือทำอะไรสักอย่าง

หลังจากนั้นมาเผยเฉียนก็ไม่มีจุดใดที่ทำให้คนอื่นไม่วางใจอีก นางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนอย่างว่าง่าย ออกเช้ากลับเย็น ตรงเวลาตรงสถานที่เสมอ พอมีเวลาว่างก็จะมาช่วยทำงานที่ร้าน คัดหนังสือ เดินนิ่ง ฝึกวิชากระบี่มารคลั่งของนาง แต่ความวางใจเช่นนี้กลับยิ่งทำให้สือโหรวไม่วางใจ

สือโหรวอยากให้เผยเฉียนตบสตรีคนนั้นให้ล้มคว่ำ หรือไม่ก็ทะเลาะกับอาจารย์บางคนในโรงเรียนยังดีเสียกว่า

แต่เผยเฉียนกลับไม่ทำอะไรสักอย่าง

นาทีนั้นสือโหรวถึงได้ตระหนักว่า ที่แท้ไม่เพียงภูเขาลั่วพั่วที่มีหรือไม่มีเฉินผิงอัน จะกลายเป็นภูเขาลั่วพั่วสองแห่งเท่านั้น

แต่มีหรือไม่มีเขาอยู่ข้างกายเผยเฉียน ก็ยิ่งกลายเป็นเผยเฉียนสองคน

ยังดีที่เผยเฉียนยังคงทำเหมือนวันนี้ นางยังคงยกม้านั่งไปนั่งตรงหน้าประตู แทะเมล็ดแตงอยู่เพียงลำพัง พึมพำพูดอะไรบางอย่างกับตัวเอง บางครั้งก็เงยหน้ามองไปยังสุดตรอกของถนน

เผยเฉียนในเวลานี้ สือโหรวมองแล้วค่อนข้างคุ้นเคย

วันนี้เผยเฉียนเพิ่งจะยกม้านั่งเดินกลับมาที่เรือนด้านหลัง กะว่าจะฝึกวิชากระบี่มารคลั่งที่ใกล้จะสมบูรณ์แบบเต็มทีเสียหน่อย ผลคือได้ยินเสียงพ่อครัวเฒ่าตะโกนอยู่หน้าร้านว่า “เจ้าตัวขาดทุน! เจ้าตัวขาดทุนรีบออกมาเร็วเข้า!”

เผยเฉียนที่ถือไม้เท้าเดินป่าวิ่งออกไปอย่างเดือดดาล “พ่อครัวเฒ่า เจ้าอยากโดนตีใช่ไหม?!”

รอจนเผยเฉียนเดินไปถึงหน้าประตูร้าน เห็นว่าข้างกายของพ่อครัวเฒ่ามีเด็กน้อยคนหนึ่งที่ยืนกอดอกอยู่บนธรณีประตู ใบหน้าขึงตึง จ้องเผยเฉียนตาเขม็ง

เผยเฉียนอึ้งตะลึง ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “นี่ใครกัน? ลูกสาวนอกสมรสที่พ่อครัวเฒ่าอย่างเจ้าไปไข่ทิ้งไว้ข้างนอกหรือ? ในที่สุดเจ้าก็ตามตัวเจอแล้วพากลับมา?”

จูเหลี่ยนด่าคำหนึ่งว่าลูกสาวกับผีเจ้าสิ ก่อนจะตบศีรษะของแม่นางน้อยที่ยืนอยู่บนธรณีประตูเบาๆ “นางชื่อโจวหมี่ลี่ อาจารย์ของเจ้าส่งมาจากอุตรกุรุทวีป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!