กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 517

สรุปบท บทที่ 517.4 ภูเขาสายน้ำยาวไกล: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอน บทที่ 517.4 ภูเขาสายน้ำยาวไกล จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 517.4 ภูเขาสายน้ำยาวไกล คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลินซูแข้งขาอ่อน ต้องเอามือข้างหนึ่งจับสะพานเหล็กเอาไว้

กากเดนราชวงศ์ก่อนผู้นั้นอยู่ใต้เปลือกตาของตนจริงๆ ด้วย!

ตู้อิ๋งยิ้มกล่าว “เอาล่ะ เจ้าหลินซูอุทิศตนถวายชีวิต ตั้งใจทำงานอย่างระมัดระวังรอบคอบเพื่อฮ่องเต้มานานหลายปีขนาดนี้ คอยส่งรายงานลับไปยังเมืองหลวงอยู่เป็นประจำ อีกทั้งคราวนี้ยังช่วยข้ากำจัดยอดฝีมือสองคนของทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรมบนทะเลสาบ แล้วคืนนี้ก็ยังได้คลายปมแค้นเก่าแก่ในอดีตอีกด้วย”

หลินซูยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน ได้ยินถ้อยคำใจกว้างนี้ของตู้อิ๋งก็ทั้งโล่งใจ แต่ก็ทั้งไม่กล้าวางใจอย่างแท้จริง กลัวก็เพียงแต่ว่าราชสำนักจะคิดบัญชีย้อนหลัง

ตู้อิ๋งไม่คิดจะพูดอะไรให้มากความอีก ปล่อยให้หลินซูอกสั่นขวัญผวาไป กลุ่มอิทธิพลในยุทธภพอย่างหลินซูและภูเขาเจิงหรงนี้ก็คือพวกกุ้งหอยปูปลาในบ่อโคลนเละเทะ แต่กลับจำเป็นต้องมี หากเปลี่ยนมาเป็นคนอื่นที่ทำงานแทนราชสำนัก เรื่องของการทุ่มเทนั้นย่อมต้องทุ่มเท แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะใช้งานได้ดีอย่างหลินซู แล้วนับประสาอะไรกับที่อีกฝ่ายมีจุดอ่อนใหญ่ขนาดนี้ถูกกุมอยู่ในมือของเขาตู้อิ๋งและราชสำนัก วันหน้าภูเขาเจิงหรงก็มีแต่จะยิ่งนอบน้อมเชื่อฟัง เวลาทำงานอะไรก็มีแต่จะยิ่งไม่เลือกวิธีการ คนในยุทธภพฆ่าคนในยุทธภพ ราชสำนักก็แค่ต้องทำตัวเป็นชาวประมงที่เก็บเกี่ยวผลกำไร อีกทั้งคาวเลือดยังไม่ต้องแปดเปื้อนติดกาย

ตู้อิ๋งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “คืนนี้พักค้างแรมที่ภูเขาเจิงหรงนี่แหละ”

หลินซูถามเสียงเบา “แล้วพวกคนหนุ่มที่อายุเข้าเกณฑ์?”

ตู้อิ๋งลังเลตัดสินใจไม่ได้

ชายฉกรรจ์โอสถทองของจวนราชครูต้าจ้วนกระตุกมุมปาก พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ระมัดระวังขับเรือได้นานหมื่นปี เจ้าประมุขหลินตัดสินใจเอาเองเถิด”

สายตาของหลินซูฉายแววอำมหิตในฉับพลัน

คนทั้งกลุ่มเดินข้ามสะพานกันไป เข้าไปยังเมืองเล็กที่แสงไฟสว่างโชติช่วง

ตรงหน้าผา เฉินผิงอันห้อยตัวนิ่งไม่กระดุกกระดิก

ในเมืองเล็กบนยอดเขาของภูเขาเจินหรง ในห้องโถงใหญ่ของพรรคเจิงหรง บนพื้นนองไปด้วยเลือดสด

หลินซูนั่งสีหน้าไร้อารมณ์อยู่บนตำแหน่งประธาน

ชายฉกรรจ์นิสัยเงียบขรึมที่มาจากจวนราชครูของราชวงศ์ต้าจ้วน เจิ้งสุ่ยจู ตู้อิ๋งแม่ทัพใหญ่ผู้พิทักษ์แคว้นจินเฟย ขันทีเฒ่าผู้ถือตราควบคุมกองม้า นั่งเรียงกันตามลำดับ

