กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 756

สรุปบท บทที่ 756.5 เป็นแขก: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน บทที่ 756.5 เป็นแขก – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน บทที่ 756.5 เป็นแขก ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เผยเฉียนหยิบไม้เท้าเดินป่าสีเขียวอันหนึ่งออกมาจากวัตถุจื่อชื่อ

นางนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ ในบริเวณใกล้เคียงกับที่แห่งนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางได้รับยันต์ แผ่นหนึ่งคือยันต์เจดีย์วิเศษสยบปีศาจ อีกแผ่นหนึ่งคือยันต์ปราณหยางส่องไฟ แต่แรกเริ่มอาจารย์พ่อแค่ให้นางยืม เอามาช่วยเพิ่มความกล้าให้กับนาง ภายหลังถึงได้มอบให้นาง

เผยเฉียนกระซิบว่า “อาจารย์พ่อ อยู่ที่เกราะทองทวีป ข้าได้เจอกับฝูลู่อวี๋เซียนด้วยล่ะ”

เฉินผิงอันตกตะลึงเล็กน้อย “เทพเซียนผู้เฒ่าอวี๋ที่ยึดครองวิถีแห่งยันต์ไปเพียงลำพังท่านนั้นน่ะหรือ?”

เผยเฉียนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม กล่าวอย่างเขินอาย “บนสนามรบ ผู้อาวุโสอวี๋ไม่เพียงแต่ช่วยข้าสังหารเผ่าปีศาจขอบเขตหยกดิบตนหนึ่ง สุดท้ายยังมอบวัตถุแห่งชะตาชีวิตของขอบเขตหยกดิบตนนั้นให้ข้าด้วย ระดับขั้นเป็นอาวุธกึ่งเซียน”

เฉินผิงอันเอ่ยทอดถอนใจอย่างปลงอนิจจัง “ผู้อาวุโสมีมาดแห่งเซียนไม่เหมือนใครจริงๆ สมควรแล้วที่ผู้อาวุโสอวี๋ได้ผสานมรรคากับทางช้างเผือก เลื่อนขั้นเป็นขอบเขตสิบสี่”

เผยเฉียนอืมรับหนึ่งที

ระยะทางภูเขาร้อยกว่าลี้ สำหรับพวกเฉินผิงอันแล้ว อันที่จริงไม่มีค่าพอให้พูดถึง อีกทั้งเมื่อเทียบกับเส้นทางแคบเล็กคดเคี้ยวคราวก่อนที่เฉินผิงอันเคยผ่านมา เวลานี้ถนนหนทางกลับกว้างขวางกว่าเดิมมาก เฉินผิงอันชำเลืองตามองอยู่หลายทีก็รู้ว่าเป็นฝีมือของทางการราชสำนัก

ผ่านสะพานหินโค้งแห่งหนึ่งที่ทอดตัวขวางลำธาร เฉินผิงอันนั่งยองอยู่บนหัวสะพานมองดูป้ายจารึกแบ่งขอบเขตใหม่เอี่ยม หัวคิ้วขมวดมุ่นน้อยๆ

เขารู้สึกลังเลแล้วว่าจะไปเยี่ยมเยือจวนจินหวงดีหรือไม่

เผยเฉียนถาม “อาจารย์พ่อ มีอะไรหรือ?”

เฉินผิงอันลุกขึ้นยืน “อาจมีเรื่องเกิดขึ้น”

ครุ่นคิดเล็กน้อย เฉินผิงอันก็ยิ้มเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร ข้าดื่มเหล้าเสร็จแล้วก็จะจากไป”

ยังห่างจากจวนจินหวงมาอีกสามสิบลี้ ภูเขาเขียวน้ำใส น้ำในลำธารไหลริกๆ ศาลาหลังหนึ่งสร้างขึ้นติดกับธารน้ำ

ทหารสวมเสื้อเกราะกลุ่มหนึ่งนั่งกระจัดกระจายกันอยู่ข้างทาง พวกเขากำลังเล่นพนันขันต่อ แต่เสียงที่พูดกลับไม่ดังนัก เพราะว่าด้านในศาลายังมีผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่นั่งขัดสมาธิเข้าฌาน ในมือถือแส้ปัดฝุ่น

แม่ทัพบู๊อายุน้อยคนหนึ่งยืนเอนตัวพิงอยู่นอกกำแพง สองแขนกอดอก หลับตารวบรวมสมาธิ

เฉินผิงอันบอกให้พวกเผยเฉียนหยุดเท้า ตัวเองเดินหน้าไปเพียงลำพัง

สองคนที่อยู่ในและนอกศาลา คนหนึ่งคือผู้ฝึกตนขอบเขตชมมหาสมุทร อีกคนหนึ่งคือผู้ฝึกยุทธขอบเขตห้า

