หยางผู่มองเซียนสาวห้าขอบเขตบนที่น่าสงสาร นี่ผู้อาวุโส ‘เจ้าขุนเขาเฉิน’ ผู้นี้ยังกังวลว่าจะตีคนผิดอีกหรือ?
ช่วงหลายปีมานี้หันเจี้ยงซู่ที่อยู่ในใบถงทวีปกำลังอยู่ในช่วงมีหน้ามีตา การประชุมยอดเขาหลายครั้ง ยกตัวอย่างครั้งที่สำนักศึกษาต้าฝู นางก็ปรากฏตัวด้วย หลายปีมานี้หยางผู่ยืนกรานจะมาเฝ้าประตูภูเขาของภูเขาไท่ผิง อาศัยสถานะของลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อสำนักศึกษา ถึงได้ไม่ตายไปอย่างเฉียบพลัน ระหว่างนี้หันเจี้ยงซู่เคยมาเยือนครั้งหนึ่ง ขึ้นเขามาเยี่ยมเยือนภูเขาไท่ผิง นางปักหลักพักอยู่ตรงซากที่ตั้งศาลบรรพจารย์นานมาก หยางผู่คอยติดตามนางอยู่ไกลๆ ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งสองฝ่ายไม่เคยพูดคุยกันแม้แต่คำเดียว
ยากที่จะจินตนาการได้ว่า เซียนสาวคนหนึ่งที่เคยทำให้หยางผู่รู้สึกว่านางสูงส่งจนมิอาจปีนป่าย จะถูกคนกระชากผมลากมาตลอดทางแล้วโยนทิ้งบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ
กว่าจะฟื้นคืนสติมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย กลับต้องมาเจอประโยคที่ว่า ‘กลายเป็นภาพแขวน กินควันธูป’ เข้าอีก หยางผู่รู้ว่าหันเจี้ยงซู่ไม่ได้ต้องการให้ตนสงสารเห็นใจ แต่เขาก็อดเวทนาเซียนสาวขอบเขตหยกดิบคนนี้ไม่ได้จริงๆ
นอกจากความสงสารแล้ว ยังรู้สึกสาแก่ใจอยู่หลายส่วน เพียงแต่ไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มท้องตลอดหลายปีมานี้ถูกสุราราดรดเข้าไปจึงสงบเย็นได้เกินครึ่ง ชำเลืองตามองหันเจี้ยงซู่ด้วยความระมัดระวัง สมน้ำหน้า
ดูเหมือนว่าคิดแบบนี้จะไม่ค่อยสมควรเท่าใด แต่หยางผู่ก็ยังคิดอดไม่ไหว
ผู้อาวุโสแซ่เฉินท่านนี้ก็ช่าง…เข้าใจพูดนัก ก่อนหน้านี้บุคคลตัวเล็กๆ อย่างตนอยู่ข้างกาย ผู้อาวุโสกลับไม่มีมาดใดๆ เลย มีน้ำใจไมตรี แล้วยังเลี้ยงเหล้าเขาอีก
เพียงแต่ว่าอยู่ดีๆ หยางผู่ลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาได้หลายส่วน
เหมือนยามที่พลิกอ่านตำราอยู่ในสำนักศึกษาอย่างไรอย่างนั้น
เฉินผิงอันยื่นมือสองข้างออกมาจากชายแขนเสื้อ จิตวิญญาณของผู้ฝึกตนสองส่วนที่รวมเป็นหนึ่งกลุ่มถูกกักตัวให้ลอยอยู่กลางอากาศ เนื้อหนังมังสาของสองร่างยังอยู่ที่เดิม ก่อนหน้านี้ถูกแปะยันต์หุ่นเชิดไว้ร่างละแผ่น เวลานี้จึงเริ่มทะยานลมมาที่หน้าประตูภูเขาด้วยตัวเองแล้ว สีหน้าของพวกเขาทึ่มทื่อ เหมือนศพเดินได้สองตน แต่เฉินผิงอันกลับไม่ได้ปล่อยให้จิตวิญญาณผสานรวมเข้าไปในร่างของผู้ฝึกตน แต่ให้ลอยอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา จึงส่ายไหวไปตามสายลม จากนั้นหยิบยันต์อีกสองแผ่นออกมาจากชายแขนเสื้อ เวลาเพียงชั่วประกายไฟแลบก็แปะลงไปบนจิตวิญญาณ เกิดแรงกระเพื่อมสะเทือนไม่หยุด เพียงแต่ว่าเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดราวหัวใจถูกคว้านกลับไม่ได้ดังเข้าหูหยางผู่แม้แต่นิดเดียว
หันเจี้ยงซู่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นภาพนี้
ความคิดจิตใจของนางล้วนอยู่บนร่างของนักพรต ‘หนุ่ม’ ที่เก็บซ่อนอำพรางตัวมาโดยตลอดผู้นั้น
เจ้าคนผู้นี้ต้องเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนเหรินแน่นอน!
