กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 667

แสงจันทร์ไม่แบ่งยากดีมีจน แสงจันทร์ที่ส่องลงมาบนประตูเป็นแขกที่ไม่เคาะประตู ถนนอวี้ฮู่ก็ไปเยือน ตรอกเหยียนชือก็ไม่เว้น

แสงอาทิตย์ขับไล่ความชั่วร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมอบความอบอุ่นเหมือนผ้าฝ้ายบุนวมให้ในวันที่อากาศหนาวเย็น ที่ตรอกเหยียนชือก็ได้สวม ถนนอวี้ฮู่ก็ได้ใส่

เฉินผิงอันนั่งอยู่ในศาลาบนหน้าผาสังหารมังกรเพียงลำพังตลอดทั้งคืน ยามค่ำคืนเขาไม่มีความกล้ามากพอจะไปเคาะประตูเรือนของหนิงเหยา มารดามันเถอะ ใครบอกว่าดื่มเหล้าแล้วจะเปลี่ยนจากคนขี้ขลาดเป็นคนกล้า ไม่เห็นจะมีประโยชน์กับผายลมอะไรเลย

ดวงตะวันลอยสูงโด่ง เฉินผิงอันก็ขี่กระบี่ออกจากนครมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หลบร้อนอีกครั้ง พวกผู้ฝึกกระบี่ในท้องถิ่นอย่างโฉวเหมียว ต่งปู้เต๋อ นอกจากผังหยวนจี้แล้ว ทุกคนล้วนไม่มีใครอยู่ ผู้ฝึกกระบี่ต่างถิ่นอย่างพวกเติ้งเหลียง นอกจากหลินจวินปี้แล้ว ทุกคนต่างก็พากันไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสเซียนกระบี่จากบ้านเกิดของตัวเอง หรือไม่ก็ไปพูดคุยกับสหายสนิท ดังนั้นถึงท้ายที่สุดจึงเหลือแค่หลินจวินปี้กับผังหยวนจี้ที่นั่งเล่นหมากล้อมด้วยกัน เฉินผิงอันยึดหลักไม่พูดคุยตอนดูคนเล่นหมากล้อม ฝีมือในการเล่นของหลินจวินปี้เหนือกว่าผังหยวนจี้ระดับหนึ่ง แพ้ชนะไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น เฉินผิงอันดูอยู่ครู่หนึ่งก็ไปพลิกเปิดเอกสารในคลังเก็บข้อมูล ผลคือหลินจวินปี้วิ่งมาบอกว่าเซียนกระบี่ใหญ่หมี่ฮู่มาเยือนบอกว่าต้องการพบใต้เท้าอิ่นกวาน แต่เซียนกระบี่ใหญ่ท่านนี้ยังนับว่าทำตามกฎเกณฑ์ ไม่มีท่าทีว่าจะเข้าประตูมา

เฉินผิงอันบอกให้หลินจวินปี้ไปเล่นหมากล้อมต่อ ส่วนตัวเองไปที่หน้าประตูใหญ่ ได้พบกับหมี่ฮู่ พี่ชายของหมี่อวี้ลูกสมุนในสายอิ่นกวานของตน ขอบเขตเซียนเหรินคนใหม่ล่าสุดและอายุน้อยที่สุดของกำแพงเมืองปราณกระบี่

เฉินผิงอันกุมหมัดยิ้มกล่าว “แขกที่หาได้ยาก”

หมี่ฮู่ไม่คิดจะพูดจาทักทายตามมารยาทอะไร เขาเอ่ยตามตรงว่า “เดินไปคุยกันไป”

คนทั้งสองเดินเคียงบ่ากันไป หมี่ฮู่เอ่ยเข้าประเด็นทันทีว่า “เฉินผิงอัน วันนี้ข้ามาหาเจ้าเพราะมีเรื่องอยากจะขอร้อง เป็นทั้งเรื่องส่วนรวม แล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวด้วย”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “เชิญพูดได้เลย”

หมี่ฮู่เอ่ย “รอจนสงครามสิ้นสุดลง ข้าหวังว่าจะอาศัยผลการต่อสู้อันน้อยนิดของข้าช่วยให้น้องชายของข้าที่ตอนนี้อยู่ที่ภูเขาห้อยหัวได้ไปอยู่ในสถานที่ใดก็ตามที่เขาอยากไป ยกตัวอย่างเช่นใต้หล้าไพศาลของพวกเจ้า”

