กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 753

ช่วงนี้ชุยตงซานตัดสินใจเองโดยพลการ เขาย้ายแท่นสังหารมังกรออกมาจากด้านในปิ่นหยกขาว ให้พวกเด็กๆ ฝึกกระบี่รวมกัน บางครั้งก็จะไปตรวจสอบดูด้วยตัวเอง

จนกระทั่งวันนี้เด็กสี่คนอย่างป๋ายเสวียน เฉิงเฉาลู่ น่าหลันอวี้เตี๋ยและเหยาเสี่ยวเหยียนติดตามชุยตงซานที่อารมณ์แปรปรวนจนทำให้คนหวาดกลัวขวัญผวา กับเจ้าคนที่ไม่อ้วนแม้แต่น้อยแต่กลับชื่อโจวเฝยออกจากจวนลับที่ยอดเขาอวิ๋นจี้ มาเที่ยวเล่นที่หาดหินหวงเฮ้อด้วยกัน จากนั้นพอได้ยินว่าภูเขาเยี่ยนซานของภูเขาเหล่าจวินสามารถขนก้อนหินไปได้ตามสบาย ก็วิ่งตุปัดตุเป๋ไปเสี่ยงโชคเก็บตกของดีหวังร่ำรวยกันแล้ว

เจียงซ่างเจินยิ้มกล่าว “ต่ำสุดก็ต้องมีผู้ฝึกกระบี่เซียนดินเก้าคนภายในเวลาร้อยปี ภูเขาลั่วพั่วของพวกเราน่ากลัวจริงๆ”

ชุยตงซานโอดครวญ “ผู้ฝึกกระบี่ฝึกตนกินเงินที่สุดเลยนะ”

เจียงซ่างเจินบ่นว่า “พูดถึงเรื่องเงิน? นี่น้องชุยด่ากันอยู่หรือไร?”

ชุยตงซานยกนิ้วโป้งให้ “พี่โจวเฝยก็ใจกว้างเสียจริง!”

เจียงซ่างเจินพลันกล่าวว่า “ได้ยินมาว่าใต้หล้าแห่งที่ห้าแหกกฎให้กับลูกศิษย์หนุ่มลัทธิขงจื๊อคนหนึ่ง ให้เขาได้กลับมายังใต้หล้าไพศาล ชื่อว่าจ้าวเหยา? แล้วยังเป็นคนบ้านเดียวกับเจ้าขุนเขาของพวกเราด้วย?”

ชุยตงซานพยักหน้า “มีความเป็นไปได้สูงว่าจ้าวเหยาจะได้เป็นว่าที่ราชครูของต้าหลี อันดับแรกต้องให้ขุนนางในสภาขุนนางช่วยอบรมปลูกฝังอยู่ก่อนสักหลายๆ ปี สุดท้ายจึงจะช่วยประคับประคองฮ่องเต้องค์ถัดไป นี่เป็นฝีมือของเจ้าตะพาบเฒ่า ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า ไม่เกี่ยวแม้แต่ครึ่งเหรียญเงินเหรียญทองแดง”

เจียงซ่างเจินพยักหน้า “ถ้าแบบนี้ก็อธิบายได้เข้าใจแล้ว”