แม่ทัพบู๊หนุ่มลืมตาขึ้น เอ่ยอย่างเฉยเมย “หากพวกเจ้าจะไปจวนจินหวงก็สามารถกลับได้แล้ว ทุกวันนี้ขุนเขาสายน้ำแถบนี้ถูกปิดเอาไว้แล้ว”

เฉินผิงอันหันหน้าไปมองจุดหนึ่ง กลางแอ่งน้ำที่ค่อนข้างลึกท่ามกลางลำธารสีเขียวมรกตเข้มดำมีใบหน้าขาวซีดดวงหนึ่งโผล่ออกมา เส้นผมสีนิลเหมือนพืชน้ำที่แผ่สยายออก มีใบหน้าเป็นเด็กสาว สวมชุดกระโปรงสีทับทิม จากนั้นนางก็มานั่งบนก้อนหินริมชายฝั่ง แต่เท้าสองข้างที่สวมรองเท้าปักลายกลับยังจมอยู่ในธารน้ำ ดูเหมือนว่านางจะจงใจเป็นปรปักษ์กับแม่ทัพบู๊หนุ่มถึงได้ยิ้มเอ่ยว่า “ปิดภูเขา? เหตุใดจวนจินหวงของพวกเราถึงไม่รู้เลยเล่า? หากอาจารย์ท่านนี้อยากจะไปเป็นแขกที่นั่น ข้าสามารถนำทางให้ได้”

เทพเซียนผู้เฒ่าที่อยู่ด้านในศาลาแค่นเสียงเย็นชาหนึ่งเสียง โบกแส้ปัดฝุ่นเบาๆ ลำธารนอกศาลาก็คล้ายมีทำนบน้ำถูกสร้างขึ้นมาสกัดกั้นน้ำไหล ระดับน้ำพุ่งขึ้นสูงตลอดเวลา ไม่มีน้ำในลำธารไหลเข้ามาในแอ่งน้ำเล็กนั่นอีก

ผีสาวเองก็ไม่ถือสา เพียงแต่ว่าร่างของนางหดเตี้ยลงเล็กน้อย เท้าสองข้างจมลงไปใต้น้ำมากกว่าเดิม คล้ายนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จึงเอ่ยกับบุรุษชุดเขียวว่า “ไม่ต้องกังวลว่าหากย้อนกลับมาทางเดิมแล้วจะถูกคนเล่นงาน จวนจินหวงของพวกเรามีเส้นทางที่ทะลุตรงไปยังทะเลสาบซงเจิน ล่องเรือเที่ยวทะเลสาบ ทัศนียภาพงามล้ำ อยากจะขึ้นฝั่งก็ไม่ต้องคิดมากว่าจะถูกโจรขโมยเรือไปหรือไม่ เหนียงเนียงหูจวินแห่งทะเลสาบซงเจิน เดิมทีก็เป็นภรรยาของฝู่จวินจวนจินหวงของพวกเราอยู่แล้ว”

เฉินผิงอันถึงได้เปิดปากยิ้มเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนแล้ว”

ในที่สุดเทพเซียนผู้เฒ่าที่ร่ายวิชาน้ำสกัดกั้นน้ำในลำธารก็ลืมตาขึ้น หัวเราะหยันกล่าวว่า “เป็นแค่ผีพรายตัวน้อยๆ ก็กล้าพูดจาโอหังวางโต เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วรึ?”

แม่ทัพบู๊หนุ่มคล้ายจะเปลี่ยนใจจึงโบกมือ บอกเป็นนัยแก่พวกพลทหารที่สวมชุดเกราะว่าให้ปล่อยคนเข้ามา ทั้งยังเอ่ยกับบุรุษชุดเขียวที่พกดาบห้อยกาเหล้าด้วยว่า “ทางที่ดีที่สุดพวกเจ้าไม่ควรอยู่ที่จวนจินหวงนานเกินไป เทพเซียนตีกันชาวบ้านเดือดร้อน ไม่ใช่แค่คำพูดล้อเล่นเท่านั้น ส่วนทะเลสาบซงเจิน หากคิดจะไปเที่ยวกลับไม่มีปัญหา”

เฉินผิงอันกุมมือเขย่าแสดงการขอบคุณ

แม่ทัพบู๊หนุ่มพยักหน้าให้เบาๆ

เฉินผิงอันเดินไปบนเส้นทางเลียบลำธาร ฝ่ายผีสาวที่มีชาติกำเนิดจากจวนจินหวงก็ใช้มือหนึ่งยกชายกระโปรงขึ้น เดินอยู่บนผิวน้ำ

ทางฝั่งของศาลา

ผู้ฝึกตนเฒ่าขอบเขตชมมหาสมุทรที่มีนามว่ากวออี๋หลวนเดินมาที่หน้าประตู เอ่ยเย้ยหยัน “แม่ทัพหลิว เจ้าช่างพูดง่ายนัก นึกจะปล่อยผ่านก็ปล่อยไปซะอย่างนั้น”

