ในใจหร่วนฉงกลัดกลุ้มไม่น้อย
เซียนกระบี่ใหญ่ในความหมายทั่วไป เวทกระบี่ของพวกเขาสูงหรือต่ำ ปณิธานกระบี่มากหรือน้อย อันที่จริงผู้ฝึกกระบี่ห้าขอบเขตบนที่ขอบเขตด้อยกว่ากันเล็กน้อยยังพอจะมองเห็นระยะห่างคร่าวๆ ได้อย่างถูไถ
ทว่าการออกกระบี่บางครั้งของคนบางคนกลับจำเป็นต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะมองออกว่าจริงๆ แล้วพวกเขาออกแรงไปมากเท่าไร
พละกำลังมหาศาล แต่กลับไม่เด่นชัด
สืบสาวราวเรื่องกันถึงแก่นแล้ว บางทีกระบี่อาจต้องร่วงลงบนใจคนเสียก่อน ถึงจะมองเห็นทักษะ
หร่วนฉงหวังว่าในอนาคตวันใดวันหนึ่ง สำนักกระบี่หลงเฉวียนจะมีผู้ฝึกกระบี่ที่เป็นเช่นนี้ปรากฏตัว ต่อให้ช้าสักหน่อยก็ไม่เป็นไร
เพียงไม่นานต่งกู่ก็บอกลาจากไป
หร่วนฉงทอดสายตามองไปยังทิศไกล
อาณาเขตของขุนเขาเหนือ ในฐานะที่เป็นสถานที่มังกรลุกผงาดของต้าหลี เทพแห่งขุนเขาเหนืออย่างเว่ยป้อนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาแม่น้ำเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถคานอำนาจกับเขาได้ ไม่ได้อยู่ที่ขุนเขากลาง แต่อยู่ที่ขุนเขาใต้ คือเทพภูเขาที่เป็นสตรีท่านหนึ่ง
ขุนเขากลางของต้าหลีในทุกวันนี้ก็คือขุนเขากลางเก่าของราชวงศ์จูอิ๋ง องค์เทพขุนเขาก็เป็นองค์เดิม เรียกได้ว่าได้รับโชคหลังเคราะห์ร้าย เพราะขุนเขากลางของหนึ่งราชวงศ์กลับได้กลายเป็นขุนเขากลางของทวีปอย่างแจกันสมบัติทวีป
จอมยุทธพเนจรสำนักโม่ ผู้ฝึกกระบี่สวี่รั่ว ตอนนี้ยังเฝ้าพิทักษ์อยู่บนขุนเขา เป็นเพื่อนบ้านกับองค์เทพแห่งขุนเขากลางท่านนั้น
ส่วนหร่วนฉงนั้นทำหน้าที่จับตามองภูเขากานโจวซึ่งเป็นขุนเขาตะวันตกแห่งใหม่ เนื่องจากอยู่ห่างจากศาลลมหิมะไม่ไกลเท่าไร บวกกับภูเขากานโจวไม่เคยอยู่ในอันดับของห้าขุนเขาประจำราชวงศ์ใดๆ มาก่อน ดังนั้นการเดินทางไปเยือนครั้งนี้ของหร่วนฉงจึงผ่อนคลายที่สุด อาจารย์หลอมกระบี่อันดับหนึ่งแห่งแจกันสมบัติทวีปท่านนี้จึงถือโอกาสไปพบปะพูดคุยเรื่องในวันวานกับเหล่าผู้อาวุโสและเหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องในศาลลมหิมะ อันที่จริงนี่ก็คือคุณความชอบของการช่วยประคับประคองมังกรที่ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของต้าหลีตั้งใจมอบให้แก่สำนักกระบี่หลงเฉวียน
เมื่อเปรียบเทียบกับคลื่นใต้น้ำและปราณสังหารที่ซ่อนอยู่รอบทิศทางของฝ่ายสวี่รั่วแล้ว หร่วนฉงตัวเบาเพราะไร้ภาระงาน หันกลับมามองทางฝั่งของภูเขาอี้ซานขุนเขาตะวันออกแห่งใหม่ของต้าหลี ผู้ถวายงานลำดับต้นส่วนใหญ่ของต้าหลีล้วนเป็นเซียนดินอย่างโอสถทองและก่อกำเนิด ลำพังเพียงแค่ช่วงเวลาที่ต้าหลีจัดงานพิธีใหญ่แต่งตั้งห้าขุนเขาก็มีการเข่นฆ่าสังหารที่โหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุดเกิดขึ้น ผู้ฝึกตนของแคว้นต่างๆ พากันกรูมาจากสี่ด้านแปดทิศ พยายามที่จะบุกสังหารขึ้นไปบนภูเขา หมายสังหารทูตของต้าหลี สุดท้ายแม้แต่หนังสือแต่งตั้งของฮ่องเต้พระองค์ใหม่ที่ใช้ ‘โคลนทองเชือกเงิน ผนึกด้วยหยกลัญจกร’ ก็ยังเกือบจะถูกผู้ฝึกตนก่อกำเนิดที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตคนหนึ่งซัดจนแหลกเป็นผุยผง หลังจากโจมตีให้ผู้ฝึกตนเหล่านั้นถอยร่นไปได้แล้ว ผู้ถวายงานของต้าหลีเองก็มีทั้งที่บาดเจ็บและล้มตายกันไปเป็นจำนวนมาก
