กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 572

เรือข้ามทวีปของตระกูลซุนลำนี้มีผู้ดูแลอยู่สองท่าน หนึ่งแจ้งหนึ่งลับ คนที่อยู่ในที่ลับนั้นคือผู้ฝึกตนถวายงานที่ออกมาจากศาลบรรพจารย์สกุลซุนเงียบๆ เฉินผิงอันไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเขา

เพียงแต่ว่าเฉินผิงอันไม่เคยออกมาจากเรือนหลังเล็ก ผู้ถวายงานท่านนี้ไม่อยากรบกวนการฝึกตนของอีกฝ่ายจึงไม่เคยปรากฏตัว ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องได้สงสัยจริงๆ แล้วว่า เหตุใดเด็กหนุ่มที่ปีนั้นเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธขอบเขตสาม ถึงได้สามารถฝ่าทะลุขอบเขตบนวิถีแห่งผู้ฝึกยุทธได้เร็วขนาดนี้ คงไม่ได้เป็นอย่างในนิยายต่อสู้ตามหมู่บ้านร้านตลาด หรืออย่างยุทธภพที่พวกปัญญาชนตกอับชอบคาดเดากันส่งเดชที่บอกว่ากินยาวิเศษเพิ่มกำลังภายในเพิ่มอายุให้ยืนยาวร้อยปี หรือถูกยอดฝีมือที่เก็บตัวอย่างสันโดษมอบพลังชีวิตอะไรให้หรอกนะ

กระทั่งเต่าทะเลภูเขาขยับเข้าใกล้ภูเขาห้อยหัว ผู้ถวายงานท่านนี้ถึงได้เห็นเฉินผิงอันออกมาจากเรือน มายืนอยู่บนหอชมทัศนียภาพที่สูงที่สุดบนกระดองของเต่าทะเลภูเขา แหงนหน้ามองตราประทับอักษรภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในใต้หล้า

เพียงแต่ว่าเวลานี้ผู้ถวายงานทั้งสองท่านของเรือข้ามฟากที่อยู่ในที่ลับและที่แจ้งต่างก็ต้องยุ่งวุ่นวาย จึงล้มเลิกความคิดที่จะปรากฏตัวไปพูดคุยกับเฉินผิงอัน

เมื่อการเข่นฆ่าที่กำแพงเมืองปราณกระบี่เริ่มดุเดือดรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การค้าที่เรือข้ามฟากของเก้าทวีปใหญ่ที่ข้ามทวีปมาทำการค้ายังภูเขาห้อยหัวจึงยิ่งขยายใหญ่มากขึ้น ทว่ากำไรกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ขอแค่มีใจก็จะสังเกตเห็นว่าเรือข้ามทวีปของทักษินาตยทวีปและฝูเหยาทวีปแทบจะไม่บรรจุนักท่องเที่ยวแล้ว ทั้งยังจงใจจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ต่อให้จะได้เงินน้อยกว่าเดิม จำต้องเพิ่มค่าความเสียหายในการที่ให้เรือข้ามทวีปลำใหญ่เดินทางไกล แต่ก็ยังต้องคอยเดินทางไปกลับอยู่ถี่ๆ ขนย้ายทรัพยากรจำนวนมากกว่าเดิมจากภูเขาห้อยหัวไปยังกำแพงเมืองปราณกระบี่ เห็นได้ชัดว่าสำนักศึกษาของลัทธิขงจื๊อที่เฝ้าพิทักษ์สองทวีปนี้เริ่มสอดมือเข้าแทรกเรื่องนี้อย่างลับๆ แล้ว

มีเพียงใบถงทวีปที่ยังคงเป็นเหมือนในอดีต นี่ก็เกี่ยวกับข้อที่ว่าเดิมทีใบถงทวีปก็มีเรือข้ามทวีปอยู่ไม่มากด้วย ใบถงทวีปคือทวีปที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่แต่กลับไม่ชอบคบค้าสมาคมกับโลกภายนอกมากที่สุดในบรรดาเก้าทวีปใหญ่ ผู้ฝึกตนที่ไปฝึกประสบการณ์ที่ใบถงทวีป กับผู้ฝึกลมปราณในท้องถิ่นของใบถงทวีปที่เดินทางไกลไปเยือนทวีปอื่น สัดส่วนของทั้งสองฝ่ายนี้ไม่เท่าเทียมกัน ดังนั้นภาพจำที่ผู้ฝึกตนของใบถงทวีปมอบให้แก่ผู้คนจึงเป็นพวกที่ไม่ชอบย้ายถิ่นฐาน

