กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 696

สถานที่หวงห้ามแห่งหนึ่งในทวีปแดนเทพแผ่นดินกลาง ในรัศมีร้อยลี้ ภูเขาเขียวสายน้ำใสกระจ่าง ทิวทัศน์งดงามมองแล้วสบายตาสบายใจ มีเพียงสิ่งปลูกสร้างสูงสองชั้นกว้างสามคูหาตั้งอยู่แห่งเดียวเท่านั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นหอหนังสือขนาดเล็กที่ตระกูลเศรษฐีสร้างไว้อย่างโดดเดี่ยว

กรอบป้ายไม่ใหญ่ แต่ความหมายยิ่งใหญ่มาก สยบป๋ายเจ๋อ

ในห้องโถงใหญ่ใจกลางหอเรือนแขวนภาพเหมือนของปรมาจารย์มหาปราชญ์ไว้หนึ่งภาพ

หากไม่เป็นเพราะกรอบป้ายที่เปิดเผยความลับสวรรค์นี้ ผู้ฝึกตนที่พลัดหลงเข้ามาที่นี่คงนึกว่าเจ้าของที่แห่งนี้คือลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อที่ปลีกตัวอยู่อย่างสันโดษอย่างแน่นอน

บุรุษที่มีใบหน้าเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังเปิดตำราอ่าน

ทุกปีจะต้องมีวิญญูชนและนักปราชญ์ของสถานศึกษาหลี่จี้มาส่งหนังสือให้ที่นี่ หัวข้อไม่จำกัด คำสั่งสอนของอริยะปราชญ์ บทประพันธ์ส่วนตัว นิยายเรื่องเล่าประหลาด ล้วนไม่มีข้อพิถีพิถันอะไร สถานศึกษาจะต้องนำมาวางไว้บนภูเขาลูกเล็กในบริเวณริมขอบของพื้นที่ต้องห้ามตามเวลาที่กำหนด ภูเขาลูกเล็กนั้นไม่ได้แปลกประหลาด เพียงแต่ว่ามีเศษซากป้ายศิลักษณะคล้ายเต่าแบกศิลาล้มกองอยู่บนพื้น ยังพอจะมองเห็นคำอ่านว่า ‘ชุนหวังเริ่มบันทึกตำราในวันที่ฝนตกหนักฟ้าผ่าแรงติดต่อกันหลายวัน’ ได้อย่างเลือนราง นักปราชญ์และวิญญูชนแค่ต้องเอาหนังสือวางไว้บนศิลาหิน ถึงเวลานั้นจะมีสตรีคนหนึ่งมารับหนังสือไป แล้วนำไปส่งมอบให้เจ้านายของนางอย่างปีศาจใหญ่ป๋ายเจ๋อ

ป๋ายเจ๋อวางหนังสือลง มองไปยังสตรีที่สวมชุดชาววังนอกห้อง ถามว่า “เป็นห่วงสถานการณ์ของใบถงทวีป กลัวว่าจะเดือดร้อนไปถึงฮ่วนซาฮูหยินที่ตัดหางตัวเองไปหนึ่งหางหรือ?”

สตรีได้ยินคำถามก็รีบหันตัวกลับมาตอบอย่างนอบน้อม “ตอบนายท่าน เห็นจุดจบที่น่าเวทนาของสำนักอวี่หลงแล้ว บ่าวก็เป็นห่วงความปลอดภัยของฮ่วนซาฮูหยินจริงๆ เจ้าค่ะ”