สถานการณ์ของแจกันสมบัติทวีปในทุกวันนี้ซับซ้อนอย่างยิ่ง

ราชวงศ์ต้าหลีที่เคยยึดครองพื้นที่ของหนึ่งทวีป ฮ่องเต้สกุลซ่งยอมทำตามสัญญาด้วยการให้ราชวงศ์เก่าและแคว้นใต้อาณัติมากมายกอบกู้บ้านเมืองกลับคืนมาจริง แต่เมืองหลวงแห่งที่สองของต้าหลีที่สร้างอยู่ใกล้กับลำน้ำฉีตู๋ภาคกลางของทวีปยังคงเก็บรักษาไว้ก่อนชั่วคราว มอบให้ซ่งมู่อ๋องเจ้าเมืองเป็นผู้พิทักษ์ปกครอง ลำพังเพียงแค่เรื่องที่ว่าจะจัดการกับอ๋องเจ้าเมืองที่คุณูปการยิ่งใหญ่ ชื่อเสียงขจรไกลผู้นี้ให้เหมาะสมอย่างไร คาดว่าฮ่องเต้ซ่งเหอคงต้องปวดหัวอย่างมาก ซ่งมู่ หรือควรเรียกอีกอย่างว่าซ่งจี๋ซิน ท่ามกลางสงครามครั้งนั้น เขาแสดงออกได้อย่างโดดเด่นสะดุดตายิ่งนัก ข้างกายยังมีผู้ฝึกตนกลุ่มใหญ่มารวมตัวกันอย่างที่มองไม่เห็นเป็นรูปลักษณ์ นอกจากจะมีจื้อกุยมังกรที่แท้จริงที่สามารถมองเป็นขอบเขตบินทะยานเกินครึ่งตัวได้แล้ว ยังมีหม่าขู่เสวียนแห่งยอดเขาเจินอู่ นอกจากนี้ซ่งมู่ยังใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ฝึกกระบี่ของอุตรกุรุทวีปอย่างมาก บวกกับที่ที่ว่าการหกกรมของเมืองหลวงแห่งที่สองล้วนเป็นขุนนางที่ผ่านพิธีการชำระล้างจากสงครามมาก่อน พวกเขากำลังอยู่ในวัยฉกรรจ์ พลังชีวิตเปี่ยมล้น แต่ละคนฉายประกายคมกริบไม่แพ้กัน ประเด็นสำคัญคือทุกคนต่างก็มีความสามารถยอดเยี่ยม ทั้งยังลงมือปฏิบัติสร้างผลงานจริง ไม่ใช่พวกคนที่มืออยู่เฉยดีแต่พูดอย่างแน่นอน

ดังนั้นทุกวันนี้จึงมีคำกล่าวที่บอกว่าทำให้คนโมโหตายไม่ต้องชดใช้ด้วยชีวิตแพร่หลายบนภูเขาของใบถงทวีป ดึงขุนนางระดับกลางสักคนออกมาจากที่ว่าการของเมืองหลวงแห่งที่สองของต้าหลี ให้ไปเป็นเจ้ากรมหกขุนนางของราชวงศ์ใหญ่ในใบถงทวีปก็มากพอเหลือแหล่

ในปีนั้นราชวงศ์สกุลซ่งต้าหลีที่หนึ่งแคว้นคือหนึ่งทวีป ครอบครองอาณาเขตตลอดทั้งแจกันสมบัติทวีปไว้แล้ว ลำดับขั้นกลับยังคงอยู่อันดับท้ายสุดในบรรดาราชวงศ์ใหญ่สิบแห่งของไพศาล ทุกวันนี้ยกแผ่นดินครึ่งหนึ่งเต็มๆ ออกไปให้ กลับกลายเป็นว่าถูกทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางประเมินให้เป็นราชวงศ์ใหญ่ลำดับสอง อีกทั้งไม่ว่าจะบนหรือล่างภูเขาก็แทบจะไม่มีใครเห็นต่าง

ชุยตงซานยิ้มถาม “หากข้าจำไม่ผิด ก่อนหน้านี้เพราะต้องทำสงคราม พื้นที่มงคลถ้ำเมฆาจึงขาดภาพแยนจือไปสองภาพ ช่วงนี้สกุลเจียงจึงเริ่มทำการคัดเลือกใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้ว?”

เจียงซ่างเจินพยักหน้า “กิจธุระในตระกูลสกุลเจียง ไม่ว่าเรื่องอะไรข้าจะไม่สนใจก็ได้ มีเพียงเรื่องนี้ที่ข้าจำเป็นต้องจับตามองด้วยตัวเอง”

หนึ่งในสิบแปดทัศนียภาพของพื้นที่มงคลถ้ำเมฆา มีหอแยนจือที่ถูกเรียกขานว่าเป็นภูเขาเทพีบุปผาของใบถงทวีป

บนยอดสูงสุดของหอสูง ด้านบนมีสาวงามที่เป็นเทพธิดาสามสิบหกคนยืนอยู่ตลอดทั้งปี แน่นอนว่าเป็นภาพมายาที่เกิดจากการร่ายเวทลับขุนเขาสายน้ำของผู้ฝึกตนสกุลเจียง

ภาพแยนจือแบ่งออกเป็นเล่มหลัก เล่มรองและเล่มสาม รวมทั้งหมดสามเล่ม แต่ละเล่มมีคนสิบสองคน ถูกขนานนามว่าเป็นสามสิบหกเทพีบุปผา ต้องเป็นสตรีที่รูปโฉมโดดเด่นที่สุดในตระกูลเซียนบนภูเขาและราชวงศ์ล่างภูเขาของทวีป ถึงจะขึ้นมาบนหอนี้ได้

