เด็กสาวหน้าตางดงามเรือนกายอรชรอ้อนแอ้นคนหนึ่ง ‘แหวกพื้นดิน’ ออกมาจากพื้นนอกร้าน นางก็คือเทพแห่งผืนดินของภูเขามู่อี
สีหน้าของนางเคร่งเครียด “พวกเจ้าสองคนคนหนึ่งกล้าตอบตกลงกับข้า อีกคนหนึ่งกล้าตอบตกลงกับนาง อันที่จริงนี่เป็นเรื่องที่อันตรายมาก ข้าบอกไว้ก่อนเลยว่า แม้ว่าสำนักพีหมาของพวกเจ้าจะเชี่ยวชาญวิถีของวิญญาณ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็อาจเกิดขึ้นได้ หากจะถามข้า ข้าว่าให้นางไปเป็นเทพหญิงที่แขวนชื่อไว้ในลำคลองเหยาเย่ยังดีกว่า ต่อให้ในความเป็นจริงแล้วจะยังเป็นพวกผีสาวที่จิตวิญญาณถูกกักขัง ไม่ได้มีสถานะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเทียบกับการที่ต้องเสี่ยงอันตรายเป็นเทพแห่งผืนดินกลับปลอดภัยกว่ามากนัก ตาเฒ่าคนเรือเซวียก็อยู่ใต้อาณัติของสำนักพีหมา ไม่มีทางไม่เห็นแก่หน้าเจ้าผังหลันซีหรอก”
ผังหลันซีคิดแล้วก็เอ่ยว่า “ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ต้องรีบร้อน วันหน้าข้าจะไปถามเฉินผิงอันดู เขาเป็นคนที่คิดอะไรรอบคอบที่สุดแล้ว”
กล่าวมาถึงตรงนี้ ผังหลันซีก็กระตุกคอเสื้อ “ข้าเป็นถึงผู้ถวายงานที่ได้รับการบันทึกชื่อของภูเขาลั่วพั่วเชียวนะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เขาจะไม่ช่วยเลยหรือ?”
หญิงสาวคลี่ยิ้มพลางพยักหน้ารับ ยื่นนิ้วไปเกี่ยวกับมือของผังหลันซีเบาๆ ผังหลันซีพลิกมือกลับเป็นฝ่ายกอบกุมมือเรียวยาวนุ่มนิ่มของนางเอาไว้
เด็กสาวเทพเจ้าที่จุ๊ปากพูด “เลี่ยน เลี่ยนจริงๆ ทำไมไม่ปิดร้านทำเรื่องเหลวไหลไปทีเดียวเลยเล่า? ข้าไม่แอบดูแอบฟังอะไรหรอก”
……
บรรพจารย์สำนักเบื้องบนที่แล้งน้ำใจจนสร้างความเดือดดาลให้กับคนมากมายในสำนักพีหมาไม่ได้ออกไปจากภูเขามู่อีอย่างรู้กาลควร กลับกันยังพาคู่รักหนุ่มสาวจากหน่วยอู๋ฉางของสำนักเบื้องบนมาพักอาศัยอยู่ที่นี่ต่อด้วย นานๆ ทีจะได้ออกจากบ้าน ก็ควรต้องไปเดินเที่ยวให้มาก มีเรื่องอะไรก็แค่ส่งกระบี่บินแจ้งข่าวมาเป็นพอ อันที่จริงบรรพจารย์น่าหลันอยากจะไปเยือนสำนักฝูจีของใบถงทวีปดูสักครั้ง เวทฝูจี (ลักษณะคล้ายกับการเล่นผีถ้วยแก้ว เป็นกิจกรรมทางไสยศาสตร์ ในสมัยโบราณของจีนจะใช้ไม้ยาวท่อนหนึ่งผูกท่อนไม้ไว้ ด้านล่างเป็นกระบะทราย คนสองคนจับปลายไม้ยาวคนละฝั่ง หากท่อนไม้ที่ผูกไว้เขียนเป็นตัวอักษรคำใดลงบนทรายก็จะถือว่าเป็นคำชี้แนะจากเทพเจ้า) ของที่นั่นมหัศจรรย์อย่างยิ่ง
