กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 562

เจียวหลงตัวนี้คือคาถาน้ำของผู้ฝึกตนที่สมชื่ออย่างแท้จริง บนร่างของเจียวหลงมียันต์รอยหิมะปูเป็นพื้นฐาน จากนั้นก็ใช้ยันต์มหานทีไหลสะพัดร้อยกว่าแผ่นมาทำเป็นโครงกระดูกมังกรที่เชื่อมต่อติดกันอย่างแนบแน่น ดูเหมือนว่าจะยังใช้แสงศักดิ์สิทธิ์จากแก่นของ ‘ยันต์’ ที่ประหลาดแต่กลับยิ่งใหญ่นี้อีกนิดหน่อยด้วย นี่ก็คือคาถาหลอมวัตถุชั้นสูงสองบทที่ฮว่อหลงเจินเหรินต้องการให้เฉินผิงอันศึกษาทบทวนอย่างต่อเนื่อง วิชาหลอมสามขุนเขา บวกกับคาถาเซียนขอฝนบนป้ายศิลาของตำหนักปี้โหยวล้วนไม่น่าจะนำมาใช้เป็นแค่วิธีในการหลอมวัตถุได้เท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุให้กระดูกสันหลังของเจียวหลงในเวลานี้เหมือนเชือกสองเส้นที่รัดพันเข้าด้วยกัน ยิ่งนานก็ยิ่งแข็งแกร่งทนทาน หนึ่งคือวิชาหลอมขุนเขา อีกหนึ่งคือวิชาหลอมสายน้ำ บวกกับปณิธานหมัดของกระบวนท่าปรับแก้มังกรใหญ่ที่ช่วยเสริมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เจียวหลงที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของคนหนุ่มตัวนี้จึงคล้ายจะมีภาพปรากฎการณ์ตระกูลเซียนที่สะสมดินกลายเป็นภูเขา ลมและฝนถือกำเนิดขึ้นที่นี่ได้อย่างเลือนรางแล้ว

เรื่องราวทั้งหลายบนโลกล้วนควรคิด ควรไตร่ตรองให้มาก

ซึ่งสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นวัตถุใหญ่โตโอฬารที่ถูกเฉินผิงอันสร้างขึ้นมานี้

เฉินผิงอันเคยชินที่จะถือมีดด้วยมือขวา

แต่แท้จริงแล้วเขากลับเป็นคนถนัดซ้าย

เจียวหลงใต้ฝ่าเท้าพุ่งเข้าชนหลี่เอ้อร์ที่อยู่ตรงกระจกน้ำ ทุกที่ที่พุ่งผ่านล้วนมีลูกคลื่นยักษ์โถมตัวรับ

หลี่เอ้อร์กระตุกมุมปาก ใช้ช่วงท้ายของไม้พายแตะพื้นเบาๆ “ท่าดี เดี๋ยวทีก็จะเหลว”

หลี่เอ้อร์กระโดดขึ้นเบาๆ เหวี่ยงไม้พายกระแทกลงพื้นอย่างแรง ต่อให้เจียวหลงจะยังอยู่ห่างจากกระจกน้ำโดยมีคลื่นยักษ์กั้นขวางไว้หลายสิบจั้ง แต่ก็ยังถูกพายุลมกรดฟันให้ขาดออกเป็นสองท่อน ได้แต่อาศัยแรงเฉื่อยพุ่งมาด้านหน้าต่ออีกครั้ง

หลี่เอ้อร์ปาดวาดไม้พายออกไปในแนวขวาง เฉินผิงอันที่ปรากฏตัวอยู่ฝั่งซ้ายมือของหลี่เอ้อร์พลันก้มหัวลง ร่างคล้ายจะร่วงดิ่งลงพื้น แต่กลับกลายเป็นว่าเขาพลันพลิกตัวหลบไม้พายที่หอบเอาพลังอำนาจดุจสายฟ้าฟาดผ่านั้นมาได้ เฉินผิงอันหันหน้าเข้าหาไม้พายที่พุ่งวูบหายไป ชายแขนเสื้อใหญ่พลิกสะบัด กระบี่บินสามเล่มแยกกันพุ่งออกมาจากช่องโพรงลมปราณสามแห่ง ร่างของเขาเหยียบลงบนพื้นอย่างฉุกละหุก มือขวาที่ถือมีดสั้นจ้วงแทงใส่หัวใจของหลี่เอ้อร์ และในชายแขนเสื้อข้างซ้ายก็มีมีดสั้นเล่มที่สองกลิ้งออกมาอย่างเงียบเชียบ

