กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 731

สรุปบท บทที่ 731.4 ทุกเรื่องเตรียมการไว้เรียบร้อย ขาดแค่ลมหิมะ: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

อ่านสรุป บทที่ 731.4 ทุกเรื่องเตรียมการไว้เรียบร้อย ขาดแค่ลมหิมะ จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บทที่ บทที่ 731.4 ทุกเรื่องเตรียมการไว้เรียบร้อย ขาดแค่ลมหิมะ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เผยเฉียนส่ายหน้า “นอกจากเซียนกระบี่เซี่ยที่ได้เจอกันโดยบังเอิญบนที่ราบน้ำแข็งทางทิศเหนือของธวัลทวีปช่วงแรกๆ แล้ว ยังมีศาลเหลยกงจังหวัดหม่าหูที่ช่วยส่งจดหมายให้ข้า ผู้อาวุโสอาเซียงกับพี่หญิงสุ้ยอวี๋เป็นคนดีจริงๆ บวกกับที่ตอนนั้นพื้นฐานขอบเขตเดินทางไกลของข้ายังไม่แน่นหนามากพอ ก็เลยไม่คิดอยากจะฝ่าทะลุขอบเขต ข้าฝ่าทะลุขอบเขตอยู่ที่เกราะทองทวีป เพราะพี่หญิงไจ้ซีบอกว่าจะเฝ้าพิทักษ์ไม่อยู่แล้ว แทนที่จะเหลือทิ้งไว้ให้พวกสัตว์เดรัจฉานของใต้หล้าเปลี่ยวร้างพวกนั้น ก็ไม่สู้ให้ข้าแย่งชิงมาเองก่อน ให้มาอยู่ในกระเป๋าเพื่อความสบายใจ แล้วก็เพราะข้าไม่มีปัญญาที่จะฝ่าทะลุขอบเขตติดต่อกันได้ ไม่อย่างนั้นหากอิงตามคำกล่าวของพี่หญิงไจ้ซี หากใช้สถานะของขอบเขตยอดเขาที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าเลื่อนเป็นขอบเขตปลายทาง โชคชะตาบู๊จะยิ่งใหญ่จนเกินจะคาดการณ์ได้ถึง จากขอบเขตแปดเลื่อนเป็นขอบเขตเก้าไม่มีทางเทียบติดได้เลย อีกทั้งตอนนั้นเกราะทองทวีปเป็นของไพศาลครึ่งหนึ่งของเปลี่ยวร้างครึ่งหนึ่ง ขอแค่ได้สองคำว่าแข็งแกร่งที่สุดมา ข้าก็สามารถเอาอย่างอาจารย์พ่อที่ช่วงชิงโชคชะตาบู๊ของใต้หล้าเปลี่ยวร้างมาไว้ที่ตัวเอง ใต้หล้านี้ไม่มีการค้าอะไรที่ไม่ต้องลงทุนแต่ได้กำไรมหาศาลเท่านี้อีกแล้ว ดังนั้นตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นการฝึกหมัดของตัวเองคนเดียว หรือการไปออกหมัดสังหารศัตรูบนสนามรบ ข้าล้วนตั้งใจอย่างมาก ก็เหมือน…”

เผยเฉียนหันหน้าไปมองชั้นสองของเรือนไม้ไผ่แวบหนึ่ง

วันเวลาที่ยากลำบากที่สุดของการฝึกหมัดล้วนอยู่ที่นั่น

ลำบากจนเหมือนว่าความยากลำบากทั้งหมดของชีวิตนี้ล้วนผ่านมาหมดสิ้นแล้ว

หลังจากที่ท่านปู่ชุยจากไป เผยเฉียนออกเดินทางไกลข้ามทวีปไปเพียงลำพัง ต่อให้อยู่บนสนามรบของเกราะทองทวีป ไม่ว่าการเข่นฆ่าจะดุเดือดรุนแรงแค่ไหน อันที่จริงเผยเฉียนก็ยังไม่รู้สึกทุกข์ทรมานสักเท่าใด

เผยเฉียนถอนสายตากลับมาแล้วก็ถามว่า “พ่อครัวเฒ่า ท่านปู่ชุยก็ถือว่าออกเดินทางไกลไปแล้ว ใช่ไหม?”