ฝั่งตรงข้ามคือผู้อาวุโสสกุลหลินหลายท่านของพรรคเจิงหรง จากนั้นก็เป็นบุตรสาวโทนของหลินซู และลูกศิษย์ผู้สืบทอดทุกคนของเขา พวกเขาทุกคนต่างก็ไม่กล้ามองไปฝั่งตรงข้าม

เพราะก่อนหน้านี้ให้ตายอย่างไรเจ้าประมุขหลินซูก็ไม่ยอมนั่งบนตำแหน่งประธาน แล้วก็เป็นเพราะมือกระบี่หญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ บอกให้หลินซูรีบนั่ง หลินซูถึงได้นั่งลงอย่างกล้าๆ กลัวๆ

ในห้องโถงใหญ่ บุรุษที่อายุประมาณยี่สิบปีล้วนตายกันไปแล้วเกินครึ่ง

ใบหน้าของเจิ้งสุ่ยจูเหมือนถูกผนึกด้วยน้ำค้างแข็ง นางหันหน้ามาเอ่ย “ฆ่าเศษสวะพวกนี้สนุกนักหรือไง?!”

เฝิงอี้แห่งจวนราชครูยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ไม่แน่ว่าอาจตกปลาใหญ่จากตำหนักเกล็ดทองได้ตัวหนึ่ง”

ในสถานที่ที่ห่างจากห้องโถงใหญ่ของพรรคเจิงหรงมาอีกช่วงระยะทางหนึ่ง

บุรุษหนุ่มที่รับหน้าที่เป็นอาจารย์ของโรงเรียนต่อจากอาจารย์ผู้เฒ่าหัวเราะเสียงหยันไม่หยุด เขาลุกขึ้นยืน กระทืบเท้าหนึ่งครั้ง กระบี่ยาวเล่มหนึ่งก็เด้งออกมาจากใต้ดิน เขาถือกระบี่เดินข้ามประตูใหญ่ของโรงเรียน เดินไปบนถนนเส้นใหญ่ ตรงดิ่งไปยังสถานที่ที่อันตรายแห่งนั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างตำหนักเกล็ดทองและราชวงศ์ต้าจ้วนเลวร้าย ทั้งสองฝ่ายขาดก็แค่ยังไม่ได้ฉีกหน้าแตกหักกันโดยตรงก็เท่านั้น

ในเมื่อเรื่องนี้ยุติลงแล้ว เขาก็ไม่ถือสาหากจะถือโอกาสสังหารผู้ฝึกลมปราณโอสถทองคนหนึ่งของต้าจ้วน หากเขามองไม่ผิด มือกระบี่หญิงที่อายุยังน้อยคนนั้นเป็นลูกศิษย์ที่หญิงชราขอบเขตแปดผู้นั้นรักใคร่มากที่สุด หากสองคนนี้ตายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูญเสียดาบวิเศษที่สามารถสยบเจียวน้ำได้ไปด้วย กลับมีเพียงตู้อิ๋งเท่านั้นที่ไม่ตาย แค่นี้ก็มากพอจะทำให้ฮ่องเต้แคว้นจินเฟยร้อนใจหัวหูไหม้ ถูกกำหนดมาแล้วว่าจะไม่สามารถให้คำอธิบายแก่ฮ่องเต้สกุลโจวต้าจ้วนได้

ทางฝั่งของหน้าผา เฉินผิงอันปล่อยมือ ปล่อยให้ร่างร่วงดิ่งลงมาเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

พอขยับเข้าใกล้ด้านล่างสุดของหน้าผา ถึงได้ยื่นมือไปคว้าหน้าผาเอาไว้ ชะลอความเร็วในการร่วงลง พอพลิ้วกายลงบนพื้นก็เดินช้าๆ จากไปไกล

มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นการล่าเหยื่อที่แผนการถูกจัดวางไว้อย่างลึกล้ำยาวไกล

แม้จะบอกว่าทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ตัวเองต้องการ

แต่หากเผยกายอย่างแท้จริง เดินเข้าไปในสถานการณ์นั้น ยิ่งขอบเขตสูงเท่าไรก็ไม่แน่ว่าอาจยิ่งตายเร็วเท่านั้น

