กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 526

กู้โม่ขอบเขตประตูมังกร หรงช่างจากทะเลสาบกระบี่ฝูผิง พากันหันไปมองคนหนุ่มที่เพิ่งออกจากด่านคนนั้น

กู้โม่รู้สึกตกตะลึงระคนประหลาดใจเล็กน้อย การหลอมวัตถุแห่งชะตาชีวิตของผู้ฝึกตนห้าขอบเขตล่างคนหนึ่ง ความเคลื่อนไหวรุนแรงเกินไป ภาพปรากฎการณ์ยิ่งใหญ่เกินไป นี่ไม่สมเหตุสมผล

หรงช่างที่เป็นผู้ฝึกกระบี่ก่อกำเนิดยืนอยู่สูงกว่า มองได้ไกลกว่า เขาไม่เพียงแต่ประหลาดใจเท่านั้น ยังรู้สึกตื่นตะลึงอีกด้วย

ฉีจิ่งหลงไม่ได้หันกลับมา เขาเก็บฟ้าดินขนาดเล็กที่กระบี่บินแห่งชะตาชีวิตสร้างขึ้นลงไป ยามที่ลงมือไม่เห็นกระบี่บิน ยามที่หยุดมือก็ยังคงมองไม่เห็นกระบี่บิน

ฉีจิ่งหลงหันไปพูดกับหรงช่างว่า “เสียมารยาทแล้ว”

หรงช่างมีชาติกำเนิดจากทะเลสาบกระบี่ฝูผิง มีเซียนกระบี่อย่างลี่ไฉ่เป็นอาจารย์ หากลูกศิษย์ในสำนักคิดจะไม่มีนิสัยโผงผางตรงไปตรงมาเสียเลยก็นับว่าเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดติดใจอะไร ยิ้มกล่าวว่า “ได้สัมผัสกับกระบี่บินของท่านหลิวกับตัวเอง นับเป็นเกียรติอย่างถึงที่สุด วันหน้าหากมีโอกาส ควรจะหาสถานที่เหมาะๆ มาประมือกันให้เต็มที่สักครั้ง”

ฉีจิ่งหลงยิ้มกล่าว “ขอแค่ไม่ใช่ที่ภูเขาตี่ลี่ก็พอ”

เฉินผิงอันเดินไปหยุดอยู่ข้างกายฉีจิ่งหลง ตอนที่เดินสวนไหล่กับสุยจิ่งเฉิง เขาเอ่ยเบาๆ ว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง”

จิตใจสุยจิ่งเฉิงพลันสงบลงได้

ดูเหมือนว่าการปรากฏตัวของผู้อาวุโสจะทำให้จิตใจของนางสงบได้มากกว่าการออกกระบี่ของท่านหลิวเสียอีก

ต่อให้ตอนนี้นางจะรู้แล้วว่า อันที่จริงผู้อาวุโสเป็นแค่ผู้ฝึกตนห้าขอบเขตล่าง ตบะและขอบเขตต่างก็ล้วนสู้ฉีจิ่งหลงไม่ได้ก็ตาม

เฉินผิงอันยืนอยู่ข้างกายฉีจิ่งหลง “ขอบคุณมาก”

ฉีจิ่งหลงกล่าว “หากจะขอบคุณข้าจริงๆ แค่อย่าเกลี้ยกล่อมให้ข้าดื่มเหล้าก็พอ”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ได้เลย”

จากนั้นฉีจิ่งหลงก็เล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวอย่างคร่าวๆ ไปรอบหนึ่ง เรื่องวงในที่รู้ได้แต่ไม่อาจพูดออกมาได้ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีทางพูด การหลอมวัตถุแห่งชะตาชีวิตของเฉินผิงอันจำเป็นต้องมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่อาจวอกแวกเสียสมาธิ ดังนั้นบทสนทนาระหว่างพวกฉีจิ่งหลงสี่คน เฉินผิงอันจึงไม่รู้ชัดเจนสักเท่าไร แต่แสงกระบี่ที่พุ่งทะยานอยู่ริมบ่อบัวนี้ เขายังพอจะรับสัมผัสได้อย่างพร่าเลือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาทีที่ฉีจิ่งหลงเรียกกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตออกมา เวลานั้นต่อให้จิตใจของเฉินผิงอันจะจมจ่อมอยู่กับการหล่อหลอม แต่ก็ยังคงสัมผัสได้อย่างชัดเจน เพียงแต่ว่ามันใกล้ชิดสนิทสนมกับสภาพจิตใจของเขา ไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการหลอมวัตถุของเขา กลับกันยังคล้ายกับว่าเป็นการช่วยคุมหลังอย่างหนึ่งที่ฉีจิ่งหลงมีต่อเฉินผิงอัน

เฉินผิงอันหันหน้ามาพูดกับสุยจิ่งเฉิง “เจ้ากลับเข้าห้องไปก่อน เรื่องบางอย่าง หากเจ้ารู้ก่อนเวลากลับจะไม่ใช่เรื่องดี ข้ากับท่านหลิวจำเป็นต้องพูดคุยกับเทพธิดากู้และเซียนกระบี่หรงอีกสักหน่อย จำไว้ว่าอย่าแอบฟัง นี่เกี่ยวพันกับทิศทางการดำเนินไปของมหามรรคาเจ้า อย่าทำเป็นเล่น”

