กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 680

เหนี่ยนซินไม่ใช่คนที่ชอบดูเรื่องสนุก แต่ครั้งนี้นางกลับเกิดใจอยากสืบเสาะเรื่องราวของเทวบุตรมารนอกโลกที่มาจากใต้หล้ามืดสลัวตนนี้เป็นครั้งแรก ร่าง ‘เซียนผู้สูงศักดิ์ที่แท้จริง’ ของเทวบุตรมารก่อนหน้านี้ทำให้เหนี่ยนซินพรั่นพรึงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดถ้ำเซียนสวรรค์อันน่าตะลึงพรึงเพริดที่ ‘นักพรตซวงเจี้ยง’ สวมไว้บนร่างตัวนั้นที่เหนี่ยนซินรู้สึกว่าหากนำ ‘เส้นตั้งเส้นนอน’ หลายหมื่นเส้นมาแก้ออกทีละเส้นจะทำให้วิชาการเย็บผ้าของตนเหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับ หากโชคดีสักหน่อยไม่แน่ว่าอาจจะกลายมาเป็นจุดกำเนิดของโชควาสนาบนมหามรรคาเนื่องจากเฝ้าพิทักษ์สถานที่แห่งนี้มานานหลายปีก็เป็นได้

เหนี่ยนซินเอ่ย “เจ้าชื่ออู๋ซวงเจี้ยง”

เด็กชายผมขาวที่นั่งยองอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้น “จะพูดอะไรอีกล่ะ”

เหนี่ยนซินกล่าว “ตอนมีชีวิตอยู่อู๋ซวงเจี้ยงคือผู้ฝึกตนสำนักการทหารคนหนึ่ง ไม่ใช่นักพรตเต๋า”

พูดมาถึงตรงนี้ “จนถึงตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าอู๋ซวงเจี้ยงจะต้องตายเสมอไป”

เด็กชายผมขาวหัวเราะทันใด “ทำไมถึงเป็นสำนักการทหาร เหตุผลล่ะ?”

เหนี่ยนซินกล่าว “อู๋ซวงเจี้ยง (吴霜降 ชื่อที่เทวบุตรมารใช้ในปัจจุบัน อู๋คือแซ่ ซวงเจี้ยงหมายถึงช่วงที่เริ่มเกิดน้ำค้างแข็ง) อู๋ซวงเจี้ยง (无双将 อ่านเหมือนกัน แต่แปลได้ว่าแม่ทัพผู้เป็นหนึ่ง) เป็นชื่อดีที่ฟังดูแล้วเหมาะแก่การโยนไปไว้บนสนามรบ หากไม่ใช่ผู้ฝึกตนสำนักการทหารก็ออกจะสิ้นเปลืองไปสักหน่อย”

เฒ่าหูหนวกรู้สึกแค่ว่าสมองของสตรีผู้นี้ไม่ค่อยแจ่มชัดสักเท่าไร หากคิดตามคำบอกของเหนี่ยนซิน ฉายาของข้าคือเฒ่าหูหนวก ที่เทือกเขาใหญ่แสนลี้ทางทิศใต้มีเฒ่าตาบอดอยู่คนหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นพวกเขาจะไม่ใช่คู่พี่น้องที่พลัดพรากจากกันไปหลายปีหรอกหรือ? ก็จริงนะ หากสติของแม่นางน้อยดีจริงก็คงไม่เป็นคนเย็บผ้ามาตลอดเวลาหรอก ผู้ฝึกตนลัทธิมารที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่กระฉ่อนไปไกลอย่างพวกตู๋ฉีหลางแห่งทะเลทักษิณ กว้อเค่อ เทพแห่งโรคระบาด ศพงาม ฯลฯ ต่างก็ถือว่าเป็นคนที่เดินบนทางหัวขาดซึ่งไม่อาจเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินได้แล้ว ทว่าพวกผู้ฝึกตนประเภทคนเย็บผ้า เพชรฆาตหรือคนขายกระจก กลับสามารถเปลี่ยนไปฝึกวิชานอกรีตได้กลางทาง ขอแค่โชคดีมากพอ แอบไปเป็นเซียนซือทำเนียบวงศ์ตระกูลก็ยังไม่ยาก แต่เหนี่ยนซินผู้นี้ ไม่ว่าช่วงแรกเริ่มสุดนางจะกลายเป็นคนเย็บผ้าได้อย่างไร ในใจของนางจะยินดีหรือไม่ แต่สรุปแล้วก็คือนางตัดสินใจแล้วว่าจะเดินไปบนเส้นทางสายนี้ให้สุดทาง

เด็กชายผมขาวถ่มน้ำลายออกมา ใช้มือสองข้างนวดคลึงแก้ม พูดด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ?!”

เฒ่าหูหนวกถาม “เหนี่ยนซินพูดถูกแล้วจริงๆ หรือ?”