แต่บรรพจารย์ก็ไม่ได้อยู่ว่าง ทุกวันจะดูบุปผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำ หลักๆ แล้วก็เพื่อสะดวกให้ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ล่าสุดบนภูเขาของทักษินาตยทวีปและฝูเหยาทวี หรือไม่ก็ร่ายเวทอภินิหารมองขุนเขาสายน้ำผ่านฝ่ามือ มองดูลำคลองเหยาเย่ ไม่อย่างนั้นก็เปิดบทรวบรวมกวีที่ตนเองรวบรวมไว้ เขาคว้าเมฆขาวส่วนหนึ่งจากนอกศาลาแขวนกระบี่กลางภูเขามาทำเป็นโต๊ะหนังสือ วางกระดาษรวบรวมบทกวีไว้ปึกใหญ่ จากนั้นก็หยิบเอาดวงจันทร์ในน้ำของลำคลองเหยาเย่มาแขวนไว้ข้างโต๊ะต่างตะเกียง
เซียนซือบนภูเขามีทั้งปลาและมังกรปะปนกัน แม้จะบอกว่าก็มีคนที่ชอบลงไปเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์เช่นไปเป็นชาวไร่ชาวนา ไปเป็นบัณฑิต แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงเหมือนบรรพจารย์น่าหลันที่ไม่แตะต้องฝุ่นธุลีในโลกโลกีย์ เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งเซียน
ทว่าในความเป็นจริงแล้วนักพรตผู้เฒ่ากลับมีชาติกำเนิดมาจากชาวบ้านธรรมดา หาใช่ลูกหลานตระกูลชนชั้นสูง ยิ่งไม่ใช่เมล็ดพันธ์เทพเซียนบนภูเขา เพียงแต่ว่าขึ้นเขามาฝึกตนตั้งแต่เด็กแล้ว
คืนหนึ่งผู้ฝึกตนเฒ่าปิดตำรารวมกวีเล่มหนึ่ง
จำได้ว่าครั้งแรกที่ตนออกจากบ้านเดินทางไกล อาจารย์มาส่งถึงหน้าประตูภูเขาแล้วเอ่ยว่า ‘เข้าภูเขาไปเถอะ’
เด็กหนุ่มไม่เข้าใจ สอบถามว่าทำไมถึงไม่ใช่ลงจากภูเขา
อาจารย์กลับไม่ได้อธิบายอะไร
เพียงแต่ภายหลังหลังจากที่ผ่านมานานมาก ตนที่ไม่ใช่เด็กหนุ่มมานานหลายปีแล้วถึงเพิ่งจะเข้าใจความหมายลึกซึ้งในคำพูดของอาจารย์ ที่แท้เส้นทางฝึกตนเดินขึ้นเขาเดินได้ไม่ง่าย จิตใจกลอุบายของคนบนโลกดุจดั่งภูเขาอันตราย เมื่อเข้ามาในภูเขาลูกนี้แล้วก็ยิ่งทำให้คนเดินได้ยากเข้าไปอีก
ผู้เฒ่าทอดถอนใจหนึ่งที เปิดบันทึกขุนเขาสายน้ำที่มีเพียงเล่มเดียวนอกเหนือจากรวบรวมบทกวี อ่านตัวอักษรของบทนำที่มีหลายพันตัวต่ออีกครั้ง ส่วนเนื้อหาช่วงหลัง โชควาสนาเรื่องน่าประทับใจ เด็กหนุ่มที่ทั้งเรียนหมัดทั้งเรียนหนังสือแต่งกลอนขับขานบทเพลงกับเทพหญิง กับผีสาวงาม คลอเคลียแนบชิด สัญญารักมั่นไม่เสื่อมสลาย สองสามหมัดก็เท่ากับผดุงความยุติธรรมในยุทธภพแล้ว ทิ้งเรื่องเละเทะเอาไว้ไม่สนใจ แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น หลังจากสร้างชื่อระบือไกลในยุทธภพครั้งแล้วครั้งเล่าก็ขี่ม้าจากไปท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง ร่ำสุราคลอเพลงเดินทางไกล เรื่องสกปรกโสมมอะไรทั้งหลายที่กล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ ล้วนไม่เข้าตาเขาแม้แต่น้อย
ผู้เฒ่าอ่านหนังสือต่อพลางถามชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่ข้างกายว่า “สุ้ยย่วน เฉิงซิน พวกเจ้ารู้สึกว่าสิ่งที่เขียนในหนังสือเป็นจริงเป็นเท็จสักกี่ส่วน?”