จูเหลี่ยนถอนหายใจ “คงเป็นเช่นนั้นกระมัง”

พลันมีศีรษะหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากหน้าผา เค้นน้ำตาหยดหนึ่งออกมาจากหัวตา จากนั้นก็แหงนหน้าเอ่ยอย่างเศร้าสร้อยเจ็บปวด “เจ้าคนงดงามเหมือนเทพธิดาไม่ถ่านดำ เจ้ารีบคืนศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่ทั้งน่ารักน่าเคารพมาให้ข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

หมี่ลี่น้อยตกใจสะดุ้งเพราะถูกเสียงดังปลุกให้ตื่นขึ้นมา นางเอ่ยด้วยสีหน้ามึนงง “เผยเฉียน เผยเฉียน ทำไมข้าถึงได้ยินเสียงของห่านขาวใหญ่ล่ะ?”

เผยเฉียนยิ้มกล่าว “ไม่มีสักหน่อย”

เมื่อครู่นี้ห่านขาวใหญ่ผู้นั้นถูกเผยเฉียนถีบร่วงหน้าผาไปแล้ว

ชุยตงซานนอนคว่ำอยู่บนเตียงเมฆขาวที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน ค่อยๆ ลอยตัวขึ้นสูงกลางอากาศ ว่ายน้ำพายเรือมาถึง ยิ้มหน้าเป็นเอ่ยว่า “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ หมี่ลี่น้อย พ่อครัวเฒ่า คิดถึงข้าหรือไม่”

หมี่ลี่น้อยนั่งตัวตรง สองมือปรบกัน พึมพำว่า “ฝันดี ฝันดี ข้าจะงีบอีกหน่อยแล้วกัน”

ชุยตงซานมานั่งยองข้างกายเผยเฉียน เอนตัวไปข้างหลังจนไหล่สองข้างสูงต่ำไม่เท่ากันเพื่อเขม้นมองเผยเฉียนให้ชัด “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเจ้าถึงตัวสูงกว่าศิษย์พี่เล็กอีกล่ะ”

หมี่ลี่น้อยเบิกตากว้างทันที ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งมาข้างกายชุยตงซาน มายืนอยู่ด้านข้างเขาแล้วยกมือขึ้นมาวัดส่วนสูงของทั้งสองฝ่าย หัวเราะฮ่าๆ อย่างชอบใจ “สูงพรวดๆ เลยนะ ว้าว ห่านขาวใหญ่เป็นเจ้าจริงๆ หรือ น่าสงสารจัง จากคนที่สูงอันดับหนึ่งกลายมาเป็นสูงอันดับสอง แต่อันดับของข้าไม่ได้ลดลง อย่าเสียใจไปเลย อย่าเสียใจเลย ข้าเอาความสุขของข้าให้เจ้ายืมก็แล้วกัน”

ชุยตงซานยิ้มตาหยีพยักหน้ารับ “ยังคงเป็นหมี่ลี่น้อยที่ดีที่สุด”

หมี่ลี่น้อยทำท่าเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจ รีบขยิบตาให้อีกฝ่าย อะไรกัน อะไรกัน สมุดบัญชีเล่มเล็กที่อยู่กับเผยเฉียนนั่น มีส่วนที่เป็นของนางน้อยที่สุดแล้ว แน่นอนว่าพี่หญิงหน่วนซู่ไม่มีแม้แต่เล่มเดียว

ชุยตงซานทำท่าฮึดฮัด สะบัดไหล่เตรียมจะลุกขึ้นอย่างห้าวเหิม แต่กลับถูกหมี่ลี่น้อยรีบยื่นสองมือมากดเอาไว้ ชุยตงซานดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่งก็ได้แต่ยอมหยุดอย่างห่อเหี่ยว

จูเหลี่ยนมองชุยตงซานแวบหนึ่ง แล้วก็หันมามองเผยเฉียน

ส่วนเผยเฉียนนั้นมองจูเหลี่ยน แล้วค่อยหันไปมองห่านขาวใหญ่

ชุยตงซานยิ้มเอ่ย “เฉาฉิงหล่างก็เฉาฉิงหล่างแล้วกัน ข้าไม่มีความเห็นหรอก”

จูเหลี่ยนเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นพื้นที่มงคลก็เริ่มงานกันวันนี้เลยไหม? คนที่เดิมทีควรมาร่วมงานพิธี ต่างคนต่างก็มีธุระยุ่ง แม้ว่าคนจะยังมาไม่ถึง แต่ของขวัญที่นำมามอบให้ก็ไม่ได้น้อยลงเลย”

ชุยตงซานยิ้มเอ่ย “วันนี้เหมาะแก่การขุดดินตั้งเสา เหมาะแก่การบวงสรวงลงนามสัญญา เหมาะแก่การเก็บเกี่ยวแต่งงาน ทุกเรื่องล้วนเหมาะจะทำในวันนี้ทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นเจ้าคิดว่าทำไมข้าถึงตั้งใจเดินทางมาถึงวันนี้เล่า?”

