บทที่ 700.3 อันดับหนึ่งในใต้หล้า – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!
ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 700.3 อันดับหนึ่งในใต้หล้า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
นักพรตซุนหัวเราะเสียงดังพลางยกชายแขนเสื้อขึ้น ต่อให้แค่แสร้งทำท่าทีก็ถือว่าชนะเจ้าลู่เฉินแล้วครั้งหนึ่ง พอย้อนกลับไปที่อารามเสวียนตูก็จะเล่าให้ลูกศิษย์ผู้สืบทอดฟัง แล้วยังต้อง ‘กำชับ’ พวกเขาอีกว่าอย่าเอาเรื่องเล็กๆ แบบนี้ไปบ่นให้พวกศิษย์หลานฟัง
ลู่เฉินกล่าวอย่างปลงอนิจจัง “ใต้หล้าแห่งนี้เปิดประตู ใต้หล้าห้าแห่งก็เชื่อมโยงถึงกันหมดแล้ว”
ใต้หล้าไพศาล ใต้หล้ามืดสลัวและใต้หล้าบงกช ล้วนต้องเปิดประตูใหญ่เชื่อมโยงกับใต้หล้าแห่งนี้ ส่วนใต้หล้าเปลี่ยวร้างก็เปิดประตูเชื่อมกับใต้หล้าไพศาล
นักพรตซุนหุบยิ้ม พยักหน้าเอ่ย “คำนวณหนึ่งนั้นยากที่สุด”
คนทั้งสองเงียบงันกันไป
บวกกับนักพรตเซาฮว่ออีกคนที่ได้ฟังมรรคกถาแล้วก็เหมือนไม่ได้ฟัง
ลู่เฉินเอ่ยชวนคุยว่า “น่าเสียดายที่ไม่อาจไปพบเจอคู่รักของสหายนักพรตซวงเจี้ยงได้ ช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ไม่เล็กเลยจริงๆ”
“อย่างมากสุดก็เป็นได้แค่คู่รักครึ่งตัวของสหายนักพรตซวงเจี้ยงเท่านั้น”
นักพรตซุนถอนหายใจ “คนบนโลกมีแต่จะถูกความรักพันธนาการ แต่สหายซวงเจี้ยงกลับตรงกันข้าม ใช้สิ่งนี้มาพันธนาการคนในใจแทน ลุ่มหลงในรักทั้งยังอำมหิต คนนอกย่อมไม่มีสิทธิ์มาบอกว่าเขาทำถูกหรือทำผิด”
ยักษ์ใหญ่ด้านการฝึกตนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำหนักสุ้ยฉู เจ้าตำหนักอู๋ซวงเจี้ยงแทบจะใช้กำลังของคนคนเดียวยกระดับสำนักระดับรองแห่งหนึ่งให้กลายมาเป็นสำนักใหญ่ที่อยู่อันดับสูงสุดของใต้หล้ามืดสลัวได้
หลังจากที่เขาหยัดยืนอย่างมั่นคงแล้วถึงได้มีลูกรักแห่งสวรรค์กลุ่มใหญ่ซึ่งรวมถึงโซ่วสุ้ยเหรินเป็นหนึ่งในนั้นพากันลุกผงาด
ส่วนตัวของอู๋ซวงเจี้ยงเองก็เคยอยู่ในอันดับสิบคนของใต้หล้ามืดสลัว แม้ว่าลำดับขั้นจะไม่สูง แต่ติดสิบอันดับแรกของตลอดทั้งใต้หล้าก็นับว่าพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้สามารถฝ่าทะลุคอขวดบินทะยาน แต่กลับยังคงปิดด่านไม่ออกมา
เพราะอู๋ซวงเจี้ยงไม่ได้ปรากฏตัวมานานมากแล้วจริงๆ ดังนั้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนจึงหลุดจากอันดับสิบคน
นักพรตน้อยให้ความสนใจเรื่องวงในบนยอดเขาประเภทนี้เป็นที่สุด จึงถามอย่างใคร่รู้ว่า “อู๋ซวงเจี้ยงผู้นั้น หากแสดงฝีไม้ลายมือต่อสู้อย่างเต็มที่ ใช้ทุกเวทคาถาที่มี จะเอาชนะพวกเจ้าสองคนได้ไหม?”
ลู่เฉินยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ฝึกวิชาคาถาก็ไม่ใช่เพื่อไม่ต้องต่อสู้หรอกหรือ?”