ภายหลังตอนที่รองเจ้ากรมฝ่ายขวาของกรมพิธีการต้าหลีออกไปลาดตระเวนแทนจักรพรรดิ ก็เกิดสถานการณ์ล้อมสังหารที่วางกับดักหลุมพรางไว้อย่างชัดเจน ยังคงมีผู้ฝึกตนที่แคว้นล่มสลายจำนวนมากพากันกรูเข้ามาในสถานการณ์ กระโจนเข้าสู่ความตายอย่างกล้าหาญ นี่เป็นเหตุให้ปราณวิญญาณในรัศมีพันลี้รอบภูเขาอี้ซานขุนเขาตะวันออกแห่งใหม่วุ่นวายอย่างถึงที่สุด ภายหลังก็มีการจลาจลจากผู้ฝึกตนที่กระจัดกระจายอีกบางส่วน ทว่าในที่สุดภูเขาอี้ซานก็สามารถข้ามผ่านอุปสรรคกลายมาเป็นขุนเขาตะวันออกแห่งใหม่ของต้าหลีได้สำเร็จ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เฝ้าพิทักษ์ขุนเขาแห่งนี้ก็คือเทพองค์เดิมของหนึ่งในห้าขุนเขาของต้าหลี
เรื่องที่ใหญ่ยิ่งกว่าการแต่งตั้งห้าขุนเขา ยังคงเป็นเรื่องการเลือกสถานที่ทางทิศใต้ของแจกันสมบัติทวีปเพื่อสร้างเมืองหลวงแห่งที่สอง ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มลงมือดำเนินการแล้ว
พื้นที่ศักดินาที่ซ่งจี๋ซินต้องไปประจำอยู่ก็คือนครมังกรเฒ่า รอให้เมืองหลวงแห่งที่สองสร้างเสร็จ ซ่งจี๋ซินที่ชื่อในทำเนียบของฝ่ายพลเรือนในพระองค์คือซ่งมู่ก็จะได้ปกครองเมืองหลวงแห่งที่สองอยู่ไกลๆ
หนึ่งในสถานที่ตั้งที่เป็นตัวเลือก ก็คือเมืองหลวงเก่าของราชวงศ์จูอิ๋ง ข้อดีก็คือไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองกำลังของแคว้นไปมากนัก แต่ข้อเสียที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คืออยู่ใกล้กับสำนักศึกษากวานหูมากเกินไป ส่วนที่เป็นข้อห้ามของทางราชสำนักซึ่งถูกเก็บไว้เป็นความลับ แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะมีคนบางคนไม่หวังให้อ๋องเจ้าเมืองคนใหม่อย่างซ่งจี๋ซินอาศัยการประสานรับกันระหว่างเมืองหลวงแห่งที่สองกับนครมังกรเฒ่ามาควบรวมแผ่นดินครึ่งหนึ่งของแจกันสมบัติทวีปไปครอง
แต่ว่าสุดท้ายแล้วจะเลือกที่ตั้งเป็นที่ใด ราชสำนักต้าหลียังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด
ในฐานะผู้ถวายงานอันดับต้นของต้าหลี หร่วนฉงสามารถให้ข้อเสนอแนะได้ และฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของสกุลซ่งต้าหลีก็ต้องยินดีรับฟังอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าหร่วนฉงเลือกจะเงียบเฉยก็เท่านั้น
หร่วนซิ่วมาปรากฎตัวอยู่ข้างกายหร่วนฉง
หร่วนฉงที่ครั้งนี้ออกจากภูเขาแล้วได้ไปเยือนศาลลมหิมะมารอบหนึ่งเอ่ยเสียงเบาว่า “เมื่อก่อนตอนที่พ่อยังเด็ก เหล่าผู้อาวุโสในศาลลมหิมะต่างก็รู้สึกว่าวิถีทางโลกไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ขอแค่ตั้งใจฝึกตนให้ดีก็พอ ดังนั้นเด็กรุ่นหลังอย่างพวกเราจึงมีความคิดที่ไม่ค่อยต่างไปจากพวกเขาสักเท่าไร ตอนนี้คนแก่ทุกคนต่างก็กำลังทอดถอนใจ ไม่อาจมองออกได้เลยว่าภายในระยะเวลาสั้นๆ อีกแค่ไม่กี่สิบปีให้หลัง แจกันสมบัติทวีปจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไรกันแน่ ซิ่วซิ่ว เจ้าว่านี่เป็นเรื่องดีหรือว่าเรื่องร้ายกันเล่า?”