ฮ่วนซาฮูหยินไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในสี่ฮูหยินของใต้หล้าไพศาล มีชื่อเสียงทัดเทียมกับชิงเสินซานฮูหยิน ถัวเหยียนฮูหยินแห่งสวนดอกเหมย กุ้ยฮูหยินเผ่าพันธุ์ดวงจันทร์ ยังเป็นหนึ่งในสองจิ้งจอกฟ้าที่มีเก้าหางของใต้หล้าไพศาลด้วย อีกตนหนึ่งก็คือบรรพบุรุษภูตจิ้งจอกสายของสตรีสวมชุดชาววังผู้นี้ เนื่องจากปีนั้นฝ่ายหลังถูกกำหนดมาแล้วว่ามิอาจหนีทัณฑ์สวรรค์ที่พลานุภาพน่ายำเกรงนั้นได้พ้น จึงได้แต่ไปขอการปกป้องจากเซียนซือใหญ่ของภูเขามังกรพยัคฆ์ในรุ่นนั้น ด้วยโชควาสนาที่ลึกล้ำจึงได้ตราประทับเทียนซือมาครอบครอง นางไม่เพียงแต่ผ่านทัณฑ์สวรรค์ห้าอสนีมาได้ ยังฝ่าทะลุขอบเขตได้อย่างราบรื่น เพื่อตอบแทนบุญคุณจึงทำหน้าที่เป็นผู้ถวายงานที่เฝ้าพิทักษ์จวนเทียนซืออยู่นานหลายพันปี มีขอบเขตเป็นบินทะยาน

สตรีสวมชุดชาววังมีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย นางไม่พอใจที่ฮ่วนซาฮูหยินยอมสละขอบเขตของจิ้งจอกฟ้าทิ้งไปโดยไม่สนใจ แต่ก็ยังยืนกรานจะวางตัวอยู่นอกเหนือเรื่องราว ไม่ช่วยทั้งสองฝ่ายอยู่อย่างนั้น หากเป็นตนมีหรือจะทำเรื่องโง่เง่าเช่นนี้

ป๋ายเจ๋อเดินมาที่หน้าประตู สตรีสวมชุดชาววังขยับเท้าแผ่วเบา ทิ้งระยะห่างช่วงหนึ่งกับเจ้านายเงียบๆ อยู่กับนายท่านมานานนับพันปี นางไม่กล้าละเมิดกฎแม้แต่น้อย

ป๋ายเจ๋อกล่าว “ชิงอิง เจ้าคิดว่าโอกาสชนะของใต้หล้าเปลี่ยวร้างอยู่ที่ไหน?”

ภูตจิ้งจอกนามชิงอิงตอบว่า “พลังการต่อสู้ของกองทัพใหญ่เผ่าปีศาจแห่งใต้หล้าเปลี่ยวร้างมารวมกันเป็นหนึ่ง มีความตั้งใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เพื่อช่วงชิงเอาพื้นที่อิทธิพลมาครอบครอง มีผลประโยชน์เป็นแรงผลักดัน ความคิดของพวกเขาจึงบริสุทธิ์อย่างมาก ทุกวันนี้ต่อให้กองกำลังทหารจะแบ่งออกเป็นสามสาย ก็ยังคงยึดครองความได้เปรียบมากกว่าทักษินาตยทวีป ฝูเหยาทวีปและใบถงทวีปอยู่ดี นอกจากนี้ลางแห่งการเกิดความขัดแย้งภายในกันเองของใต้หล้าไพศาลก็ยิ่งเป็นภัยแฝงที่ยิ่งใหญ่ ผู้แข็งแกร่งบนยอดเขาขอบเขตเซียนเหรินและขอบเขตบินทะยานในใต้หล้าไพศาลอดทนอัดอั้นกันมามากพอแล้ว หากบรรพบุรุษใหญ่ของภูเขาทัวเยว่ผู้นั้นยินดีรักษาสัญญา วันใดที่ฟ้าดินเกิดเปลี่ยนสี ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ที่ไม่ว่าจะมีชาติกำเนิดมาจากอะไรก็ล้วนต้องได้รับอิสระเสรีที่ยิ่งใหญ่ นี่จึงเป็นการล่อลวงที่ดึงดูดใจอย่างยิ่ง”

กล่าวมาถึงตรงนี้ ชิงอิงก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย

ปีนั้นเพราะนางเปิดเผยความในใจ พูดจาอย่างไร้ยำเกรง จึงถูกนายท่านที่โมโหซัดให้ร่วงจากสะพานเลียบหน้าผาในค่ำคืนหิมะตก หล่นลงไปยังหุบเหว แค่เอ่ยเรียกชื่อจริงก็ถูกนายท่านตัดหางหนึ่งไปได้อย่างง่ายดาย

ป๋ายเจ๋อกล่าว “พูดมาตามตรงได้เลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!