บนเกาะหลูฮวา ในถ้ำแห่งวาสนาที่เล่าลือกันว่ามียอดฝีมือลัทธิเต๋ามาฝึกวิชาเซียนอยู่นั้น ปีศาจใหญ่คอขวดเซียนเหรินตนหนึ่งที่มีหวังว่าจะเลื่อนเป็นขอบเขตบินทะยานถูกจั่วโย่วถามกระบี่ออกไปก่อนหนึ่งครั้ง เพื่อหยั่งเชิงว่าอีกฝ่ายเป็นตัวจริงหรือไม่ จากนั้นก็ออกกระบี่อีกครั้ง บีบให้อีกฝ่ายหลบหนีออกจากเกาะหลูฮวา สุดท้ายก็ยังคงถูกจั่วโย่วสังหารบนมหาสมุทร
หลังจากที่จั่วโย่วและหวังซือจื่อขี่กระบี่ขึ้นฝั่ง สำนักฝูจีก็ทยอยส่งกระบี่บินสองเล่มมาแจ้งข่าวแก่เรือนชุนฟานภูเขาห้อยหัว
ผู้ฝึกกระบี่โอสถทองที่เดินทางไปเยือนใบถงทวีปร่วมกับจั่วโย่วพยายามที่จะเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ครบถ้วนที่สุดบนจดหมายกระบี่บิน
หลังจากที่จั่วโย่วประมือกับปีศาจใหญ่ตนนั้น ผู้ฝึกกระบี่โอสถทองอย่างหวังซือจื่อก็ได้แต่ชมศึกอยู่ไกลๆ ขอบเขตของหวังซือจื่อไม่สูง แต่โลกทัศน์กลับกว้างไกลมากพอ เพราะถึงอย่างไรตอนที่อยู่บนสนามรบของกำแพงเมืองปราณกระบี่ก็เคยเห็นการลงมือที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินของปีศาจใหญ่มาแล้วหลายครั้ง จึงพอจะวิเคราะห์ขอบเขตของปีศาจใหญ่ที่อยู่ในถ้ำแห่งวาสนาตนนั้นได้ว่าต้องไม่ใช่ขอบเขตเซียนเหรินทั่วไปอย่างแน่นอน
ตอนนั้นหวังซือจื่ออยู่ห่างจากสนามรบมาเกือบสามร้อยลี้ แต่กระนั้นคลื่นใต้ฝ่าเท้าของเขาก็ยังโถมตัวขึ้นสูงเป็นคลื่นยักษ์ เสียงน้ำขึ้นสะเทือนเลือนลั่นดุจเสียงอสนีบาต แล้วยังพอจะสัมผัสได้ถึงริ้วคลื่นปราณกระบี่ที่กระเพื่อมออกมาจากปณิธานกระบี่ของจั่วโย่วได้อย่างชัดเจน
หลังจากจั่วโย่วเก็บกระบี่ก็ตามหาตัวหวังซือจื่อ แล้วเอ่ยแค่ว่าหมดเรื่องแล้ว จากนั้นคนทั้งสองก็ออกเดินทางไปด้วยกันต่อ
หวังซือจื่ออดไม่ไหวจริงๆ จึงเอ่ยถาม ‘ผู้อาวุโส’ เซียนกระบี่ ‘คนวัยเดียวกัน’ ข้างกายที่เงียบงันมาตลอดทางไปหนึ่งประโยค
ถามว่าปีศาจใหญ่ตนนั้นเป็นขอบเขตบินทะยานแล้วหรือไม่ จั่วโย่วส่ายหน้า บอกว่ายังขาดอีกเสี้ยวหนึ่ง หากมาถึงเกาะหลูฮวาช้ากว่านี้สักนิด เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปี อย่างมากสุดก็สิบกว่าปี ปีศาจใหญ่ที่กระโดดออกมาจากถ้ำแห่งโชควาสนาจะกลายเป็นขอบเขตบินทะยานตัวจริงเสียงจริง แบบนั้นจะยุ่งยากอย่างมาก
จากนั้นจั่วโย่วก็เอ่ยอีกประโยคว่า หากมาเจอกันโดยบังเอิญหลังจากนี้สามปีห้าปี ตนไม่มีอาการบาดเจ็บติดตัว อันที่จริงก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาสักเท่าไร
เดิมทีจั่วโย่วก็ไม่ใช่คนที่พูดเยอะอยู่แล้ว ขอแค่เปิดปากพูด แต่ไหนแต่ไรมามีหนึ่งเขาก็พูดแค่หนึ่ง ไม่เคยจะคุยโวโอ้อวด แล้วก็คร้านที่จะถ่อมตนด้วย
ส่วนกระบี่บินที่จั่วโย่วส่งข่าวไปให้สำนักฝูจีหลังจบเรื่องก็เรียบง่ายมาก แค่ประโยคเดียว ‘เดินทางไปใบถงทวีปครั้งนี้ ถือโอกาสสังหารเผ่าปีศาจขอบเขตเซียนเหรินตนหนึ่งไประหว่างทาง ศพไม่เหลือใต้คมกระบี่ข้า คุณความชอบนี้จดให้เป็นของเฉินผิงอันผู้เป็นศิษย์น้อง’
หากเรือนชุนฟานและกำแพงเมืองปราณกระบี่ต่างก็ได้รับกระบี่บินส่งข่าวจากจั่วโย่วแค่คนเดียว คาดว่าคงจะเห็นอีกฝ่ายเป็นปีศาจใหญ่ขอบเขตเซียนเหรินทั่วไปจริงๆ
ทางฝั่งห้องบัญชีของเรือนชุนฟาน
เยี่ยนหมิงกับน่าหลันไฉ่ฮ่วนต่างก็อึ้งตะลึงกันไปก่อน จากนั้นก็มองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ไม่เสียแรงที่เป็นจั่วโย่ว
เหวยเหวินหลงกลับรู้สึกเหมือนกำลังฟังตำราสวรรค์
หมี่อวี้หัวเราะร่าเอ่ยว่า “เหวินหลงอ่า”
เหวยเหวินหลงรู้สึกชาไปทั้งหนังหัว เงยหน้าขึ้น “มิทราบว่าเซียนกระบี่หมี่มีอะไรจะชี้แนะหรือ?”
