กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 685

สุดท้ายลี่ไฉ่พาเด็กหนุ่มและเด็กสาวออกไปจากกำแพงเมืองปราณกระบี่

ตอนนี้ที่ภูเขาห้อยหัวไม่มีเรือข้ามทวีปของอุตรกุรุทวีปมาจอดเทียบท่าชั่วคราว พวกเขาจึงหาโรงเตี๊ยมตระกูลเซียนแล้วเข้าพักค้างแรมอย่างเรียบง่าย

ลี่ไฉ่ดื่มเหล้าอยู่เพียงลำพัง

หลี่ถุ่ยมี่ เถาเหวิน โจวเฉิง น่าหลันเย่สิง เกาขุย เหยาชงเต้า ต่งซานเกิง…

จางเซา หลี่ติ้งแห่งธวัลทวีป หยวนชิงสู่แห่งทักษินาตยทวีป หานไหวจื่อแห่งสำนักกระบี่ไท่ฮุย เซี่ยจื้อแห่งฝูเหยาทวีป…

และยังมีผู้ฝึกกระบี่อายุน้อยมากมายขนาดนั้น ในบรรดานั้นยังมีคนไม่น้อยที่อายุพอๆ กับเฉินหลี่ เกาโย่วชิง

ต่อจากนี้มีแต่จะยิ่งมากกว่านี้

ลี่ไฉ่เมามายจนดวงตาปรือปรอย เอนตัวพิงกรอบหน้าต่าง ให้เหล่าเหนียงที่เป็นขอบเขตหยกดิบผายลมสุนัขนี่เมาให้ตายไปเลยเถอะ

เกาโย่วชิงอยู่ในห้องติดกัน เด็กสาวกำลังพยายามปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของภูเขาห้อยหัวที่ต่างจากกำแพงเมืองปราณกระบี่มาก รวมไปถึงความต่างราวฟ้ากับเหวของปราณวิญญาณกับปราณกระบี่

เฉินหลี่เป็นคนใจใหญ่ นอกจากฝึกกระบี่แล้วเขายังไปยืนชั่งน้ำหนักถุงเงินที่ร้านหนึ่งในโรงเตี๊ยมที่ขายสมบัติบนภูเขาโดยเฉพาะ เพราะหอหลิงจือได้ย้ายออกไปแล้ว ก่อนหน้านี้มีการเก็บกวาดคลังสินค้าจึงนำอาวุธวิเศษหลากหลายชนิดที่ระดับขั้นไม่สูงมากมาขายให้กับกองกำลังฝ่ายต่างๆ ในภูเขาห้อยหัวที่สนิทสนมคุ้นเคยกันในราคาถูก โรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นสมบัติอาคมจึงมีไม่มาก ทว่ามองปราดๆ กลับทำให้คนหูตาพร่าลายได้

ลี่ไฉ่ที่คอยสังเกตปณิธานกระบี่บนร่างของเฉินหลี่อยู่ตลอดเวลาขมวดคิ้ว ปราณสังหารของนางพลันท่วมทะยาน พุ่งตัวกระโจนออกไปทันใด

ลี่ไฉ่ยื่นมือไปคว้ากระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มนั้นของเด็กหนุ่มเอาไว้ ฝ่ามือนองไปด้วยเลือด เลือดสดสีแดงฉานหยดลงพื้น แต่นางกลับไม่รู้สึกรู้สาแม้แต่น้อย เพียงเอ่ยกับเฉินหลี่ว่า “ผู้ฝึกกระบี่ตายไปมากมายขนาดนั้นหาใช่เพื่อให้เจ้าพาตัวมาตายที่ใต้หล้าไพศาลไม่ หากอยากตายจริงๆ ก็ได้เหมือนกัน รอให้เจ้ากลายเป็นเซียนกระบี่ก่อนค่อยว่ากัน ผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตชมมหาสมุทรคนหนึ่งตายไป ใครจะจำได้ว่าเจ้าเป็นใคร? หากเจ้ายังควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นนี้อีกก็ไปเป็นผู้ฝึกตนอิสระซะเถอะ ต้องตายเร็วแน่นอน ไม่อย่างนั้นการฝึกตนวันหน้า เจ้าต้องถูกคนอื่นฟันตายเสียก่อน ส่วนข้าก็ถูกเจ้าทำให้โมโหปางตาย ถึงเวลานั้นก็ไม่รู้แล้วว่าจะช่วยเจ้าแก้แค้นอย่างไร”