เซียนเหรินที่สามารถกักขังปิ่นปะการังของนางได้อย่างกำเริบเสิบสาน นางก็ได้แต่อดทนกับเขาไปก่อน ฝึกตนอยู่บนภูเขา เสียเปรียบเล็กๆ น้อยๆ ไม่จำเป็นต้องกลัว เพราะต้องมีสักวันที่ต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนกลับมาได้ นางหันเจี้ยงซู่ไม่ใช่ผู้ฝึกตนอิสระที่เป็นดั่งจอกแหนไร้รากเสียหน่อย! สำนักว่านเหยาบ้านตนก็ยิ่งเป็นสำนักที่มีคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อใบถงทวีป! นางไม่เชื่อหรอกว่าคนผู้นี้จะกล้าลงมือสังหารอย่างเหี้ยมโหด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แค่ต้องยอมก้มหัวชั่วครู่ชั่วยามจะเป็นอะไรไป
วันนี้ถือว่าแผนการล่มไม่เป็นท่าแล้ว เจ้าหมอนี่ช่างมีกลอุบายมีวิธีการที่ดียิ่งนัก ก่อนหน้านี้พอลงมือก็ร่ายเวทอำพรางตาสองชั้นไว้ในเวลาเดียวกัน ชั้นหนึ่งคือแสร้งเป็นเซียนกระบี่ เรียกกระบี่จำลองของกระบี่เซียนคล้ายคลึงกับของภูเขาชังกระบี่ออกมา อีกทั้งยังทยอยกันออกมาสองเล่มด้วย!
อีกชั้นหนึ่งคือใช้ค่ายกลตัดขาดฟ้าดิน แสร้งทำเป็นว่ามีภาพบรรยากาศของอริยะพิทักษ์ฟ้าดินเล็ก ถึงได้ทำให้จิตแห่งมรรคาของนางสูญเสียการควบคุมไปในเสี้ยววินาที ผลคือที่แท้ก็เป็นเกาเจินลัทธิเต๋าห้าขอบเขตบนคนหนึ่งที่ควบการฝึกวิชายันต์และวิชาค่ายกลไปพร้อมกัน มิน่าเล่าถึงได้จงใจไม่สวมกวานเต๋า ชุดคลุมเต๋าก็ไม่สวม กระทั่งหลังจากเรียกใช้ค่ายกลยันต์นี้ ถูกกายธรรมของวิชาแห่งชะตาชีวิตของนางไปกระตุ้นพุ่งชนเข้า ถึงได้ถูกบีบให้เผยชุดคลุมอาคมที่ต้องไม่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอนออกมา ภาพบรรยากาศยิ่งใหญ่ไพศาล กวานดอกบัวของหนึ่งในสามสายแห่งป๋ายอวี้จิง ปณิธานแห่งเต๋าล่องลอย นี่ไม่อาจแสร้งทำออกมาได้แน่นอน แววตาเล็กน้อยแค่นี้นางยังพอมีอยู่บ้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยันต์ปราณกระบี่ที่สยบกำราบอยู่ในช่องโพรงลมปราณสำคัญของนางเหล่านั้นที่รับมือได้ยากที่สุด เป็นเหตุให้ก่อนหน้านี้ผู้ฝึกตนขอบเขตหยกดิบคนหนึ่งจำต้องนอนกองอยู่บนพื้นแต่โดยดี ถึงขั้นที่ว่าตอนนอนอยู่หน้าประตูภูเขา นางยังไม่กล้ามองมากเกินหนึ่งครั้งหรือฟังมากเกินสักหนึ่งประโยคเลยด้วยซ้ำ
มีเพียงเรื่องเดียวที่นางสงสัยก็คือกวานเต๋าชิ้นนั้น ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินไป เอามือไปจับประคองถึงได้สลายภาพมายาริ้วคลื่นที่มีความคล้ายคลึงกับกวานหางปลาได้ มีความเป็นไปได้มากว่าร่างจริงของกวานเต๋าอาจไม่ใช่ของแทนตัวของเจ้าลัทธิลู่แห่งป๋ายอวี้จิง เพราะกังวลว่าหลังจบเรื่องจะถูกสำนักของตนสืบสาวเบาะแสไปแก้แค้น? ดังนั้นถึงได้แสร้งสร้างภาพกวานดอกบัวมาเป็นที่พึ่ง? ขณะเดียวกันก็ปิดบังสายเต๋าที่แท้จริงของตัวเอง?