หมี่อวี้ถาม “รู้หรือไม่ว่าศิษย์น้องเล็กของผู้อาวุโสจั่วโย่วคือใคร?”
เหวยเหวินหลงตอบอย่างคาดเดา “น่าจะเป็นใต้เท้าอิ่นกวาน”
ขอบเขตไม่สูง แต่หัวสมองกลับดีเยี่ยม
คำพูดนี้ก็คือกล่าวถึงเหวยเหวินหลงนั่นเอง
หมี่อวี้มองหน้าเจ้าคนที่ทำให้การพูดคุยไปต่อไม่ได้ผู้นี้นิ่ง
เหวยเหวินหลงจึงรีบเอ่ยเสริมเหมือนคนล้อมคอกเมื่อวัวหาย “กระมัง?”
หมี่อวี้ยิ้มพลางพยักหน้ารับ “เดาได้แม่นจริงๆ ไม่เสียแรงที่เป็นคนมีความสามารถที่ใต้เท้าอิ่นกวานหมายตา เหวินหลง เจ้ามีสตรีในดวงใจที่ไม่ได้มาครอบครองบ้างหรือไม่? ต้องการให้ข้าสอนเคล็ดลับแก่เจ้าหรือไม่? วางใจเถอะ ไม่ใช่วิชามารนอกรีตไม่เข้าขั้นอะไรพวกนั้นหรอก รับรองว่าจริงใจต่อเจ้าจริงๆ”
เหวยเหวินหลงรีบส่ายหน้า
ต่อให้มีก็ไม่กล้าให้หมี่อวี้รู้จักเด็ดขาด
หมี่อวี้มือหนึ่งถือพัด ยิ้มถามว่า “หากสตรีที่ชอบพอกันกับเจ้าหันมาชอบข้าแทน นางยังจะมีค่าพอให้เจ้าชอบอีกหรือ?”
เหวยเหวินหลงรู้สึกวุ่นวายใจเล็กน้อย
น่าหลันไฉ่ฮ่วนรำคาญคนเจ้าชู้ผู้นี้เต็มที จึงเอ่ยอย่างเดือดดาลว่า “มีรูปโฉมเหม็นเน่านี้เสียเปล่า มามัวโอ้อวดอะไรอยู่”
หมี่อวี้หุบพัดอย่างสง่างาม “จิตใจที่รักความงามเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนล้วนมี ไม่ทำให้สตรีบนโลกที่พบเจอหมี่อวี้รู้สึกขวางหูขวางตา ก็คือเรื่องเดียวที่ข้าหมี่อวี้พอจะทำได้แล้ว”
น่าหลันไฉ่ฮ่วนหัวเราะเสียงเย็น “แต่ข้ากลับรู้สึกขวางหูขวางตาอย่างถึงที่สุด”
หมี่อวี้คลี่พัดออกอีกครั้ง ยกขึ้นบดบังใบหน้า “ยินดีทำเรื่องที่มากกว่านี้เพื่อแม่นางน่าหลัน”
เหวยเหวินหลงรู้สึกเหมือนได้เปิดโลกทัศน์ครั้งใหญ่
บนภูเขาฉุยซางภูเขาบรรพบุรุษของสำนักฝูจี
เดิมทีจีไห่เจ้าสำนักฝูจีปฏิเสธข้อเสนอของจงขุยไปแล้ว เพราะถึงอย่างไรวิชาลับตระกูลเซียนวิชานั้นก็เป็นรากฐานมหามรรคาของเขาจีไห่ จะถ่ายทอดให้แก่ผู้สืบทอดที่เป็นเจ้าสำนักในแต่ละรุ่นเท่านั้น แล้วนับประสาอะไรกับที่อันที่จริงเจ้าสำนักรุ่นถัดไปของสำนักฝูจีที่เขาหมายตาก็คือคนหนุ่มที่ปีนั้นเปิดโปงที่ซ่อนตัวของปีศาจใหญ่โดยบังเอิญ เด็กคนนี้มีวาสนากับสำนักฝูจี การฝึกตนบนภูเขา วาสนาบนมรรคานั้นสำคัญที่สุด
แค่รอให้เด็กคนนั้นกลับมาจากการไปขอศึกษาที่สำนักศึกษาต้าฝู จีไห่ก็เตรียมจะรับเขาเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายอย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้ไม่ได้จุดูปกราบไหว้ภาพเหมือนที่ศาลบรรพจารย์ จึงไม่ถือว่าเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของจีไห่อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!