กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 658

รอบกายหร่วนซิ่ว

มีหลี่เป่าผิงที่แค่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็ถูกชะตากัน มีเผยเฉียนลูกศิษย์ใหญ่ของภูเขาลั่วพั่ว หลิวเสี้ยนหยางผู้สืบทอดแห่งสำนักกระบี่หลงเฉวียน กู้ช่านแห่งตรอกหนีผิงที่บนโลกนี้เหลือสหายอยู่อีกไม่มาก ราชสำนักสกุลหลูที่ถือเป็นไฟของห้าธาตุ อวี๋ลู่รัชทายาทผู้สิ้นแคว้นที่แบกรับโชคชะตาบู๊ของหนึ่งแคว้น เซี่ยเซี่ยที่บนร่างมีโชคชะตาบนภูเขาอยู่มากมาย

ข้างกายหลี่หลิ่ว

มีน้องชายหลี่ไหว มังกรที่แท้จริงจื้อกุยแน่นอนว่าเกิดมาก็ใกล้ชิดกับน้ำ ถ้าอย่างนั้นซ่งจี๋ซินจะเลือกฝ่ายใดก็ชัดเจนดีอยู่แล้ว หม่าขู่เสวียน หนึ่งเป็นเพราะเขายินดีจะติดตามจื้อกุย สองเพราะท่านย่าของเขาได้เลื่อนขั้นจากแม่ย่าลำคลองหลงซวีเป็นเทพลำคลอง คนเชื่อดาบหลินโซ่วอี มือดาบต่งสุ่ยจิ่ง ทั้งสองคนต่างก็ชอบหลี่หลิ่ว

หากเกี่ยวพันกับความผิดความถูกบนมหามรรคา ค่ายทัพทั้งสองที่ยังเพิ่งอยู่ในช่วงก่อรูปก่อร่าง ทั้งสองคนต่างก็มีคนที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ด้วย หากเรื่องเล็กๆ สะสมนานวันเข้า สุดท้ายใครเล่าจะสามารถวางตัวอยู่นอกเหนือเรื่องราวได้?

ถ้าอย่างนั้นก็จำเป็นต้องให้ระหว่างสองฝ่ายนี้มีบุคคลที่ยินดีจะใช้เหตุผล และสามารถพูดโน้มน้าวสยบใจผู้คนเพิ่มมาคนหนึ่ง

เฉินผิงอัน

ชุยฉานวางเม็ดหมาก ไม่ได้เอาแต่มองหมากเหล่านั้นเป็นแค่หุ่นเชิดในมือเท่านั้น ชุยฉานไม่เคยรู้สึกว่าความเป็นความตายของคนบนโลกล้วนถูกควบคุมอยู่ในมือของข้า เอาชะตาชีวิตของพวกเขามากำเล่นในฝ่ามือตัวเอง นั่นจะนับเป็นความสามารถยิ่งใหญ่อะไรได้ และยิ่งไม่ใช่เรื่องที่ทำให้สะใจอะไรเลย กลับกันคือยังต้องปูทางให้หมากเหล่านั้นเงียบๆ ทำให้วิถีทางบนมหามรรคาของหมากเหล่านั้นที่บางทีอาจวกวนอ้อมค้อม แต่สุดท้ายแล้วในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งก็ยังสามารถมาปรากฎอยู่ในตำแหน่งที่เป็นกุญแจสำคัญได้

หากแค่ละโมบในมหามรรคาและชีวิตอมตะ ชุยฉานย่อมไม่มีทางทรยศออกจากสายเหวินเซิ่ง

หากชอบกุมอำนาจ คิดจะเป็นผู้อำนวยการใหญ่ของสถานศึกษา เป็นรองเจ้าลัทธิในศาลบุ๋นของแผ่นดินกลาง แค่เอื้อมมือคว้าก็เข้ามาอยู่ในกระเป๋าของข้าชุยฉานได้แล้ว จะมีอะไรยากกัน?