คนที่กระบี่บินของเฉินหลี่หมายหัวคือเถ้าแก่ร้านที่มีสีหน้าตื่นตระหนกคนหนึ่ง พอเห็นลี่ไฉ่ก็ค้อมเอวเอ่ยขออภัยเซียนกระบี่หญิงท่านนี้ พร่ำพูดเหตุผลมากมายอย่างเช่นว่าตัวเองมีตาแต่ไม่มีแวว ทว่าโทษทัณฑ์ของเขาก็ไม่สมควรถึงแก่ความตาย แน่นอนว่าก็ไม่ถึงขั้นต้องฆ่าฟันกันจริงๆ จะว่าไปแล้วยังเป็นเพราะจิตแห่งกระบี่ของเฉินหลี่เวลานี้ไม่มั่นคง จิตสังหารเข้มข้นเกินไป คนออกมาจากสนามรบแล้ว แต่จิตแห่งกระบี่กลับยังวนเวียนอยู่ที่นั่น

นี่เป็นเรื่องดี แต่หากลี่ไฉ่ไม่สนใจไยดี ถ้าอย่างนั้นต่อให้เฉินหลี่ไปถึงอุตรกุรุทวีปแล้ว ขอแค่ต้องลงจากเขาไปฝึกประสบการณ์ก็ต้องตายแน่นอน

ลี่ไฉ่ปล่อยมือออก เด็กหนุ่มก็รีบเก็บกระบี่บินมาทันที

เฉินหลี่เอ่ยอย่างละอายใจว่า “ข้าไม่ได้รู้สึกไม่พอใจในตัวอาจารย์แม้แต่น้อย กับอุตรกุรุทวีปก็ไม่มีความรู้สึกเช่นนี้เลย”

ลี่ไฉ่ยิ้มเอ่ย “อาจารย์ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ สนแค่ว่าเจ้าตั้งใจฝึกกระบี่หรือไม่ ทะเลสาบกระบี่ฝูผิงจะมีเซียนกระบี่ในหกสิบปีอย่างแท้จริงได้หรือไม่”

เฉินหลี่กล่าวอย่างจริงใจว่า “เลื่อนขั้นเป็นเซียนกระบี่ภายในหกสิบปีค่อนข้างจะยากอยู่บ้าง”

ลี่ไฉ่ตบไหล่เด็กหนุ่ม เช็ดเลือดในฝ่ามือของตัวเองลงบนเสื้ออีกฝ่าย “เป็นบุรุษตัวโตๆ คนหนึ่งก็ควรเอาความองอาจออกมาใช้บ้าง! ลูกศิษย์ผู้สืบทอดของข้าลี่ไฉ่ ต่อให้เป็นแค่ผู้ฝึกกระบี่ห้าขอบเขตกลาง ยามที่พูดคุยกับคนอื่น โดยเฉพาะยามที่ต้องร้องตะโกนว่าจะเข่นฆ่าใคร น้ำเสียงที่ใช้ก็ต้องเป็นน้ำเสียงของเซียนกระบี่ห้าขอบเขตบน!”

ได้ยินคำว่า ‘เซียนกระบี่ร้อยปี’ กับ ‘เซียนกระบี่หกสิบปี’ บุรุษที่เป็นเถ้าแก่ของร้านย่อยในโรงเตี๊ยมก็ถึงกับหนังตากระตุก เสียใจจนไส้เขียวแล้ว จึงรีบคิดหาวิธีที่จะชดเชยแก้ไข

ลี่ไฉ่ใช้เสียงในใจเอ่ยกับเด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มจึงซื้ออาวุธวิเศษสองชิ้นที่ถูกชะตามากมาด้วย ‘ราคาสูง’ อย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ

ตอนที่กลับไปยังที่พัก ลี่ไฉ่ก็ใช้เสียงในใจถามว่า “จำเจ้าหมอนั่นได้แล้วหรือยัง? วันหน้าก็หาทางเอาคืนด้วยตัวเอง”

เฉินหลี่ค่อยๆ คลี่ยิ้ม พยักหน้ารับอย่างแรง

ลี่ไฉ่ไปเคาะประตูห้องของเกาโย่วชิง ดึงแก้มเด็กสาวแล้วบิดเต็มแรง “เฉินหลี่ต้องสำรวมตัวให้มากหน่อย ส่วนเจ้าเกาโย่วชิง เจ้านี่เป็นอย่างไรกันนะ? ขี้ขลาดกลัวมีเรื่องเกินไปหน่อยกระมัง? เฉินหลี่ออกกระบี่อาจารย์ย่อมขัดขวาง แต่ในใจกลับดีใจ เจ้ากลับดีนัก มองดูเรื่องสนุกอยู่ไกลๆ ไม่มีความคิดจะออกกระบี่สักนิดเลยหรือ? อาจารย์อารมณ์ไม่ดีมากๆ เลยนะ!”

