กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 754

ชุยตงซานสบตากับเจียงซ่างเจิน

คนหนึ่งบอกว่าสหายเจียงเป็นเจ้าของที่ดิน เจ้าเป็นคนรับผิดชอบเก็บกวาดก็สมควรแล้ว อีกคนหนึ่งบอกว่าสหายชุยเจ้าอย่าได้ปัดความรับผิดชอบ หาดหินหวงเฮ้อแห่งนี้ยังไม่ได้แกะสลักอักษรยิ่งใหญ่พันกวีของเจ้าลงบนหน้าผา อยู่ดีๆ นึกจะหายก็หายไปไม่ได้

หากผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทางสองคนปล่อยมือปล่อยเท้าประลองหมัดกันอย่างเต็มกำลังจริงๆ อีกทั้งยังไม่ยินดีจะย้ายสถานที่ในการประชันหมัดเท้าด้วย หนึ่งหมัดต่อยให้ศาลากลิ้งหลุนๆ ร่วงตกน้ำ หนึ่งเท้าเตะให้เสาหยกขาวแหลกสลายไปเป็นแถบ หาดหินหวงเฮ้อซึ่งเป็นอ่างเก็บสมบัติจะเหลือได้สักครึ่งหนึ่งหรือไม่ก็บอกได้ยากจริงๆ

โชคดีที่เฉินผิงอันพูดกับเจียงซ่างเจินว่า “พวกเรากลับไปที่ยอดเขาอวิ๋นจี๋กันก่อน”

จากนั้นเฉินผิงอันก็หันไปกุมหมัดให้กับหวงอีอวิ๋นอีกครั้ง “ผู้เยาว์เฉาโม่ วันหน้าค่อยมาขอความรู้วิชาหมัดจากผู้อาวุโสใหม่อีกครั้ง”

เย่อวิ๋นอวิ๋นรู้สึกเพียงว่าฟ้าดินที่หนาหนักเปลี่ยนมาเป็นเบาโหวงในฉับพลัน นางกุมหมัดคารวะกลับคืน

เจียงซ่างเจินรีบกุมมือเขย่าขออภัยเจ้าขุนเขาหนุ่มทันใด อันที่จริงวันนี้เขาพาเย่อวิ๋นอวิ๋นจากภูเขาเหล่าจวินมาเยือนหาดหินหวงเฮ้อโดยพลการ เดิมทีก็มีใจที่เห็นแก่ตัวอยู่บ้างเล็กน้อย หากพวกเขาต่อสู้กันจนสิบแปดทัศนียภาพของถ้ำเมฆาเหลือแค่สิบเจ็ดทัศนียภาพ เจียงซ่างเจินก็ได้แต่ฝืนใจยอมรับไว้เท่านั้น ถึงอย่างไรพื้นที่มงคลก็ยังมีทัศนียภาพสำรองอยู่อีกเจ็ดแปดแห่ง เพียงแต่ว่าหลังจบเรื่องลูกหลานสกุลเจียงและผู้ถวายงานเค่อชิงที่ดูแลรับผิดชอบกิจธุระในหาดหินหวงเฮ้ออาจไปโวยวายที่ศาลบรรพชนสกุลเจียงอย่างเลี่ยงไม่ได้

เผยเฉียนเองก็กุมหมัด เอ่ยกับเย่อวิ๋นอวิ๋นว่า “ผู้เยาว์เจิ้งเฉียน วันนี้ล่วงเกินแล้ว ในอนาคตหากมีโอกาสจะต้องไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสเย่ที่เรือนอวิ๋นฉ่าวแน่นอน”

เย่อวิ๋นอวิ๋นพยักหน้ารับ

เฉินผิงอันพาเผยเฉียนและชุยตงซานออกไปจากหาดหินหวงเฮ้อ อาจารย์กับอาจารย์พ่อ นักเรียนกับลูกศิษย์ ไม่มีความบังเอิญก็ไม่อาจแต่งตำรา ไม่นึกว่าคนทั้งสามจะมารวมตัวกันที่ต่างบ้านต่างเมืองได้

ดูเหมือนว่าอาจารย์พ่อจะกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ เผยเฉียนจึงเพียงแค่เดินตามไปตลอดทางโดยไม่เอ่ยอะไร ส่วนชุยตงซานก็กำลังนับนิ้วอยู่อีกด้านหนึ่ง ไม่รู้ว่าบ่นพึมพำอะไรอยู่

เฉินผิงอันเดินลงไปจากหาดหินหวงเฮ้อ ไปหยุดอยู่ตรงท่าเรือริมแม่น้ำ จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า “ข้าคิดดีแล้ว สำนักเบื้องล่างของภูเขาลั่วพั่วเลือกเป็นที่ใบถงทวีปแห่งนี้ เพียงแต่ว่าตำแหน่งที่แน่นอน ข้ายังต้องไปเยือนภาพขุนเขาสายน้ำของภูเขาเหล่าจวินสักรอบหนึ่งก่อน”

