ตอน บทที่ 690.3 เรื่องราวเล็กๆ ของคนหนุ่มคนหนึ่ง จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 690.3 เรื่องราวเล็กๆ ของคนหนุ่มคนหนึ่ง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หลิ่วชื่อเฉิงหันหน้ากลับมามองหญิงสาวผู้นั้นอย่างเหม่อลอย
หลี่หลิ่วถาม “อยากตายหรือ?”
หลิ่วชื่อเฉิงกล่าวอย่างน้อยใจ “อ้อ? ศิษย์พี่ของข้าอยู่ห่างไปไม่ไกลนะ”
หลี่หลิ่วถาม “ถ้าอย่างนั้นข้าช่วยเรียกเจิ้งจวีจงมาให้เจ้าดีไหมล่ะ?”
เจ้านครจักรพรรดิขาวชื่อจริงคือเจิ้งจวีจง นามไหวเซียน (ชื่อใช้คำว่า 名 นามใช้คำว่า 字 ชื่อหมายถึงชื่อที่มีมาตั้งแต่เกิด นามจะได้มาตอนที่เข้าพิธีสวมกวานหรือพิธีปักปิ่นซึ่งแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วชื่อมีไว้ให้ผู้ใหญ่เรียก นามมีไว้ให้ผู้น้อยหรือเด็กรุ่นหลังเรียก)
เพียงแต่ว่าในใต้หล้าไพศาลแห่งนี้มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าเรียกชื่อของผู้นำแห่งวิถีมารท่านนี้โดยตรง
หลิ่วชื่อเฉิงส่ายหน้าทันที “ไม่ต้องๆ ข้ามีธุระ ต้องไปก่อนแล้ว”
หลิ่วชื่อเฉิงตะเบ็งเสียงเรียกน้องหลงป๋อ บอกว่าพวกเราควรเดินทางได้แล้ว ไฉ่ป๋อฝูกลืนน้ำลาย ลุกขึ้นยืนอย่างกล้าๆ กลัวๆ แล้วทะยานลมจากไปอย่างระมัดระวัง
กู้ช่านกุมหมัดบอกลาหลี่หลิ่วแล้วจากไปทั้งอย่างนั้น
ถึงอย่างไรก็เป็นคนบ้านเดียวกัน กู้ช่านจึงไม่ได้กริ่งเกรงในตัวหลี่หลิ่วสักเท่าไร ต่อให้นางจะเหยียบหินพักมังกรให้แตกด้วยฝ่าเท้าเดียว สภาพจิตใจของกู้ช่านก็ไม่ได้มีริ้วคลื่นกระเพื่อมมากนัก
ดังนั้นบนที่ตั้งเดิมของหินพักมังกรจึงเหลือแค่ผู้เฒ่าชาวประมงที่เป็นเซียนจับปลา รอกระทั่งพวกหลิ่วชื่อเฉิงสามคนจากไปไกล ผู้เฒ่าชาวประมงจึงคุกเข่าลงหมอบกราบกับพื้น เอ่ยเสียงสั่นว่า “เสมียนเก่าของหลุมน้ำลู่คารวะ…”
หลี่หลิ่วขมวดคิ้ว ตัดบทคำพูดของผู้เฒ่าชาวประมง “เจ้าพาตู๋ฉีหลางแห่งทะเลทักษิณทั้งหมดไปที่ลำน้ำของอุตรกุรุทวีปช่วยเหลือเสิ่นหลินแห่งตำหนักวารีหนันซวิน นางจะกลายเป็นหลิงหยวนกงคนใหม่ แต่ขอบเขตยังไม่มากพอ”
ชาวประมงผู้เฒ่ายังคงไม่กล้าลุกขึ้นยืน เพียงเอ่ยเสียงดังว่า “ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
หลี่หลิ่วยื่นมือออกไปคว้าจับ หินพักมังกรที่แหลกสลายเตรียมจมลงสู่ท้องทะเลมารวมตัวกันกลายเป็นไข่มุกเม็ดหนึ่งที่ถูกนางเก็บไว้ในชายแขนเสื้อ
หลังจากที่ร่างของเฒ่าชาวประมงหายไป เหวยไท่เจินก็มาอยู่ข้างกายหลี่หลิ่ว ถามเบาๆ ว่า “นายท่าน?”
หลี่หลิ่วกล่าว “ไปที่หลุมน้ำลู่ก่อน เจิ้งจวีจงอยู่ที่นั่นแล้ว”
เพียงแต่ว่าหลี่หลิ่วที่ทะยานลมไปหลุมน้ำลู่ยังคงไม่รีบไม่ร้อน แล้วจู่ๆ นางก็ยิ้มเอ่ยว่า “กลับไปให้เร็วสักหน่อย น้องชายข้าน่าจะไปถึงอุตรกุรุทวีปแล้ว”
เหวยไท่เจินพยักหน้ารับเบาๆ
ดังนั้นหลี่หลิ่วจึงกระชากไหล่ของภูตจิ้งจอกมา พริบตาเดียวร่างของพวกนางก็ไปโผล่ที่หลุมน้ำลู่
หลุมน้ำลู่เหมือนนครแห่งหนึ่ง หอเรือนงดงามตั้งเรียงราย ตำหนักมากมายนับไม่ถ้วน
เจ้านครจักรพรรดิขาวยืนอยู่บนยอดสุดของขั้นบันไดนอกตำหนักหลัก ข้างกายมีสตรีสวมชุดขาววังเรือนกายอ้วนฉุคนหนึ่งยืนอยู่ พอเห็นหลี่หลิ่วก็ถามเสียงเบาว่า “เจ้านคร คนผู้นี้? ใช่จริงๆ หรือ?”