ชุยตงซานยิ้มกล่าว “พี่โจวเฝยต้องยุ่งอยู่กับการรับเงินอีกแล้ว มิน่าเล่าคืนนี้ถึงตัดใจเหมาหาดหินหวงเฮ้อได้ลง แค่เงินเล็กๆ น้อยๆ ขนหน้าแข้งไม่ร่วง”

เจียงซ่างเจินหัวเราะเสียงดัง “ก็แค่หาเรื่องสนุกทำเท่านั้น หาเงินอะไรกัน นั่นล้วนเป็นเรื่องรองลงมา”

ชุยตงซานถามชวนคุย “อันดับหนึ่งคือใคร?”

เจียงซ่างเจินยิ้มตาหยี “เดิมทีคือเหยาจิ้นจือ จักรพรรดินีพระองค์ใหม่ของราชวงศ์ต้าเฉวียน เพียงแต่ว่าฝ่าบาทท่านนี้ไหว้วานคนให้นำเงินเทพเซียนก้อนหนึ่งมามอบให้กับพื้นที่มงคลถ้ำเมฆา ข้าก็เลยยอมทนกับความเจ็บปวด ตัดชื่อของนางออก บวกกับที่ฮ่วนซีฮูหยินที่ไปฝึกตนอยู่ที่จวนเทียนซือ ก่อนหน้านี้ไม่นานได้ส่งกระบี่บินมาแจ้งข่าวที่ยอดเขาเสินจ้วนด้วย ข้าหรือจะกล้าก่อเรื่องเหลวไหล”

ก่อนที่ภาพแยนจือเทพีบุปผาสามสิบหกภาพจะเผยตัวอย่างแท้จริง อันที่จริงสกุลเจียงในพื้นที่มงคลก็ได้แพร่ข่าวออกไปก่อนแล้วบางส่วน

ดังนั้นคนที่ได้รับการประเมินให้ติดอันดับ จะอยู่ในเล่มหลักเล่มรอง หรือเลื่อนจากเล่มล่างขึ้นสู่เล่มบน หรือแม้กระทั่งอย่างจักรพรรดินีคนใหม่ของต้าเฉวียนอย่างเหยาจิ้นจือที่ไม่ยินดีจะเปิดเผยโฉมหน้านี้ ขอแค่จ่ายเงินมาให้ก็ล้วนสามารถปรึกษากันได้ นอกจากนี้แล้วยังมีเซียนซือทำเนียบวงศ์ตระกูลที่เลื่อมใสเทพธิดาบางท่านที่สามารถยัดเงินให้กับสกุลเจียงได้เช่นกัน เพราะทางฝั่งของภูเขาแยนจือได้จัดวางกระเช้าดอกไม้ร้อยกว่าใบไว้โดยเฉพาะ ด้านนอกกระเช้าดอกไม้ทุกใบจะแปะชื่อของสาวงามตัวสำรองเอาไว้ เจ๋อเซียนทุกท่านสามารถโยนเงินเข้ากระเช้าดอกไม้ได้ด้วยตัวเอง หรือไม่ก็ไหว้วานให้คนนำเงินมามอบให้ที่พื้นที่มงคลถ้ำเมฆา เงินร้อนน้อยที่อยู่ในกระเช้าดอกไม้มีมากหรือน้อย แค่มองก็เห็นได้แล้ว

เล่าลือกันว่าตอนที่อดีตเจ้าสำนักผู้เฒ่าสวินยวนยังมีชีวิตอยู่บนโลก ทุกครั้งที่มีการคัดเลือกบนหอแยนจือจะต้องระดมพลพากันมาหาเจียงซ่างเจิน เทพธิดาที่ถูกเขาสวินยวนเลื่อมใสจากใจจริงต้องติดอันดับด้วย ไม่มีพื้นที่ให้ปรึกษา เพราะถึงอย่างไรเรื่องอย่างบุปผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำก็เป็นความชื่นชอบที่ใหญ่ที่สุดของสวินยวนอยู่แล้ว ปีนั้นต่อให้อยู่ห่างกันคนละทวีป มองดูบุปผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำของเหล่าเทพธิดาในแจกันสมบัติทวีป แม้ภาพที่เห็นจะพร่าเลือนไม่ชัดเจนเอาเสียเลย เจ้าสำนักผู้เฒ่าก็ยังคงเฝ้าตอรอกระต่าย ทุ่มเงินใส่ตาไม่กะพริบ