หลักการเหตุผลนั้นเรียบง่ายมาก หนึ่งเพราะใบถงทวีปที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มีแผ่นดินกว้างขวางทรัพยากรมหาศาล มากพอสำหรับประชากรของตัวเองอย่างไม่มีปัญหา ข้อสองก็เพราะเหนือใต้สองทิศมีสำนักใบถงและสำนักกุยหยกเฝ้าพิทักษ์หัวหางกันคนละด้าน อีกทั้งจำนวนภูเขาตระกูลเซียนก็ค่อนข้างน้อย แต่กลับมีขนาดใหญ่ หลายพันปีที่ผ่านมานี้ วิถีทางโลกของทวีปนี้สงบสุขอย่างมาก แต่หายนะร้ายแรงที่ลากเอาสำนักฝูจีและภูเขาไท่ผิงสองสำนักใหญ่ให้ติดร่างแหไปด้วยเมื่อหลายปีก่อนนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ฝึกตนของใบถงทวีปรับมือไม่ทัน ยังเป็นเรื่องตลกชวนขบขันที่ไม่เล็กสำหรับใต้หล้าไพศาล ยังดีที่ตอนนี้กลับคืนมาสงบสุขอีกครั้งแล้ว กองกำลังตระกูลเซียนหลายแห่งต่างก็พักฟื้นรักษาตัว

เฉินผิงอันยืนอยู่ข้างราวระเบียงของหอชมทัศนียภาพ ผู้ฝึกตนรอบกาย ส่วนใหญ่เป็นคนของแจกันสมบัติทวีป แต่ก็มีผู้ฝึกตนของทวีปอื่นที่เดินทางมาเที่ยวแจกันสมบัติทวีปอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน ในอดีตนี่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยาก

เมื่อสถานการณ์ของแจกันสมบัติทวีปแปรเปลี่ยน วีรกรรมเพียงอย่างเดียวก็พาให้ราชวงศ์ต้าหลีเลื่อนขั้นเป็นหนึ่งในสิบราชวงศ์ใหญ่ของใต้หล้าไพศาล ผู้ฝึกตนของทวีปอื่นที่พกพาเอาความสงสัยใคร่รู้มาเยือนแจกันสมบัติทวีปจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้แจกันสมบัติทวีปเป็นเพียงพื้นที่คับแคบอันห่างไกล ทำให้คนเกิดความสนใจไม่ได้เลยจริงๆ หากจะไปก็จะไปที่อุตรกุรุทวีปที่มีผู้ฝึกกระบี่มากมายดุจก้อนเมฆ หรือไม่ก็ตรงไปที่ใบถงทวีปเลย

จากเหนือไปใต้จะต้องผ่านเมืองหลวงต้าหลี สำนักโองการเทพ สำนักศึกษากวานหู นครมังกรเฒ่าตามลำดับ โดยทั่วไปแล้วนี่ก็คือเส้นทางการท่องเที่ยวของผู้ฝึกตนทวีปอื่น ส่วนสถานที่อื่นๆ ที่มากกว่านี้ ผู้คนกลับไม่ค่อยลงจากเรือไปเยี่ยมชม

บางทีวันหน้าอาจจะเพิ่มสำนักเบื้องล่างของสำนักกุยหยกแห่งใบถงทวีปอย่างสำนักเจินจิ้งแห่งทะเลสาบซูเจี่ยนของเจียงซ่างเจินเข้าไปด้วย

เพราะถึงอย่างไรชื่อเสียงของเจียงซ่างเจินก็ไม่น้อยเลยจริงๆ ผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่สามารถสร้างคลื่นลมมรสุมอยู่ในอุตรกุรุทวีป แต่กลับยังกระโดดโลดเต้นมีชีวิตอยู่ได้ พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก

สำหรับใต้หล้าไพศาลแล้ว อุตรกุรุทวีปคือสถานที่ที่อันตราย อีกทั้งไม่เป็นมิตรอย่างถึงที่สุด ปราณสังหารเข้มข้นเกินไป คนตายที่หากอยู่ทวีปอื่นไม่มีทางตาย มีเยอะมาก

