กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 555

ชายหญิงสองฝ่าย ในอดีตเคยพบเจอกันในบ้านเกิดของคนคนหนึ่งและต่างบ้านของคนคนหนึ่ง

ตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนี้ เพียงแต่ว่าสองฝ่ายสลับกัน เพราะถึงอย่างไรอุตรกุรุทวีปก็ถือว่าเป็นบ้านเกิดครึ่งหนึ่งของเจ้าสำนักผู้เปิดขุนเขาของสำนักชิงเหลียงอย่างเฮ้อเสี่ยวเหลียงแล้ว

คนธรรมดาล่างภูเขา ถูกรับกลับเข้าสู่วงศ์ตระกูลคือเรื่องใหญ่อันดับหนึ่ง ผู้ฝึกตนบนภูเขาที่จิตใจสงบสุขไร้ความปรารถนาก็ยิ่งให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

เฮ้อเสี่ยวเหลียงหันหน้าไปพูดกับลูกศิษย์ผู้สืบทอดของผู้ถวายงานในสำนักที่อยู่ด้านหลัง “หลี่โจว เจ้ากลับภูเขาไปก่อน”

แม้ว่าหลี่โจวจะรู้สึกห่อเหี่ยวเล็กน้อย แต่ก็ยังเก็บความคิดที่วุ่นวายกลับมาได้ทันที น้อมรับคำสั่งแล้วจากไป

เฮ้อเสี่ยวเหลียงยิ้มกล่าว “เดินเล่นกันหน่อยดีไหม?”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ควรจะพูดคุยกันให้รู้เรื่องจริงๆ นั่นแหละ ชักช้าอืดอาดไม่ควรเป็นพฤติกรรมที่เจ้าสำนักคนหนึ่งสมควรมี”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงหมุนตัวเดินเข้าไปในตรอกเล็ก เว้นทางตรงกลางเอาไว้ นางเดินติดผนังแถบหนึ่งคล้ายตั้งใจคล้ายไม่เจตนา เฉินผิงอันจึงเดินติดผนังอีกแถบหนึ่ง

เฮ้อเสี่ยวเหลียงเอ่ยถาม “ในหุบเขาผีร้าย เจ้าเดาได้อย่างไรว่าข้ากับเกาเฉิงแอบวางแผนเล่นงานเจ้าอย่างลับๆ?”

เฉินผิงอันกล่าว “ล้วนเป็นความบังเอิญที่สัมผัสได้อย่างเลือนราง จึงมองขอบเขตมรรคกถาของเจ้าลัทธิเฮ้อให้สูงสักหน่อย มองว่ามีกลอุบายมากสักหน่อย จากนั้นก็รีบหนีไปให้ไกล”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงเอ่ย “ข้าฝึกตนอยู่บนภูเขาบ้านตัวเองไม่เคยมีปัญหาใดๆ แต่ขอบเขตกลับเกือบจะต้องถดถอย เจ้าว่าเจ้าสำนักไม่กี่คนของใต้หล้าไพศาลที่เพิ่งจะเลื่อนสู่ขอบเขตหยกดิบควรมีจุดจบเช่นนี้หรือ?”

เฉินผิงอันนึกถึงประสบการณ์ตอนที่ซื้อส้มก่อนหน้านี้ จึงยิ้มเอ่ยว่า “หากเอ่ยขอโทษแล้วนับแต่นี้ไปสามารถเป็นดั่งน้ำบ่อที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับน้ำคลองกับเจ้าสำนักเฮ้อได้ ถ้าอย่างนั้นข้าก็ผิดไปแล้ว”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ นางเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “หากเป็นเมื่อก่อนเจ้าน่าจะพูดจาแบบนี้ไม่ได้”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “หากเป็นเมื่อก่อน ขอแค่มีชีวิตอยู่รอดดีๆ ได้ จะให้โขกหัวขอร้องคนอื่นก็ยังได้”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงเอ่ย “ยกตัวอย่างเช่นว่า หากเป็นไปได้ เจ้าก็จะขอร้องวานรย้ายภูเขาให้ไม่ทำร้ายหลิวเสี้ยนหยางจนบาดเจ็บหนักขนาดนั้น?”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “แน่นอน หากตอนนั้นเดรัจฉานเฒ่าตัวนั้นรู้สึกว่าโขกหัวยังไม่มีความจริงใจมากพอ ข้าก็จะพยายามโขกหัวจนหัวแตกเลือดไหลให้เดรัจฉานเฒ่าตัวนั้นเห็น”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงเอ่ยถาม “หลังจากโขกหัวล่ะ?”