หลี่เอ้อร์ไม่หันไปมองกระบี่บินทั้งสามเล่มแม้แต่น้อย เขายกเท้าถีบเข้าที่หน้าอกเฉินผิงอัน ฝ่ายหลังถอยกรูดออกไปสิบกว่าจั้ง เข่าสองข้างงอลงเล็กน้อย บิดปลายเท้าเพิ่มพละกำลัง มือทั้งสองข้างถึงยังกุมจับมีดสั้นสองเล่มเอาไว้ได้

ไหล่สองข้างสะบัดแล้วพลันหยุดยืนนิ่ง ตรงหน้าอกรับพละกำลังที่เหลือจากแรงกระแทกของพายุหมัดหลี่เอ้อร์ไว้อย่างจัง

ถึงอย่างไรก็เป็นคนที่สวมชุดคลุมอาคมถึงสี่ชิ้น

หลี่เอ้อร์กล่าว “บอกกับเจ้าแต่แรกแล้วว่า มีแต่พวกนักต่อสู้ที่หมัดสวยลูกถีบงดงามเท่านั้นที่คิดจะปล่อยหมัดปล่อยเท้ามั่วซั่วต่อยให้อาจารย์ผู้เฒ่าตาย แต่อาจารย์ผู้เฒ่ากลับไม่แยแส ก็เป็นอย่างเจ้าในตอนนี้นี่แหละ”

หลี่เอ้อร์โยนไม้พายทิ้งง่ายๆ ไม้พายร่วงจมลงไปในผิวกระจกหนึ่งฉื่อกว่า

เจียวหลงที่น่าสนใจตัวนั้นเพิ่งจะกลับมารวมตัวกันบนผิวกระจกใหม่อีกครั้ง แต่พอถูกไม้พายทิ่มใส่ก็แหลกสลายกลายเป็นสะเก็ดน้ำ ยันต์หลายแผ่นที่เดิมทีก็เกิดรอยปริร้าวอยู่แล้ว เวลานี้จึงแหลกสลายกลายเป็นผุยผงอย่างสิ้นเชิง

เฉินผิงอันเริ่มขยับเท้า

หลี่เอ้อร์เปลี่ยนทิศทางการโคจรเล็กน้อย ยังคงมาปรากฏตัวด้านหน้าเฉินผิงอันอย่างพอดีอยู่เหมือนเดิม เขาตีเข่ากระแทกให้ฝ่ายหลังตัวลอยขึ้นกลางอากาศ แล้วหลี่เอ้อร์ก็เดินหน้ามาหยุดอยู่ด้านข้างเฉินผิงอันอย่างเนิบช้า ปล่อยหนึ่งหมัดออกไป ทำเอาเฉินผิงอันที่ปราณแท้จริงหยุดชะงัก ชุดคลุมอาคมพร้อมใจกันส่งเสียงฉีกขาดลอยไปกระแทกลงกลางทะเลสาบที่ห่างไปหลายสิบจั้ง ประหนึ่งหินก้อนหนึ่งที่ถูกขว้างลงบนผิวน้ำแล้วกระเด้งดีดตัวไถลออกไปอีกเจ็ดแปดจั้ง

หลี่เอ้อร์เริ่มชักเท้าวิ่งตะบึง ทุกฝีเท้าล้วนเหยียบให้ปราณวิญญาณน้ำทะเลสาบที่อยู่รอบด้านแตกสลาย ตรงดิ่งเข้าหาจุดที่ร่างเฉินผิงอันกระแทกลงไป

