กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 731

มีคนถามมาจากที่สูง “อะไรน่ะ บนพื้นมีเงินให้เก็บหรือ?”

โจวหมี่ลี่กระโจนเข้าใส่เงินเทพเซียนเหมือนเสือโหยเจอลูกแกะก่อน จากนั้นก็พลันหัวเราะออกมา ที่แท้เผยเฉียนก็มานั่งอยู่บนหัวกำแพงเรือน หมี่ลี่น้อยรีบกำเงินเกล็ดหิมะเอาไว้ แล้วดีดตัวด้วยท่าปลาไนกระโดดหงายท้อง กำลังจะพูดขอความดีความชอบ เผยเฉียนก็ใช้สองนิ้วคีบเงินเกล็ดหิมะเหรียญหนึ่งส่ายเบาๆ ถามหน้าเคร่ง “เมื่อครู่ใครเอาเงินขว้างใส่ข้า หมี่ลี่น้อยเจ้าเห็นหรือไม่ว่าเป็นใคร?”

โจวหมี่ลี่ส่ายหน้าอย่างแรง “ไม่รู้ๆ ไม่เห็นเลยนะ ฟ้าดินเป็นพยาน หากเป็นพี่หญิงหน่วนซู่เดินผ่านทางมาแล้วเก็บเงินได้ล่ะ สวรรค์เท่านั้นที่รู้ เมื่อครู่ข้ายืนงีบหลับอยู่ตรงหน้าประตูตลอดเวลา นี่ก็ไม่ใช่เพราะว่าเดินละเมอไปนอนหลับบนพื้นก็ยังไม่รู้ตัวหรอกหรือ”

เผยเฉียนถาม “พี่หญิงหน่วนซู่จะทิ้งของส่งเดชหรือ?”

โจวหมี่ลี่รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “จิ่งชิง จิ่งชิง! อาจจะเป็นจิ่งชิง เขาบอกว่าตัวเองมองเห็นเงินทองเป็นดั่งอึและดินมากที่สุด…ต้องเป็นจิ่งชิงที่กินเกาลัดคั่วของเจ้าเผยเฉียนไปมาก แต่รู้สึกไม่ดีที่จะจ่ายเงินให้เจ้า ก็เลยแอบเอาเงินมามอบให้แน่เลย เฮ้อ จิ่งชิงเองก็หวังดีนะ แล้วก็ต้องโทษที่ข้าเฝ้าประตูได้ไม่ดีพอ…”

เผยเฉียนกระโดดลงมาจากหัวกำแพง พาหมี่ลี่น้อยกลับไปที่เรือนไม้ไผ่อีกครั้ง ไปนั่งด้วยกันตรงริมหน้าผา สุดท้ายแม่นางน้อยชุดดำง่วงมากแล้วจริงๆ จึงนอนฟุบอยู่บนขาของหญิงสาวแล้วหลับสนิทไป

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวพุงปลา ตอนแรกก็เป็นจุดแสงเล็กเท่าเมล็ดข้าวสารก่อน จากนั้นก็พลันสว่างจ้า

ตอนนั้นหลังจากที่เผยเฉียนจากไป จูเหลี่ยนที่ได้มีดตัดกระดาษไม้ไผ่เหลืองมาก็รีบไปที่ห้องบัญชีมารอบหนึ่งทันที เขาไปหาเหวยเหวินหลง ร่วมกันประเมินราคาข้าวของที่อยู่ในวัตถุจื่อชื่อมีดตัดกระดาษเล่มนั้นของเผยเฉียน เพียงแต่ว่ามีสมบัติอาคมบนภูเขาบางส่วนที่ประวัติความเป็นมาไม่แน่ชัด มีตราผนึกหนาแน่น ถึงอย่างไรขอบเขตของเหวยเหวินหลงก็ไม่สูง จึงไม่แน่ใจในเรื่องระดับขั้นและราคา กังวลว่าร้านผ้าห่อบุญที่ท่าเรือภูเขาหนิวเจี่ยวจะไม่ทันระวังขายไปในราคาถูก จากนั้นถูกคนนอกของบนภูเขามาเก็บตกเอาของดีไปได้ ต่อให้สุดท้ายภูเขาลั่วพั่วจะเลือกเก็บรักษาไว้ในบ้านตัวเอง ทว่าจะเอาแต่ปล่อยให้ไม่รู้ระดับความล้ำค่าของพวกมัน วางพวกมันเอาไว้ให้กินแต่ฝุ่นก็คงไม่ได้ นี่จะทำให้จิตแห่งมรรคาของเหวยเหวินหลงไม่มั่นคง หมื่นเรื่องหมื่นสรรพสิ่งต้องมีราคาที่แน่ชัดถึงจะทำให้เหวยเหวินหลงสบายใจได้ ส่วนข้อที่ว่าจะปล่อยผ่านมือเอาออกไปขายให้ได้กำไร หรือจะเก็บไว้รอให้ราคาสูงหรือราคาเทียมฟ้าก่อนค่อยขาย กลับไม่ใช่เรื่องที่สำคัญนัก

เหวยเหวินหลงมีความสุขกับขั้นตอนการหาเงินเป็นที่สุด

ดังนั้นจูเหลี่ยนจึงได้แต่รบกวนให้สหายฉางมิ่งมาที่นี่อีกครั้ง ‘บรรพจารย์ผู้คุมกฎ’ ตัวจริงของภูเขาลั่วพั่วท่านนี้ วิชาอภินิหารแห่งชะตาชีวิตบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเงินทองและโชคด้านทรัพย์สินของนางเรียกว่าร้ายกาจจนไร้เหตุผลจริงๆ

