ส่วนเรื่องที่พื้นที่มงคลดอกบัวแบ่งหนึ่งออกเป็นสี่ แล้วเฉินผิงอันถึงกับได้ครอบครองส่วนหนึ่งในนั้น หลิวจงไม่คิดจะสืบเสาะซักไซ้ เหตุใดเจ้าอารามผู้เฒ่าถึงทำเช่นนี้ แล้วเฉินผิงอันได้ไปครองได้อย่างไร ล้วนไม่มีอะไรให้ต้องคิดเล็กคิดน้อย ผู้เฒ่าเพียงแค่อดรู้สึกคิดถึงบ้านเกิดขึ้นมาไม่ได้
ยามที่ทั้งสองฝ่ายพูดถึงเจ้าอารามผู้เฒ่าต่างก็เงียบงันไปครู่หนึ่งพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่มีใครวิจารณ์ ‘เทพเทวดา’ ของพื้นที่มงคลดอกบัวผู้นี้ง่ายๆ
ยิ่งหลิวจงได้กระโดดออกมาจาก ‘บ่อน้ำ’ บ่อนั้นแล้วได้สัมผัสกับฟ้าดินที่กว้างใหญ่ไพศาลของใต้หล้าไพศาล ความกริ่งเกรงที่มีต่อเจ้าอารามผู้เฒ่าท่านนั้นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น บวกกับที่สุดท้ายแล้วเขาเลือกจะลงหลักปักฐานอยู่ที่ต้าเฉวียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลิวจงได้เห็นภาพแขวนของใครบางคนในวัดไท่เมี่ยว ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนอยู่ห่างกันคนละโลก
ต่งไห่เจ้าอารามผู้เฒ่าของอารามกวานเต๋าผู้นี้ทำให้เฉินผิงอันทั้งยอมรับนับถือจากใจจริง ทั้งรู้สึกหวาดผวาไม่คลาย ไม่ได้เรียบง่ายเพียงแค่เพราะเจ้าอารามผู้เฒ่าเป็นผู้ฝึกตนใหญ่ขอบเขตสิบสี่เท่านั้น
คำว่า ‘เคารพยำเกรง’ นี้เป็นคำที่มหัศจรรย์ยิ่งนัก ประเด็นสำคัญคือเคารพอยู่ด้านหน้า ยำเกรงอยู่ด้านหลัง ก็ยิ่งยอดเยี่ยมเข้าไปใหญ่ เรียกได้ว่าแค่สองคำก็บรรยายจิตใจคนได้หมดสิ้น
เฉินผิงอันพลันยิ้มเอ่ย “พี่ใหญ่หลิวขาดอีกแค่ครึ่งก้าวก็จะได้เป็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดินทางไกลแล้ว พวกเราสองคนจะมีโอกาสได้ประลองวิชามีดกันบ้างไหม?”
เหยาหลิ่งจือยังคงสงสัยไม่คลาย อาจารย์ของตนเป็นมือมีดที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งหรือ? การลงมือของอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีศัตรูให้ถอยร่นในวังหลวงหรือการเข่นฆ่านอกเมืองหลวงครั้งนั้นก็ล้วนใช้วิถีหมัดควบทั้งหมัดสายในและหมัดสายนอกมาโดยตลอด ไม่เคยใช้อาวุธใดๆ ในการรับมือกับศัตรู
เมื่อปีก่อนเคยมีคนชุดดำจากเป่ยจิ้นคนหนึ่งแฝงตัวเข้ามาในวังหลวง หมายจะลอบสังหาร ขอบเขตวิถีวรยุทธสูงอย่างถึงที่สุด มากพอจะทะยานลมเดินทางไกลได้ ทำให้แรกเริ่มเหยาหลิ่งจือเข้าใจผิดคิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ฝึกลมปราณ ผลคือพอประชิดตัวถึงได้ชักดาบออกจากฝัก ถูกหมัดหนึ่งของอีกฝ่ายต่อยให้อวัยวะภายในบาดเจ็บ ล้มลงแล้วลุกไม่ขึ้นอีก ยังคงเป็นอาจารย์ที่ขัดขวางอีกฝ่ายเอาไว้ บีบให้อีกฝ่ายเรียกเม็ดเสื้อเกราะสำนักการทหารเม็ดหนึ่งออกมา สวมเสื้อเกราะน้ำค้างหวานไว้บนร่าง แม้ว่าจะต่างกันหนึ่งขอบเขต แต่กระนั้นก็ยังต่อสู้กันได้อย่างสูสี อีกทั้งอีกฝ่ายยังมีคนคอยรอรับ ถึงได้ถอยออกจากวังหลวงไปได้
หลิวจงมีสีหน้าแจ่มใสเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา “น้องเฉินหันมาเล่นมีดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