หร่วนซิ่วคิดแล้วก็ตอบไม่ตรงคำถาม “สำนักกระบี่หลงเฉวียนขาดพื้นที่มงคลถ้ำสวรรค์ที่เป็นของตัวเองไปแห่งหนึ่ง”
สีหน้าของหร่วนฉงเปลี่ยนมาเป็นเคร่งเครียด ก่อนจะใช้วิชาอภินิหารของอริยะร่ายฟ้าดินขนาดเล็กมาสกัดกั้นโลกภายนอก “มีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรก หน้าผาหินแท่นสังหารมังกรของภูเขาหลงจี๋ในตอนนั้นได้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน โดยแบ่งให้กับสำนักกระบี่หลงเฉวียนของพวกเรา กับศาลลมหิมะ และภูเขาเจินอู่ แต่เจ้าอาจจะไม่รู้ว่า แท่นสังหารมังกรที่ศาลลมหิมะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลและขุดหา แท้จริงแล้วกลับแทบจะกลายเป็นเพียงเปลือกที่กลวงโบ๋แล้ว พ่อแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นมาโดยตลอด ดังนั้นครั้งนี้ที่ไปเยี่ยมเยียนบรรพจารย์ของศาลลมหิมะจึงได้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา บรรพจารย์บอกกับข้าแค่ว่าไม่ต้องไปสนใจ เท่ากับเป็นการยอมรับเรื่องที่แท่นสังหารมังกรหายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยปริยาย ดังนั้นตอนที่เจ้าไปฝึกตนอยู่ที่นั่นก็ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนี้เช่นกัน”
“เรื่องที่สอง ก็คือพื้นที่มงคลถ้ำสวรรค์ที่เจ้าพูดถึง อันที่จริงสามารถไปทำการค้ากับทางร้านตระกูลหยางได้ เพราะมีแบบสำเร็จรูปอยู่แล้ว แต่คาดว่าราคาคงสูงจนเกินกว่าจะยอมรับได้ ทว่าอันที่จริงเรื่องราคาก็ยังพูดได้ง่าย อย่างมากก็แค่ต้องติดหนี้ไว้เท่านั้น”
พูดมาถึงตรงนี้ หร่วนฉงก็ชำเลืองตามองบุตรสาว พูดอย่างเป็นกังวลว่า “พ่อแค่ไม่อยากให้เกิดปัญหาแทรกซ้อน”
จะไปว่าแล้วก็ยังคงเป็นเพราะไม่อยากให้หร่วนซิ่วเข้าสู่วังวนของสถานการณ์นี้เร็วเกินไป
ทุกอย่างที่หร่วนฉงทำลงไป ไม่ว่าจะเป็นออกจากศาลลมหิมะ ใช้การที่ตบะถูกลดทอนมาเป็นค่าตอบแทนสำหรับการเข้ารับหน้าที่อริยะผู้พิทักษ์ถ้ำสวรรค์หลีจู จากนั้นก็สร้างภูเขาของตัวเอง ถูกสกุลซ่งต้าหลีเชื้อเชิญให้ไปรับตำแหน่งผู้ถวายงาน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเพื่อบุตรสาวทั้งสิ้น
หร่วนซิ่วกลับเอ่ยว่า “ท่านพ่อ ไม่เป็นไร นิสัยของหยางเหล่าโถว ท่านพ่อเข้าใจด้วยหรือ?”
หร่วนฉงยิ้มเอ่ย “พ่อไม่ค่อยเข้าใจจริงๆ นั่นแหละ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!