เกาโย่วชิงที่ถูกดึงแก้มเอ่ยอย่างขลาดๆ ว่า “อาจารย์ ท่านพี่ข้าบอกกับข้าว่ามาถึงใต้หล้าไพศาลแล้วต้องอดทนแล้วอดทนอีก ห้ามก่อเรื่องไม่เป็นเรื่องเด็ดขาด”

ลี่ไฉ่ร้องถุยคำหนึ่ง “มิน่าเล่าทุกวันนี้เกาเหย่โหวถึงยังเป็นก่อกำเนิดเน่าๆ อยู่”

เกาโย่วชิงตาแดงก่ำทันที

ไม่เพียงแต่คิดถึงพี่ชายที่มีชีวิตพึ่งพากันและกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ยังกังวลด้วยว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้แค่จากเป็นกันเท่านั้น แต่กังวลว่าแท้จริงแล้วนี่จะเป็นจากการตายอย่างไร้เสียงครั้งหนึ่ง

ลี่ไฉ่รีบปล่อยมือออกทันที เอ่ยเสียงนุ่มนวลว่า “ก็ได้ๆ ทนก็ทน แต่อาจารย์จะสอนวิธีลักไก่เล็กๆ ให้พวกเจ้า ตัวเองถูกรังแกก็อดทนไว้ แต่หากสหายร่วมสำนักถูกรังแก เจ้าก็ยืนกรานว่าจะฟันแม่งมันให้ตายท่าเดียวไปเลย ที่ควรฆ่าก็ฆ่า ไม่ควรฆ่าก็อย่าฟันมั่วซั่วนะ แค่ฟันให้ปางตายก็พอ ทะเลสาบกระบี่ฝูผิงของพวกเรายังพอมีเงินอยู่บ้าง พอจะออกค่ายาได้ไหว! เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้ากับเฉินหลี่ อะไรที่ควรอดทนก็ทนไว้ ยามใดที่ต้องระบายโทสะก็ปล่อยออกไปเลย หากสู้ไม่ไหวจริงๆ ก็กลับมาบ้าน แล้วค่อยเรียกให้อาจารย์ไปช่วยไงล่ะ..”

แรกเริ่มเด็กหนุ่มเด็กสาวยังรับฟังอย่างอารมณ์ดี แต่พอได้ยินคำว่า ‘กลับบ้าน’ ก็พากันเงียบงันไปทันที

ลี่ไฉ่ถอนหายใจเบาๆ โบกชายแขนเสื้อเป็นวงกว้างแล้วไปดื่มเหล้าของตัวเองต่อ ทิ้งประโยคหนึ่งไว้ให้พวกลูกศิษย์ว่า “ไปฝึกกระบี่กันเถิด”

……

ในที่สุดเฒ่าหูหนวกก็กลับมาที่คุก โยวอวี้และฉางหมิงต่างก็ติดตามผู้เฒ่ามาเยือนที่ศาลาเป็นครั้งแรก

คุกที่ขังเมิ่งโผไว้ ว่างเปล่าแล้ว

เฒ่าหูหนวกมาถึงขั้นบันไดก็ชำเลืองตามองในศาลา อิ่นกวานหนุ่มสวมชุดคลุมอาคมที่ไม่คุ้นตาชิ้นหนึ่ง ชุดคลุมอาคมตัวนั้นใหญ่มาก ชายแขนเสื้อกว้างลากระไปกับพื้น

เฉินผิงอันเหมือนคนเข้าฌาน ไม่รับรู้ถึงการมาเยือนของเฒ่าหูหนวกเลยแม้แต่น้อย

เฒ่าหูหนวกยื่นมือออกไปคว้า บังคับปิ่นหยกบนมวยผมของเฉินผิงอันให้มาหยุดลอยอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วเอ่ยเสียงทุ้มหนักว่า “เซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโสต้องการยืมใช้ของสิ่งนี้ เพียงไม่นานก็จะเอามาคืนอิ่นกวานแล้ว”

เฉินผิงอันยังคงนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้าน

เฒ่าหูหนวกจึงเหลือบตามองเหนี่ยนซินที่นั่งอยู่ด้านล่างของขั้นบันได แล้วเก็บปิ่นหยกเข้าไปไว้ในชายแขนเสื้ออย่างระมัดระวัง ผู้เฒ่าไม่เชื่อใจเทวบุตรมารนอกโลกตนนั้น แต่กับแม่นางน้อยที่ดื้อดึงผู้นั้น เขายังรู้สึกว่านางพึ่งพาได้

เหนี่ยนซินสัมผัสได้ถึงสายตาของเฒ่าหูหนวกที่มองมา จึงเปิดปากเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร เขารนหาที่เอง ไม่เกี่ยวกับซวงเจี้ยงสักเท่าไร”

สตรีที่จำแลงร่างมาจากเงินเหรียญทองแดงแก่นทองขมวดคิ้วน้อยๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!