ชุยตงซานยกชายแขนเสื้อขึ้น ชูแขนร้องเสียงดัง “อาจารย์ปราดเปรื่อง แผนการลึกล้ำใคร่ครวญยาวไกล วิสัยทัศน์กว้างขวาง มีคุณความชอบยาวนานพันปี…”

ภูเขาลั่วพั่วไม่เพียงแต่จะเลื่อนจากภูเขาตระกูลเซียนมาเป็นสำนัก ยังจะมีสำนักเบื้องล่างอีกด้วย!

นี่หมายความว่าอาจารย์ตัดสินใจแล้วว่า รอให้เขากลับไปบ้านเกิดก็จะไม่จงใจอำพรางรากฐานของภูเขาลั่วพั่วอีกต่อไป ไม่เพียงเท่านี้ ยังจะถือโอกาสนี้ก่อตั้งสำนักเบื้องล่าง ให้สามทวีปที่อยู่บนแนวเส้นตะวันออกของใต้หล้าไพศาลอย่างอุตรกุรุทวีป แจกันสมบัติทวีปและใบถงทวีปตกใจขวัญกระเจิงกันหมด

เฉินผิงอันเอ่ยอย่างจนใจว่า “เจ้าก็พูดไปเรื่อย เพลาๆ ลงหน่อยเถอะ”

ท่าทางของชุยตงซานในตอนนี้เหมือนเทวบุตรมารนอกโลกขอบเขตบินทะยานที่อยู่ในคุกของกำแพงเมืองปราณกระบี่อย่างมาก

เจ้าขุนเขาหนุ่มที่ปีนั้นออกเดินทางไกลไปจากบ้านเกิด ไปรับหน้าที่เป็นอิ่นกวาน ตอนนั้นก็รู้สึกแล้วว่าซวงเจี้ยงเทวบุตรมารนอกโลกเหมือนกับลูกศิษย์ชุยตงซานยิ่งนัก

คาดว่านี่คงเป็นความต่างที่ใหญ่ที่สุดในการที่นักเดินทางไกลคนหนึ่งกลับหรือไม่กลับบ้านเกิดนั่นเอง

ชุยตงซานหุบปากฉับทันใด

ทุกวันนี้ภูเขาลั่วพั่วไม่ใช่สำนักอะไร ถึงขั้นที่ว่าไร้ชื่อเสียงอยู่ในแจกันสมบัติทวีป เจ้าขุนเขาหนุ่มที่ยังไม่ได้กลับคืนสู่บ้านเกิดที่แท้จริงกลับคิดจะก่อตั้งสำนักเบื้องล่างเสียแล้ว

ไม่ว่าภูเขาลูกใดก็ตามในใต้หล้าไพศาลที่ได้กลายเป็นสำนักอักษรจงล้วนไม่ใช่เรื่องที่ผ่อนคลายง่ายดายอะไร คิดจะสร้างสำนักเบื้องล่างขึ้นมาก็ยากราวกับเดินขึ้นสวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักเบื้องล่างที่ตั้งอยู่คนละทวีป แน่นอนว่ายิ่งยากกว่าการเดินขึ้นสวรรค์เข้าไปอีก หนึ่งเพราะยากที่จะได้รับการยอมรับจากศาลบุ๋นแผ่นดินกลาง จำเป็นต้องเผาผลาญคุณูปการของสำนัก นอกจากนี้ก็ยากที่จะเข้าเมืองตาหลิ่วหลิ่วตาตาม ปรับตัวเข้ากับน้ำและดินไม่ได้ เหตุใดผู้อาวุโสผู้เฒ่าสวินแห่งสำนักกุยหยกถึงให้นำเจียงซ่างเจินคำพูดประโยคนั้นมาบอกแก่ตน? แล้วเหตุใดถึงต้องให้เจียงซ่างเจินทำหน้าที่เป็นเจ้าสำนักคนแรกของสำนักเจินจิ้งทะเลสาบซูเจี่ยน?