เด็กชายผมขาวเอามือสองข้างสอดกันไว้ในชายแขนเสื้อเลียนแบบท่านบรรพบุรุษของตัวเอง สายตาฉายแววเวทนา มองเหนี่ยนซิน แล้วก็มองเฒ่าหูหนวก คนโง่สองคนนี้ เหตุใดไม่รับกันเป็นบิดากับบุตรสาวไปเสียเลย

หากไม่เป็นเพราะตอนนี้ยังต้องคอยกังวลในเรื่องของมหามรรคา อาจจะรักษาชีวิตไว้ไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นลำพังเพียงแค่อิงตามสถานะของบรรพบุรุษสำนักการทหารอย่างที่เหนี่ยนซินเอ่ยถึง เขาก็สามารถแต่งเรื่องราวอันตระการตาน่าสนใจอย่างเช่นว่าอู๋ซวงเจี้ยงทำให้น้ำท่วมตำหนักเทพวารี ไฟไหม้ศาลเทพอัคคี เหยียบย่ำอารามเสวียนตูจนเละ ตีกลองสวรรค์แหวกม่านฟ้า บุกขึ้นไปโจมตีป๋ายอวี้จิงออกมาได้เป็นชุดๆ อีกทั้งยังรับรองว่าต้องน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน

เขาเบี่ยงตัว กระดกก้นขึ้น เอามือสองข้างและหูแนบติดไว้บนประตูบานเล็ก “เหตุใดถึงไม่มีความเคลื่อนไหวเลย ข้าเป็นห่วงบรรพบุรุษอิ่นกวานยิ่งนัก ด้วยนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นของเขาผู้อาวุโส หากหลอมวัตถุไม่สำเร็จ ต้องมาคิดบัญชีกับข้าแน่ๆ หลานชาย หลานสาว พวกเจ้าสองคนรีบช่วยขอพรพระโพธิสัตว์ให้กับข้าที เอาแบบจริงใจหน่อย หากทำสำเร็จ ข้าจะจดจำคุณความชอบของพวกเจ้าไว้ครั้งหนึ่ง นับแต่วันนี้ไปพวกเราสามคนในครอบครัวก็จะสร้างภูเขากันขึ้นมา บูชาอิ่นกวานเป็นบรรพบุรุษร่วมกัน ไม่ต้องคอยอิจฉาฝ่ายของสิงกวานที่มีคนมากกำลังมากอีก ถึงเวลานั้นตอนที่ข้ารับมือกับสตรีทุบผ้าและเด็กสาวซักผ้านั่น เฒ่าหูหนวกก็คอยต่อยตีกับสิงกวานจนน้ำในสมองไหลออกมา เหนี่ยนซินเจ้าที่อยู่ด้านข้างก็ไปหิ้วถังน้ำใส่…”

เหนี่ยนซินใช้เท้าข้างหนึ่งยันบนหน้าผากของเด็กชายผมขาว ค่อยๆ เพิ่มพละกำลังช้าๆ เป็นเหตุให้ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเทวบุตรมารตนนี้แนบติดกับประตูไปแล้ว

เด็กชายผมขาวไม่โมโหแม้แต่น้อย

เฒ่าหูหนวกรู้สึกอิจฉาเหนี่ยนซินอยู่บ้ง ช่วงเวลาหลายปีที่ตนเพิ่งเจอกับเทวบุตรมารก็เคยงัดข้อกับอีกฝ่ายมาไม่น้อย ส่วนระหว่างมันกับสิงกวาน นั่นก็คืองัดข้อกันมาจนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงมีเพียงกับเหนี่ยนซินเท่านั้นที่ซวงเจี้ยงไม่เคยถือสา เฒ่าหูหนวกไม่ได้กลัวว่าเทวบุตรมารผู้นี้จะก่อปัญหาอะไรได้ แต่อีกฝ่ายพูดมากเสียงดังหาความสงบไม่ได้แบบนี้ก็ชวนให้คนรำคาญนัก ตอนนั้นเทวบุตรมารติดตามไม่ห่างกายเฒ่าหูหนวกถึงแปดสิบปี เฒ่าหูหนวกอยากจะฝึกตนอย่างสงบสักชั่วครู่ชั่วยามยังเป็นเรื่องยาก ภายหลังแค่เรียกอีกฝ่ายว่าท่านปู่ไม่กี่คำก็พอจะสลัดการพัวพันจากมันไปได้บ้าง

เหนี่ยนซินดึงเท้ากลับมา

เด็กชายผมขาวยังคงค้างอยู่ในท่านั้น เอ่ยว่า “เจ้าบอกกล่าวกับท่านบรรพบุรุษอิ่นกวานสักคำ แล้วให้เขาผู้อาวุโสมาบอกกับข้า ข้าจะร่ายชุดคลุมอาคม ‘เจี้ยงจื่อ’ ชุดนั้นออกมาให้เจ้าดู รับรองว่าเจ้าจะได้ดูจนพอใจ”

