กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 517

เฉินผิงอันหลับตาลง ทำการหลอมเล็กให้กับแท่นสังหารมังกรต่อไป

ในเรื่องของการฝึกตนนั้น เมื่อก้าวเดินลงไปบนเส้นทางอย่างแท้จริงแล้วก็จะค้นพบว่าสิ่งที่ไม่มีค่ามากที่สุดและก็ทั้งมีค่ามากที่สุด ก็คือเวลา

ส่วนเหตุการณ์ในยุทธภพครั้งนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินผิงอันล้วนไม่มีความคิดที่จะลงมือ

ท่ามกลางม่านราตรีของคืนนี้ เฉินผิงอันพ่นลมหายใจขุ่นมัวออกไปเบาๆ ทอดสายตามองไป บนสะพานปรากฏร่างชายหญิงคู่หนึ่ง หญิงสาวคือผู้ฝึกยุทธเต็มตัวที่พื้นฐานใช้ได้ อยู่ที่ประมาณขอบเขตสาม บุรุษมีรูปโฉมสุภาพคล้ายลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อที่มีความรู้อยู่เต็มท้อง ไม่ถือว่าเป็นผู้ฝึกยุทธเต็มตัวที่แท้จริง สตรีเดินมาบนสะพานแขวนที่แกว่งไกวเบาๆ อย่างเนิบช้า ส่วนบุรุษที่อายุไม่มากแต่กลับดูแก่กว่าวัยนั้นมีท่าทางกังวลใจ พอมาถึงหัวสะพาน สตรีก็กระโดดลงไปเบาๆ แล้วจึงถูกบุรุษกุมมือเอาไว้

คนทั้งสองจูงมือกันเดินเลียบมาบนทางภูเขา พุดคุยกันเบาๆ สารพัดเรื่อง

เดินตรงมายังทิศทางที่เฉินผิงอันอยู่พอดี

เฉินผิงอันจึงได้ยินเรื่องวงในบางอย่างของราชสำนักและยุทธภพแคว้นจินเฟย

ที่แท้หลายปีมานี้ในยุทธภพไม่ค่อยสงบสุขนัก หลังจากที่จักรพรรดิองค์ปัจจุบันยึดครองบัลลังก์มาได้ ตามคำกล่าวของขุนนางที่เขียนเกร็ดประวัติศาสตร์ของแคว้นจินเฟย เรื่องแรกที่ฮ่องเต้องค์นี้ทำหลังจากได้นั่งบนบัลลังก์มังกร ก็คือวางดาบพาดไว้บนหัวเข่า จากนั้นก็สั่งให้คนไปนำตัวเชื้อพระวงศ์ที่มีคุณูปการซึ่งดูแลเรื่องสมุดบันทึกเก้าชั่วโคตรและแผนภูมิหยกประจำราชวงศ์มาที่ท้องพระโรง ครั้นจึงพลิกเปิดบันทึกบนทำเนียบวงศ์ตระกูลไปทีละหน้า นอกจากจักรพรรดิองค์ก่อนที่รัดคอฆ่าตัวตายไปแล้ว ชื่อใดถูกเรียกออกมา ด้านนอกท้องพระโรงก็มีจะมีศีรษะหนึ่งหลุดออกจากบ่า หลังจากสังหารกากเดนของราชวงศ์ก่อนจนสิ้นซากแล้ว ภายในค่ำคืนเดียวเลือดก็นองเป็นสายน้ำอยู่นอกตำหนัก ทว่าสุดท้ายก็ยังคงมีปลาที่หลุดรอดตาข่ายไปได้ คือบุตรชายคนเล็กของฮ่องเต้องค์ก่อนที่ถูกนางกำนัลพาออกไปจากวังหลวง จากนั้นภายใต้การปกป้องคุ้มครองจากขุนนางที่จงรักภักดีจึงโชคดีหนีรอดออกไปจากเมืองหลวงได้สำเร็จ นับแต่นั้นมาก็หายไปในกระแสน้ำของยุทธภพ แล้วก็ไม่มีข่าวคราวของเขาอีก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังหาตัวไม่เจอ ผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ ในยุทธภพมักจะมีโศกนาฎกรรมที่คนทั้งตระกูลถูกฆ่าตายอย่างน่าประหลาดใจเกิดขึ้นเป็นประจำ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นพรรคใหญ่สำนักใหญ่ด้วย ต่อให้เห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นการตายจากน้ำมือของศัตรูคู่แค้น ทว่าที่ว่าการของแต่ละพื้นที่กลับไม่กล้าสืบสาวเอาความผิด ด้วยกลัวว่าหากไม่ระวังจะเป็นการข้ามเข้าไปในบ่อสายฟ้า ไปแตะเกล็ดย้อนของท่านที่อยู่ในเมืองหลวงเข้า ฝ่ายของทางการถูกมัดมือมัดเท้าทำอะไรไม่สะดวก และเดิมทีแคว้นจินเฟยก็เลื่อมใสฝ่ายบู๊ แม่ทัพบู๊ของที่ต่างๆ ก็ยิ่งชอบใช้ข้ออ้างว่ากวาดล้างรังโจร ใช้ศีรษะของคนในยุทธภพกลุ่มแล้วกลุ่มเล่ามาฝึกปรือฝีมือ พวกชาวยุทธที่มีกิจการบ้านเรือนอย่างถูกทำนองคลองธรรม แน่นอนว่าต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างที่ไม่อาจหาคำมาบรรยายได้