นักพรตซุนพยักหน้ายิ้มรับ “ไม่ควรจะแค่เพื่อต่อสู้เท่านั้น”
นักพรตน้อยแค่นเสียงออกจมูก นักพรตป๋ายอวี้จิงกับสายเซียนกระบี่อารามเสวียนตู คนสองกลุ่มนี้เวลานี้กำลังทำอะไรกันอยู่เล่า?
ลู่เฉินเขย่งปลายเท้ามองการโคจรของลมปราณในฟ้าดินแห่งนี้ แล้วอยู่ดีๆ ก็เอ่ยว่า “อันดับแรกไร้ความหวังแล้วหรือ?”
นักพรตซุนเอ่ย “เจ้าควรรู้สึกโชคดีที่สหายนักพรตเฉินไม่ได้มาที่นี่ ไม่อย่างนั้นในอนาคตเมื่อต้องถามกระบี่กันก็มีความเป็นไปได้ว่าฟ้าดินสองแห่งอาจกระทบชนกัน”
ลู่เฉินยิ้มกล่าว “ผิดแล้ว หากเขามาที่นี่มีแต่จะยิ่งเหมือนถูกมัดมือมัดเท้า มหามรรคาได้แต่หยุดอยู่ตรงนั้น”
นักพรตซุนพยักหน้าพลางลูบหนวด “ก็จริงนะ”
นักพรตน้อยบ่นเบาๆ “พวกเจ้าสองคนช่วยคุยกันเรื่องที่ข้าเข้าใจไม่ได้หรือไง”
ลู่เฉินกล่าว “ยาก”
นักพรตซุนเอ่ย “ยากมาก”
พื้นที่ตรงกลางของใต้หล้าแห่งนี้ อริยะลัทธิขงจื๊อสองท่านที่เฝ้าพิทักษ์ม่านฟ้า ท่านหนึ่งมาจากสถานศึกษาหลี่จี้สายของหลี่เซิ่ง ส่วนอีกท่านหนึ่งมาจากสำนักศึกษาเหอซ่างสายของหย่าเซิ่ง ล้วนมีเทวรูปอยู่ในศาลบุ๋น
คนผู้หนึ่งจดบันทึกทุกสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน อีกคนหนึ่งคอยจับตามองประตูใหญ่ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ป้องกันไม่ให้มีผู้ฝึกตนห้าขอบเขตบนแทรกซึมเข้ามายังที่แห่งนี้ ไม่อนุญาตให้ประตูเหนือและใต้มีผู้ฝึกตนก่อกำเนิดบุกเข้ามา
อริยะทั้งสองท่านต่างก็พาลูกศิษย์สายของตัวเองมาด้วยหนึ่งคน ล้วนมีสถานะเป็นวิญญูชนของสำนักศึกษาและสถานศึกษาทั้งสิ้น
วิญญูชนคนหนึ่งในนั้นพกกระบี่ยาวที่ชื่อว่า ‘ฮ่าวหรันชี่’ ในอดีตเคยไปท่องหาประสบการณ์ที่กำแพงเมืองปราณกระบี่ สหายเป็นผู้มอบให้
เนื่องจากความสัมพันธ์ของอริยะ วิญญูชนทั้งสองท่านจึงสามารถนั่งมองขุนเขาสายน้ำ กวาดตามองเห็นไปทั่วใต้หล้า เรื่องประหลาดและคนน่าสนใจมีมากมาย
ยกตัวอย่างเช่นในบรรดานักพรตสามพันคน สำนักใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในปฐมสำนักพรรคมหายันต์ ผู้นำคือขอบเขตก่อกำเนิด นามว่าหนันซาน
ฝั่งของภูเขาไฉ่โซวที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตก็มีผู้นำเป็นผู้ฝึกตนก่อกำเนิดเช่นเดียวกัน สตรีมีนามว่าโยวหราน
ชายหญิงคู่นี้ไม่เพียงแต่เกิดเดือนเดียวปีเดียวกัน แม้แต่ช่วงเวลายามเกิดก็ยังเหมือนกัน ไม่ต่างกันแม้แต่น้อย
นอกจากนี้วิญญูชนทั้งสองท่านก็ยังรู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับใต้หล้ามืดสลัว
ในอดีตอริยะปราชญ์ไม่สามารถบันทึกเรื่องพวกนี้ลงในตำราได้
