หลินซูแข้งขาอ่อน ต้องเอามือข้างหนึ่งจับสะพานเหล็กเอาไว้
กากเดนราชวงศ์ก่อนผู้นั้นอยู่ใต้เปลือกตาของตนจริงๆ ด้วย!
ตู้อิ๋งยิ้มกล่าว “เอาล่ะ เจ้าหลินซูอุทิศตนถวายชีวิต ตั้งใจทำงานอย่างระมัดระวังรอบคอบเพื่อฮ่องเต้มานานหลายปีขนาดนี้ คอยส่งรายงานลับไปยังเมืองหลวงอยู่เป็นประจำ อีกทั้งคราวนี้ยังช่วยข้ากำจัดยอดฝีมือสองคนของทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรมบนทะเลสาบ แล้วคืนนี้ก็ยังได้คลายปมแค้นเก่าแก่ในอดีตอีกด้วย”
หลินซูยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน ได้ยินถ้อยคำใจกว้างนี้ของตู้อิ๋งก็ทั้งโล่งใจ แต่ก็ทั้งไม่กล้าวางใจอย่างแท้จริง กลัวก็เพียงแต่ว่าราชสำนักจะคิดบัญชีย้อนหลัง
ตู้อิ๋งไม่คิดจะพูดอะไรให้มากความอีก ปล่อยให้หลินซูอกสั่นขวัญผวาไป กลุ่มอิทธิพลในยุทธภพอย่างหลินซูและภูเขาเจิงหรงนี้ก็คือพวกกุ้งหอยปูปลาในบ่อโคลนเละเทะ แต่กลับจำเป็นต้องมี หากเปลี่ยนมาเป็นคนอื่นที่ทำงานแทนราชสำนัก เรื่องของการทุ่มเทนั้นย่อมต้องทุ่มเท แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะใช้งานได้ดีอย่างหลินซู แล้วนับประสาอะไรกับที่อีกฝ่ายมีจุดอ่อนใหญ่ขนาดนี้ถูกกุมอยู่ในมือของเขาตู้อิ๋งและราชสำนัก วันหน้าภูเขาเจิงหรงก็มีแต่จะยิ่งนอบน้อมเชื่อฟัง เวลาทำงานอะไรก็มีแต่จะยิ่งไม่เลือกวิธีการ คนในยุทธภพฆ่าคนในยุทธภพ ราชสำนักก็แค่ต้องทำตัวเป็นชาวประมงที่เก็บเกี่ยวผลกำไร อีกทั้งคาวเลือดยังไม่ต้องแปดเปื้อนติดกาย
ตู้อิ๋งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “คืนนี้พักค้างแรมที่ภูเขาเจิงหรงนี่แหละ”
หลินซูถามเสียงเบา “แล้วพวกคนหนุ่มที่อายุเข้าเกณฑ์?”
ตู้อิ๋งลังเลตัดสินใจไม่ได้
ชายฉกรรจ์โอสถทองของจวนราชครูต้าจ้วนกระตุกมุมปาก พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ระมัดระวังขับเรือได้นานหมื่นปี เจ้าประมุขหลินตัดสินใจเอาเองเถิด”
สายตาของหลินซูฉายแววอำมหิตในฉับพลัน
คนทั้งกลุ่มเดินข้ามสะพานกันไป เข้าไปยังเมืองเล็กที่แสงไฟสว่างโชติช่วง
ตรงหน้าผา เฉินผิงอันห้อยตัวนิ่งไม่กระดุกกระดิก
ในเมืองเล็กบนยอดเขาของภูเขาเจินหรง ในห้องโถงใหญ่ของพรรคเจิงหรง บนพื้นนองไปด้วยเลือดสด
หลินซูนั่งสีหน้าไร้อารมณ์อยู่บนตำแหน่งประธาน
ชายฉกรรจ์นิสัยเงียบขรึมที่มาจากจวนราชครูของราชวงศ์ต้าจ้วน เจิ้งสุ่ยจู ตู้อิ๋งแม่ทัพใหญ่ผู้พิทักษ์แคว้นจินเฟย ขันทีเฒ่าผู้ถือตราควบคุมกองม้า นั่งเรียงกันตามลำดับ
ฝั่งตรงข้ามคือผู้อาวุโสสกุลหลินหลายท่านของพรรคเจิงหรง จากนั้นก็เป็นบุตรสาวโทนของหลินซู และลูกศิษย์ผู้สืบทอดทุกคนของเขา พวกเขาทุกคนต่างก็ไม่กล้ามองไปฝั่งตรงข้าม
เพราะก่อนหน้านี้ให้ตายอย่างไรเจ้าประมุขหลินซูก็ไม่ยอมนั่งบนตำแหน่งประธาน แล้วก็เป็นเพราะมือกระบี่หญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ บอกให้หลินซูรีบนั่ง หลินซูถึงได้นั่งลงอย่างกล้าๆ กลัวๆ
ในห้องโถงใหญ่ บุรุษที่อายุประมาณยี่สิบปีล้วนตายกันไปแล้วเกินครึ่ง
ใบหน้าของเจิ้งสุ่ยจูเหมือนถูกผนึกด้วยน้ำค้างแข็ง นางหันหน้ามาเอ่ย “ฆ่าเศษสวะพวกนี้สนุกนักหรือไง?!”