หยางเหล่าโถวพ่นควันขโมง กลุ่มควันลอยแผ่ปกคลุมไปทั่วร้านยา ถามว่า “เรื่องนั้นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

ชุยฉานเผยสีหน้าจนใจอย่างที่หาได้ยาก “ไม่เชื่อใจคนอื่น คนอื่นก็ทำเรื่องนี้ไม่ได้ ได้แต่แบ่งแยกจิตวิญญาณ ข้าจับตามองชุยตงซานอยู่เงียบๆ ภายในเวลาหนึ่งวัน อย่างน้อยที่สุดเขาจะมีความคิดอยู่สองอย่าง อย่างมากที่สุดก็คือเจ็ดหมื่นอย่าง เปลี่ยนจากชุยตงซานมาพิศมองข้าบ้าง อย่างน้อยที่สุดข้ามีสามความคิด อย่างมากที่สุดคือแปดหมื่น พวกเราสองคน ต่างคนต่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย”

หยางเหล่าโถวถาม “เส้นสายอันเป็นรากฐานพวกนั้นเรียบเรียงได้ราบรื่นแล้วหรือ?”

ชุยฉานส่ายหน้า “มีข้อโต้แย้งไม่น้อย การสลับสับเปลี่ยนสามชนิดที่มีสามขั้นตอน พวกเราสองฝ่ายต่างก็มีจุดขัดแย้งกันเอง แทบจะพลิกกลับลำดับขั้นตอนของอีกคนไปอย่างสิ้นเชิง ยุ่งยากมาก”

หยางเหล่าโถวยิ้มถาม “เหตุใดที่ผ่านๆ มาถึงจงใจไม่มาถามข้า?”

ชุยฉานยิ้มบางๆ “ไม่ว่าจะด้วยอายุหรือขอบเขต ท่านคือผู้อาวุโส ข้าคือผู้น้อย แต่หากว่าด้วยเรื่องการวางแผน พวกเราถือเป็นคนรุ่นเดียวกัน”

หยางเหล่าโถวส่ายหน้า “ไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว เจ้าคือผู้อาวุโส”

ชุยฉานกุมหมัดยิ้มกล่าว “ไม่กล้ายอมรับ หวาดหวั่นที่จะรับเอาไว้”

ถ้อยคำเกรงอกเกรงใจ สายของเหวินเซิ่งนั้น ตั้งแต่อาจารย์มาจนถึงลูกศิษย์ แล้วไปถึงลูกศิษย์ผู้สืบทอด เหมือนว่าจะเชี่ยวชาญกันอยู่มาก

หยางเหล่าโถวพลันหลุดหัวเราะพรืด เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทอดถอนใจเอ่ยว่า “สายตาในการรับลูกศิษย์ของซิ่วไฉเฒ่าช่างดีจริงๆ การวางแผนของลูกศิษย์คนแรกเป็นดั่งหมู่ดาราส่องแสงพร่างพราว เวทกระบี่ของจั่วโย่วดั่งดวงจันทร์กระจ่างใกล้จะเต็มดวงที่ลอยอยู่กลางนภา ความรู้ของฉีจิ้งชุนสูงที่สุด กลับกลายเป็นว่าเท้าเหยียบติดพื้นดิน พิทักษ์อยู่บนโลกมนุษย์มากที่สุด”

สำนักเจินจิ้งของทะเลสาบซูเจี่ยนมีความเกี่ยวพันกับสำนักกุยหยกของใบถงทวีป

เรือข้ามทวีปของสำนักพีหมาชายหาดโครงกระดูก ทำการค้าได้ไม่เล็ก

จวี้จื่อแห่งสำนักโม่ บรรพบุรุษของสำนักการค้า บวกกับคนอีกมากมายที่ยังคงซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง ล้วนทยอยกันถูกชุยฉานเชื้อเชิญมาบนโต๊ะเดิมพัน ตอนนี้ก็ยังมีเจ้านครจักรพรรดิขาวที่มาเยือนแจกันสมบัติทวีปด้วยตัวเองอีก

ชุยฉานนั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาว สองมือวางทับบนหัวเข่าเบาๆ เอ่ยเย้ยหยันตัวเองว่า “เพียงแต่ว่าจุดจบไม่ค่อยดีสักเท่าไร”

หยางเหล่าโถวยิ้มกล่าว “ฝึกตนเป็นอมตะมักมีชีวิตที่ดี คนมีความสามารถที่ศึกษาหาความรู้มักมีชีวิตอาภัพ”

ชุยฉานยิ้มบางๆ “ประโยคนี้ของผู้อาวุโสปลอบใจข้าได้ดีนัก”