เฉินผิงอันตอบอย่างไม่ปิดบัง “จะยังทำอะไรได้อีก? ก็มีชีวิตธรรมดาที่จืดชืดต่อไปน่ะสิ หากมีหมื่นหนึ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจริงๆ ให้ข้าได้มีโอกาสคิดบัญชีเก่า นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สุราบนภูเขา แต่ไหนแต่ไรมายิ่งเก็บไว้ก็มีแต่จะยิ่งหอม”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงถามอีก “แล้วตอนนี้ล่ะ?”

เฉินผิงอันเดินพลางเดาะส้มลูกที่อยู่ในมือเบาๆ ไปด้วย เขาเอ่ยเนิบช้าว่า “ความสามารถไม่พอ ดื่มเหล้าได้พอเป็นพิธี จะยังทำอย่างไรได้อีก? โทษฟ้าโทษคน ร้องไห้คร่ำครวญ โหวกเหวกว่าสวรรค์ไม่มีตา แล้วสวรรค์ก็จะหันมาสนใจข้าจริงๆ งั้นหรือ?”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงกำลังจะถามอีกครั้ง

หากในอดีตเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ควรจะทำอย่างไร?

ลู่เฉินผู้เป็นอาจารย์เคยพานางเดินท่องไปในแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายหนึ่งที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสายไหนๆ ดังนั้นนางจึงเคยได้พบเจอเฉินผิงอันหลากหลายรูปแบบในอนาคตมาก่อน

มีเพียงเฉินผิงอันที่อยู่ตรงหน้านี้เท่านั้นที่ไม่เคยอยู่ในบรรดา ‘เฉินผิงอันมากมาย’ เหล่านั้น

“ไม่มีความจำเป็นต้องพูดคุยเรื่องในอดีต”

เฉินผิงอันกุมส้มเอาไว้ หันหน้ามายิ้มกล่าวว่า “เจ้าสำนักเฮ้อ พูดตรงๆ เลยดีกว่า วันหน้าพวกเราคนหนึ่งเจ้าเดินบนเส้นทางกว้างใหญ่ของเจ้า ข้าเดินบนทางสะพานไม้ของข้า ได้หรือไม่?”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงชี้ไปบนม่านฟ้า ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ไม่สู้เจ้าไปถามอาจารย์ข้าดู? หากอาจารย์ออกคำสั่ง ข้าที่เป็นลูกศิษย์คนสุดท้าย ย่อมไม่กล้าไม่ทำตาม”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ควรต้องมีความสามารถมากกว่านี้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าก่อนจะทำเช่นนั้น ข้าจะต้องดื่มเหล้าไปกี่มากน้อย”

ในเมื่ออีกฝ่ายไม่มีความจริงใจ ถ้าอย่างนั้นก็คุยกันได้ยากแล้วจริงๆ

เฮ้อเสี่ยวเหลียงไม่สนเลยสักนิดว่าเฉินผิงอันคิดอะไรอยู่ สิ่งเดียวที่นางสนใจก็คือวันหน้าเฉินผิงอันจะก้าวเดินอย่างไร จะกลายเป็นปัญหาใหญ่เทียมฟ้าบนมหามรรคาของตนหรือไม่

หวนนึกถึงอดีตที่ห่างไกล เด็กหนุ่มสวมรองเท้าแตะสะพายหีบไม้ไผ่ที่ด้านในบรรจุหินดีงูไว้เพียงอย่างเดียว เจอกันครั้งแรกที่ริมน้ำ ไม่เพียงแต่สถานะที่แตกต่าง เขายังต้องแหงนหน้ามองกลุ่มของพวกนางที่อยู่บนหินผาใหญ่ และจิตใจของเด็กหนุ่มในช่วงเวลานั้นก็ยังอยู่ท่ามกลางดินโคลนบนเส้นทาง

คิดไม่ถึงว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขอบเขตยังคงแตกต่าง ทว่าสภาพจิตใจกลับแข็งแกร่งและถูกยกระดับขึ้นสูงกว่าเดิมไม่น้อย