เฝิงอี้แห่งจวนราชครูยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ไม่แน่ว่าอาจตกปลาใหญ่จากตำหนักเกล็ดทองได้ตัวหนึ่ง”
ในสถานที่ที่ห่างจากห้องโถงใหญ่ของพรรคเจิงหรงมาอีกช่วงระยะทางหนึ่ง
บุรุษหนุ่มที่รับหน้าที่เป็นอาจารย์ของโรงเรียนต่อจากอาจารย์ผู้เฒ่าหัวเราะเสียงหยันไม่หยุด เขาลุกขึ้นยืน กระทืบเท้าหนึ่งครั้ง กระบี่ยาวเล่มหนึ่งก็เด้งออกมาจากใต้ดิน เขาถือกระบี่เดินข้ามประตูใหญ่ของโรงเรียน เดินไปบนถนนเส้นใหญ่ ตรงดิ่งไปยังสถานที่ที่อันตรายแห่งนั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างตำหนักเกล็ดทองและราชวงศ์ต้าจ้วนเลวร้าย ทั้งสองฝ่ายขาดก็แค่ยังไม่ได้ฉีกหน้าแตกหักกันโดยตรงก็เท่านั้น
ในเมื่อเรื่องนี้ยุติลงแล้ว เขาก็ไม่ถือสาหากจะถือโอกาสสังหารผู้ฝึกลมปราณโอสถทองคนหนึ่งของต้าจ้วน หากเขามองไม่ผิด มือกระบี่หญิงที่อายุยังน้อยคนนั้นเป็นลูกศิษย์ที่หญิงชราขอบเขตแปดผู้นั้นรักใคร่มากที่สุด หากสองคนนี้ตายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูญเสียดาบวิเศษที่สามารถสยบเจียวน้ำได้ไปด้วย กลับมีเพียงตู้อิ๋งเท่านั้นที่ไม่ตาย แค่นี้ก็มากพอจะทำให้ฮ่องเต้แคว้นจินเฟยร้อนใจหัวหูไหม้ ถูกกำหนดมาแล้วว่าจะไม่สามารถให้คำอธิบายแก่ฮ่องเต้สกุลโจวต้าจ้วนได้
ทางฝั่งของหน้าผา เฉินผิงอันปล่อยมือ ปล่อยให้ร่างร่วงดิ่งลงมาเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว
พอขยับเข้าใกล้ด้านล่างสุดของหน้าผา ถึงได้ยื่นมือไปคว้าหน้าผาเอาไว้ ชะลอความเร็วในการร่วงลง พอพลิ้วกายลงบนพื้นก็เดินช้าๆ จากไปไกล
มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นการล่าเหยื่อที่แผนการถูกจัดวางไว้อย่างลึกล้ำยาวไกล
แม้จะบอกว่าทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ตัวเองต้องการ
แต่หากเผยกายอย่างแท้จริง เดินเข้าไปในสถานการณ์นั้น ยิ่งขอบเขตสูงเท่าไรก็ไม่แน่ว่าอาจยิ่งตายเร็วเท่านั้น
เฉินผิงอันไม่คิดจะไปมีส่วนร่วม
กากเดนราชวงศ์ก่อนที่หนีออกจากเมืองหลวงมาได้ ฮ่องเต้แคว้นจินเฟยที่ยึดครองราชย์บัลลังก์ ตู้อิ๋งบุตรบุญธรรมที่สร้างความวุ่นวายให้แก่ยุทธภพ หลินซูพรรคเจิงหรงที่สวามิภักดิ์ต่อราชสำนัก ผู้ฝึกตนตำหนักเกล็ดทองที่ให้การปกป้องคุ้มครององค์ชายอย่างลับๆ ผู้ฝึกยุทธขอบเขตแปดของต้าจ้วน ผู้ฝึกตนโอสถทองจวนราชครู เจียวน้ำที่จะทำให้น้ำท่วมกลบทับเมืองหลวงต้าจ้วน
ผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบบางท่านของราชวงศ์ต้าจ้วน กับเซียนกระบี่ใหญ่ที่ผูกปมแค้นต่อกัน
เฉินผิงอันจากไปไกลทั้งอย่างนี้
ส่วนเมืองเล็กบนยอดเขาที่อยู่ด้านหลังก็จะต้องมีเรื่องราวที่สลับซับซ้อนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความสุขความทุกข์ การพบพรากจากลาของแต่ละคน บางคนอาจตายไปโดยที่ยังไม่รู้สาเหตุเลยด้วยซ้ำ
ผู้ฝึกกระบี่โอสถทองที่เป็นผู้ถวายงานอันดับหนึ่งของตำหนักเกล็ดทองซึ่งคิดว่าคืนนี้มิอาจมีใครต่อกรกับเขาได้ พลันมีรูเล็กๆ โผล่มาตรงหว่างคิ้ว ก่อนที่เส้นแสงหนึ่งจะเปล่งวาบ ตามมาด้วยโอสถทองในร่างที่ถูกปั่นคว้านจนเละ
ก่อนจะตาย ผู้ฝึกกระบี่โอสถทองที่อำพรางตนอย่างลึกล้ำเบิกตากว้าง พึมพำว่า “เซียนกระบี่จีเยว่…”
เพียงไม่นานศพของเขาก็หลอมละลายกลายเป็นกองเลือดกองหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!