ฉางมิ่งช่วยตรวจสอบและเสริมในส่วนที่ขาดให้กับเหวยเหวินหลง ประเมินราคาของสมบัติหนักในการโจมตีสามชิ้นที่ถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาวุธวิเศษระดับสูงใหม่อีกครั้ง แต่ว่าก็ยังมีวัตถุบนภูเขาอีกหลายชิ้นที่ฉางมิ่งไม่กล้ายืนยันในราคาที่แท้จริง

สุดท้ายฉางมิ่งให้ราคาบนภูเขาแก่ของทั้งหมดหกสิบเก้าชิ้น เป็นราคาที่สูงเทียมฟ้า

ต้องใช้เงินฝนธัญพืชมาคิดคำนวณ อีกทั้งยังมีคำว่าพันพ่วงมาด้วย

เป็นเหตุให้ฉางมิ่งยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “ว่ากันไปตามเรื่องตามสถานการณ์ เหตุการณ์ที่หอบูชากระบี่จดความผิดพลาดเล็กๆ เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องจดให้เป็นคุณความชอบใหญ่ของเผยเฉียน ในด้านการหาเงินของภูเขาลั่วพั่ว หากดูจากตอนนี้ นอกจากนายท่านแล้วก็เป็นเผยเฉียนนี่แหละที่ทุ่มเทมากที่สุด”

จูเหลี่ยนถูมือยิ้มกล่าว “ถึงอย่างไรก็เป็นลูกศิษย์ใหญ่เปิดขุนเขาของคุณชายบ้านข้านี่นะ”

จากนั้นจูเหลี่ยนก็ถามว่า “ไม่สู้ให้ข้าเรียกพี่เว่ยกับพี่หมี่มายืนยันให้แน่ใจอีกสักหน่อยดีไหม? ราคารวมที่สหายฉางมิ่งประเมินไว้ต้องไม่ผิดแน่นอน อย่างมากสุดก็คงจะเป็นความต่างแค่ประมาณร้อยเหรียญเงินฝนธัญพืช แต่หากให้แยกเป็นรายชิ้นกลับยังคงมีความบกพร่องในความสมบูรณ์แบบ หากแน่ใจได้แล้ว ไม่แน่ว่าอาจทำให้มีรายรับเพิ่มมาอีกสองสามร้อยเหรียญเงินฝนธัญพืชก็เป็นได้”

เพราะถึงอย่างไรการประเมินราคาของสหายฉางมิ่งก็เป็นแค่การประเมินราคาคร่าวๆ ของวัตถุเจ็ดสิบกว่าชิ้น ทว่าการค้าขายบนภูเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเซียนซือทำเนียบวงศ์ตระกูลที่มาจากสำนักอักษรจง ยิ่งเป็นคนอายุน้อย แต่ละคนก็ยิ่งมีเงินบนมือมากไม่แพ้กัน ยามจับจ่ายมักมือเติบใจป้ำ ดูแค่ว่าถูกใจตัวเองหรือไม่

ในเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับการเพิ่มโชคด้านเงินทองให้กับภูเขาลั่วพั่ว อารมณ์ของฉางมิ่งจึงไม่เลว เอ่ยสัพยอกว่า “เจ้านี่ช่างรักและเอ็นดูเผยเฉียนจริงๆ”

จูเหลี่ยนระมัดระวังตัวเช่นนี้ นอกจากเพื่อให้ภูเขาลั่วพั่วหาเงินได้มากกว่าเดิมแล้ว สืบสาวราวเรื่องกันจริงๆ กลับยังเป็นเพราะไม่ยินดีจะให้เผยเฉียนต้องเสียเปรียบแม้แต่น้อย

จูเหลี่ยนหัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง

ครู่หนึ่งต่อมา นอกจากผู้ดูแลใหญ่ บรรพจารย์ผู้คุมกฎและนักบัญชีของภูเขาลั่วพั่วแล้ว ยังมีอีกสองคนที่มาที่นี่ เซียนกระบี่หมี่คนกันเอง กับเว่ยซานจวินที่หนักเบาเอาสู้ เรียกเมื่อไหร่ก็มาเมื่อนั้น ไม่เคยโอดครวญว่าลำบากยามที่ต้องมาเยือนภูเขาบ้านคนอื่น

เว่ยป้อตรวจสอบวัตถุวิเศษบนภูเขาจำนวนมากไปทีละชิ้น มีสองชิ้นในนั้นที่เว่ยป้อค่อนข้างสนใจ คือลูกกลิ้งหินที่ลักษณะแปลกประหลาด กับผ้าทรงเหลี่ยมที่ยิ่งไม่สะดุดตาผืนหนึ่ง

เว่ยป้อยิ้มบางๆ อยู่ตลอด บอกว่าในเมื่อจับคู่กันแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ควรมองพวกมันเป็นสมบัติอาคมสองชิ้น ของสองชิ้นแบ่งกันแกะสลักเป็นคำว่า ‘จินฝ่าเฉา’ และ ‘ซือจื๋อฟาง’ คืออักษรเก่าแก่ชนิดหนึ่งที่หายสาบสูญไปจากใต้หล้าไพศาลนานแล้ว บวกกับที่พื้นที่มงคลดอกบัวบ้านเกิดของจูเหลี่ยนในอดีต ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงไม่เคยมีประเพณี ‘ประลองชา’ หากไม่เป็นเช่นนี้ จูเหลี่ยนย่อมไม่มีทางปล่อยให้เขาเว่ยป้อมาเก็บตกของดีได้แน่นอน เพราะเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวพันกับสายลมบุปผาหิมะจันทรา (เปรียบเปรยถึงเรื่องโรแมนติก) ซึ่งมีพิณ หมากล้อม พู่กัน ภาพวาดเป็นหนึ่งในนั้น จูเหลี่ยนต่างหากถึงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!