กล่าวมาถึงตรงนี้เจ้าขุนเขาก็หันไปมองบรรพบุรุษตระกูลเถาด้วยสายตาไม่พอใจนัก ในอดีตแม่หนูเถากับผู้ถวายงานปกป้องภูเขาเดินทางไปท่องเที่ยวถ้ำสวรรค์หลีจูด้วยกัน คาดไม่ถึงว่าจะไม่อาจเอาคัมภีร์กระบี่เล่มนั้นกลับมาได้ ซ้ำยังมิอาจตัดรากถอนโคน แม้แต่เด็กหนุ่มบ้านนอกที่เป็นเพียงช่างปั้นคนหนึ่งก็ยังไม่สามารถจัดการได้อย่างสะอาดเอี่ยม กลายเป็นว่าทิ้งภัยแฝงที่ใหญ่ขนาดนี้เอาไว้ แม้จะบอกว่าตอนนั้นเป็นเพราะหลี่ถวนจิ่งยังมีชีวิตอยู่บนโลก อีกทั้งเครื่องกระเบื้องแห่งชะตาชีวิตของหลิวเสี้ยนหยางก็ว่ากันว่าถูกถ่ายโอนไปถึงมือของสวนลมฟ้า ดังนั้นวานรย้ายภูเขาจึงค่อนข้างจะกริ่งเกรง ทั้งยังมีส่วนที่คิดพิจารณาเพื่อภูเขาตะวันเที่ยง จึงไม่เหมาะที่จะฉีกหน้าแตกหักกับสวนลมฟ้าอย่างสิ้นเชิงในเวลานั้น
แต่ตอนนี้พอมาย้อนนึกดูก็ยังทำให้เจ้าขุนเขาปวดหัวไม่คลาย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ล้วนเกลียดคำว่า ‘หากรู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก’ เป็นที่สุด!
บรรพบุรุษตระกูลเถาหันหน้ามา ผงกปลายคางชี้ไปยังสตรีผู้นั้น จากนั้นก็เอ่ยกับเจ้าขุนเขาว่า “ตามรายงานของนาง ทุกวันนี้หลิวเสี้ยนหยางได้เป็นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของศาลบรรพจารย์สำนักกระบี่หลงเฉวียนแล้ว เนื่องจากบรรพบุรุษสกุลหลิวเคยเป็นคนเฝ้าสุสานให้กับบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสกุลเฉินผู้รอบรู้ ภายหลังจึงไปขอศึกษาต่อที่สกุลเฉินผู้รอบรู้ในทักษินาตยทวีปนานสิบปี ทุกวันนี้หลิวเสี้ยนหยางมีขอบเขตอะไรแล้ว? เคยมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับสวนลมฟ้าหรือไม่?”
สตรีลุกขึ้นยืน หยิบกระดาษหน้าหนึ่งออกมาจากชายแขนเสื้อ บรรพบุรุษตระกูลเถายื่นมือออกไปคว้า แล้วเริ่มอ่านก่อน
เจ้าขุนเขามีสีหน้าเป็นปกติ ไม่ถือสากับเรื่องนี้แม้แต่น้อย
บรรพบุรุษตระกูลเถาขมวดคิ้วกล่าว “มีแต่เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งที่ไร้ประโยชน์เท่านั้นหรือ? ในเมื่อได้เป็นลูกศิษย์ของหร่วนฉงแล้วมีขอบเขตอะไร? ใช่ผู้ฝึกกระบี่หรือไม่ วิชาอภินิหารของกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตคืออะไร? ระหว่างที่ไปขอศึกษาต่อในสกุลเฉินผู้รอบรู้ของทักษินาตยทวีปเคยมีเส้นสายมีสัมพันธ์กับใครบ้าง? ล้วนไม่รู้เลยอย่างนั้นรึ?!”
บรรพบุรุษตระกูลเถาผลักกระดาษแผ่นนั้นไปทางเจ้าขุนเขา เจ้าขุนเขาอ่านจบแล้วก็เอ่ยว่า “หากดูตามในรายงาน ตอนที่หลิวเสี้ยนหยางผู้นี้เป็นเด็กหนุ่มก็คือคนที่ไม่รู้จักรักษาความลับ ชอบความมีหน้ามีตา หลังกลับมายังบ้านเกิดกลับไม่เคยเล่าถึงประสบการณ์การขอศึกษาต่อของตนให้ใครฟังบ้างเลยหรือ?”