มิน่าเล่าตาเฒ่าสวินที่อยู่ภายใต้สายตาจับจ้องของคนมากมายในศาลบรรพจารย์จึงมักจะชี้หน้าด่าเจียงซ่างเจินว่า หากเจ้ายอมเอาความคิดจิตใจเรื่องการหาเงินมาใช้กับการฝึกตนสักครึ่งหนึ่ง ป่านนี้แม่งก็เป็นขอบเขตบินทะยานไปนานแล้ว

การประเมินครั้งหนึ่งที่เกินจริงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือในกระเช้าดอกไม้ของผู้ฝึกตนหญิงคนหนึ่งมีภูเขาลูกน้อยที่คิดคำนวณจากเงินร้อนน้อยมาเป็นเงินฝนธัญพืชแล้ว

สตรีผู้นั้นถูกผู้ฝึกตนของใบถงทวีปเรียกว่าหวงอีอวิ๋น ชื่อจริงคือเย่อวิ๋นอวิ๋น คือผู้ฝึกยุทธหญิงที่รูปโฉมงามพิลาสล้ำคนหนึ่ง แต่สุดท้ายนางกลับไม่ได้เข้าร่วมการประเมิน ดูเหมือนว่าเพราะเย่อวิ๋นอวิ๋นไปหาเจียงซ่างเจินด้วยตัวเอง ตอนนั้นเจ้าประมุขสกุลเจียงที่เพิ่งเลื่อนเป็นขอบเขตหยกดิบได้ไม่นานหน้าเขียวจมูกบวมปูด แสยะปากแยกเขี้ยวอยู่หลายวัน เจอใครก็ด่าให้ฟังว่าตาเฒ่าสวินไม่ใช่คน ทำไมหายนะที่เขาเป็นคนก่อต้องให้ข้าผู้อาวุโสเป็นคนแบกรับด้วย

ชุยตงซานถอนหายใจ “ราชวงศ์ต้าเฉวียน เทพวารีลำคลองม่ายเหอ เหยาจิ้นจือ น่าเสียดายที่เผยเฉียนน่าจะอยู่บนเส้นทางระหว่างกลับบ้านแล้ว ไม่มีวิธีทำให้นางได้รู้ข่าวเป็นคนแรก ศิษย์พี่เล็กอย่างข้าคงต้องถูกศิษย์พี่หญิงใหญ่จดลงบัญชีอีกครั้งหนึ่งแล้ว”

ปีนั้นที่ออกจากพื้นที่มงคลดอกบัว เป็นเผยเฉียนที่เดินทางกลับบ้านเกิดเป็นเพื่อนอาจารย์ของตนตลอดเส้นทาง

ครั้งสุดท้ายที่เผยเฉียนส่งกระบี่บินแจ้งข่าวมายังภูเขาพีอวิ๋น มาจากสกุลอวี้ของแผ่นดินกลาง เกินครึ่งเผยเฉียนน่าจะเลือกเดินทางบนเส้นทางสายธวัลทวีปและอุตรกุรุทวีป ดังนั้นจึงกลับถึงภูเขาลั่วพั่วค่อนข้างช้า ไม่อย่างนั้นหากตรงไปที่ท่าเรือตระกูลเซียนที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของทวีปแดนเทพแผ่นดินกลาง นั่งโดยสารเรือข้ามฟากปลาวาฬกลืนสมบัติของนครมังกรเฒ่า ก็สามารถตรงไปถึงอาณาเขตขุนเขาใต้ของแจกันสมบัติทวีปได้เลย และทุกวันนี้ก็น่าจะอยู่ใกล้กับเมืองหลวงแห่งที่สองของต้าหลีแล้ว

เจียงซ่างเจินมีความทรงจำที่ลึกล้ำต่อเผยเฉียนเป็นพิเศษ ปีนั้นเขาเคยได้ลิ้มรสความร้ายกาจของแม่นางน้อยตัวดำเป็นถ่านที่ภูเขาลั่วพั่วมาก่อน หลังจากผ่านการช่วงชิงบนมหามรรคากันไปรอบหนึ่ง เขาก็ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสุดจิตสุดใจแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!