เฉินผิงอันไม่คิดจะไปมีส่วนร่วม

กากเดนราชวงศ์ก่อนที่หนีออกจากเมืองหลวงมาได้ ฮ่องเต้แคว้นจินเฟยที่ยึดครองราชย์บัลลังก์ ตู้อิ๋งบุตรบุญธรรมที่สร้างความวุ่นวายให้แก่ยุทธภพ หลินซูพรรคเจิงหรงที่สวามิภักดิ์ต่อราชสำนัก ผู้ฝึกตนตำหนักเกล็ดทองที่ให้การปกป้องคุ้มครององค์ชายอย่างลับๆ ผู้ฝึกยุทธขอบเขตแปดของต้าจ้วน ผู้ฝึกตนโอสถทองจวนราชครู เจียวน้ำที่จะทำให้น้ำท่วมกลบทับเมืองหลวงต้าจ้วน

ผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบบางท่านของราชวงศ์ต้าจ้วน กับเซียนกระบี่ใหญ่ที่ผูกปมแค้นต่อกัน

เฉินผิงอันจากไปไกลทั้งอย่างนี้

ส่วนเมืองเล็กบนยอดเขาที่อยู่ด้านหลังก็จะต้องมีเรื่องราวที่สลับซับซ้อนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความสุขความทุกข์ การพบพรากจากลาของแต่ละคน บางคนอาจตายไปโดยที่ยังไม่รู้สาเหตุเลยด้วยซ้ำ

ผู้ฝึกกระบี่โอสถทองที่เป็นผู้ถวายงานอันดับหนึ่งของตำหนักเกล็ดทองซึ่งคิดว่าคืนนี้มิอาจมีใครต่อกรกับเขาได้ พลันมีรูเล็กๆ โผล่มาตรงหว่างคิ้ว ก่อนที่เส้นแสงหนึ่งจะเปล่งวาบ ตามมาด้วยโอสถทองในร่างที่ถูกปั่นคว้านจนเละ

ก่อนจะตาย ผู้ฝึกกระบี่โอสถทองที่อำพรางตนอย่างลึกล้ำเบิกตากว้าง พึมพำว่า “เซียนกระบี่จีเยว่…”

เพียงไม่นานศพของเขาก็หลอมละลายกลายเป็นกองเลือดกองหนึ่ง

สุดท้ายเขาก็อดไม่ไหว โบกชายแขนเสื้อสร้างฟ้าดินขนาดเล็กขึ้นมา จากนั้นถามว่า “เจ้าเป็นลูกศิษย์ของคนผู้นั้นแห่งแจกันสมบัติทวีปงั้นหรือ?”

คนผู้นั้นหันหน้ากลับมาแต่ไม่ได้เอ่ยคำใด

จีเยว่มีสีหน้าเฉยเมย เอาสองมือไพล่หลัง พูดเสียงทุ้มหนัก “อย่าทำให้อาจารย์ของตัวเองต้องขายหน้า”

คนผู้นั้นทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่พูด สุดท้ายก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับ

จีเยว่ยังคงไม่ถอนตราพันธนาการออก เขาพลันยิ้มเอ่ยว่า “ถ้ามีโอกาสก็บอกกับอาจารย์อาจั่วคนนั้นของเจ้าสักคำว่า อันที่จริงวิชากระบี่ของเขา…ไม่ได้สูงส่งขนาดนั้น ปีนั้นเป็นเพราะข้าประมาทเกินไป ขอบเขตก็ไม่สูงพอ ถึงได้ต้านรับกระบี่ของเขาไม่ได้”

คนหนุ่มมีสีหน้าปั้นยาก

จีเยว่โบกมือ “เตือนเจ้าสักคำ ทางที่ดีที่สุดควรเก็บปิ่นหยกชิ้นนี้ไปซะ เก็บซ่อนเอาไว้ให้ดี แม้จะบอกว่าปีนั้นข้าเป็นดั่งศาลาใกล้น้ำจึงได้ยลจันทร์ก่อน พอจะมองเห็นเบาะแสของอุบัติการณ์ทางทิศใต้อยู่บ้าง ถึงได้รู้สึกคุ้นตาเล็กน้อย ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ไม่เคยขยับเข้าไปพิศดูใกล้ๆ อย่างละเอียด แม้แต่ข้าก็ยังสัมผัสไม่ถึงความผิดปกติ แต่หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันหนึ่งในหมื่นขึ้นมาล่ะ? ไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ทุกคนที่ไม่ชอบรังแกเด็กรุ่นหลังอย่างข้าหรอกนะ ทุกวันนี้พวกเซียนกระบี่ผายลมสุนัขที่ยังอยู่ในอุตรกุรุทวีป ขอแค่พวกเขามองตัวตนของเจ้าออก ก็มีความเป็นไปได้เกินครึ่งว่าจะอดใจไม่ไหวอยากปล่อยกระบี่ใส่เจ้า ส่วนข้อที่ว่าสังหารเจ้าแล้วจะทำให้อาจารย์อาจั่วของเจ้าโมโหจนต้องขึ้นฝั่งมาเยือนอุตรกุรุทวีปหรือไม่นั้น สำหรับพวกลูกกระต่ายขอบเขตก่อกำเนิด ขอบเขตหยกดิบที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเหล่านี้ นั่นมีแต่จะเป็นความสุขในชีวิต ไม่กลัวตายเลยสักนิดจริงๆ นี่ก็คือกระแสความนิยมในอุตรกุรุทวีปของพวกเรา ดี แล้วก็ไม่ดี”