สตรีส่ายหน้า “นิสัยของเขาเปลี่ยนแปลงไปมาก แม้ว่าจะยังชอบออกไปเดินเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่ทุกวัน ทว่ายามที่สนทนาพาทีกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงกลับพูดถึงแค่เรื่องเก่าๆ คนเก่าๆ ของบ้านเกิดเท่านั้น ไม่เคยพูดถึงสกุลเฉินผู้รอบรู้เลย ถึงขึ้นที่ว่าตลอดทั้งอำเภอไหวหวง นอกจากคนไม่กี่คนที่มีผู้ตรวจการเฉารวมอยู่ด้วยแล้วก็ล้วนไม่มีใครที่รู้ว่าเขาได้กลายเป็นลูกศิษย์ของสำนักกระบี่หลงเฉวียนแล้ว และบนภูเขาเสินซิ่วก็มีคนของสำนักกระบี่หลงเฉวียนอยู่น้อยเกินไป ลูกศิษย์ผู้สืบทอดของหร่วนฉงก็ยิ่งมีน้อยจนนับนิ้วได้ การสืบข่าวจึงไม่ใช่เรื่องง่าย นี่ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิดใจกับหร่วนฉง ผู้ฝึกตนที่มีนิสัยอย่างหร่วนฉง ในเมื่อเป็นผู้ถวายงานอันดับหนึ่งของต้าหลี แล้วยังมีที่พึ่งเป็นศาลลมหิมะอีก ว่ากันว่ากับเซียนกระบี่เว่ยเขาก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวด้วย อีกทั้งยังเป็นสำนักกระบี่ที่ช่วงชิงอยู่บนมหามรรคากับพวกเรา ตอนนี้จึงดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่ควรไปมีเรื่องกับเขาก่อนเวลาอันควร”
บรรพบุรุษตระกูลเถาหัวเราะฮ่าๆ เสียงดังลั่น “นับว่าพอจะพูดจาเป็นจริงเป็นจังที่ฟังดูมีความรู้ได้บ้างแล้ว”
อยู่ดีๆ เจ้าขุนเขาก็เอ่ยอย่างปลงอนิจจัง “หากมีเว่ยจิ้นสักคน ภูเขาตะวันเที่ยงของพวกเรายังจะต้องกลัดกลุ้มเรื่องอนาคตไปไย ต่อให้ข้าต้องยกตำแหน่งเจ้าขุนเขาให้กับเว่ยจิ้นก็ยังไม่เป็นปัญหา”
เว่ยจิ้นทยอยไปถามกระบี่กับเทียนจวินเซี่ยสือแห่งอุตรกุรุทวีปสองครั้ง
สมกับเป็นเซียนกระบี่อันดับหนึ่งของแจกันสมบัติทวีปอย่างแท้จริง
สตรีแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
เจ้าขุนเขาถาม “เครื่องปั้นแห่งชะตาชีวิตของหลิวเสี้ยนหยางอยู่ในมือของศาลลมหิมะแน่หรือ?”
สตรีพยักหน้า “น่าจะไม่ผิดแล้ว
เจ้าขุนเขายื่นนิ้วมานวดจุดไท่หยาง “เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ถือว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มที่ไม่ยอมเสียเปรียบแม้แต่น้อยพวกนี้ยังเป็นพวกที่จดจำความแค้นได้ดีที่สุด หากใช้สถานะของผู้สืบทอดสำนักกระบี่หลงเฉวียนมาถามกระบี่กับพวกเรา ถึงเวลานั้นภูเขาตะวันเที่ยงควรจะจัดการเขาอย่างไร ฆ่าให้ตายหรือไม่ฆ่าให้ตาย? ไม่ว่าอย่างไรก็ล้วนเป็นปัญหายุ่งยากทั้งนั้น หากยังดึงเอาศาลลมหิมะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เป็นเหตุให้ศาลลมหิมะและสำนักกระบี่หลงเฉวียนร่วมมือกันหันมาเล่นงานภูเขาตะวันเที่ยงของพวกเรา ต่อให้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องดี”
สตรีถามหยั่งเชิง “ข้ามีความคิดเห็นอย่างหนึ่ง เจ้าขุนเขาจะลองฟังดูหรือไม่”
เจ้าขุนเขายิ้มอย่างปลาบปลื้ม “ลองว่ามาสิ หากสามารถทำสำเร็จได้จริง แก้ไขปัญหาที่แฝงอยู่ได้ แต่ไหนแต่ไรมาภูเขาตะวันเที่ยงของพวกเราก็แยกการให้รางวัลและการลงโทษอย่างชัดเจนอยู่แล้ว”