ยุทธภพมักจะมีเหตุการณ์ที่หากปล่อยให้วุ่นวายต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องแบบนี้อยู่เสมอ ดังนั้นผู้มีชื่อเสียงและปรมาจารย์ในยุทธภพหลายสิบท่าน รวมไปถึงเหล่าผู้กล้าแห่งพรรคมารอีกเจ็ดแปดท่านที่เดิมทีเป็นดั่งน้ำกับไฟ ต่างก็พากันวางอคติลงชั่วคราวอย่างที่หาได้ยาก คิดว่าจะมาพบกันเป็นการส่วนตัว จัดงานเลี้ยงฉลองขึ้นครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าหาใช่เพื่อก่อกบฏไม่ แต่เพราะคิดว่าแทนที่จะให้ฮ่องเต้นอนหลับอย่างไม่เป็นสุข ทำให้คนทั้งราชสำนักได้ยินเสียงนกก็หวาดกลัวลมพัดก็หวาดผวากันไปหมด ก็ไม่สู้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยฮ่องเต้ควานหาขุดดินลึกลงไปสามฉื่อ พลิกค้นให้ทั่วยุทธภพที่เดิมทีก็ขุ่นมัวแห่งนี้ พยายามหาตัวองค์ชายของราชวงศ์ก่อนที่สมควรตายมานานแล้วผู้นั้นให้เจอ เมื่อคนผู้นี้ตาย ฮ่องเต้ย่อมปิติยินดี สถานการณ์ในยุทธภพที่วุ่นวายก็น่าจะดีขึ้นมาได้หลายส่วน แล้วก็จะได้ทำให้เหล่าผู้กล้าในยุทธภพหายใจหายคอกันคล่องบ้าง

ชายหนุ่มหญิงสาวคู่นี้พูดถึงภาพเหตุการณ์แสงดาบแสงกระบี่ตัดสลับ เลือดสดซาดกระเซ็นไปสี่ทิศด้วยความรู้สึกเป็นกังวล

เพราะสำนักที่พวกเขาอยู่มีชื่อว่าสำนักเจิงหรง คือกลุ่มอิทธิพลอันดับหนึ่งในยุทธภพของแคว้นจินเฟย หากอิงตามการแบ่งระดับของพวกคนในยุทธจักรด้วยกันเอง พรรคน้อยใหญ่ในยุทธภพเกือบร้อยแห่งที่มีหลักฐานให้ตรวจสอบล้วนมีเส้นแบ่งขอบเขตอยู่เส้นหนึ่ง โดยใช้การขึ้นครองราชย์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเป็นเส้นบรรทัดฐาน ในยุทธภพมีการแบ่งเก่าและใหม่ พรรคในยุทธภพใหม่ส่วนใหญ่มักจะเป็นพวกเชื้อพระวงศ์ที่มีคุณณูปการหรือไม่ก็กองกำลังที่ประจำอยู่ตามหัวเมือง ส่วนยุทธภพเก่ากลับได้แต่มีชีวิตรอดอยู่ไปวันๆ แน่นอนว่าพรรคเจิงหรงย่อมถือเป็นยุทธภพเก่า บิดาของสตรีก็ยิ่งเป็นหนึ่งในสี่ยอดฝีมือที่แท้จริง

