กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 691

สถานการณ์ของฟ้าดินแห่งนี้เป็นอย่างไร มีข้อพิถีพิถันและกฎเกณฑ์ใดบ้าง หนิงเหยาไม่ถามแม้แต่ครึ่งคำ

บัณฑิตพยักหน้า “ไม่เสียแรงที่เป็นผู้ฝึกกระบี่ของกำแพงเมืองปราณกระบี่ นับหมื่นปีที่ผ่านมา ไม่เคยขอร้องให้ใครช่วย”

ซิ่วไฉเฒ่านั่งแปะลงไปบนพื้นอย่างห่อเหี่ยว “ลูกศิษย์คนสุดท้ายของข้า ถึงท้ายที่สุดแล้วสามารถขอร้องใครได้บ้างล่ะ อาจารย์อย่างข้าหรือ? ศิษย์พี่ของเขาหรือ? เจ้าฟันข้าให้ตายไปเลยเถอะ อาจารย์อย่างข้านี่มันไม่ได้เรื่องเลย…”

บัณฑิตถาม “จะให้ฟันตรงไหนล่ะ?”

ซิ่วไฉเฒ่ารีบลุกขึ้นยืน ปัดฝุ่นบนร่าง กระแอมหนึ่งที “ป๋ายเหย่อ่า เหตุใดเจ้าถึงได้ไม่รู้จักพูดล้อพูดเล่นบ้างเลย วันหน้าต้องเปลี่ยนนิสัยบ้างนะ”

บัณฑิตจำแลงร่างเป็นแสงกระบี่เส้นหนึ่งไปยุ่งอยู่กับการเปิดประตูต่อ ลำพังเพียงแค่เพื่อทักษินาตยทวีป ฝูเหยาทวีปและใบถงทวีปของใต้หล้าไพศาล เขาก็ต้องพกกระบี่ไปเปิดประตูใหญ่ถึงสามบานแล้ว

ในนครที่หล่นร่วงลงพื้น

หนิงเหยาขี่กระบี่และฝ่าทะลุขั้นเรียบร้อยแล้ว

กลายเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตหยกดิบคนแรกของใต้หล้าใหม่แห่งนี้

นับแต่วันนี้ไปนางจะเป็นผู้นำของสายอิ่นกวาน คฤหาสน์หลบร้อนมีต่งปู้เต๋อ หลัวเจินอี้ สวีหนิง ฉางไท่ชิง กวอจู๋จิ่ว กู้เจี้ยนหลง หวังซินสุ่ย รวมไปถึงฟ่านต้าเช่อที่เพิ่งเข้ามารวมกลุ่มใหม่

ดังนั้นสายอิ่นกวานในทุกวันนี้จึงมีกันอยู่ทั้งหมดแค่เก้าคน มีหน้าที่คอยควบคุมดูแลกฎ ตรวจสอบผู้ฝึกกระบี่ทุกคน

ส่วนสายของสิงกวานที่ฉีโซ่วขอบเขตก่อกำเนิดรับผิดชอบเป็นผู้สร้างขึ้นใหม่จะทำหน้าที่ลงทัณฑ์ สังหาร ผู้ฝึกยุทธที่อยู่ในคฤหาสน์หลบหนาว วันหน้าก็จะถือเป็นคนของสายสิงกวานเช่นกัน

ผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตโอสถทองและก่อกำเนิดในทุกวันนี้ล้วนจะถูกคัดเข้าสายสิงกวานโดยอัตโนมัติ หากอยากจะออกจากสายนี้ก็ต้องเอาคุณความชอบทางการสู้รบมาแลกเปลี่ยน หลังจากนั้นจะออกจากนครไปก่อสำนักตั้งพรรคก็ตามแต่ใจ แต่หากทางนครส่งกระบี่บินไปเรียกตัว ผู้ฝึกตนคนใดที่กล้าไม่หวนกลับมา ล้วนจะถูกมองเป็นศัตรู ต้องสังหารให้สิ้น

ในบรรดานั้นมีสตรีนามเหนี่ยนซินสวมชุดคลุมอาคมลักษณะเหมือนชุดถ้ำสวรรค์เทพเซียน ดูเหมือนจะเพิ่งหายจากอาการป่วยหนัก ทุกวันนี้นางมีขอบเขตก่อกำเนิด ไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ แต่กลับเป็นผู้ช่วยอันดับสองของสิงกวาน

ในนครเริ่มมีการสร้างศาลบรรพจารย์ ภาพเหมือนที่แขวนไว้มีเพียงภาพเดียว เฉินชิงตู

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก การเลือกที่ตั้งแห่งใหม่ของหอภูษา หอกระบี่และหอโอสถ ก็หนีไม่พ้นต้องทำไปตามลำดับขั้นตอน เรื่องพวกนี้มีระเบียบแบบแผนมานานแล้ว จึงเป็นเหตุให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