เฮ้อเสี่ยวเหลียงเอ่ยเสียงเบาว่า “เฉินผิงอัน เจ้ารู้หรือไม่ว่านิสัยเช่นนี้ ทุกครั้งที่เจ้าเดินไปได้สูงหน่อย ยิ่งระมัดระวังรอบคอบ เดินทุกก้าวได้อย่างมั่นคงเท่าไร ขอแค่ปล่อยให้ศัตรูมองเบาะแสออก จิตที่คิดจะสังหารเจ้ามีแต่จะยิ่งแน่วแน่มากเท่านั้น”

“ทำไม นี่คือความผิดของข้าอีกแล้วหรือ?”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องพูดจาตามมโนธรรมในใจกับเจ้าสำนักเฮ้อสักคำแล้ว เจ้าคิดว่าหากข้าไม่ค่อยๆ เดินขึ้นสูงก็จะไม่มีใครยื่นนิ้วมาบดขยี้ข้าให้ตายแล้วอย่างนั้นหรือ? ข้าว่าคงมีไม่น้อย หากไม่รู้สึกว่าได้ไม่คุ้มเสีย ก็คงเป็นพวกที่เอาเวลาฝึกตนไปฝึกบนร่างสุนัขหมดแล้ว ปรารถนาแต่ไม่ได้มาครอง พอคิดถึงเรื่องนี้ อารมณ์ดีๆ ของข้าหลังจากได้เจอกับเจ้าสำนักเฮ้อในต่างบ้านต่างเมือง ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงพูดเหมือนไม่ใส่ใจ “เพราะเจ้าคิดว่าเป็นพวกเขาที่ทำผิดก่อน ถ้าอย่างนั้นเจ้าเคยคิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งหรือไม่ เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เป็นเจ้าที่คือความผิด?”

สีหน้าของเฉินผิงอันยังคงราบเรียบ “คำพูดยุแยงในหมู่บ้านร้านตลาดที่ชวนให้ไก่กระโดดหมาบินประเภทนี้ อันที่จริงไม่ต้องรบกวนให้เจ้าสำนักเฮ้อเป็นคนพูด ผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ บริเวณใกล้เคียงกับตรอกหนีผิงบ้านเกิดของข้า ไม่เพียงแค่คนวัยเดียวกันที่พูดเล่นพล่อยๆ เท่านั้น ยังมีตะพาบบางตัวที่จงใจพร่ำพูดเรื่องพวกนี้มาทำให้คนสะอิดสะเอียน เพื่อนบ้านใกล้เคียงอายุมากหลายคน คนดีๆ หลายคนที่จิตใจดีมาก บางครั้งสายตาที่พวกเขามองข้า อันที่จริงก็กำลังพูดจาในทำนองเดียวกันนี้”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงเงียบงันไปนาน

สุดปลายถนนของตรอกเล็ก

เฮ้อเสี่ยวเหลียงหยุดเดิน “ที่แท้เจ้าก็รู้ความจริงมาตั้งนานแล้ว”

เฉินผิงอันกล่าว “เจ้าสำนักเฮ้อเจ้ากำลังพูดถึงอะไร ข้าไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงยิ้มกล่าว “ในใจเข้าใจก็พอแล้ว”

เฉินผิงอันถามกลับ “พอแล้ว?”

เฮ้อเสี่ยวเหลียงยิ้มบางๆ “ไม่ค่อยพอสักเท่าไร”

ราวกับว่าอยู่ดีๆ ก็ใคร่ครวญจนเข้าใจปมในใจบางอย่างได้อย่างน่าประหลาดใจ เฮ้อเสี่ยวเหลียงหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเฉินผิงอัน “ข้าจะรอเจ้าอยู่บนยอดเขาของใต้หล้าไพศาล นอกจากนี้ เจ้าและข้าต่างคนก็ต่างเดินกันไป”

มาพบเจอกันอีกครั้งที่จุดลำน้ำใหญ่ไหลลงสู่มหาสมุทรคราวนี้ เป็นทั้งความบังเอิญ แล้วก็เป็นทั้งความจำเป็น

เรื่องใดก็ตามที่เฮ้อเสี่ยวเหลียงอยากจะทำให้สำเร็จ ส่วนใหญ่ก็มักจะสมใจปรารถนาเสมอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!