กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 614

เซียนกระบี่ใหญ่เยว่ชิงสวมชุดคลุมอาคมตัวหนึ่งที่หอภูษาเป็นผู้ตัดเย็บ ตรงเอวห้อยกระบี่ ‘สยบห้าขุนเขา’ กระบี่ประจำกาย เพียงแต่ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับอาวุธกึ่งเซียนที่ไม่ชักออกจากฝักง่ายๆ เล่มนี้ อันที่จริงเยว่ชิงชอบกระบี่ยาวรูปแบบเฉพาะที่หอกระบี่เป็นผู้สร้างมากกว่า ดังนั้นเวลานี้กระบี่ที่อยู่ในมือทั้งสองจึงเป็นกระบี่ที่หอกระบี่สร้างขึ้น

และการที่เซียนกระบี่และผู้ฝึกกระบี่เซียนดินจำนวนมากของกำแพงเมืองปราณกระบี่นิยมสวมชุดคลุมอาคมของหอภูษา ใช้กระบี่ของหอกระบี่ ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับเยว่ชิง

เซียนกระบี่หญิงโจวเฉิงยังคงนั่งโล้ชิงช้าอยู่เหมือนเดิม ในอดีตที่ผ่านมานานมากๆ แล้ว คนหนุ่มที่บอกว่าจะมาดูบ้านเกิดให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งผู้นั้น สุดท้ายก็ต้องตายด้วยน้ำมือของคนจากบ้านเกิดเขาเพื่อนาง โจวเฉิงไม่มีกระบี่ประจำกาย รอบกายนางคือปณิธานกระบี่เส้นสีทองที่สืบทอดมาจากสำนักหลายรุ่นหลายสมัยซึ่งล่องลอยไม่หยุดนิ่ง นั่นก็คือกระบี่ไร้ฝักของนาง

อู๋เฉิงเพ่ยเซียนกระบี่ขอบเขตหยกดิบที่มีรูปโฉมของคนหนุ่มอีกทั้งหน้าตายังหล่อเหลา เวลานี้ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ใบหน้าบิดเบี้ยว ดีๆๆ วันนี้ปีศาจใหญ่มีมากเป็นพิเศษ คนคุ้นหน้าคุ้นตาก็มีเยอะ และคนแปลกหน้าก็ไม่น้อยเช่นกัน

หยวนชิงสู่เซียนกระบี่แห่งทักษินาตยทวีปกับเกาขุยเซียนกระบี่ในท้องถิ่นยืนเคียงไหล่กัน เกาขุยมีสีหน้าเคร่งเครียด ใช้เสียงในใจอธิบายประวัติความเป็นมาของปีศาจใหญ่ในตำนานส่วนหนึ่งให้หยวนชิงสู่ฟัง ครั้งนี้ปีศาจใหญ่ที่หลบซ่อนตัวมานานหลายปีพากันระดมพลออกมาหมด มารวมตัวกันที่สนามรบทางทิศใต้ คือสถานการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบหมื่นปี โดยเฉพาะปีศาจใหญ่สิบสี่ตนที่ยืนอยู่ตำแหน่งหน้าสุดของแผ่นดินทางทิศใต้ที่ยิ่งเป็นบุคคลซึ่งอยู่ในลำดับแรกสุดของปฏิทินเหลืองเก่าแก่ฉบับดั้งเดิมอย่างภาพวก ‘ภาพไป๋เจ๋อ’ ‘ภาพค้นภูเขา’ ซึ่งการจัดพิมพ์หลายฉบับในช่วงรุ่นหลังกลับไม่มีบันทึกถึงพวกมันอยู่แล้ว ต่อให้เป็นเกาขุยก็ยังยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเขาเองไม่เคยเห็นปีศาจเหล่านี้ตัวเป็นๆ มาก่อน ครั้งนี้กลับดีนัก คราวหน้าใต้หล้าเปลี่ยวร้างคิดจะรวมตัวกันได้ครบถ้วนแบบนี้ ยากแล้ว

หยวนชิงสู่ปลดน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ลงมาดื่มเหล้า ทุกครั้งที่เกาขุยพูดถึงประวัติความเป็นมาอันเก่าแก่ของปีศาจใหญ่ตนหนึ่ง หยวนชิงสู่ก็จะจิบเหล้าหนึ่งคำ ใช้นามของปีศาจใหญ่มาแกล้มเหล้า รสชาติยอดเยี่ยมยิ่งนัก

หานไหวจื่อเจ้าสำนักกระบี่ไท่ฮุยกำลังหลับตาทำสมาธิ ฝ่ามือดันด้ามกระบี่ที่พกติดกาย บางครั้งก็ตีเบาๆ หนึ่งที ข้างกายคือลี่ไฉ่เจ้าสำนักทะเลสาบกระบี่ฝูผิงที่มาจากอุตรกุรุทวีปเช่นเดียวกัน

ดวงตาสองข้างของลี่ไฉ่เปล่งประกาย เจ้าพวกตัวดี แต่ละตนดูท่าแล้วน่าจะต่อสู้กันเก่งไม่น้อย

มีนักเดินทางต่างถิ่นสองท่านที่ไม่เหมือนเซียนกระบี่ แต่กลับเหมือนชาวประมงและคนตัดต้นไม้มากกว่า คนคู่นี้คือสหายสนิทบนภูเขาของธวัลทวีป เป็นคนบนเส้นทางเดียวกัน เซียนกระบี่จางเซาและเซียนกระบี่หลี่ติ้ง เดิมทีต่างก็มีอารมณ์หนักอึ้ง แต่พอคนทั้งสองมองสบตากันก็คลี่ยิ้มอย่างรู้ใจ ต่างก็พร้อมยอมรับความตายแล้ว