ในขณะที่หนิงเหยาออกจากเมืองไปก่อนใคร ผู้ฝึกกระบี่อีกแปดคนของสายอิ่นกวานก็จับคู่กันสองคน แยกย้ายกันเลือกทิศทางหนึ่ง ขี่กระบี่ออกเดินทางไกลไปนอกเมือง จำเป็นต้องวาดแผนที่ภูมิศาสตร์แห่งหนึ่งขึ้นมา หากเจออุปสรรคกลางทางก็จะส่งข่าวกระบี่บินมาแจ้งให้ผู้ฝึกกระบี่สายสิงกวานที่มีฉีโซ่ว หน่วนซินเป็นผู้รับผิดชอบให้ไปช่วยเหลือ

เกาเหย่โหวรับผิดชอบดูแลเรื่องตะเกียงแห่งชะตาชีวิต คนที่รู้เรื่องนี้มีน้อยจนนับนิ้วได้

เหนี่ยนซินที่ถดถอยจากขอบเขตหยกดิบได้ออกจากคุกแฝงตัวเข้ามาในนคร มาเยือนที่ใต้หล้าแห่งนี้พร้อมกับทุกคน บนร่างของนางพกป้ายหยกอิ่นกวานเอาไว้ ตามข้อตกลงจึงไม่ได้มอบมันให้กับสายอิ่นกวานทันที

ตามคำบอกของอิ่นกวานหนุ่ม มีเพียงเกิดสถานการณ์สองอย่างขึ้นเท่านั้นนางถึงจะนำป้ายหยกแผ่นนี้มาแสดงต่อหน้าผู้คนได้

หนิงเหยาเจอกับอันตราย

หรือเฉินซีที่สละร่างไปเกิดใหม่ยังไม่ทันเติบโตก็ถูกสายสิงกวานของฉีโซ่วช่วงชิงอำนาจ

เหนี่ยนซินมาเยือนร้านเหล้าแห่งนั้นเพียงลำพัง ทุกวันนี้ไม่มีเถ้าแก่แล้ว เถ้าแก่ใหญ่เตี๋ยจ้างไปอยู่ใต้หล้าไพศาล เถ้าแก่รองอยู่ต่อบนหัวกำแพงเมือง

นครเพิ่งร่วงลงพื้นได้ไม่นานเท่าไร ราวกับว่าสงครามใหญ่ครั้งนั้นยังปรากฏอยู่ตรงหน้า ดังนั้นจึงไม่มีลูกค้าใดๆ

เหนี่ยนซินสั่งเหล้าทะเลสาบคนใบ้มาหนึ่งกา ดื่มเหล้าเพียงลำพัง ก่อนจะดื่มเหล้า นางยกถ้วยเหล้าที่ไม่ใหญ่ขึ้นคารวะคนที่อยู่ต่างบ้านต่างเมืองซึ่งอายุก็ไม่มากเช่นกัน

……

ผู้คนตลอดทั้งสำนักอวี่หลงล้วนมึนงงกันไปหมด

อันดับแรกก็เป็นตำหนักสุ่ยจิงของภูเขาห้อยหัวที่อยู่ดีๆ ก็ถูกคนพลิกโยนลงมหาสมุทร เหล่าผู้ฝึกลมปราณได้แต่กลับมาสำนักอย่างกระเซอะกระเซิง

จากนั้นไม่นานคนหนุ่มที่หน้าตางดงาม ตรงเอวห้อยน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ผู้หนึ่งก็ทะยานลมมายังยอดบนสุดของเทวรูปเทพพิรุณของสำนักอวี่หลง บอกว่าตัวเองมาจากใต้หล้าเปลี่ยวร้าง คือเผ่าปีศาจอย่างจริงแท้แน่นอน ขอทุกท่านโปรดสังหารสัตว์เดรัจฉานเช่นมัน

ชายหนุ่มยิ้มกว้างเจิดจ้า ยกสองมือขึ้นแสดงให้เห็นว่าตนตัดสินใจแล้วว่าจะนิ่งดูดายรอความตาย จะไม่เอาคืนใครอย่างแน่นอน

เจ้าสำนักหญิงของสำนักอวี่หลง หรือก็คือศิษย์พี่หญิงของอวิ๋นเชียนพาผู้ฝึกตนทุกคนในศาลบรรพจารย์มาที่ยอดเขา แหงนหน้ามองคุณชายรูปงามผู้นั้น

ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักอวี่หลงใช้เสียงในใจเอ่ยว่า สำนักอวี่หลงเคยมีสัญญาลับอย่างหนึ่งกับบรรพจารย์ของถ้ำซานสุ่ยแห่งฝูเหยาทวีปและผู้อาวุโสที่สิงร่างของเปียนจิ้ง