เฉินผิงอันตอบ “ผลงานทางการสู้รบน่าจะพอ แต่ถึงอย่างไรหมี่อวี้ก็เป็นเซียนกระบี่ขอบเขตหยกดิบ การจากไปและการดำรงอยู่ของเซียนกระบี่ทุกท่านล้วนต้องทำตามกฎที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร นั่นคือต้องได้รับคำอนุญาตจากเซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโสเสียก่อน ถือเป็นการทำให้พอเป็นพิธี สายอิ่นกวานของพวกเราถึงจะสามารถอนุมัติได้ เรื่องนี้ถึงจะถือว่าเป็นเรื่องที่แน่นอนมิอาจปฏิเสธ ถึงเวลานั้นคนนอกไม่ว่าใครก็มิอาจซุบซิบนินทาได้”

หมี่ฮู่กล่าว “เซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโสตอบตกลงแล้ว”

เฉินผิงอันคลี่ยิ้ม “ในเมื่อเซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโสยังตอบตกลง อันที่จริงเซียนกระบี่ใหญ่หมี่ก็ไม่จำเป็นต้องมาหารือกับข้า หมี่อวี้ย่อมมีทางให้ถอยอย่างไร้กังวล อยู่ที่ใต้หล้าไพศาล เซียนกระบี่ที่ล้ำค่ายิ่งกว่าใคร ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ตัวเขาเองยินดีก็พอ จะไปอยู่ในศาลบรรพจารย์ของตระกูลเซียนบนภูเขา หรือไปอยู่ในตำหนักจินหลวนของราชวงศ์ล่างภูเขา ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ล้วนเป็นแขกชั้นสูงทั้งนั้น”

หมี่ฮู่เอ่ย “หากไปอยู่ต่างถิ่นแล้วน้องชายของข้าไม่มีใครคอยช่วยดูแล ข้าก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ฝึกตนบนภูเขาของใต้หล้าไพศาล เมื่อเทียบกับการหลอมกระบี่ของกำแพงเมืองปราณกระบี่พวกเราแล้วเป็นอย่างไรกันแน่ แม้ข้าจะไม่เคยไปสัมผัสกับตัวเองมาก่อน แต่ก็รู้ชัดเจนดี มีแต่การปัดแข้งปัดขา เต็มไปด้วยกลิ่นอายมลพิษ พวกนักต้มตุ๋นที่หลอกลวงคนมีให้เกลื่อน หมี่อวี้พอจะมีความสามารถในการคบค้าสมาคมกับสตรีอยู่บ้าง แต่หากเกิดการช่วงชิงบนมหามรรคากับพวกผู้ฝึกตนขึ้นมา จิตใจของน้องชายข้าบริสุทธิ์ซื่อตรง ย่อมต้องเสียเปรียบครั้งใหญ่”

เฉินผิงอันรู้ดีว่าความหมายของเซียนกระบี่ใหญ่ขอบเขตเซียนเหรินท่านนี้ก็คือ ต้องการให้คนต่างถิ่นที่มาจากใต้หล้าไพศาลอย่างตนช่วยใส่ใจให้มากหน่อย

เพียงแต่ว่าเรื่องบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่นสัญญาที่ให้ไว้กับเซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโส หรือสภาพการณ์ของตนในอนาคต เฉินผิงอันไม่อาจนำมาแพร่งพรายก่อนกำหนดได้ ดังนั้นจึงได้แต่ใคร่ครวญหาถ้อยคำที่เหมาะสมเอาไว้ก่อน

ส่วนข้อที่ว่าในถ้อยคำของหมี่ฮู่มีการกระทบกระเทียบใต้เท้าอิ่นกวานเช่นตนหรือไม่ เฉินผิงอันเป็นผู้ใหญ่ย่อมใจกว้าง จึงคิดเสียว่าเป็นลมที่ลอยผ่านข้างหูไป

หมี่ฮู่เอ่ย “ขอแค่เจ้ายอมตอบตกลง ข้าจะต้องตอบแทนอย่างหนักแน่นอน หากพูดถึงเรื่องการค้า ข้าเชื่อใจเถ้าแก่รอง”

ถูกคนเข้าใจผิดเสียแล้ว

แต่เฉินผิงอันกลับไม่ได้อธิบายอะไร “ตอบแทนอย่างหนักอะไรนั่นก็ช่างเถิด สองปีที่หมี่อวี้อยู่ในสายอิ่นกวานมานี้ก็ถือว่าสะสมคุณความชอบทางการสู้รบเอาไว้ไม่น้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ นอกจากข้อตกลงเป็นการส่วนตัวระหว่างเจ้ากับข้าแล้ว อันที่จริงหมี่อวี้คิดอย่างไร นั่นต่างหากจึงจะเป็นกุญแจสำคัญ”