คล้ายว่าเด็กชายผมขาวจะกังวลว่าเหนี่ยนซินที่เป็นผู้ฝึกลมปราณของใต้หล้าไพศาลจะไม่เข้าใจถึงความเลิศล้ำมหัศจรรย์ของชุดคลุมอาคม ‘เจี้ยงจื่อ’ จึงอธิบายว่า “ชุดอวี่อี (ชุดที่ทำจากขนนกหรือชื่อเรียกชุดของนักพรตเฒ่าหรือเทพเซียน) ของข้า คือหนึ่งในของเลียนแบบสามชิ้นของชุดคลุมที่มรรคาจารย์เต๋าขี่วัวสวมใส่ตอนออกจากด่าน แม้ว่าจะเป็นการถักทอในรุ่นหลัง แต่ปณิธานแห่งเต๋าก็ยังมีมากมายนับไม่ถ้วน นั่นคือหนึ่งในสมบัติพิทักษ์ภูเขาของตำหนักสุ้ยฉู คือแกนกลางของค่ายกลภูเขาสายน้ำ แค่ต้องให้บรรพบุรุษสะบัดเสื้อ ภูเขาก็จะเหมือนถูกห่มทับด้วยชุดอวี่อี ต่อให้เจ้าที่เป็นเซียนกระบี่จะออกกระบี่กี่ร้อยกี่พันครั้ง มันก็ยังแข็งแกร่งมิอาจทำลาย”

กล่าวมาถึงตรงนี้ เด็กชายผมขาวก็หัวเราะเสียงเย็น “ตำหนักสุ้ยฉูมีชื่อเสียงทัดเทียมกับอารามเสวียนตูใหญ่ เหนี่ยนซิน เจ้าลองชั่งน้ำหนักดูเอาเถอะ”

เหนี่ยนซินเอ่ยขอบคุณคำหนึ่ง ไม่เสียเวลาอยู่ตรงหน้าประตูนี้อีก ตัวอักษรบนยันต์ทองตำราหยกนางสามารถใช้มือสาวมันออกมาได้

เฒ่าหูหนวกเอ่ยชมหนึ่งคำ “ช่างเป็นวิธีการที่ดี”

ซวงเจี้ยงลุกขึ้นยืน สะบัดชายแขนเสื้อ “หลานชายคนดี”

เขาทำเช่นนี้ก็ช่วยให้เหนี่ยนซินได้รับโชควาสนาที่ใหญ่เทียมฟ้า แล้วก็ช่วยเฉินผิงอัน ไม่ให้เขาต้องได้รับความทุกข์ทรมานที่เกินความจำเป็นจากน้ำมือของเหนี่ยนซิน ขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้คืนหนี้ในเรื่องของยันต์ทองตำราหยกนี่ได้ด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นการช่วยตัวเองไปในทางอ้อม ก่อนหน้านี้เขาได้รับคำบอกอย่างลับๆ จากเฉินชิงตูแล้ว แทนที่จะเลือกเป็นศัตรูกับเฉินผิงอันในหัวใจ ก็ไม่สู้เลือกเป็นสหายที่อยู่ข้างกายของเฉินผิงอันจะดีกว่า คำชี้แนะนั้นเป็นเรื่องโกหก แค่คำขู่กลับเป็นเรื่องจริง ชัดเจนว่าต้องการให้เขาหยุดมือ ไม่ให้เล่นตุกติก หยุดวางแผนเล่นงาน หรือขุดหลุมหลอกล่อบนจิตใจของเฉินผิงอันอีก

ก่อนหน้านี้ซวงเจี้ยงไม่ได้ข่มขู่เฉินผิงอันจริงๆ เขาไปเยือนทะเลสาบหัวใจอีกฝ่ายอยู่หลายครั้ง ใช้เวทซานซานจิ่วโหวเป็นรากฐาน จากนั้นก็แปลงออกมาเป็นวิชายี่สิบสี่ทิศทางภูเขา ทำการค้นหามังกร จากนั้นก็เลือก ‘พื้นที่มงคล’ แห่งหนึ่ง เลือกช่องโพรงในมุมห่างไกลในฟ้าดินร่างกายมนุษย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ขุดหลุมกลมขนาดใหญ่เท่ากระจกออกมา แล้วทำการขุดดินลึกลงไป หลุมกลมมีชื่อว่า ‘บ่อทอง’ จากนั้นก็กลบทับด้วยกล่องไม้รูปร่างเหมือนหู (เครื่องตวงวัดของจีนในสมับโบราณ ปากแคบก้นใหญ่) หลุมในใจจึงเหมือนถูกปิดทับ เหมือนน้ำในบ่อที่แห้งขอด มองไม่เห็น ‘แสงตะวัน แสงจันทร์ แสงดาว’ อีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!