คนหนุ่มนามว่าหลิวฮุย เพิ่งจะอายุยี่สิบกว่าปี แต่กลับเป็นแม่ทัพบู๊ระดับห้าชั้นเอกแล้ว ประเด็นสำคัญคือยังมีสถานะเป็นผู้ลาดตระเวนขุนเขาสายน้ำห้าทิศที่แคว้นเป่ยจิ้นแต่งตั้งขึ้นมาชั่วคราว ซึ่งก็หมายความว่าในอาณาเขตขุนเขาสายน้ำของขุนเขาเหนือ คนหนุ่มสามารถบัญชาการณ์โยกย้ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งขุนเขาสายน้ำทั้งหมดที่มีระดับต่ำกว่าซานจวินได้ แม้กระทั่งเทพอภิบาลเมืองประจำอำเภอ เขตและจังหวัด ศาลบุ๋นศาลบู๊ของแต่ละสถานที่ก็ล้วนอยู่ในการควบคุมของคนหนุ่ม

หลิวฮุยมีชาติกำเนิดจากตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงในเขตพื้นที่หนึ่งของแคว้นเป่ยจิ้น แต่กลับอาศัยคุณความชอบทางการทหารขึ้นมาเป็นแม่ทัพ เหตุผลก็เรียบง่ายยิ่ง ตระกูลของเขาล่มสลายท่ามกลางหายนะที่แผ่นดินของทั้งทวีปจมดิ่งไปแล้ว

นอกจากนี้ยังเล่าลือกันว่าคนหนุ่มกับฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของเป่ยจิ้นได้พบเจอกันในช่วงที่ประสบเคราะห์ภัย

และยิ่งมีข่าวที่เล็กกว่านั้น บอกว่าน้องสาวของฮ่องเต้ที่แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไปอยู่ต่างแคว้น อันที่จริงมีเรื่องราวในอดีตกับแม่ทัพหนุ่มผู้นี้

แม่ทัพหนุ่มสีหน้าเฉยชา “หากไม่ระวังแล้วฉีกหน้าแตกหักกับราชวงศ์ต้าเฉวียนขึ้นมาจริงๆ เมื่อสงครามบังเกิด บางทีกวอเซียนซืออาจจะพูดง่ายยิ่งกว่าข้า”

สีหน้าของผู้ฝึกตนเฒ่ามืดทะมึน แค่นเสียงหยันในลำคอหนึ่งที หวนกลับไปนั่งเข้าฌานฝึกตนอยู่ในศาลาต่ออีกครั้ง

ทำเนียบขุนเขาสายน้ำในจวนจินหวง อันที่จริงได้ถูก ‘ย้าย’ ไปยังราชวงศ์ต้าเฉวียนนานแล้ว ทว่าจวนจินหวงกลับยังตั้งอยู่บนอาณาเขตของแคว้นเป่ยจิ้นอย่างไม่อาจโต้เถียงได้ ดังนั้นหากยังไม่ย้ายที่ก็จะกลายเป็นว่าไม่ถูกต้องชอบธรรม ต่อให้ทะเลาะโต้เถียงกันจนไปถึงอริยะเจ้าขุนเขาของสำนักศึกษาต้าฝู ก็ยังคงเป็นราชวงศ์ต้าเฉวียนและจวนจินหวงที่ไร้เหตุผล

ตอนนี้เรื่องที่ค่อนข้างลุ่มลึกซับซ้อน อันที่จริงกลับเป็นทะเลสาบซงเจินที่มีน่านน้ำกว้างถึงแปดร้อยลี้แห่งนั้น สุดท้ายแล้วทะเลสาบใหญ่แห่งนี้จะตกเป็นของใครและจะแบ่งสรรกันอย่างไร เป็นเรื่องที่รอให้ปรึกษาหารือกันอยู่จริงๆ

บุรุษคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีทอง ซึ่งก็คือเทพภูเขาอันดับหนึ่งที่อยู่เบื้องล่างซานจวินห้าขุนเขาของเป่ยจิ้นในอดีตเพียงผู้เดียว ฝู่จวินจวนจินหวง เจิ้งซู่

หลังจากที่เขาได้รับข่าวลับมาจากปลาชิงก็รีบใช้กระบี่บินส่งข่าวที่ทางราชวงศ์ต้าเฉวียนมอบให้ส่งข่าวไปยังภรรยาหลิ่วโย่วหรงที่เฝ้าพิทักษ์จวนหูจวินทันที