จูเหลี่ยนถาม “สระน้ำด้านหลังเรือนไม้ไผ่?”

ชุยตงซานยิ้มกล่าว “เอาไปไว้ในพื้นที่มงคลรากบัวถึงจะดี จะได้ประหยัดตราผนึกของข้าไปชั้นหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจได้รับของขวัญตอบแทนที่น่ายินดีอย่างไม่คาดฝันก็เป็นได้”

วันนี้สำหรับภูเขาลั่วพั่วแล้วถูกกำหนดมาให้เป็นวันฤกษ์งามยามดียิ่งใหญ่ที่จะถูกบันทึกลงในสมุดประวัติศาสตร์ทำเนียบของศาลบรรพจารย์

ต่อให้เจ้าขุนเขาหนุ่มจะไม่อยู่บนภูเขาก็มิอาจถ่วงเวลาล่าช้าไปได้อีกแล้ว

ในฐานะซานจวินของขุนเขาเหนือ เว่ยป้อยังคงทำหน้าที่เปิดร่มใบถงซึ่งเป็นทางเข้าของพื้นที่มงคล คนทั้งกลุ่มจึงทยอยกันเดินเข้าไปในพื้นที่มงคลรากบัว

จูเหลี่ยนผู้ฝึกยุทธขอบเขตยอดเขา เผยเฉียนขอบเขตยอดเขา ชุยตงซานขอบเขตเซียนเหริน เฉาฉิงหล่างผู้ฝึกลมปราณขอบเขตชมมหาสมุทร

ผู้ฝึกกระบี่หมี่อวี้ที่คอขวดขอบเขตหยกดิบใหญ่ราวผืนฟ้า อุตส่าห์มาถึงคอขวดแล้วแต่กลับเหมือนผู้ฝึกกระบี่ทั่วไปที่เพิ่งเลื่อนเป็นขอบเขตหยกดิบ

ผู้คุมกฎฉางมิ่งแห่งภูเขาลั่วพั่วที่ราวกับว่าเกิดมาก็ได้ครอบครองวิชาอภินิหารขอบเขตหยกดิบแล้ว หลังจากที่ฝนสีทองห่าใหญ่ตกจากม่านฟ้าลงมาบนโลกมนุษย์สามครั้ง ขอบเขตของนางทุกวันนี้ก็กลายเป็นปริศนาอย่างหนึ่ง

เหวยเหวินหลงผู้ฝึกตนโอสถทองที่มีชาติกำเนิดจากเรือนชุนฟานภูเขาห้อยหัว เฉินหลิงจวินที่เดินลงลำน้ำสำเร็จ หงเซี่ยที่เคยเดินผ่านหนึ่งลำคลองสี่แม่น้ำ

ผู้ดูแลน้อยเฉินหน่วนซู่ และผู้พิทักษ์ฝ่ายขวาของภูเขาลั่วพั่ว โจวหมี่ลี่

ยังมีเพ่ยเซียงเจ้าแห่งแคว้นหูที่เดิมทีก็อยู่ในพื้นที่มงคลอยู่แล้ว นางสัมผัสได้ถึงความผิดปกติเสี้ยวหนึ่งที่ม่านฟ้าจงใจเปิดเผยแก่นาง จึงรีบทะยานลมจากแคว้นหูแห่งใหม่ที่เอาไปตั้งวางไว้บนเส้นชายแดนของแคว้นซงไล่ขึ้นมาบนอากาศ ยอบตัวคารวะทุกคนของภูเขาลั่วพั่ว สุดท้ายเลือกไปยืนอยู่ข้างกายหงเซี่ยที่ยืนอยู่ริมสุด

อันที่จริงการเลื่อนระดับขั้นของพื้นที่มงคลในครั้งนี้ พวกอาจารย์ผู้เฒ่าจ้งชิว ผู้ฝึกกระบี่ชุยเหวย ฯลฯ ต่างก็ไม่ได้มาเข้าร่วมพิธีเช่นเดียวกับเจ้าขุนเขาหนุ่ม

ส่วนบางคนนั้นยังไม่เหมาะที่จะมีความเกี่ยวข้องลึกซึ้งเกินไปนัก อย่างเช่นจางเจียเจิน เจี่ยงชวี่ สือโหรวตัวแทนเถ้าแก่แห่งร้านยาสุ้ยตรอกฉีหลง

จูเหลี่ยนยิ้มพลางมอบถุงเงินใบหนึ่งให้เฉาฉิงหล่าง

เฉาฉิงหล่างประหลาดใจอย่างมาก จากนั้นจึงส่ายหน้า “ให้ศิษย์พี่เล็กหรือไม่ก็เผยเฉียนเป็นคนทำเถอะ”