ร่างของเขาพลันขยับไปในแนวขวาง เอาหัวไหล่กระแทกหน้าอกเฉินผิงอันที่ใช้ยันต์ฟางชุ่นหนึ่งแผ่น

เฉินผิงอันรู้สึกเหมือนถูกค้อนเหล็กทุบลงบนหัวใจ จิตหยินออกจากช่องโพรง ร่ายท่าหมัดแปลกประหลาดแต่เป็นธรรมชาติอย่างเชื่องช้า ทุกความเคลื่อนไหวเชื่อมโยงต่อติดกันจนแทบจะกลายเป็นวงกลม ทำให้คนมองตาลาย และมันก็ช่วยลดทอนพายุหมัดส่วนใหญ่ไปให้เฉินผิงอันได้ รอจนเฉินผิงอันหยุดยืนนิ่งแล้ว จิตหยินก็กลับคืนสู่ร่าง ทุกอย่างนี้เสร็จสิ้นในรวดเดียว

หลี่เอ้อร์ไม่ได้ไล่มาโจมตีต่อ เขาพยักหน้า แบบนี้สิถึงจะถูก

ไม่อย่างนั้นคนที่ทั้งฝึกวรยุทธและฝึกบำเพ็ญตน แต่กลับยอมให้การฝึกตนมาขัดขวางการเดินขึ้นสู่ที่สูงของการฝึกยุทธ สองอย่างขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลา ก็ย่อมทำให้เกิดความผิดพลาดที่เป็นการทำร้ายตัวเอง

การป้อนหมัดที่หลี่เอ้อร์จะในทำครั้งนี้ ก็คือช่วยให้เฉินผิงอันตามหาจุดสมดุลที่ลี้ลับอย่างถึงที่สุดนั้นให้เจอ ผู้ฝึกยุทธจะถูกท่าหมัดปณิธานหมัดชักนำไปไม่ได้ และในเมื่อเป็นผู้ฝึกลมปราณแล้ว ส่วนลึกในจิตใจก็ยิ่งไม่ควรรู้สึกว่าปณิธานหมัดของตนไม่บริสุทธิ์เพราะสาเหตุนี้ ผู้ฝึกยุทธอาศัยแค่สองหมัดก็เพียงพอ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องสนใจอะไรเลยสักอย่าง ปรมาจารย์ที่แท้จริงควรมีภาพปรากฎการณ์ยิ่งใหญ่ที่ว่าหมื่นอาคมที่อยู่ติดกาย ล้วนออกมาจากมือของข้า

ร่างกายมนุษย์คือฟ้าดินขนาดเล็ก ข้าก็คือเทพเทวาบนสวรรค์

จะมีอะไรที่ควบคุมไม่ได้ มีอะไรที่บงการไม่ได้?

ในเมื่อเฉินผิงอันเดินก้าวแรกไปบนทิศทางที่ไร้ความผิดพลาดแล้ว

หลี่เอ้อร์ก็ออกหมัดได้อย่างสบายใจแล้ว

หมัดไม่หนัก แต่กลับเร็วยิ่งกว่าเดิม

ไม่ให้โอกาสเจ้าเฉินผิงอันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย

พวกเราคือผู้ฝึกยุทธ พวกเราคือผู้ฝึกยุทธ ประลองหมัดกับข้าหลี่เอ้อร์เพื่อขัดเกลามหามรรคา ถ้าอย่างนั้นเด็กอย่างเจ้าก็ควรจะเอาสิ่งที่ไม่ว่าผู้ฝึกยุทธคนใดบนโลกก็ไม่มีออกมาเสียบ้าง!

มี

ก็กินหมัดให้มากหน่อย

ไม่มี

ก็นอนรักษาบาดแผลไปเถอะ!

ทางฝั่งของท่าเรือ หลี่หลิ่วเดินอยู่บนเส้นทางน้ำ มองร่องรอยการเข่นฆ่าพวกนั้น ยิ่งความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นบนกระจกน้ำก็ยิ่งไม่ต้องไปมองดู เพราะแค่นี้นางก็รู้ชัดเจนดีแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!