แต่นางได้รับข่าวช้าที่สุด เพิ่งจะรู้ว่าสถานที่ในการจัดงานเลี้ยงได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เป็นใจกลางทะเลสาบใหญ่แห่งหนึ่ง ปรมาจารย์ใหญ่ทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรมต่างก็ไม่มีโอกาสจะลงมือได้

ขาวดำสองวิถี แน่นอนว่าไม่มีใครยินดีไปพูดคุยปรึกษาในเขตอิทธิพลของฝ่ายตรงข้าม สวรรค์เท่านั้นที่จะรู้ว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงานหรือไม่ พวกคนของฝ่ายธรรมะรู้สึกว่าคนของพรรคมารใช้วิธีการที่อำมหิตโหดร้าย กำเริบเสิบสานไร้ยำเกรง ส่วนผู้กล้าแห่งเส้นทางสายดำมืดก็รู้สึกว่าพวกจอมยุทธผู้มีคุณธรรมกลุ่มนั้นแสร้งทำเป็นวางมาดภูมิฐาน มีแต่พวกวิญญูชนจอมปลอมที่ชายเป็นโจรหญิงเป็นคณิกา ยังเทียบกับพวกเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

แต่นอกเหนือจากความน่ากังวลที่ชวนให้คนขมวดคิ้วพรั่นใจซึ่งอยู่ไกลตัวแล้ว ยามนี้คนตรงหน้าที่อยู่ภายใต้แสงจันทร์ ต่างก็เป็นคนในใจของอีกฝ่าย ฟ้าดินเงียบสงัด รอบกายไร้ผู้คน แน่นอนว่าย่อมไม่อาจห้ามอารมณ์ได้ไหว จึงมีการกระทำบางอย่างที่คลุมเครือกระหนุงกระหนิง

ก่อนหน้านี้ในมือของสตรีถือกิ่งหลิวอยู่กิ่งหนึ่ง ระหว่างที่เดินก็ใช้มือข้างหนึ่งออกหมัด ส่วนมีอีกข้างใช้กิ่งหลิวร่ายกระบวนท่ากระบี่ที่ลูกเล่นแพรวพราว

เฉินผิงอันถอนหายใจเบาๆ เจ้าประมุขพรรคเจิงหรงผู้นี้น่าจะเป็นหนึ่งในยอดฝีมือของยุทธภพสามคนที่รอดชีวิตเหลืออยู่ท้ายที่สุดบนทะเลสาบคราวนั้น วิธีการออกหมัดของคนผู้นั้นคล้ายคลึงกับสตรีที่อยู่ใต้ต้นไม้อยู่หลายส่วน ตรงเอวของเขารัดพันด้วยกระบี่อ่อนเล่มหนึ่ง หลังจากออกกระบี่ก็ตวัดรัดคอปาดศีรษะคน วิชากระบี่อ่อนโยนทว่าแปลกประหลาดยิ่ง

ชายหญิงสองคนแนบชิดอิงแอบกัน มือไม้พัวพันพลิ้วไหว

หากเพียงแค่นี้ก็ยังพอทำเนา อย่างมากเฉินผิงอันก็แค่หลับตาฝึกตนต่อไปก็เท่านั้น แต่เขากลัวก็แต่ว่าชายหญิงคู่นี้จะเกิดอารมณ์กระสัน ชักนำให้ฟ้าร้องไฟแลบแผ่นดินโยกคลอน

กลัวอะไรก็เจออย่างนั้นจริงๆ หลังจากชายหญิงอ้อมมาถึงด้านหลังต้นไม้ ฝ่ายสตรีก็บอกว่าจะขึ้นไปบนต้นไม้หาจุดที่มีใบดกหนาอำพรางตาได้ดีสักหน่อย ไม่อย่างนั้นก็ห้ามเขามือไม้พัวพันเป็นปลาหมึกอีก

บุรุษยิ้มตอบรับ หญิงสาวจึงจับไหล่ชายคนรัก หมายจะกระโดดขึ้นไปด้านบน

เฉินผิงอันที่บนร่างแปะยันต์แบกศิลากวาดตามองไปรอบด้าน ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง ก้อนหินก้อนหนึ่งที่อยู่ในพุ่มหญ้าใต้ต้นไม้ก็แตกออกเบาๆ

ชายหญิงตกใจสะดุ้งโหยง รีบหันหน้าไปมอง

เฉินผิงอันลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งตัวออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!