หลังจากที่เฉินผิงอันได้เดินทางผ่านอุตรกุรุทวีปจริงๆ เขากลับรู้สึกว่านี่คือสถานที่ที่มีกลิ่นอายความเป็นยุทธภพมากกว่ากลิ่นอายของเทพเซียน ในอนาคตสามารถไปเยือนบ่อยๆ ได้

เว่ยจิ้นเซียนกระบี่แห่งศาลลมหิมะ ตอนนี้ก็อยู่ที่กำแพงเมืองปราณกระบี่

ลี่ไฉ่เซียนกระบี่หญิงแห่งทะเลสาบฝูผิง หลังจากไปถามกระบี่ที่สำนักกระบี่ไท่ฮุยแล้วก็น่าจะเดินทางไปที่ภูเขาห้อยหัวในทันที

น่าเสียดายที่ตอนนี้เฉาสือไม่ได้อยู่บนกำแพงเมืองแล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากศึกใหญ่สองครั้งก่อนหน้านี้ผ่านพ้นไป กระท่อมหลังเล็กที่เฉาสือทิ้งไว้ที่นั่น กับกระท่อมของผู้เฒ่าเซียนกระบี่ใหญ่เฉินชิงตูจะยังอยู่หรือไม่

ผู้ฝึกตนของทวีปอื่นจำนวนมากที่อยู่ใกล้กับหอชมทัศนียภาพ ส่วนใหญ่พูดคุยกันด้วยภาษาทางการของทวีปแดนเทพแผ่นดินกลาง ในถ้อยคำเหล่านั้นเต็มไปด้วยคำวิจารณ์และข้อเสนอชี้แนะ ยังคงไม่มีความเคารพให้แก่บนภูเขาและล่างภูเขาของแจกันสมบัติทวีปสักเท่าไร ยามที่พูดถึงกองทัพม้าเหล็กต้าหลีที่บุกไปที่ไหนที่นั่นก็พังราบเป็นหน้ากลองก็ไม่มีถ้อยคำไพเราะชวนฟังใดๆ เพียงแค่เอ่ยว่าพอใช้ได้ อยู่ในแผ่นดินของแจกันสมบัติทวีปเองถือว่าไม่เลว แต่หากเอาไปไว้ที่ทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางกลับถูกกำหนดมาแล้วว่าจะไม่มีทางราบรื่นได้เช่นนี้

นี่ไม่ได้เป็นเพราะว่าในสายตาของคนต่างถิ่นเหล่านี้ไม่เห็นหัวใครไปเสียทั้งหมด เพราะชุยตงซานเองก็เคยบอกว่า แจกันสมบัติทวีปขาดผู้ฝึกตนขอบเขตบินทะยาน นี่ก็คือความลำบากยุ่งยากใหญ่เทียมฟ้า

หลายสิบปีให้หลัง เมื่อสถานการณ์ใหญ่ดำเนินมาถึง มีเพียงตะพาบเฒ่าที่แอบเลื่อนเป็นขอบเขตบินทะยานคนเดียวย่อมไม่มากพอ จะทำอย่างไร ยืม! ยังดีที่ไม่ต้องวิ่งโร่ร้องทุกข์ไปทั่ว ไม่อย่างนั้นเขาชุยตงซานคงอัดอั้นจนกระอักเลือดเก่าให้ตัวเองสำลักตายเป็นแน่

ความลับสวรรค์ที่เปิดเผยอยู่ในถ้อยคำของชุยตงซาน เฉินผิงอันเพียงแค่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน

ก่อนหน้านี้ราชครูชุยฉานสร้างป๋ายอวี้จิงจำลองขึ้นมา แล้วค่อยให้กองทัพม้าเหล็กต้าหลีฮุบกลืนพื้นที่ของหนึ่งทวีป เขากล้าทำเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมไม่มีทางยืนเฉยรอความตาย พาคนทั้งแจกันสมบัติทวีปไปตายเปล่าๆ อย่างแน่นอน

เฉินผิงอันเก็บความคิดทั้งหลายลง กวาดตามองไปรอบด้าน ส่วนใหญ่แล้วก็คือมองทัศนียภาพตระการตาของภูเขาห้อยหัวที่อยู่ระหว่างฟ้าดินนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!