ไม่ถูกสิ! ด้วยนิสัยใจคอของคนผู้นี้ต้องไม่มีทางเผยพิรุธต่อหน้าตนแน่นอน กวานหางปลาเป็นของแทนตัวของสายเต๋าเหล่าเอ้อแห่งป๋ายอวี้จิง ขณะเดียวกันก็เป็นวิธีการที่อีกฝ่ายเอามาสยบใจคนด้วย! นักพรตที่ยินดีลงมือต่อสู้อย่างจริงจังเพื่อภูเขาไท่ผิงเช่นนี้ ใช่แล้ว ต้องเป็นคนต่างถิ่นของใบถงทวีปที่มาจากสายเจ้าลัทธิใหญ่ป๋ายอวี้จิงเหมือนกับภูเขาไท่ผิงอย่างแน่นอน มาจากสำนักเบื้องล่างสายหลักของป๋ายอวี้จิงจากทวีปอื่นในใต้หล้าไพศาล? เพราะนางเคยได้ยินบิดาบอกว่า เจ้าลัทธิใหญ่ของป๋ายอวี้จิงหายตัวไปนานมากแล้ว จึงเป็นเหตุให้แม้กระทั่งภูเขาไท่ผิงเลื่อนเป็นเทียนจวินก็ยังไม่ปรากฎตัว ดังนั้นถึงได้บอกว่าความคิดจิตใจของนักพรต ‘หนุ่ม’ ที่อำพรางตัวอย่างลึกล้ำผู้นี้แปรปรวนไม่แน่นอน กลอุบายลึกล้ำไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
ในเมื่อทั้งสองฝ่ายผูกปมแค้นกันลึกล้ำเช่นนี้แล้ว ก่อนที่คนผู้นี้จะออกไปจากใบถงทวีป ต่อให้สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ก็ต้องทิ้งชีวิตครึ่งหนึ่งไว้ที่นี่! นางหันเจี้ยงซู่และสำนักว่านเหยาไม่มีเหตุผลให้ต้องทนรับความอัปยศเช่นนี้!
เจียงซ่างเจินมองหันเจี้ยงซู่ แม้จะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เฉินผิงอันกับนาง ‘ประลองฝีมือ’ กันไปอย่างไร แต่เขามั่นใจเรื่องหนึ่ง พี่หญิงเจี้ยงซู่ผู้นี้คงถูกพี่ชายคนดีหลอกไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
เจียงซ่างเจินย่อมต้องรู้จักพี่หญิงเจี้ยงซู่ผู้นี้ แต่หันเจี้ยงซู่กลับไม่รู้จักเขา นี่ปกติอย่างมาก ในอดีตเคยเดินทางไปท่องเที่ยวพื้นที่มงคลสามภูเขา เจียงซ่างเจินได้เปลี่ยนชื่อและโฉมหน้า เพราะความเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ จึงถูกนางไล่ฆ่าไม่เลิกรา ภายหลังหันเจี้ยงซู่ไปเยือนสำนักกุยหยกพร้อมกับบิดาขอบเขตเซียนเหรินของนาง เจียงซ่างเจินก็ไม่ได้เป็นเจ้าสำนักอีกต่อไปแล้ว ทั้งยัง ‘ปิดด่าน’ ไปหลบซ่อนตัวเพื่อความสงบ ทั้งสองฝ่ายจึงไม่ได้พบหน้ากัน ส่วนรายงานขุนเขาสายน้ำทั้งหมดของใบถงทวีปในอดีต ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าเอาเจียงซ่างเจินมากล่าวตำหนิ เพราะถึงอย่างไรหากทำเช่นนั้นเจียงซ่างเจินจะต้องไปเอ่ยขอบคุณถึงบ้านด้วยตัวเอง
สี่ผีใหญ่ตอแยยากบนภูเขา โดยทั่วไปแล้วพูดถึงผู้ฝึกกระบี่ ผู้ฝึกตนสำนักนิติธรรม นักพรตเรือนซือเตาและคนเชื่อดาบ
แต่ก็มีสี่ผีตอแยยากที่ชื่อเสียงขจรขจายไกลหมื่นลี้บนรายงานขุนเขาสายน้ำของแต่ละทวีป ชาติสุนัขบางคนที่ยามทะยานลมชอบท่องบทกวี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!