ภูเขาห้อยหัวทั้งลูกบินทะยานจากไปแล้ว

ผู้ฝึกตนสำนักอวี่หลงที่ขอแค่ไม่ใช่คนตาบอดก็ล้วนมองเห็น

และปีศาจที่มาเยือนยอดเทวรูปเทพพิรุณของสำนักอวี่หลงผู้นี้ก็ขอร้องให้คนอื่นฆ่ามัน ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ากำแพงเมืองปราณกระบี่ที่เฝ้าพิทักษ์มาได้นานนับหมื่นปีถูกตีแตกแล้ว ไม่อาจจินตนาการได้เลย แต่กลับเป็นเรื่องจริงที่สามารถคิดได้ถึง แล้วก็จำต้องยอมรับให้ได้

เซียนดินที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสำนักอวี่หลงอย่างฟู่เค่อและคู่รักเทพเซียนสองคนของเขายืนอยู่ด้านหลังเหล่าผู้อาวุโสของศาลบรรพจารย์ด้วยกัน

ชายหนุ่มที่บอกแค่ว่าตนเองคือเผ่าปีศาจดีดนิ้วเบาๆ หญิงชราก่อกำเนิดที่เป็นผู้อาวุโสของสำนักอวี่หลงก็ถูกสังหารตายคาที่

พอฆ่าคนเสร็จแล้ว บุรุษก็ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “หน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้ก็จะถือว่าหญิงชราอย่างเจ้ามีเจตนาร้าย คิดจะทำให้ข้าตกใจตาย อ้อ ใช่แล้ว ลืมบอกชื่อ ได้ยินมาว่าใต้หล้าไพศาลของพวกเจ้าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุด”

เขาใช้สองนิ้วของมือข้างหนึ่งพันเส้นผมที่ระลงมาตรงจอนหู มือข้างหนึ่งตบน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ตรงเอว ยิ้มตาหยีเอ่ย “ข้าชื่อจิ่วเย่ เพราะว่าเกิดมาก็ชื่นชอบแค่สองอย่าง หนึ่งคือสุรารสเลิศ หนึ่งคือสาวงาม สำนักอวี่หลงของพวกเจ้าไม่ขาดสองอย่างนี้พอดี ดังนั้นข้าก็เลยมาที่นี่ก่อน ชื่อนี้หากพวกเจ้าไม่รู้จักก็ปกติมาก เพราะเป็นชื่อใหม่ที่ตั้งให้สำหรับใต้หล้าไพศาลของพวกเจ้าโดยเฉพาะ เมื่อก่อนชื่อว่าเชี่ยอวิ้น”

หลังจากที่ผู้ฝึกตนของสำนักอวี่หลงได้ยินคำว่า ‘เชี่ยอวิ้น’ ก็มีสีหน้าเหมือนขี้เถ้ามอด

ปีศาจใหญ่บนบัลลังก์ตนหนึ่ง

เพราะสำนักอวี่หลงเปิดสำนักมานานมากแล้ว อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับภูเขาห้อยหัวและกำแพงเมืองปราณกระบี่มาก เป็นเหตุให้รู้เรื่องวงในของใต้หล้าเปลี่ยวร้างมาค่อนข้างเยอะ

ยกตัวอย่างเช่นสิบสี่บัลลังก์ในบ่อโบราณ นอกจากนายแห่งภูเขาทัวเยว่ บรรพบุรุษใหญ่ของใต้หล้าเปลี่ยวร้างผู้นั้นแล้ว ก็ยังแบ่งเป็นโจวมี่ ‘มหาสมุทรความรู้’ จอมยุทธพเนจรหลิวชา เหย้าเจี่ย หลงจวิน เจ้าอารามดอกบัว ป๋ายอิ๋ง หย่างจื่อ เฟยเฟย หวงหลวน

นอกจากนี้ก็ยังมีองค์เทพเกราะทองที่เล่าลือกันว่ามรรคจารย์เต๋าใช้มรรคกถากำราบเอาไว้ วานรย้ายภูเขาขี่กระบี่ที่แบกทวนยาวไว้บนบ่า ยักษ์ร่างกำยำสามเศียรหกกร รวมไปถึงผู้ที่ได้ครอบครองทวนสายฟ้าดึกดำบรรพ์เล่มหนึ่ง

เพียงแต่ว่าเรื่องที่สำนักอวี่หลงไม่รู้ก็คือ ตอนนี้เจ้าอารามดอกบัวตายแล้ว ปีศาจใหญ่ขอบเขตบินทะยานฉงกวงถูกเฉินซีสังหาร ส่วนปีศาจใหญ่ห้าขอบเขตบนและเซียนดินคนอื่น เพื่อทำลายกำแพงเมืองปราณกระบี่ หลายปีมานี้จึงได้รับความเสียหายอย่างแสนสาหัส

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!