สตรีส่ายหน้า “หากแค่อ่านหนังสือเล่มนี้ ต่อให้มีความจริงแค่หนึ่งสองส่วน วันหน้าข้าพบเจอคนผู้นี้ก็ต้องเดินอ้อมห่างไปให้ไกลเท่านั้น กลับเป็นกู้ช่านผู้นั้นที่ไม่จำเป็นต้องระแวดระวัง”
บุรุษเอ่ย “หลังออกเดินทางไกลก็ใช้ความรู้ของฝ่ายตัวเองไปเรียกร้องคนอื่นอย่างเข้มงวด ไม่เคยถามใจตัวเอง ช่างสิ้นเปลืองตัวอักษรที่บริสุทธิ์ของบทนำบันทึกท่องเที่ยวนี้จริงๆ”
กล่าวมาถึงตรงนี้บุรุษก็ชำเลืองตามองคนรักที่อยู่ข้างกาย ก่อนเอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “หากอ่านแค่ตัวอักษรของบทนำ สภาพการณ์ของเด็กหนุ่มค่อนข้างยากลำบาก ข้ากลับหวังจากใจจริงให้เด็กหนุ่มคนนี้ได้มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง ความขมขื่นหมดสิ้นความหวานชื่นมาเยือน”
สตรียิ้มบางๆ เอ่ยว่า “อยู่ในห้องหนังสือมีสาวงามอ่านตำราอยู่ข้างกาย อยู่ในยุทธภพมีหญิงรู้ใจอยู่เคียงข้าง มีบุรุษที่แท้จริงคนใดบ้างไม่อิจฉา”
บุรุษได้แต่ยิ้มเฝื่อน รู้อยู่แล้วเชียวว่าคำพูดแบบนี้จะพูดไม่ได้
วันนี้ผู้ฝึกตนเฒ่าจ้องมองภาพขุนเขาสายน้ำบนโต๊ะเมฆขาวคล้ายจะรู้สึกแปลกใจ เขาเอามือปาด ผลักม้วนภาพไปไว้นอกโต๊ะเพื่อสะดวกให้คู่รักเทพเซียนได้มองเห็นความหลากหลายของผู้คนในหมู่ชาวบ้าน ก่อกำเนิดอายุน้อยสองคนที่มาจากหน่วยอู๋ฉางคือลูกรักแห่งสวรรค์ของสำนักเบื้องบนสำนักพีหมาในแผ่นดินกลาง ทั้งสองฝ่ายเกิดมาก็เป็นเมล็ดพันธ์เทพเซียนบนภูเขาแล้ว บิดามารดาของทั้งคู่ก็คือผู้ฝึกตน ตอนนั้นที่สุ้ยย่วนและเฉิงซินผูกสมัครเป็นคู่บำเพ็ญเพียรกันก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่ไม่เล็กเรื่องหนึ่ง ผู้ฝึกตนเผ่าเองก็ฝากความหวังไว้กับเด็กรุ่นหลังจากหน่วยอู๋ฉางสองคนนี้มาก ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือทั้งสุ้ยย่วนและเฉิงซินต่างก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องระดับล่างของหมู่ชาวบ้านมากนัก ความคิดตื้นเขินเกินไป
บนม้วนภาพวาด ที่แท้ก็เป็นภาพที่แม่นางน้อยกับบัณฑิตหนุ่มไปจุดธูปที่ศาลเทพลำคลอง
ผู้ฝึกตนเฒ่าลูบหนวดยิ้ม “ขนาดธูปน้ำของศาลยังตัดใจซื้อไม่ลง ไม่ค่อยเหมือนกับลักษณะนิสัยของอาจารย์นางที่เขียนบอกไว้ในตำราสักเท่าไร แต่ก็ถูกเหมือนกัน แม่นางน้อยมีประสบการณ์ในยุทธภพโชกโชน ทำอะไรคล่องแคล่วฉับไว สุ้ยย่วน เฉิงซิน หากพวกเจ้ามีขอบเขตเดียวกับแม่นางน้อยคนนี้ คาดว่าพวกเจ้าสองคนถูกนางขายแล้วยังต้องช่วยนางนับเงินอย่างอารมณ์ดีด้วย”
หลังจากที่เผยเฉียนจุดธูปเดินเล่นศาลเทพลำคลองเสร็จ จากนั้นก็เป็นเหตุการณ์น่าตะลึงพรึงเพริดที่นางจะถามหมัดกับเทพลำคลองเหยาเย่อย่างเซวียหยวนเซิ่ง แต่สุดท้ายกลับไม่มีคลื่นมรสุมใหญ่ใดๆ
เซวียหยวนเซิ่งคนเรือผู้เฒ่าพายเรือส่งคนทั้งสองข้ามลำคลองไปด้วยตัวเอง นี่ก็น่าจะเป็นดั่งคำว่าหากไม่ตีกันคงไม่ได้รู้จักกนกระมัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!