จ้าวเก้ออี๋นั่งอยู่ที่เดิม หันหน้ามามองหนึ่งที เดิมทีบนหัวกำแพงเมืองทิศเหนือต้องมีเฉิงเฉวียนนั่งอยู่ เพียงแต่ว่าถูกปีศาจใหญ่ทำร้ายให้บาดเจ็บสาหัสขอบเขตถดถอย จึงกลายเป็นแมลงน่าสงสารก่อกำเนิด เนื่องจากด้านหน้าไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ห้าขอบเขตบน เขาจึงด่าจนอีกฝ่ายเดินจากไป จ้าวเก้ออี๋ถอนสายตากลับมาแล้วหัวเราะร่าอย่างสาแก่ใจ ตนกับเฉิงเฉวียนผู้นั้นประชันขันแข่งกันมาตั้งแต่เด็ก แข่งเรื่องขอบเขต กระบี่บินดีหรือเลว พลังพิฆาตมากน้อย แล้วยังแย่งสตรีที่หมายปองกัน ล้วนเป็นเฉิงเฉวียนผู้นั้นที่ชนะมากกว่า แล้วเวลานี้ล่ะเป็นอย่างไร? ตนไม่เพียงแต่ขอบเขตสูงกว่า ลำพังเพียงแค่เรื่องของการประชันกันกระโจนเข้าหาความตายนี้ เจ้าเฉิงเฉวียนเป็นเพียงก่อกำเนิดตัวเล็กๆ แม้แต่โอกาสก็ไม่มีแล้ว ถ้าอย่างนั้นเจ้าเฉิงเฉวียนก็จงกินฝุ่นอยู่หลังก้นข้าแต่โดยดีเถอะ

พอไปถึงด้านล่าง ข้าจะไปพบนางก่อน เอาให้เจ้าเฉิงเฉวียนโมโหตายไปเลย

น่าหลันเย่สิงมีโทสะเล็กน้อย พวกสัตว์เดรัจฉานจากใต้หล้าเปลี่ยวร้างพวกนี้จะรออีกสักนิดแล้วค่อยมารนหาที่ตายไม่ได้หรือไร? รอให้เขากลับคืนสู่ขอบเขตเซียนเหรินเสียก่อน ถึงเวลานั้นสัตว์เดรัจฉานอย่างพวกเจ้าก็มาตายอยู่ใต้กระบี่บินของข้าน่าหลันเย่สิง ก็จะได้ตายเร็วหน่อยไม่ใช่หรือ?

เพียงแต่ว่าน่าหลันเย่สิงเองก็อัดอั้นอยู่ไม่น้อยด้วย ดูจากท่าทางของอีกฝ่ายแล้วค่อนข้างจะแปลกประหลาดอยู่บ้าง ในอดีตมักจะมีกองทัพใหญ่ที่บนฟ้ามากมายดุจฝูงตั๊กแตน บนพื้นก็เคลื่อนพลเนืองแน่นประหนึ่งมดหนูวิ่งพล่าน แต่ตอนนี้กลับยังรวมตัวกันไม่ครบถ้วน หรือว่าใต้หล้าเปลี่ยวร้างจะอาศัยพวกปีศาจใหญ่เหล่านี้ ด้วยคิดว่าจะสามารถโจมตีหัวกำแพงเมืองได้แล้ว? เหล้าของท่านเขยไม่ได้ขายไปที่ใต้หล้าเปลี่ยวร้างเสียหน่อย เหตุใดสมองของปีศาจใหญ่พวกนี้ถึงพังเสียแล้วเล่า

หานไหวจื่อยิ้มบางๆ สีหน้าผ่อนคลายหลุดพ้น เปี่ยมไปด้วยปณิธานฮึกเหิม

หลังผ่านศึกนี้ไป สำนักกระบี่ไท่ฮุยของข้าก็ไม่เหลือความเสียดายใดๆ แล้ว

ใต้เท้าอิ่นกวานถูฝ่ามือ บางครั้งก็คอยยกมือมาเช็ดมุมปาก พึมพำว่า “แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องการจับคู่ต่อสู้ตัวต่อตัว ศึกครั้งนี้ผ่านไป ขอแค่ยังไม่ตายก็ไม่เพียงแต่ดื่มเหล้าได้ ยังจะดื่มได้จนเต็มอิ่มด้วย”

มีเซียนกระบี่ท่านหนึ่งนั่งยองอยู่ริมขอบของหัวกำแพง ยื่นฝ่ามือไปลูบปลายแหลมของหัวกำแพง สีหน้าเฉยชาแฝงไว้ด้วยแววหวนคำนึงถึงความเป็นความตายอย่างบางเบา

มีเซียนกระบี่คนหนึ่งเปิดกาเหล้าแล้วท่องบางอย่างอยู่ในใจ รินเหล้าช้าๆ จนหมดกา จากนั้นก็โยนกาเปล่าไปนอกหัวกำแพงเมืองอย่างไม่ใส่ใจ

เฒ่าหูหนวกสีหน้าไร้อารมณ์ คิดเพียงแค่ว่าเมื่อไหร่จะสามารถเดินลงจากหัวกำแพงเมืองกลับไปอยู่รังเล็กๆ ของตนได้ ลมบนหัวกำแพงนี้แรงเกินไปจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!