คนหนุ่มหันกลับมาเอ่ยถาม “ปีนั้นผู้ฝึกกระบี่ของอุตรกุรุทวีปที่ออกทะเลไปออกกระบี่ก่อนใคร ก็คืออาจารย์ผู้เฒ่า? เหตุใดข้าเปิดรายงานข่าวภูเขาแม่น้ำมากมาย ถึงได้มีเพียงแค่การคาดเดา ไม่มีบันทึกที่ระบุไว้อย่างแน่ชัด?”

จีเยว่พูดอย่างฉุนปนขัน “เจ้าพวกคนรายงานข่าวที่เหมือนหนูขุดรูอยู่ใต้ดินเหล่านั้น ต่อให้รู้ว่าเป็นข้าจีเยว่ แต่พวกเขาจะกล้าระบุชื่อแซ่ของข้าหรือ? เจ้าลองดูเซียนกระบี่อีกสามคนที่ตามหลังมา มีใครบ้างที่รู้? อีกอย่างวันหน้าเวลาลงจากเขามาฝึกประสบการณ์ก็ควรต้องระวังตัวสักหน่อย ต้องระวังตัวเหมือนอย่างในคืนนี้ เจ้าไม่มีทางรู้เลยว่าคนชักใยดึงเชือกอยู่เบื้องหลังหุ่นเชิดอย่างพวกมดตัวน้อยตัวนิดเหล่านั้น แท้จริงแล้วเป็นเทพเจ้าจากฝ่ายใดกันแน่ พูดประโยคที่ไม่น่าฟังสักหน่อย พวกคนอย่างตู้อิ๋งมองหลินซู เจ้ามองตู้อิ๋ง ข้ามองเจ้า แล้วใครเล่าจะรู้ว่ามีหรือไม่มีคนที่กำลังมองข้าจีเยว่อยู่หรือไม่? ผู้ฝึกตนบนภูเขากี่มากน้อยที่ตายไปแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่อยู่ล่างภูเขาเลย โรคที่รักษายากแค่ไหนก็ยังรักษาได้ มีเพียงคำว่าโง่คำเดียวเท่านั้นที่ไร้ยารักษา”

คนหนุ่มกุมหมัดกล่าวว่า “คำสั่งสอนของท่านอาจารย์ผู้เฒ่า ผู้น้อยจดจำไว้แล้ว”

จีเยว่โบกมือ แล้วร่างของเขาก็หายวับไป

เฉินผิงอันเดินออกห่างมาจากยอดเขาเจิงหรง ออกเดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์เพียงลำพังต่อไป

ยุทธภพก็เป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องเจอคลื่นลมมรสุมอะไรบ้าง

เข้าสู่ช่วงหน้าฝน

เฉินผิงอันจึงเลือกเดินอ้อมราชวงศ์ต้าจ้วนมุ่งหน้าไปยังแคว้นใต้อาณัติที่อยู่ติดทะเลแห่งหนึ่งโดยตรง

บนสะพานเลียบหน้าผา ฝนเม็ดใหญ่ตกกระหน่ำ เฉินผิงอันก่อกองไฟขึ้นกองหนึ่ง เหม่อมองไปยังม่านฝนด้านนอก พอฝนตก ไอร้อนที่อบอวลอยู่ท่ามกลางฟ้าดินก็ลดหายไปมาก

สายฝนกระหน่ำ พรำเสียงเนิบ ต้นหลิ่วลู่เรียง ใบบัวเกลี้ยงกลม ขุนเขาเขียวขจี หนทางยาวไกล ความคิดล่องไป ความคิดถึงล่องลอย

—–

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!