เผยเฉียนเงียบไม่เอ่ยคำใด

ชุยตงซานยิ้มกล่าว “ให้คนที่ขอบเขตต่ำทำ ค่อนข้างจะเป็นมงคลน่ายินดี”

ส่วน ‘โจวเฝย’ ผู้ถวายงานของภูเขาลั่วพั่วที่ใช้สถานะของเจ้าประมุขสกุลเจียงวางเดิมพันไว้ในพื้นที่มงคล ตอนที่ช่วยพื้นที่มงคลรองรับชาวบ้านลี้ภัยก็ได้เตรียมของขวัญหนักชิ้นหนึ่งไว้เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ฟ่านเอ้อเจ้าประมุขหนุ่มของตระกูลฟ่านนครมังกรเฒ่า ซุนเจียซู่เจ้าประมุขตระกูลซุน เมื่อแต่ละคนได้รับจดหมายลับไปจากภูเขาลั่วพั่วต่างก็พากันส่งของขวัญมาให้

ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่สำนักกระบี่หลงเฉวียน หร่วนฉงก็ยังให้หลิวเสี้ยนหยางนำของขวัญหนักชิ้นหนึ่งมามอบให้ภูเขาลั่วพั่ว

เมื่อเฉาฉิงหล่างโยนเงินฝนธัญพืชซึ่งนับถอยหลังเป็นเหรียญที่สอง

ฟ้าดินก็พร้อมใจกันส่งเสียงขานรับ

เฉาฉิงหล่างโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก จากนั้นลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อชุดเขียวก็ประสานมือคารวะไปยังสี่ทิศของฟ้าดินอย่างเคร่งขรึมจริงจัง

คนอื่นๆ ที่เหลือก็คารวะฟ้าดินด้วยพิธีการเช่นเดียวกันนี้ บ้างก็ประสานมือ บ้างก็กุมหมัด บ้างก็ยอบตัวคารวะ

วัตถุดิบวิเศษแห่งฟ้าดินแต่ละชิ้นพากันผุดโผล่ขึ้นมาตามสถานที่ต่างๆ ของโลกมนุษย์

โชควาสนาบนเส้นทางการฝึกตนทั้งหลายก็ยิ่งปรากฏไม่ขาดสาย

ผีและวิญญาณวีรบุรุษตามสถานที่ต่างๆ ที่เดิมทียังล่องลอยไปทั่วอย่างมึนๆ งงๆ รวมถึงพวกภูตแห่งขุนเขาสายน้ำต่างก็รวมตัวกันขึ้นเป็นจิตวิญญาณที่แท้จริง บ้างก็ตามหาเค้าโครงร่างชื่อจริงได้เจอ สติปัญญาเริ่มเปิดออกและได้เหยียบย่างลงบนเส้นทางการฝึกตนอย่างแท้จริง

อาณาเขตของสี่แคว้น ปราณวิญญาณฟ้าดินเริ่มมารวมตัวกันโดยอัตโนมัติ กลายมาเป็นพื้นที่ฮวงจุ้ยดีเยี่ยมใหม่เอี่ยมหลายแห่ง

ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อฉางมิ่งผู้คุมกฎแห่งภูเขาลั่วพั่วดีดนิ้ว ฝนสีทองพร่างพราวก็ตกกระหน่ำลงมา ราวกับได้รับคำสั่งจึงแผ่ปกคลุมทั่วพื้นดิน มอบความชุ่มชื้นให้กับขุนเขาสายน้ำหมื่นลี้

ชุยตงซานกระโดดขึ้น ชายแขนเสื้อสองข้างโบกสะบัด ท่องคำว่า ‘สั่ง’ สองรอบซ้ำกัน

ทันใดนั้นก็มีจุดแสงหนึ่งจุดผุดตามคำกล่าวของเขาแล้วพุ่งขึ้นไปราวกับเซียนกระบี่ที่เหยียบอยู่กลางอากาศ

เวลาเดียวกันนั้น ไม่เพียงแต่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่ปรากฏตัวกลางนภาพร้อมกัน ยังคล้ายจะสว่างกว่าปกติหลายส่วนด้วย

หลังจากพลิ้วกายลงบนพื้นแล้ว ชุยตงซานก็ถอนหายใจหนึ่งที

ทุกเรื่องล้วนเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว ขาดก็แค่อาจารย์กลับคืนมายังบ้านเกิด

ขาดแค่ลมหิมะที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใดที่จะพาคนในครอบครัวของภูเขาลั่วพั่วกลับคืนมายามค่ำคืนเท่านั้น

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!