บุรุษยิ้มกล่าว “เจ้าไม่ควรหลอมหลุมน้ำลู่แห่งนี้เป็นวัตถุแห่งชะตาชีวิต”
หลี่หลิ่วเดินขึ้นสูงไปทีละก้าว สตรีสวมชุดชาววังพลันหน้าแดงก่ำ งอเข่าสองข้างลงเล็กน้อย รอกระทั่งหลี่หลิ่วเดินมาถึงช่วงกลางของขั้นบันได เข่าของสตรีก็ย่อจนแทบจะติดพื้น พอหลี่หลิ่วเดินไปถึงยอดสูงสุดของบันได สตรีก็ลงไปหมอบคลานอยู่กับพื้นแล้ว
บุรุษไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย ลำพังเพียงแค่หลุมน้ำลู่แห่งเดียว ให้มันแบกรับน้ำหนักของน้ำทะเลทั้งหมดในรัศมีหมื่นลี้ ขอบเขตบินทะยานย่อมต้องเปลืองแรงมากอยู่แล้ว
หลี่หลิ่วเหยียบลงบนหัวของปีศาจใหญ่ขอบเขตบินทะยาน เอ่ยกับบุรุษผู้นั้นว่า “เจอกันอีกแล้ว”
เจ้านครจักรพรรดิขาวยิ้มเอ่ย “คิดจะใช้ชีวิตนี้ให้มีแค่ชีวิตนี้จริงๆ หรือ?”
หลี่หลิ่วมองไปยังทิศไกล ยังคงเหยียบอยู่บนหัวของขอบเขตบินทะยานตนนั้น พยักหน้าเอ่ยว่า “ถึงอย่างไรก็ต้องให้จบสิ้นกันสักที”
……
ท้องฟ้าใสกว้างไกลหมื่นลี้ ดวงตะวันลอยสูงกลางนภา
เด็กชายชุดเขียวกับเด็กหนุ่มชุดดำคนหนึ่งทะยานลมไกลพันลี้จากลำน้ำใหญ่มายังจุดที่สูงอย่างถึงที่สุด หลุบตาลงต่ำมองพื้นดิน คืออาณาเขตของแคว้นเล็กใต้อาณัติของราชวงศ์ต้าหยวน สถานที่แห่งนี้แห้งแล้งอากาศร้อนระอุ ไม่มีฝนติดต่อกันมานานหลายเดือนจนนับไม่ถ้วนแล้ว เปลือกต้นไม้ถูกคนเอามากินจนสิ้น ชาวบ้านลี้ภัยกระจายตัวไปอยู่แคว้นอื่น เพียงแต่ว่าชาวบ้านที่พลัดที่นาคาที่อยู่จะสามารถเดินทางได้ไกลสักเท่าไรกันเชียว นี่จึงเป็นเหตุให้มีคนหิวตายระหว่างทางไปเป็นจำนวนมาก กระดูกขาวโพลนกลาดเกลื่อน ศพคนตายนอนหนุนทับซ้อนกัน น่าสังเวชจนแทบทนมองดูไม่ได้
เฉินหลิงจวินพูดอย่างอ่อนระโหยโรยแรง “ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมข้าแล้ว ตอนนี้ข้ากลัวจะตายอยู่แล้ว เจ้าเป็นพี่น้องที่ไร้คุณธรรมจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าข้าไม่มีทางเปลี่ยนความคิด กลับยังขู่ข้าแบบนี้อีก”
หลี่หยวนถอนหายใจ “ก็ได้ๆ มีแค่พี่น้องที่ดีแต่มีสุขร่วมเสพเท่านั้นที่ไม่ถือว่าเป็นพี่น้องที่แท้จริง ต้องดูด้วยว่ากล้ามีทุกข์ร่วมต้านหรือไม่ ไป ว่าที่หลงถิงโหวในอนาคตอย่างข้าจะพาเจ้าไปพบว่าที่หลิงหยวนกงแห่งลำน้ำในอนาคต! ขอแค่นางยอมพยักหน้าตอบตกลง ต่อให้พวกเทพเซียนของสกุลหยางหน่วยฉงเสวียนจะจดจำความแค้นนี้ไว้ในใจก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก ส่วนทางฝั่งของสำนักมังกรน้ำนั้น ซุนเจี๋ยและเส้าจิ้งจือ ข้าที่เป็นสุ่ยหยวนตัวเล็กๆ ก็พอจะจัดการได้อยู่บ้าง”
เฉินหลิงจวินดีใจอย่างยิ่ง จากนั้นก็ถามอย่างใคร่รู้ว่า “ว่าที่หลิงหยวนกงแห่งลำน้ำ? ข้าควรต้องเตรียมของขวัญพบหน้าไปด้วยหรือไม่?”
