กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 574

เฉินผิงอันออกจากศาลามาเงียบๆ เดินลงแท่นสังหารมังกรมาหยุดอยู่ข้างกายหญิงชราท่านนั้น

หญิงชรายิ้มบางๆ กล่าวว่า “คารวะคุณชายเฉิน ข้าหญิงชราแซ่ป๋าย นามเลี่ยนซวง คุณชายเฉินสามารถเรียกข้าว่าป๋ายหมัวมัวตามคุณหนูได้”

เฉินผิงอันเรียกป๋ายหมัวมัวหนึ่งคำ แล้วก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก

หญิงชราขยับเท้าก้าวเดินนำไปก่อนอย่างเงียบเชียบ ลมปราณทั่วร่างถูกเก็บซ่อนไว้ด้านในจนมองดูเหมือนบ่อน้ำโบราณที่นิ่งสนิท เฉินผิงอันเดินตามหญิงชราไป

หญิงชราเงียบงันไปชั่วขณะ หลังจากเดินออกมาได้ร้อยกว่าก้าวแล้วถึงได้ยิ้มกล่าวว่า “ดูท่าหลายปีมานี้ที่คุณชายเฉินท่องไปสี่ทิศในใต้หล้าไพศาล คงไม่ได้ผ่อนคลายนัก”

ตอนนี้นางมีตบะแค่ขอบเขตยอดเขา เพียงแต่ว่าสายตากลับยังคงเป็นสายตาของผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทางอยู่ ผู้ฝึกยุทธเต็มตัวคนหนึ่งที่เป็นเด็กรุ่นหลัง ต่อให้จะพยายามปกปิดอย่างสุดกำลังแค่ไหน แต่เมื่อปรากฎอยู่ในสายตาของหญิงชราก็ไม่ต่างจากเด็กเล็กที่แบกของหนักเดินข้ามแม่น้ำ อีกฝ่ายมีพละกำลังมากเท่าไร นางย่อมรู้ชัดเจนดี ทว่าขอบเขตหกผู้ฝึกยุทธของคนหนุ่มที่อยู่ข้างกายนี้กลับปกปิดได้อย่างแนบเนียน นี่หมายความว่าคนหนุ่มไม่ใช่แค่เกิดความคิดชั่วคราว จึงจงใจกดขอบเขตให้ต่ำเฉพาะแค่ตอนที่มาถึงกำแพงเมืองปราณกระบี่เท่านั้น แต่ทำมานานมากแล้วจนกลายเป็นธรรมชาติ ถึงได้สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ช่องโหว่เช่นนี้

เฉินผิงอันพยักหน้ากล่าว “ไม่ได้ราบรื่นมากนัก แต่ก็เดินผ่านมาได้แล้ว”

หญิงชราหยุดเดิน ยิ้มถามว่า “ในบรรดาศัตรูทั้งหลาย ขอบเขตสูงสุดของผู้ฝึกลมปราณคือเท่าไร แล้วขอบเขตของผู้ฝึกยุทธคือเท่าไร?”

เฉินผิงอันตอบไปตามตรง “ผู้ฝึกตนขอบเขตบินทะยาน ผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบ แต่ฝ่ายแรกเป็นศัตรูคู่อาฆาต แน่นอนว่าข้าไม่ได้ผ่านมาได้โดยอาศัยตัวเองทั้งหมด จุดจบอเนจอนาถอย่างมาก แต่ฝ่ายหลังกลับเป็นผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่จงใจชี้แนะวิชาหมัดให้แก่ข้าด้วยการกดขอบเขตไว้ที่ขอบเขตเก้า แล้วออกหมัดใส่ข้าสามหมัด”

ต่อให้เป็นหญิงชราที่เกิดและเติบโตมาในสถานที่อย่างกำแพงเมืองปราณกระบี่ก็ยังอดตกตะลึงไม่ได้ นางพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ขนาดนี้แล้วคุณชายเฉินยังไม่ตายอีกหรือ?”

แล้วหญิงชราก็หัวเราะกับตัวเองพลางเอ่ยว่า “เสียมารยาทแล้ว หวังว่าคุณชายเฉินจะให้อภัย”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “โชคไม่เลว”

หญิงชราส่ายหน้า “พูดแบบนี้ไม่ถูก กำแพงเมืองปราณกระบี่ของพวกเรากลัวคำกล่าวว่าโชคดีมากที่สุด มองดูเหมือนโชคดี แต่ส่วนใหญ่มักจะต้องตายเร็ว เรื่องของโชคชะตานั้นจะให้ดีเกินไปไม่ได้ จะต้องสะสมไปทีละนิดถึงจะมีชีวิตได้ยาวนานหน่อย”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “จำไว้แล้ว วันหน้าเวลาพูดจะระวังให้มาก”

หญิงชราโบกมือ “คุณชายเฉินไม่จำเป็นต้องระมัดระวังตัวขนาดนี้ อยู่ที่นี่ พูดง่ายเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ก็พูดง่ายแค่ในนี้เท่านั้นแหละ ออกไปข้างนอก ข้าอาจจะไม่พูดอะไรเลยก็ได้”