การเข่นฆ่าในปีนั้น หากไม่เป็นเพราะคนที่ผ่านทางมาผู้นั้นใช้หนึ่งยันต์หนึ่งกระบี่ดักสังหารเทพวารีศาลเถื่อนของทะเลสาบซงเจิน ภัยแฝงที่ตามมาเบื้องหลังคงมีมากมายไร้ที่สิ้นสุด

เพียงแต่ว่าเรื่องวงในพวกนี้ นอกจากภรรยาและคนสนิทไม่กี่คนแล้ว เจิ้งซู่ล้วนไม่เคยบอกกล่าวแก่ผู้ใด

วันนี้เจิ้งซู่เดินมาถึงหน้าประตูใหญ่ รอคอย ‘เซียนซือเด็กหนุ่ม’ ที่มีพระคุณต่อจวนจินหวงด้วยความอดทน ใต้เท้าฝู่จวินท่านหนึ่งถึงกับเผยสีหน้าปิติยินดีคล้ายเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

ระหว่างทางที่ไปยังจวนจินหวง เผยเฉียนที่ถือไม้เท้าเดินป่าพลันตะโกนเรียกขึ้นมาว่าอาจารย์พ่อ

เฉินผิงอันหันกลับมามอง “มีอะไรหรือ?”

เผยเฉียนยิ้มกว้าง ไม่ได้เอ่ยคำใด

เผยเฉียนแค่นึกถึงเรื่องราวในอดีตมากมายตอนที่เป็นเด็กขึ้นมาได้ บางทีอาจารย์พ่ออาจจะลืมไปแล้ว หรือจำได้ไม่ชัดเจนแล้ว แต่ขอแค่เผยเฉียนตั้งใจคิดถึง เรื่องราวเหล่านั้นก็เหมือนมาปรากฏแจ่มชัดอยู่ตรงหน้า ทุกคำทุกประโยคไม่มีตกหล่น

ยกตัวอย่างเช่นปีนั้นนางที่ยังเป็นถ่านดำน้อยมักจะสะลึมสะลือตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วตกใจกลัว จากนั้นก็จะเริ่มบ่นเจ้าคนขี้เหนียวที่มีเงิน เมื่อถ่านดำน้อยถามเขาว่าเป็นเพราะเอาชนะสิ่งสกปรกพวกนั้นไม่ได้ใช่หรือไม่ สิ่งแรกที่เขาพูดคือห้ามเรียกว่าสิ่งสกปรก จากนั้นก็ย้อนถามนางว่า ‘ในเมื่อพวกเราทำผิดก่อน แล้วเกี่ยวอะไรกับข้าเอาชนะพวกมันได้หรือไม่ได้ด้วยล่ะ?’

‘หากเอาชนะได้ เจ้าก็ไม่ต้องก้มหน้าขอโทษคนอื่นไงล่ะ พวกมันต่างหากที่ต้องขอโทษพวกเรา เป็นฝ่ายยอมถอยให้พวกเรา ยกตัวอย่างเช่นเสียงตีกลองตีฆ้องของพวกมันหนวกหูจะตาย พวกมันก็ต้องขอโทษพวกเรา หากจ่ายเงินชดใช้ด้วยก็ยิ่งดี’

‘ต่อให้ข้าเอาชนะพวกมันได้ แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?’

‘ก็พวกเราเป็นพวกเดียวกันไงล่ะ’

ตอนนั้นแม่นางน้อยยังตระหนักไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาพูดประโยคหนึ่งว่า ‘พวกเราทำผิดก่อน’ ไม่ใช่ ‘เจ้า’

ภายหลังอยู่ดีๆ ก็สังหาร ‘ปีศาจใหญ่’ ได้ ถ่านดำน้อยเอนซบบนหลังเขา ถามเสียงเบา ‘เจ้าเป็นคนดี คนดีในใต้หล้านี้ล้วนเป็นแบบเจ้า ใช่ไหม?’

หลังจากนั้นต่อมา เขายื่นมือออกมา แม่นางน้อยยู่หน้าตบยันต์สองแผ่นลงบนฝ่ามือของคนผู้นั้น น้อยเนื้อต่ำใจอย่างถึงที่สุด โหวกเหวกเสียงดังว่า ‘มอบให้ข้าสักแผ่นไม่ได้หรือ? ข้าวิ่งมาไกลขนาดนี้ สุดท้ายก็วิ่งไม่ไหวแล้วจริงๆ นะ’

เผยเฉียนเดินอยู่ริมขอบของถนน หันหน้ามองไปยังฝั่งตรงข้ามของธารน้ำ

เฉินผิงอันพลันเอ่ยเบาๆ ว่า “เรื่องบางอย่างอาจารย์พ่อจดจำได้อย่างชัดเจน ดังนั้นตอนนี้อาจารย์พ่อจึงรู้สึกโชคดีมากที่ปีนั้นไม่ได้ทอดทิ้งเจ้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!