กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 520

ม่านราตรีหนาหนัก บนยอดเขาแห่งหนึ่ง เฉาฟู่ปวดหัวราวกับหัวจะแตก หลังจากค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแล้วก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งขัดสมาธิ ในมือยังถือประคองของสิ่งหนึ่งเอาไว้

ก้มหน้าลงมอง จิตใจของเฉาฟู่ก็เหมือนขี้เถ้ามอด

เงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าบัณฑิตหนุ่มผู้นั้นนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างกองไฟ บนขาวางไม้เท้าเดินป่าพาดเอาไว้ ด้านหลังก็คือหีบไม้ไผ่

สุยจิ่งเฉิงที่ไม่มีหมวกม่านปิดบังดวงหน้างามล้ำก็นั่งอยู่ใกล้กับคนผู้นั้น สองมือของนางกอดเข่า นั่งขดตัวเหม่อลอย

เฉาฟู่ที่ถือประคองศีรษะของเซียวซูเย่ได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้ากระดุกกระดิก

เฉินผิงอันถาม “ไหนลองเล่าเรื่องสำนักของเจ้าและตำหนักเกล็ดทองอย่างละเอียดทีสิ”

เฉาฟู่ไม่มีความลังเลใดๆ เขาบอกความจริงและเรื่องวงในทั้งหมดที่ตัวเองรู้มารัวยาวราวกับเทถั่วเหลืองออกจากกระบอกไม้ไผ่

เขาไม่อยากไปเดินอยู่บนเส้นทางน้ำพุเหลืองเป็นเพื่อนเซียวซูเย่

อาจารย์เคยบอกว่าศักยภาพของเซียวซูเย่นั้นหมดสิ้นแล้ว แต่เขาเฉาฟู่กลับไม่เหมือนกัน เพราะมีคุณสมบัติของโอสถทอง

เฉินผิงอันถามอีก “แล้วไหนเจ้าลองเล่าเรื่องในครอบครัวและเรื่องราวในยุทธภพแคว้นอู่หลิงปีนั้นให้ข้าฟังสิ”

เฉาฟู่ยังคงเล่าทุกอย่างจนหมดเปลือกไม่มีหมกเม็ด

สุยจิ่งเฉิงคืนสติตั้งแต่ครั้งแรกที่เฉาฟู่เปิดปากเล่าแล้ว นางเพียงรับฟังอยู่เงียบๆ

หลังจากเฉาฟู่เล่าจบ คนผู้นั้นก็กล่าวว่า “เจ้าสามารถพาศีรษะนี้จากไปได้แล้ว หลังจากคุ้มครองรองเจ้ากรมผู้เฒ่ากลับคืนสู่บ้านเกิดอย่างลับๆ เรียบร้อย เจ้าก็สามารถกลับสำนักไปส่งมอบภารกิจได้เลย”

สุยจิ่งเฉิงทำท่าจะพูดแต่ก็ชะงักไป

คนผู้นั้นไม่ได้มองนาง เพียงแค่กล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “หากเจ้าอยากจะฆ่าเฉาฟู่ก็ลองลงมือดูเอาเองได้”

เฉาฟู่หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย

สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ต้องตายจริงๆ เพียงแค่เอาศีรษะนั้นออกมาจากยอดเขาเท่านั้น

พอลงจากเขาก็รู้สึกราวกับอยู่คนละโลก ทว่าพอทำนายดวงชะตาแล้ว อนาคตของเขากลับยากจะหยั่ง เซียนซือหนุ่มที่เดิมทีคิดว่ายุทธภพในแคว้นอู่หลิงก็คือบ่อน้ำเล็กๆ บ่อหนึ่งผู้นี้ยังคงกระวนกระวายไม่เป็นสุข

ข้างกองไฟ

สุยจิ่งเฉิงพลันเอ่ยขึ้นว่า “ขอบคุณผู้อาวุโส”

คิดจะสังหารเฉาฟู่เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก แต่สำหรับตระกูลสุยแล้ว นี่อาจจะไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

หากทั้งซูเซียวเย่และเฉาฟู่ต่างก็ต้องตายตกตามกันไปในคืนนี้

จะมีคนอีกมากที่ต้องตาย อาจเป็นหยางหยวนเจียวแม่น้ำขุ่น หูซินเหวยเจ้าประมุขพรรคเหิงตู้ จากนั้นก็ตามมาด้วยคนทั้งตระกูลสุย

