กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 642

ไม้เท้าที่กำไว้ในมือสั่นสะท้านเบาๆ ในชายแขนเสื้อข้างหนึ่งก็ยิ่งมีริ้วคลื่นที่ยากจะสัมผัสได้ถึงกระเพื่อมขึ้น เพราะไม่ใช่การชักนำปราณวิญญาณจากการโคจรเวทวิชาอภินิหาร ดังนั้นแม้แต่หญิงชราผู้ดูแลศาลที่ตบะสูงที่สุดก็ยังไม่สังเกตเห็น

“ขอขมากับมารดาเจ้า ขอโทษกับมารดาเจ้าน่ะสิ!”

เรือนกายสีเขียวประดุจสายรุ้งเส้นหนึ่งพุ่งมาหล่นนอกศาลเทพวารี ยืนอยู่ข้างกายเผยเฉียน

ก็คือเฉินหลิงจวินที่หลอมข้องราชามังกรใบหนึ่งได้สำเร็จแล้ว

เฉินหลิงจวินไม่พูดไม่จาก็ยกประคองข้องราชามังกรของอุตรกุรุทวีปที่ฮว่อหลงเจินเหรินเป็นผู้ซ่อมแซมด้วยตัวเองไว้กลางฝ่ามือ ข้องราชามังกรพลันขยายใหญ่ดุจขุนเขาที่ปกคลุมตลอดทั้งศาลเทพวารีไว้ข้างใน

ข้องราชามังกรบนโลกใบนี้ แม้แต่เจียวหลงที่กำเริบเสิบสานก็ยังกำราบเอาไว้ได้ และหญิงชราและเสมียนของศาลเทพวารีที่อยู่เบื้องหน้าเฉินหลิงจวินผู้นี้ เดิมทีก็มีชาติกำเนิดมาจากภูตน้ำเซียนน้ำอยู่แล้ว การสยบกำราบตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นนั้น หญิงชรายังจะพอประคับประคองไม่ให้เรือนกายโยกคลอนได้บ้าง แต่บุรุษที่เป็นเสมียนของจวนเทพวารีกลับเข่าอ่อน ลงไปนั่งคุกเข่ากองอยู่กับพื้น เพียงแต่ว่าถูกหญิงชรายื่นมือมาคว้าจับไหล่เอาไว้ ถึงได้ไม่ขายหน้าไปมากกว่านี้

เฉินหลิงจวินกล่าว “จะขอขมาใช่ไหม ข้าผู้อาวุโสก็จะเลียนแบบเจ้าแล้วกัน ตบเจ้าก่อนแล้วค่อยขอโทษเจ้าอย่างไรล่ะ!”

หญิงชรายิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ตีแม่นางน้อยย่อมเป็นความผิด เพียงแต่ว่าเมื่อมีความผิดก็ขอโทษ แล้วยังมีความผิดอะไรอีกเล่า? เซียนซือท่านนี้อย่าได้ใช้อำนาจรังแกผู้อื่น วันนี้คิดจะใช้สมบัติอาคมตระกูลเซียนชิ้นนี้สยบศาลเทพวารีอย่างนั้นหรือ?”

เฉินหลิงจวินสีหน้ามืดทะมึน พยักหน้าเอ่ยว่า “ใช่แล้ว ทำลายศาลเทพวารีแห่งนี้ให้ย่อยยับ แล้วข้าผู้อาวุโสก็จะตรงไปที่อุตรกุรุทวีปทันที ต่อให้นายท่านอยากด่าข้าก็ด่าไม่ได้แล้ว”

เผยเฉียนพลันเอ่ยว่า “เฉินหลิงจวิน ข้าโดนอาจารย์พ่อด่าจนชินแล้ว ให้ข้าทำเองเถอะ”

เฉินหลิงจวินอึ้งตะลึง

นายท่านของตนไหนเลยจะตัดใจด่าแม่นางน้อยผู้นี้ได้ลงคอ

เฉินหลิงจวินยิ้มเอ่ย “เผยเฉียน ตอนนี้ขอบเขตของเจ้า…”