สุยจิ่งเฉิงพยักหน้ารับ แล้วเดินดิ่งกลับเข้าห้องตัวเองไป

พอมองเห็นภาพนี้ อารมณ์ของหรงช่างก็หนักอึ้งเล็กน้อย

หลังจากที่สุยจิ่งเฉิงปิดประตูลงเบาๆ ไม่ต้องรอให้เฉินผิงอันพูดอะไร ฉีจิ่งหลงก็จัดวางค่ายกลยันต์แห่งหนึ่งอย่างเงียบเชียบ เพื่อตัดขาดเสียงและภาพในบริเวณใกล้เคียงกับห้องของสุยจิ่งเฉิง

เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกที่คล่องแคล่วดุจเมฆคล้อยน้ำไหล

ทั้งรวดเร็วและมั่นคงอย่างถึงที่สุด

ดูเหมือนว่าเฉินผิงอันเองก็ไม่มีท่าทีว่าจะเอ่ยเตือนฉีจิ่งหลง ตอนที่เสียงปิดประตูดังขึ้นและฉีจิ่งหลงกำลังวาดยันต์ เฉินผิงอันได้หันมาเอ่ยถามเซียนซือบนภูเขาสองคนที่จับมือกันเดินทางมาตามหาสุยจิ่งเฉิงแล้ว “ข้ากับท่านหลิวสามารถนั่งคุยกับพวกเจ้าได้หรือไม่ เรื่องนี้อาจจะไม่ได้คำตอบในทันทีทันใด”

กู้โม่พยักหน้ารับ “ตามใจ”

เฉินผิงอันนั่งลงบนม้านั่งตัวยาวที่อยู่ด้านหลังฉีจิ่งหลง ฉีจิ่งหลงเองก็นั่งลงตามไปด้วย แต่ขยับออกมาเล็กน้อย ไม่ได้นั่งอยู่ตรงกลางเหมือนอย่างก่อนหน้านี้

ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉีจิ่งหลงก็แค่ลุกขึ้นยืนแล้วพูดคุยด้วยเหตุผลดีๆ ออกกระบี่แล้วก็เก็บกระบี่

เมื่อคนทั้งสองนั่งลง อารมณ์ของหรงช่างก็ดิ่งวูบลงอีก บุรุษชุดเขียวสองคนนี้ เหตุใดถึงมีจิตใจที่สอดประสานเชื่อมโยงถึงกันได้ดีเพียงนี้? คนทั้งสองนั่งลงบนม้านั่งตัวยาว เพียงแค่ดูจากตำแหน่งที่นั่งก็มีความหมายประมาณว่า ‘เจ้าคือกฎ ข้าคือระเบียบ’ แล้ว

เกี่ยวกับ ‘เซียนกระบี่โอสถทอง’ แซ่เฉินผู้นั้น ตลอดทางที่ตามหาสุยจิ่งเฉิงนี้ นอกจากข่าวคราวที่หลุดรอดมาจากรายงานภูเขาแม่น้ำ หรงช่างกับกู้โม่ยังเคยสืบเสาะหาข้อมูลอย่างลึกซึ้งมาก่อนรอบหนึ่ง ทว่าเบาะแสส่วนใหญ่ล้วนซับซ้อนยุ่งเหยิง กลับยิ่งชวนให้สับสนมึนงงเข้าไปอีก

ส่วนหลิวจิ่งหลง ไม่จำเป็นต้องให้คนทั้งสองไปตรวจสอบอะไรให้มากความเลย

เจียวหลงบนบกที่อยู่ติดอันดับสามของคนหนุ่มสาวสิบคนของอุตรกุรุทวีป หลิวจิ่งหลง คือลูกรักแห่งสวรรค์ที่ลุกผงาดอย่างรวดเร็วของสำนักกระบี่ไท่ฮุยแห่งทิศเหนือ

ตอนนี้เซียนกระบี่สองคนของสำนักกระบี่ไท่ฮุยได้ไปอยู่ไกลถึงภูเขาห้อยหัวแล้ว สำหรับตระกูลเซียนแห่งหนึ่งที่มีอักษรจงอยู่ในชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังอยู่ในอุตรกุรุทวีปที่แค่พูดจาไม่เข้าหูกันก็พร้อมจะต่อสู้เอาเป็นเอาตายแห่งนี้ นี่เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก ภูเขาใหญ่ที่มีผู้ฝึกกระบี่เป็นรากฐานในการหยัดยืนย่อมมีศัตรูคู่อาฆาตอยู่ไม่น้อย

แต่ไม่มีใครกล้าดูแคลนสำนักกระบี่ไท่ฮุยที่ไม่มีผู้ฝึกกระบี่เฝ้าพิทักษ์ พวกที่ตบะไม่สูงพอ คือไม่กล้า ส่วนพวกที่ตบะสูงพอ ก็ไม่ยินดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!