หญิงชราหัวเราะปากกว้าง “พูดจาถูกหูนัก แต่ว่าตอนนี้มีปัญหาเล็กๆ อยู่ข้อหนึ่ง หญิงแก่อย่างข้าหูตาฟ้าฟาง ชีวิตนี้ได้แต่เตร่ไปเตร่มาอยู่ในตระกูลเหยากับจวนหนิงเท่านั้น สถานที่อื่นๆ ไปเยือนไม่บ่อย ขนาดภูเขาห้อยหัวยังไม่เคยไปสักครั้ง บนหัวกำแพงเมืองและทางทิศใต้ก็ยิ่งไปน้อยครั้ง ตอนนี้คุณชายเฉินเข้ามาในจวน นอกจวนมีคนที่จับตามองพวกเราอยู่มากมาย หญิงแก่อย่างข้าไม่เคยพูดจาอ้อมค้อม ไม่ใช่ว่าข้าดูแคลนคุณชายเฉิน ตรงกันข้ามกันเลยด้วยซ้ำ อายุน้อยขนาดนี้ก็มีพรสวรรค์ด้านการเรียนวรยุทธขนาดนี้แล้ว ร้ายกาจอย่างมาก ข้ากับเจ้าคนแซ่น่าหลันผู้นั้นต่างก็ชื่นชมปลาบปลื้ม หญิงชราอย่างข้ายังดีหน่อย เพราะใจดำมากกว่า ทว่าตาแก่หนังเหนียวนั่นกลับแอบวิ่งไปจุดธูปแล้ว คาดว่าคงหลั่งน้ำตาไปไม่น้อย อายุปูนนี้แล้วไม่รู้จักอายเสียบ้าง”

เฉินผิงอันกล่าว “ป๋ายหมัวมัวเชิญออกหมัดได้ตามสบาย หากรับไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะยอมอยู่ในจวนแห่งนี้แต่โดยดี”

หญิงชราซอยเท้าขยับตรงไปเบื้องหน้า มองไม่เห็นคลื่นลมปราณใดๆ ไหลวนเวียน แต่หมัดหนึ่งกลับพุ่งออกมา เฉินผิงอันใช้มือซ้ายและศอกซ้ายกดหมัดนั้นไว้ ขณะเดียวกันก็ปล่อยหมัดขวาใส่หน้าหญิงชรา เพียงแต่ว่าเก็บปณิธานหมัดกลับคืนในชั่วพริบตา ยั้งหมัดนี้เอาไว้

แต่หญิงชรากลับไม่มีท่าทีว่าจะเก็บหมัด ต่อให้จะถูกข้อศอกของเฉินผิงอันกดหมัดลงมาได้ชุ่นกว่าๆ แต่หมัดนั้นก็ยังต่อยเปรี้ยงลงบนร่างของเฉินผิงอัน

เฉินผิงอันไถลถอยกรูดออกไปบนระเบียงหลายจั้ง ใช้กระบวนท่าหมัดชั้นสูงประคองรากฐานของปณิธานหมัดเอาไว้ เรือนกายที่โก่งงอเหมือนวานรพลันขยายปณิธานหมัด สันหลังเหมือนกระดูกมังกรใหญ่ พริบตานั้นร่างก็พลันหยุดชะงัก ยืนนิ่งได้อย่างมั่นคง หากไม่เป็นเพราะนี่เป็นแค่การประลองที่ต่างฝ่ายต่างหยุดเมื่อพอสมควร บวกกับที่หญิงชราแค่ปล่อยหมัดของขอบเขตเดินทางไกล ไม่อย่างนั้นอันที่จริงเฉินผิงอันก็สามารถสวนทวนกระแส หรือถึงขั้นต้านรับหมัดนี้ไว้ได้โดยที่ไม่ถอยร่นแม้แต่ครึ่งก้าว

หญิงชรายิ้มพลางพยักหน้ารับ “ถือเสียว่ารับของขวัญพบหน้าจากคุณชายเฉินแล้ว ถ้าอย่างนั้นหญิงแก่เช่นข้าก็คงไม่ถ่วงเวลาการชมจันทร์ของคุณชายเฉินแล้ว”

ผู้ดูแลเฒ่าคนนั้นมาหยุดอยู่ข้างกายหญิงชรา เปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “นินทาข้าทำไม?”

หญิงชรายิ้มกล่าว “ทำไม รู้สึกว่าขายหน้าว่าที่ท่านเขยหรือ? เจ้าน่าหลันเย่สิงยังจะมีหน้าตากะผายลมอะไรอีก”

ผู้ดูแลเฒ่าถอนหายใจหนึ่งที

เฉินผิงอันกลับมาที่ศาลา หนิงเหยาลุกขึ้นมานั่งแล้ว

เฉินผิงอันกล่าว “ทำไมไม่นอนหลับให้นานอีกหน่อย”

หนิงเหยาหัวเราะเสียงเย็น “มิกล้า”

เฉินผิงอันกล่าวอย่างน้อยใจ “ฟ้าดินเป็นพยาน ข้าไม่ใช่คนประเภทนั้น”

เผยเฉียนเรียนรู้มาจากใครมากที่สุด หากเฉินผิงอันไม่ได้เป็นเงามืดใต้โคมไฟ ก็คงแกล้งโง่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!