หมี่ฮู่ขมวดคิ้ว “ด้วยความสัมพันธ์ควันธูปที่ใต้เท้าอิ่นกวานมีอยู่ในกำแพงเมืองปราณกระบี่ ต่อให้น้องชายของข้าไม่ยอมจากไป เจ้าก็หาเซียนกระบี่สักสองสามคนมาตีเขาให้สลบแล้วลากตัวเขาไปใต้หล้าไพศาลก็สิ้นเรื่องแล้ว”

เฉินผิงอันถาม “ไปถึงใต้หล้าไพศาล หมี่อวี้จะคลายปมในใจอย่างไร? บนเส้นทางของการฝึกตน นี่จะกลายเป็นปัญหายุ่งยากมาก ฝึกตนอยู่ที่นั่น แบกรับสถานะผู้ฝึกกระบี่ของกำแพงเมืองปราณกระบี่ เรื่องไม่คาดฝันย่อมมีไม่มาก แต่ขอแค่มีสักเรื่อง นั่นจะต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่อย่างมาก”

หมี่ฮู่ยืนกรานหนักแน่น “มีชีวิตอยู่สำคัญที่สุด มีชีวิตอยู่รอดได้วันหนึ่งก็คือวันหนึ่ง แล้วนับประสาอะไรที่อย่าได้ดูแคลนจิตแห่งมหามรรคาของน้องชายข้า เขาไม่ได้เปราะบางอย่างที่เจ้าคิด”

เฉินผิงอันพยักหน้า “ก็จริงนะ”

แล้วเฉินผิงอันก็เอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ให้หมี่อวี้ไปอยู่อุตรกุรุทวีป ไปที่สำนักกระบี่ไท่ฮุยหรือไม่ก็ทะเลสาบกระบี่ฝูผิงของเซียนกระบี่ลี่ไฉ่ ทั้งสองที่นี้ต่างก็ต้องการผู้ถวายงานที่เป็นเซียนกระบี่ แล้วก็ไม่ต้องให้หมี่อวี้ลงสนามรบเข่นฆ่าอะไรด้วย ในอนาคตเขาจะไปอยู่ที่ใดต่อก็ให้หมี่อวี้เป็นคนเลือกเอง”

หมี่ฮู่กล่าวอย่างกังขา “ทำไมถึงไม่ให้ไปอยู่ภูเขาของเจ้า?”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “ข้ามีบัญชีเก่ากองใหญ่ติดตัว ต่อให้หมี่อวี้ออกจากภูเขาห้อยหัวไปอยู่ภูเขาลั่วพั่วก็ยังไม่มีชีวิตที่สงบสุขได้อยู่ดี ไม่มีความจำเป็น”

หมี่ฮู่กลับเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ให้หมี่อวี้ไปเป็นผู้ถวายงานของภูเขาลั่วพั่วเจ้า เป็นผู้ถวายงานแบบที่ได้จุดธูปกราบไหว้ภาพแขวนน่ะ”

เฉินผิงอันกล่าวอย่างจนใจ “เซียนกระบี่ใหญ่หมี่เจ้าเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะพูดจาตรงไปตรงมากับเจ้าก็แล้วกัน หากเป็นแค่การค้า คนโง่เท่านั้นถึงจะปฏิเสธผู้ถวายงานที่เป็นเซียนกระบี่ แต่เป็นเพราะข้าเห็นน้องชายของเจ้าเป็นสหายถึงได้ไม่ต้องการให้เขาไปเหยียบน้ำขุ่นที่แจกันสมบัติทวีป อยู่ที่อุตรกุรุทวีปที่มีความสัมพันธ์ควันธูปกับกำแพงเมืองปราณกระบี่มากที่สุด สถานะของหมี่อวี้ก็คือยันต์คุ้มกันกายที่ดีที่สุดของเขา ที่เหลืออีกแปดทวีปล้วนไม่มีที่ใดเป็นสถานที่ที่ดี”

หมี่ฮู่กล่าว “อิดออดยืดยาดอย่างกับสตรี ให้หมี่อวี้ไปอยู่ภูเขาลั่วพั่วของแจกันสมบัติทวีป อย่าพูดมาก เจ้ากับข้าตกลงกันตามนี้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!