แต่หากปล่อยให้เฉาฟู่จากไป ให้เขานำความไปบอกต่อคนที่อยู่เบื้องหลัง เดิมทีนี่ก็คือการสำแดงบารมีอย่างหนึ่งที่เซียนกระบี่ชุดเขียวมีต่ออาจารย์ของเฉาฟู่และตำหนักเกล็ดทอง

เฉินผิงอันดึงท่อนฟืนในกองไฟ “พูดกับคนฉลาดก็มักจะประหยัดแรงกายแรงใจเช่นนี้”

จากนั้นสุยจิ่งเฉิงก็เห็นว่าคนผู้นั้นหยิบกระดานหมากล้อมและโถเก็บเม็ดหมากออกมาจากหีบไม้ไผ่ แต่กลับไม่ได้เล่นหมากล้อมเหมือนตอนอยู่ในศาลา แต่เริ่มบังคับกระบี่บินของเซียนเล่มหนึ่งให้แกะสลักหมากสองเม็ด ดูจากการขยับมือแกะสลักของเขา สุยจิ่งเฉิงก็มองออกว่าเขาแกะสลักเป็นชื่อคนและชื่อสำนักของอาจารย์เฉาฟู่กับบรรพจารย์ตำหนักเกล็ดทอง โดยแยกกันสลักไว้บนด้านหน้าและด้านหลังของเม็ดหมาก แล้วก็ตามมาด้วยหมากอีกหลายเม็ด ล้วนเป็นผู้ฝึกตนคนสำคัญของตระกูลเซียนทั้งสองฝ่าย หมากแต่ละเม็ดถูกวางไว้บนกระดาน

สุยจิ่งเฉิงยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “หลังจากที่ได้พบเจอกันในศาลา ผู้อาวุโสก็คอยจับตามองพวกเราอยู่ตลอด ใช่หรือไม่?”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “โชคในการเสี่ยงดวงของเจ้าดีมาก ทำให้ข้าอิจฉาอย่างยิ่ง”

ทว่าสุยจิ่งเฉิงกลับมีสีหน้ากระอักกระอ่วน

ดูท่าแล้วอุบายที่ตนคิดว่าลึกล้ำ เมื่อปรากฎอยู่ในสายตาของคนผู้นี้ก็คงน่าขันไม่ต่างจากเด็กเล็กที่ขี่ม้าไม้ไผ่หรือเล่นว่าวกระดาษ

เฉินผิงอันทยอยเอาเม็ดหมากของหมากสองกระดานที่เชื่อมต่อกันวางลงบนขอบของกระดาน

เขาเอาสองมือสอดกันไว้ในชายแขนเสื้อ สายตาจ้องมองเม็ดหมากเหล่านั้น แล้วพูดเนิบช้าว่า “ในศาลา เด็กหนุ่มสุยเหวินฝ่าพูดล้อเล่นกับข้าหนึ่งประโยค อันที่จริงมันไม่เกี่ยวกับว่าถูกหรือผิด แต่เจ้าบอกให้เขาขอโทษ รองเจ้ากรมผู้เฒ่าเองก็เอ่ยประโยคหนึ่งที่ข้ารู้สึกว่ามีเหตุผลอย่างมาก จากนั้นสุยเหวินฝ่าก็เอ่ยขออภัยอย่างจริงใจ”

เฉินผิงอันเงยหน้าขึ้นมองสุยจิ่งเฉิง “ข้ารู้สึกว่านี่ก็คือขนบธรรมเนียมประจำตระกูลอย่างหนึ่งที่ตระกูลปัญญาชนสมควรมี ไม่เลวเลยทีเดียว ต่อให้ภายหลังไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือการกระทำของพ่อเจ้าก็ล้วนผิดต่อสองคำว่า ‘เที่ยงตรง’ อยู่มาก แต่เรื่องไหนก็เรื่องนั้น การแบ่งแยกก่อนหลังเล็กใหญ่มีความต่าง สองฝ่ายไม่ขัดแย้งกันเอง ดังนั้นก่อนที่คนกลุ่มของหยางหยวนจะมาขวางทางพวกเราสองฝ่าย ข้าถึงได้แสร้งทำเป็นรังเกียจว่าดินโคลนจะเปื้อนรองเท้า ถอยกลับเข้ามาในศาลา เพราะข้ารู้สึกว่าบัณฑิตที่เดินเข้าไปในยุทธภพได้ทำตามคำกล่าวที่ว่าอ่านตำราหมื่นเล่มเดินทางหมื่นลี้ จึงไม่ควรจะถูกขัดขวางทางไปเพราะลมฝนในยุทธภพ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!