เจ้าขุนเขากล่าวมาถึงตรงนี้ก็เหลือบตามองเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ว่างเปล่า อยู่ข้างหน้าตำแหน่งของสตรีไปหลายระดับ
สตรีเข้าใจได้ทันที นางรีบคลี่ยิ้ม เพียงแต่จู่ๆ กลับเกิดลังเลขึ้นมา
เจ้าขุนเขาเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเป็นอย่างดี จึงเอ่ยว่า “การปรึกษากิจธุระในวันนี้ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรแล้ว ทุกท่านเชิญกลับไปฝึกตนฝึกกระบี่ของตัวเองต่อได้”
ผู้ฝึกกระบี่ผู้เฒ่าอีกส่วนหนึ่งจึงลุกขึ้นยืนแล้วจากไป ศาลบรรพจารย์จึงว่างโล่งไปครึ่งหนึ่ง
สตรีถึงได้เอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ตอนที่ผู้ฝึกตนหญิงคนหนึ่งของยอดเขาฉงจือของพวกเราเดินทางไปเยือนแคว้นหู ได้เกิดความรักกับลูกหลานสกุลหลูที่มีชาติกำเนิดมาจากถ้ำสวรรค์หลีจูคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่นครลมเย็น พวกเราไม่สู้ผลักเรือตามน้ำ ให้พวกเขาได้สมปรารถนา ผูกสมัครเป็นคู่รักเทพเซียนบนภูเขากัน จากนั้นก็ลองปรึกษากับสกุลสวี่นครลมเย็น ให้บุรุษผู้นั้นเป็นเขยแต่งเข้าภูเขาตะวันเที่ยง ภูมิลำเนาของคนผู้นี้คืออำเภอไหวหวงต้าหลี กำเนิดจากสกุลหลูถนนฝูลวี่ แล้วก็ยิ่งเป็นศัตรูคู่แค้นกับหลิวเสี้ยนหยาง อีกทั้งยังปะทะกันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ในอดีตลูกหลานสกุลหลูผู้นั้นเกือบจะซ้อมหลิวเสี้ยนหยางตายอยู่ในตรอกเก่าโทรมแห่งหนึ่ง ภายหลังเมื่อครั้งที่แม่หนูเถาเดินทางไปเยือนถ้ำสวรรค์หลีจู คนผู้นี้ถึงได้ถูกสตรีของสกุลสวี่นครลมเย็นหมายตา แล้วช่วยนำทางมาฝึกตน ดังนั้นหลิวเสี้ยนหยางต้องเกลียดแค้นคนผู้นี้ไม่น้อยแน่”
เจ้าขุนเขาพยักหน้า ความหมายคร่าวๆ เขาพอจะเข้าใจแล้ว และนี่ก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่ไม่คาดฝันอีกเรื่อง หรือว่าสตรีที่แต่ไหนแต่ไรมามักจะรักษากฎเกณฑ์ ไม่ชอบมีหน้ามีตาตรงหน้าผู้นี้สมควรจะให้ภูเขาตะวันเที่ยงนำมาใช้ทำงานสำคัญแล้วจริงๆ?
สตรีเอ่ยต่ออีกว่า “พวกเราจัดงานแต่งให้ครึกครื้นสักหน่อย จากนั้นก็จงใจปล่อยข่าวไปที่อำเภอไหวหวง หลิวเสี้ยนหยางต้องได้ยินอย่างแน่นอน ความแค้นเคืองพึงละมิพึงผูก ต่อให้หลิวเสี้ยนหยางมาอาละวาดที่งานแต่ง สังหารลูกหลานสกุลหลูทิ้ง ถึงอย่างไรก็ดีกว่าเก็บกลั้นความแค้นไว้ในใจ หลังจากก่อเรื่องไปแล้ว อันที่จริงถือว่าเป็นเรื่องดี หลังจากนั้นไปเขาก็ไม่มีข้ออ้างที่จะมาตามตอแยภูเขาตะวันเที่ยงของพวกเราอีก”
บรรพจารย์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสตรียิ้มตาหยีอีกครั้ง “จิตใจเมตตาของสตรี”
สตรีไม่ได้เอ่ยตอบโต้ใดๆ