ใต้หล้าไพศาลมีผู้ฝึกตนอิสระอยู่สิบประเภท คนเย็บผ้า ตู๋ฉีหลางแห่งทะเลทักษิณเป็นหนึ่งในนั้น ล้วนถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นพวกนอกรีตที่สมควรถูกประหาร
ส่วนใต้หล้ามืดสลัวก็มีผู้ฝึกตนสิบประเภทที่ไม่เป็นที่ยอมรับเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่ถึงขั้นเหมือนหนูที่วิ่งผ่านถนน แต่ก็ไม่มีทางกล้าขยับเข้าใกล้อาณาเขตของป๋ายอวี้จิงแน่นอน
สุดท้ายทุกคนก็แยกย้ายจากไป
มีเพียงซิ่วไฉเฒ่าที่นั่งอยู่บนขั้นบันไดคนเดียว คล้ายกำลังบ่นเรื่องสัพเพเหระให้ใครบางคนฟัง
ยามซิ่วไฉเฒ่าระบายความทุกข์ให้คนอื่นฟัง ไม่เคยมีสีหน้ากลัดกลุ้มให้เห็น
แล้วนับประสาอะไรกับที่วันนี้ซิ่วไฉเฒ่าระบายความอัดอั้นไปไม่น้อย แต่โอ้อวดตัวกลับมากยิ่งกว่า
ผู้เฒ่าคนหนึ่งที่ถูกบูชาเป็นปรมาจารย์มหาปราชญ์นั่งอยู่ข้างซิ่วไฉเฒ่า
ผู้เฒ่าอยากจะไปทำธุระของตัวเอง เพียงแต่ซิ่วไฉเฒ่ากลับขยุ้มชายแขนเสื้อของเขาเอาไว้แน่น จึงไม่อาจจากไปได้
ผู้เฒ่าจึงได้แต่กระตุกชายแขนเสื้อเบาๆ บอกเป็นนัยว่าแค่พอสมควรก็พอแล้ว
ซิ่วไฉเฒ่าเลยขยับตัวนั่งหันข้าง เปลี่ยนจากมือข้างเดียวเป็นมือสองข้างที่รั้งชายแขนเสื้อเขาไว้เสียเลย “คุยกันอีกหน่อย คุยกันอีกสักหน่อย! นี่เพิ่งคุยกันได้ถึงไหนเอง ลูกศิษย์คนสุดท้ายของข้าไปหาภรรยาที่กำแพงเมืองปราณกระบี่ได้อย่างไรยังไม่ได้เล่าให้ฟังเลยนะ ตาเฒ่า เจ้าไม่รู้หรอกว่าลูกศิษย์คนสุดท้ายคนนี้ของข้าคือผู้ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ด้านความรู้ของสายข้า เรื่องหาภรรยาก็ยิ่งเก่งกาจล้ำหน้าอาจารย์และศิษย์พี่!”
ผู้เฒ่าเอ่ยอย่างระอาใจ “กระบี่นั้นของป๋ายเหย่นับว่าค่อนข้างเกรงใจแล้ว”
……
ในประตูใหญ่ที่อยู่ทางทิศใต้สุด ลัทธิขงจื๊อร่ายตราผนึกขุนเขาสายน้ำไว้สองชั้น เมื่อเข้ามาในใต้หล้าแห่งที่ห้า รวมถึงข้ามอาณาเขตเส้นที่สองมาแล้วก็ได้แต่ออกไป ไม่อาจหวนกลับคืนได้อีก
หนิงเหยาขี่กระบี่ลอยตัวกลางอากาศมาหยุดอยู่ห่างไปพันลี้ ทอดสายตามองประตูใหญ่ที่ตั้งตระหง่านระหว่างฟ้าดินบานนั้นอยู่ไกลๆ
ขอแค่ใช้กระบี่ทำลายตราผนึกก็จะสามารถข้ามประตูใหญ่ไปที่ใบถงทวีปได้แล้ว
แต่สุดท้ายหนิงเหยาก็ยังหมุนตัวจากไป
ทว่าท้ายที่สุดก็เปลี่ยนใจอีก สอดกระบี่เก็บใส่ฝัก สะพายไว้ด้านหลัง พลิ้วกายลงบนพื้น
นางสวมชุดคลุมอาคมจินหลี่ สะพายกระบี่เจี้ยนเซียน
หนิงเหยาคิดว่าจะหาผู้ฝึกตนของใบถงทวีปสักสองสามคนมาถามถึงสถานการณ์ล่าสุดของที่นั่น
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!