หากสามารถทำเรื่องนี้ได้จริง ต่อให้ต้องมอบข้องราชามังกรใบหนึ่งออกไป เขาก็จะอดทนไว้!
หลี่ยิ้มหัวเราะร่าเอ่ยว่า “ก็คือพี่สาวเสิ่นหลินในตำหนักวารีหนันซวินที่ถูกเจ้าชมจนหัวเราะเบิกบานอย่างไรล่ะ”
หัวเราะเบิกบานแน่นอนว่าเป็นหลี่หยวนที่พูดเกินจริงไปเอง ส่วนที่เฉินหลิงจวินพร่ำพูดว่าพี่หญิงเสิ่นหลินงดงามนั้นกลับเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน
เฉินหลิงจวินไม่กล้าเชื่อ มองแผ่นดินใต้ฝ่าเท้าแวบหนึ่ง “เจ้าอย่าได้หลอกข้านะ ไปๆ มาๆ นี่อาจจะ…”
เฉินหลิงจวินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยต่อว่า “อาจจะมีคนตายเยอะมาก”
หลี่หยวนหุบยิ้ม กล่าวว่า “ในเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราพี่น้องก็ควรร่วมแรงร่วมใจกัน ข้าจะให้เจ้ายืมแผ่นหยกแผ่นหนึ่ง สามารถใช้เวทน้ำบรรจุน้ำในอาณาเขตขององค์เทพวารีทั่วไปทั้งสายได้ เจ้าก็ไปย้ายน้ำที่ลำน้ำใหญ่ได้โดยตรงเลย ส่วนข้าจะไปหาเสิ่นหลินที่ตำหนักวารีหนันซวิน ไปขอโองการหลิงหยวนกงจากนางมาหนึ่งฉบับ นางใกล้จะได้เลื่อนขั้นเป็นหลิงหยวนกงของลำน้ำใหญ่แล้ว นี่เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว เพราะทางสำนักศึกษาและหน่วยฉงเสวียนของต้าหยวนต่างก็ได้รับข่าวแล้วก็รับรู้กันแล้ว มีเพียงหลงถิงโหวอย่างข้าเท่านั้นที่อาจจะยังมีการเปลี่ยนแปลงได้บ้าง ทุกวันนี้อย่างมากสุดก็ได้แต่วางทำเนียบไว้ในศาลบรรพจารย์สำนักมังกรน้ำเท่านั้น”
หลี่หยวนมอบป้าย ‘ฝนหวานสามฉื่อ’ ให้กับเฉินหลิงจวิน แล้วทะยานลมเดินทางไกล ย้อนกลับไปที่ถ้ำสวรรค์วังมังกรก่อน
เฉินหลิงจวินถือป้ายหยกไว้ในมือ ไปยังพื้นที่เงียบสงบแห่งหนึ่งริมตลิ่งลำน้ำใหญ่ แอบกระโดดลงไปในน้ำแล้วเริ่มใช้วิชาน้ำแห่งชะตาชีวิตบรรจุน้ำใส่ไว้ในแผ่นหยกเงียบๆ
หลี่หยวนไปที่ศาลบรรพจารย์ของสำนักมังกรน้ำก่อน บอกกล่าวว่าครั้งนี้เขามาเยือนด้วยตัวเองก็เพื่อย้ายน้ำโปรยฝน สำนักมังกรน้ำสามารถพูดเรื่องนี้กับหน่วยฉงเสวียนได้ตามตรง เจ้าสำนักซุนเจี๋ยยิ้มพลางพยักหน้ารับ
หลี่หยวนเบิกตากว้าง “มารดาเถอะ เจ้าจะบอกตรงๆ เลยจริงหรือ? ไม่กลัวว่าข้าจะถูกเทพเซียนผู้เฒ่าสกุลหยางมาหาถึงบ้านแล้วลากออกมาฟันตายหรอกหรือ?”
ซุนเจี๋ยยิ้มกล่าว “ต่อให้ตำหนักนภากาศหน่วยฉงเสวียนจะมีอำนาจมากแค่ไหนก็ไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก”
หลี่หยวนลูบคลำปลายคาง “ก็จริงนะ ข้ากับฮว่อหลงเจินเหรินคือคู่พี่น้องที่กอดคอกันได้ หน่วยฉงเสวียนเล็กๆ แห่งหนึ่งจะนับเป็นอะไรได้ กล้าฆ่าข้า ข้าก็จะไปร้องไห้กอดขาของฮว่อหลงเจินหลงอยู่ที่ยอดเขาพาตี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!