บรรพจารย์ผู้นั้นจึงเอ่ยว่า “ขอแค่หลิวเสี้ยนหยางกล้าลงมือในงานแต่ง ข้าก็สามารถทำให้ลูกหลานสกุลหลูผู้นั้นตายได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ไม่เพียงเท่านี้ ยังจะทำให้ลูกศิษย์ยอดเขาฉงจือที่เพิ่งสวมชุดแต่งงานได้ไม่นานเท่าไรฆ่าตัวตายตามเพื่อบูชาความรักด้วย ส่วนข้อที่ว่านางจะตายจริงหรือแกล้งตายล้วนไม่สำคัญ ก็ยังเป็นพวกเราที่เป็นคนตัดสินใจอยู่ดีไม่ใช่หรือ อย่างมากก็ให้นางปิดบังชื่อแซ่เลียนแบบซูเจี้ย ภูเขาตะวันเที่ยงไม่มีทางปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรมแน่นอน ข้าไม่เชื่อหรอกว่าก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว หร่วนฉงยังจะมีหน้าให้การปกป้องหลิวเสี้ยนหยางอยู่อีก”
สตรีเอ่ยเบาๆ “บรรพจารย์เยี่ยนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”
บรรพจารย์ผู้เฒ่าคนนั้นเอนตัวไปด้านหลังพิงพนักเก้าอี้ “พูดได้ดี”
เจ้าขุนเขากล่าว “ยังต้องคิดหาเหตุผลที่ทำให้หลิวเสี้ยนหยางจำต้องมาด้วย”
บรรพบุรุษตระกูลเถายิ้มกล่าว “ง่ายเลย ก็ให้เจ้าประมุขสกุลสวี่นครลมเย็นถือโอกาสนี้มาเข้าร่วมงานแต่งด้วย ทุกวันนี้บนร่างของเขาสวมเสื้อเกราะโหวจื่อที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของหลิวเสี้ยนหยาง เชื่อว่านครลมเย็นต้องหวังให้หลิวเสี้ยนหยางตายไปก่อนวัยอันควรยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก”
สตรีพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ คล้ายกับว่าวันนี้พูดไปเยอะจึงทำให้นางรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่บ้าง
……
บนยอดเขาตุ้ยเซวี่ยของภูเขาตะวันเที่ยง นายบ่าวคู่หนึ่งชมทิวทัศน์อยู่ในระเบียงจวนตระกูลเซียนที่สร้างติดริมหน้าผา
บุรุษก็คือหยวนป๋ายผู้ฝึกกระบี่แห่งราชวงศ์จูอิ๋งเดิม สาวใช้ข้างกายเขามีนามว่าหลิวไฉ่ ยามอยู่ต่อหน้าผู้อื่นนางมักจะทำหน้าตาย อีกทั้งรอบกายยังแผ่กลิ่นอายอึมครึม หน้าตาก็ไม่ได้งดงาม จึงไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน
หยวนป๋ายมีสีหน้าหม่นหมอง คิดไม่ถึงว่าแค่ออกจากบ้านไปเยือนธวัลทวีปมารอบเดียว พอกลับมาก็ไม่เหลือทั้งบ้านทั้งแคว้นแล้ว
บ้านเกิดของสตรี อันที่จริงไม่ถือว่าเป็นใต้หล้าไพศาลตามความหมายที่แท้จริงไปเสียทั้งหมด แต่เป็นในพื้นที่มงคลบ่อสวรรค์ที่ได้รับการขนานนามไปทั่วธวัลทวีป
พื้นที่มงคลบ่อสวรรค์คือผลิตผลส่วนตัวของสกุลหลิวธวัลทวีป ช่วงแรกเริ่มสุดที่มีการค้นพบยังเป็นเพียงพื้นที่มงคลระดับล่างที่ปราณวิญญาณบางเบา แต่เพราะอาศัยเงินเทพเซียนที่ทุ่มจ่ายจึงดันขึ้นมาเป็นพื้นที่มงคลระดับบนได้
ทุกปีจะต้องมีภาพปรากฎการณ์อันยิ่งใหญ่ตระการตาอย่างภาพ ‘นางฟ้าโปรยดอกไม้’ ซึ่งก็คือฤดูใบไม้ผลิของทุกปีจะต้องให้หญิงสาวของตระกูลหลิวสวมชุดอาภรณ์สีสันสดใสไปโปรยเงินเกล็ดหิมะ
ไม่ใช่ว่าเงินของสกุลหลิวไม่มากพอ แต่เป็นเพราะพื้นที่มงคลได้รับการสยบกำราบจากมหามรรคาอย่างที่มองไม่เห็น อย่างมากสุดจึงกลายมาเป็นพื้นที่มงคลระดับบนได้เท่านั้น
แม้กระทั่งพื้นที่มงคลถ้ำเมฆาที่อยู่ในครอบครองของสกุลเจียงแห่งสำนักกุยหยกก็ยังไม่สามารถทัดเทียมกับพื้นที่มงคลบ่อสวรรค์ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!