ไม่รอให้เฉินหลิงจวินพูดจบ

เผยเฉียนก็กระแทกไม้เท้าเดินป่าในมือแรงๆ ด้ายสีทองที่อยู่ในชายแขนเสื้อซึ่งแม้แต่เผยเฉียนก็ข่มกลิ่นอายของมันไว้ไม่อยู่พลันแผ่ลามออกมาประหนึ่งน้ำตกที่ไหลทะลัก ด้ายเป็นเส้นพุ่งล้อมพันไม้เท้าเดินป่า

จนไม้เท้าเดินป่ากลายเป็นเหมือนกระบี่ยาวสีทองเล่มหนึ่ง

แล้วเผยเฉียนที่ถือกระบี่ก็ใช้กระบี่ค้ำยันพื้น

ชั่วพริบตานั้นระหว่างฟ้าดินเต็มไปด้วยกลิ่นอายของปณิธานกระบี่น่าสะพรึงกลัว

ต่อให้เป็นเฉินหลิงจวินที่เกิดมาก็มีเรือนกายแข็งแกร่งผิดปกติก็ยังอดไม่ไหวขยับเท้าออกห่างไปหลายก้าว

เซียนกระบี่ใหญ่บรรพจารย์สายของเซียนกระบี่หญิงโจวเฉิงเคยเอ่ยว่า เมื่อในใจไม่สบอารมณ์ ก็ควรออกกระบี่

หญิงชราผู้นั้นลนลานทำตัวไม่ถูก ไม่อาจประคับประคองท่าทีสุขุมเยือกเย็น คิดว่าเรื่องครั้งนี้เป็นเรื่องเล็กอย่างก่อนหน้านี้ได้อีกแล้ว

แม่นางน้อยที่สะพายหีบไม้ไผ่ตรงหน้าผู้นี้คือผู้ฝึกกระบี่ชัดๆ

ถึงขั้นมีความเป็นไปได้อย่างถึงที่สุดว่าจะเป็นตัวอ่อนเซียนกระบี่!

หญิงชราคนเฝ้าศาลไม่มีเวลามามัวสนใจเสมียนที่มีระดับขั้นธรรมดาในศาลวารีผู้นั้นอีกแล้ว นางรีบโคจรวิชาอภินิหารแห่งชะตาชีวิตของเซียนน้ำ ใช้ริ้วคลื่นเสียงในใจแจ้งข่าวแก่เหนียงเนียงเทพวารีที่อยู่ในจวนวารีแม่น้ำใหญ่

เพียงแต่ว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ กลับมา

เพราะกลางอากาศเหนือผิวน้ำของจวนวารีมีชายชราหลังค่อมที่ทะยานลมเดินทางไกลจากภูเขาลั่วพั่วมาหยุดลอยตัวอยู่กลางอากาศ เอาสองมือไพล่หลัง ก้มหน้าลงมองแล้วยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “ต้องตายแน่”

เผยเฉียนยกไม้เท้าเดินป่าที่มีปณิธานกระบี่สีทองล้อมพันขึ้น ดวงตาทั้งสองเป็นประกายระยิบระยับ

นางเอ่ยว่า “ข้านึกถึงคำพูดที่อาจารย์พ่อเคยพูด! จะขอโทษใครขึ้นอยู่ที่ความจริงใจ ไม่ได้อยู่ที่ว่าของขวัญที่นำมาขอขมามีมากหรือน้อย เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ลำดับขั้นตอนก็ไม่ถูกแล้ว แล้วจะเอาความจริงใจมาจากไหน? พวกเจ้าไม่ควรขอโทษภูเขาลั่วพั่ว แต่ควรขอโทษโจวหมี่ลี่”

เทพวารีแม่น้ำชงตั้นผู้นั้นหุบฝ่ามือเข้าด้วยกัน สีหน้าจนใจ จะปล่อยให้ศาลเทพวารีแม่น้ำอวี้เจียงรนหาที่ตายแบบนี้ต่อไปคงไม่ได้ เขาจึงรีบทะยานลมไปทันที เรื่องสนุกเห็นมามากแล้ว หากเอาแต่ความบันเทิงอย่างเดียวก็ง่ายที่จะนำหายนะมาสู่ตัว ไม่ช้าก็เร็วย่อมกลายเป็นที่หัวเราะเยาะเย้ยของคนอื่น

คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะขยับเข้ามาใกล้จวนวารี ผู้เฒ่าคนนั้นก็ยิ้มกล่าวว่า “ลำเอียงไม่เป็นกลาง เหตุผลบิดเบี้ยว ก็ต้องตายเหมือนกัน”

เทพวารีชุดดำจึงได้แต่พลิ้วกายนั่งลงบนผิวน้ำของแม่น้ำอวี้เจียง

สตรีท่าทางเยือกเย็นสวมชุดชาววังคนหนึ่งผุดขึ้นเหนือผิวน้ำ หัวเราะเสียงเย็นเอ่ยว่า “ภูเขาลั่วพั่วใช้กำลังมาท้าทายแม่น้ำอวี้เจียง ข้าจะต้องถวายฎีกาแก่กรมพิธีการต้าหลีร้องเรียนพวกเจ้าแน่นอน”

จูเหลี่ยนควักป้ายสงบสุขปลอดภัยแผ่นหนึ่งของต้าหลีออกมา ซ้ำยังเป็นป้ายสงบสุขอันดับหนึ่งอีกด้วย เขาห้อยไว้ตรงเอว พยักหน้ายิ้มเอ่ย “ตกลง ข้าจะให้โอกาสนี้แก่เจ้า หลีกเลี่ยงไม่ให้แม่น้ำชงตั้นสหายร่วมงานของเจ้ารู้สึกว่าสตรีเช่นเจ้าดีแต่ปาก”

เหนียงเนียงเทพวารีผู้นั้นเห็นป้ายสงบสุขอันดับหนึ่งซึ่งเป็นของแท้แน่นอนก็พลันหน้าเปลี่ยนสี ขณะที่กำลังสองจิตสองใจว่าจะกัดฟันยอมก้มหัวให้อีกฝ่ายไปก่อน แล้วค่อยวางแผนทำอย่างอื่นดีหรือไม่…คิดไม่ถึงว่าหมัดหนึ่งจะพุ่งมาถึงแล้ว

นางถูกหมัดนั้นต่อยให้จมลึกไปถึงเบื้องล่างของแม่น้ำอวี้เจียง

ไม่เพียงแต่ร่างทองแน่นิ่งขยับไม่ได้ ยังมีเลือดสีทองไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดขององค์เทพอย่างนาง

ส่วนผู้เฒ่าร่างเล็กผอมบางผู้นั้น เมื่อปณิธานหมัดของทั้งร่างระเบิดแตกก็เหมือนเซียนที่ใช้วิชาหลบเลี่ยงน้ำ พลิ้วกายลงมายังก้นแม่น้ำจุดที่ห่างไปไม่ไกล

ผู้เฒ่าพูดกลั้วหัวเราะว่า “ผู้ดูแลภูเขาลั่วพั่ว จูเหลี่ยน วันนี้มาถามหมัดแก่จวนเทพวารีแม่น้ำอวี้เจียง ล่วงเกินแล้ว”

ผู้เฒ่าถอยหลังไปหลายก้าว แล้วเดินหน้ามาก้าวเล็กๆ เรือนกายที่งองุ้มยิ่งโค้งงอ เขาเอ่ยเนิบช้าว่า “ข้าผู้อาวุโสออกหมัดแบ่งแค่เป็นตาย ไม่ใช้เหตุผล”

บนผิวน้ำที่ห่างจากสนามรบใต้แม่น้ำมาไกล เทพวารีแม่น้ำชงตั้นขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งเครียด

ปรมาจารย์วิถีวรยุทธผู้นั้นไม่ได้เป็นแค่ขอบเขตเดินทางไกลธรรมดาๆ เท่านั้น

ปณิธานหมัดของผู้เฒ่ายิ่งใหญ่จนสยบข่มชะตาน้ำของแม่น้ำอวี้เจียงได้อย่างชะงัดนัก

นี่เป็นการสยบกำราบที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง!

หนึ่งหมัดผ่านไป

สายน้ำแหลกสลาย

ผู้เฒ่ายื่นมือมากระชากลำคอของสตรีสวมชุดชาววัง ทั้งร่างของฝ่ายหลังไหลอาบไปด้วยเลือดสดสีทองที่หยดลงในแม่น้ำที่ไหลซัดสาด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!