……

หลิ่วชื่อเฉิงพาน้องหลงป๋อเดินทางไปพร้อมกับกู้ช่าน เตรียมจะไปที่เขตการปกครอง

ตอนนี้อำเภอไหวหวงสามารถเดินทางไปได้ทั่วสารทิศ ถนนน้อยใหญ่มีอยู่มากมาย

พวกคนหนุ่มสาวที่ไปรวมตัวกันที่โรงเรียนแยกย้ายกันไปตามทาง ต่างคนต่างกลับบ้านตัวเอง ความกดดันในมืดฟ้ามัวดินในใจของไฉ่ป๋อฝูจึงลดฮวบลงตามไปด้วย นี่ทำให้เขาพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

หลิ่วชื่อเฉิงสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพจิตใจของไฉ่ป๋อฝูอย่างเฉียบไว เขาจึงตบไหล่เด็กหนุ่มผมขาว “น้องหลงป๋อ มองไม่ออกเลยว่าที่แท้เจ้าก็เป็นคนฉลาดขนาดนี้ มีความหวังบนมหามรรคาเลยนะนี่”

ไฉ่ป๋อฝูเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ขอบคุณผู้อาวุโสที่อวยพร”

สือชุนเจียขึ้นรถม้าเดินทางกลับเมืองหลวงต้าหลีพร้อมเปียนเหวินเม่าผู้เป็นสามี หลี่เป่าผิงบอกว่าจะหาม้าสักตัวมาขี่ อีกเดี๋ยวก็จะตามไปทันรถม้า

ส่วนพวกหลี่ไหว หลินโส่วอีก็ตามเหมาเสี่ยวตงกลับไปที่สำนักศึกษาต้าสุย

เฉาเกิงซินและต่งสุ่ยจิ่งนัดกันไปดื่มเหล้าที่ร้านของหวงเอ้อเหนียง

เจ้าเมืองหยวนเจิ้งติ้งเดินทางไปพร้อมกับซ่งจี๋ซินและสาวใช้จื้อกุย หาข้ออ้างไปกราบไหว้ศาลบุ๋นที่ภูเขากระเบื้องด้วยกัน

หม่าขู่เสวียนพาซู่เตี่ยนไปเยี่ยมชมศาลบู๊ในสุสานเทพเซียน

หลิวเสี้ยนหยางติดตามหร่วนซิ่วไปยังภูเขาของสำนักกระบี่หลงเฉวียน ยังคงไม่ใช่ลูกศิษย์ผู้สืบทอด แน่นอนว่าไม่อาจไปจุดธูปกราบไหว้ภาพเหมือนที่ศาลบรรพจารย์ได้ เป็นเพียงแค่การไปเดินเล่นเท่านั้นจริงๆ แต่หลิวเสี้ยนหยางบอกว่าจะไปที่ภูเขาลั่วพั่วก่อน ดูเหมือนว่าหร่วนซิ่วจะรอคอยประโยคนี้มาโดยตลอด แต่นางเสนอว่าสามารถไปที่สำนักกระบี่หลงเฉวียนก่อนได้ แล้วค่อยไปภูเขาลั่วพั่ว หลิวเสี้ยนหยางรู้สึกว่ามีเหตุผล

จากนั้นคนสองคนที่ทะยานลมเดินทางไกลก็มองเห็นหลี่เป่าผิงที่กำลังเดินไปทางภูเขาใหญ่

เด็กหนุ่มต่างถิ่นที่มาจากกำแพงเมืองปราณกระบี่ซึ่งไปอาศัยอยู่ที่แท่นบูชากระบี่อย่างจางเจียเจินและเจี่ยงชวี่ เดินทางมาเยือนภูเขาลั่วพั่วภายใต้การคุ้มกันอย่างลับๆ ของผู้ฝึกกระบี่ชุยเหวย

ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลใหญ่จูเคยเอ่ยว่า อยากจะให้พวกเขาสองคนไปช่วยที่ร้านยาสุ้ยของตรอกฉีหลง จางเจียเจินและเจี่ยงชวี่ปรึกษากันก็รู้สึกว่าควรจะมาที่นี่ก่อน จะได้สอบถามเรื่องที่ควรระวังจากอาจารย์ผู้เฒ่าจู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!