ในฐานะสำนักเบื้องล่างเหมือนกัน การยืนหยัดของสำนักพีหมาชายหาดโครงกระดูกในอุตรกุรุทวีปก็ต้องผ่านอุปสรรคยากลำบากมาเช่นกัน จำต้องเปลี่ยนที่ตั้งอยู่หลายต่อหลายครั้ง ย้ายลงใต้ตลอดทางจนกระทั่งไปถึงทิศใต้สุดของทวีป สุดท้ายยังต้องอาศัยการคุมเชิงเข่นฆ่าอยู่กับนครจินกวานของหุบเขาผีร้ายถึงจะยืนหยัดอย่างมั่นคงได้ไม่ง่ายนัก แม้จะบอกว่าทุกอย่างนี้ล้วนอยู่ในการคาดการณ์ของสำนักเบื้องบนสำนักพีหมาทั้งหมด แต่อันที่จริงแรกเริ่มนั้นเป้าหมายก็เพื่อภาพเทพหญิงแห่งนครปี้ฮว่า ทว่าก่อนหน้านี้ที่สำนักพีหมาต้องหยัดยืนอยู่ท่ามกลางลมฝนที่พัดกระหน่ำหลายต่อหลายครั้ง ต้องเผชิญกับการรับรองแขกของผู้ฝึกตนอุตรกุรุทวีป ก็ทำให้พวกผู้ฝึกตนรุ่นอาวุโสของสำนักพีหมาต้องทุกข์ทนยากจะเอื้อนเอ่ยกันจริงๆ

นี่ก็เหมือนกับลูกหลานขุนนางที่มีชาติกำเนิดจากตระกูลสูงศักดิ์มากมายที่ไปเป็นขุนนางในท้องถิ่น พวกเขาก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคนานัปการเช่นกัน ภายนอกสามัคคีเป็นหนึ่ง แต่ในมุมลับกลับมีแต่แรงอุปสรรคขัดขวางหนาชั้น เจอคนคอยขัดแข้งขัดขาทุกเรื่อง ปีนั้นอู๋ยวนนายอำเภอคนแรกในประวัติศาสตร์ของถ้ำสวรรค์หลีจู ในฐานะลูกศิษย์ของราชครู บุตรเขยตระกูลสูงศักดิ์ ก็ยังถูกพวกตระกูลแซ่ใหญ่บนถนนฝูลวี่และตรอกเถาเย่ร่วมมือกันผลักไสจนหน้าหมองไม่ใช่หรือ หากเปลี่ยนมาเป็นขุนนางตระกูลยากจนคนธรรมดาที่ไร้ที่พึ่ง ไม่แน่ว่าอาจไม่ถึงกับต้องลำบากลำบนขนาดนั้นก็เป็นได้ ในนี้เกี่ยวพันไปถึงเรื่องราวบนโลกความสัมพันธ์ของผู้คนและคลื่นมรสุมในวงการขุนนางมากมาย เกี่ยวพันไปถึงการงัดข้อกันระหว่างสิบตระกูลสี่แซ่กับสกุลซ่งต้าหลี ดังนั้นอู๋ยวนจึงเจอกับการต่อต้านมาอย่างเต็มกลืน เลื่อนขั้นเชื่องช้า สุดท้ายได้แต่จากไปอย่างหม่นหมอง ถูกโยกย้ายให้ไปรับหน้าที่เป็นเจ้าเมืองตรงตีนเขาขุนเขากลางราชวงศ์จูอิ๋งเก่า ส่วนหยวนเจิ้งติ้งและเฉาเกิงซินที่มาทำหน้าที่ในภายหลัง กลายเป็นว่าอนาคตในจังหวัดหลงโจวของลูกหลานสองแซ่สกุลเสาค้ำยันแคว้นกลับราบรื่นกว่ามากนัก นี่ก็คือการอาศัยร่มเย็นจากต้นไม้ที่คนในอดีตของวงการขุนนางปลูกเอาไว้

เผยเฉียนสีหน้าสดใสเปี่ยมชีวิตชีวา ไม่ว่าอาจารย์พ่อว่าอะไรนางก็ว่าตามนั้น

ขอแค่มีอาจารย์พ่ออยู่ข้างกายตน นางก็ไม่ต้องกังวลว่าตัวเองจะทำผิด ไม่ต้องกังวลถึงความถูกความผิดในการออกหมัด ไม่ต้องคิดอะไรมากมายขนาดนั้นอีกแล้ว

มีอาจารย์พ่ออยู่ นางก็สบายใจอย่างมาก ฟ้าไม่กลัวดินไม่เกรงแล้ว

เผยเฉียนคิดจะยื่นมือออกไปกำชายแขนเสื้อของอาจารย์พ่อตามจิตใต้สำนึก เพียงแต่ว่าเผยเฉียนรีบหยุดมือแล้วหดมือกลับมาทันที

เฉินผิงอันถาม “ภูเขาลั่วพั่วของพวกเขา หากสมมติว่าไม่มีผู้ฝึกตนห้าขอบเขตบนเลยสักคน ลำพังแค่อาศัยราชสำนักสกุลซ่งต้าหลี รวมไปถึงคุณความชอบที่บันทึกไว้ในสองสำนักศึกษาอย่างซานหยาและกวานหู มากพอจะให้แหกกฎเลื่อนขั้นเป็นสำนักหรือไม่?”

ชุยตงซานรู้สึกลังเลเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!