คนลับมีดผู้นี้มีอาวุธเหมาะมือก็คือมีดเลาะกระดูก ปีนั้นดูเหมือนว่าศึกที่ประลองกับเซียนกระบี่อวี๋เจินอี้จะทำให้มีดเลาะกระดูกเสียหายอย่างหนัก ถูกกระบี่หลิวหลีสมบัติตกทอดตระกูลเซียนเล่มหนึ่งกระแทกจนบิ่นแตกไปหลายจุด
ดังนั้นหลายปีที่ผ่านมานี้ หลิวจงจึงใช้สองมือรับมือกับศัตรูอยู่ตลอดเวลา ตัดใจเอามีดเลาะกระดูกที่มีชีวิตพึ่งพากันออกมาไม่ลง เพราะถึงอย่างไรใต้หล้าไพศาลก็แตกต่างจากพื้นที่มงคลดอกบัว วัตถุวิเศษและสมบัติอาคมบนภูเขามีมากเกินไป วิชาตระกูลเซียนก็ยิ่งแปลกประหลาด หากไม่ทันระวังก็อาจจะสูญเสียเจ้าเพื่อนยากไปอย่างสิ้นเชิงก็เป็นได้
ตอนนั้นที่อยู่บนหัวกำแพงเมืองของเมืองหลวงหนันเยวี่ยน ได้ยินเสียงกลองสวรรค์ คนที่ได้บินทะยาน หลิวจงคนลับมีด กายเนื้อถูกทิ้งไว้ที่พื้นที่มงคลดอกบัว เมื่อมาเยือนใบถงทวีปก็ได้เปลี่ยนเนื้อหนังมังสาใหม่ ทุกวันนี้ยังคงมีลักษณะเป็นผู้เฒ่าอยู่เหมือนเดิม แต่แท้จริงแล้วกลับมีรูปโฉมคล้ายคลึงกับอดีตฮ่องเต้ท่านหนึ่งของสกุลหลิวต้าเฉวียนหลายส่วน และลูกหลานเชื้อพระวงศ์สกุลหลิวก็ขึ้นชื่อว่ารูปงาม นับจากอดีตฮ่องเต้หลิวเจินจนมาถึงองค์ชายสามหลิวฉงเป็นหนึ่งในนั้น ล้วนถือเป็นบุรุษรูปงามที่ได้รับการยอมรับโดยคนทั่วไป
คอขวดของขอบเขตร่างทองนั้นยากจะฝ่าไปได้ ไม่ใช่ว่าคุณสมบัติบนวิถีวรยุทธของหลิวจงไม่ดี จึงได้แต่หยุดอยู่ที่ขอบเขตร่างทอง ไม่อาจพลิกแผ่นดินเดินทางไกลได้ แต่เป็นเพราะเรือนกายใหม่ที่อารามกวานเต๋ามอบให้แข็งแกร่งเกินไป
หลิวจงปิดบังชื่อแซ่อยู่ในเมืองหลวงแคว้นหนันเยวี่ยน รูปโฉมตอนที่เป็นเถ้าแก่ร้านริมลำคลองมีเส้นผมบางเบา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยับย่น หากไม่ยิ้มก็ยังดีหน่อย แต่พอยิ้มขึ้นมาก็ราวกับตาแก่ขึ้นคานหื่นกามคนหนึ่ง ตอนที่เป็นหนุ่ม รูปโฉมก็ไม่ได้ดีกว่าตอนแก่ไปยังไง
ดังนั้นก่อนหน้านี้ตอนที่หลิวจงบอกว่าตอนที่ตัวเองเป็นหนุ่มมีมาดสง่างามไม่ต่างจากเซียนกระบี่เฉิน ต่อให้เฉินผิงอันจะไม่ถือสาเรื่องรูปโฉมของตัวเองมากแค่ไหน ก็ยังคร้านจะเอ่ยคล้อยตามจริงๆ ออกจากบ้านไปอยู่ข้างนอก ท่องอยู่ในยุทธภพ ถึงอย่างไรก็ควรต้องปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความจริงใจ
เฉินผิงอันกล่าว “เมื่อหลายปีก่อนไม่มีอะไรทำ พอดีกับที่ได้รับกริชระดับขั้นไม่เลวมาสองเล่ม หวนนึกถึงการเข่นฆ่าในบ้านเกิดของพี่ใหญ่หลิวปีนั้น จึงฝึกซ้อมมาค่อนข้างเยอะ ถือว่าพอจะคุ้นมือบ้างแล้ว นอกจากวิชามีดสั้นประชิดตัวของพี่ใหญ่หลิวแล้ว อันที่จริงพายุลมกรดในชายแขนเสื้อของอวี๋เจินอี้ หมัดพังทลายของอาจารย์จ้ง ดรรชนีกระบี่ของเรือนจิ้งซิน การควงหอกของเฉิงหยวนซาน ล้วนถูกข้าเอามาตุ๋นรวมในหม้อเดียวกันหมดแล้ว ทุกอย่างล้วนผสมผสานอยู่ในวิชามีด ดังนั้นวันนี้ถึงได้กล้าเอ่ยประโยคประลองฝีมือต่อหน้าปรมาจารย์วิชามีดอย่างพี่ใหญ่หลิวอย่างไรล่ะ”
หลิวจงถูมือ “แบบนี้จะดีหรือ พี่ใหญ่อย่างข้าไม่ได้เล่นมีดมานานหลายปีแล้ว กลัวว่าจะไม่คุ้นชินแล้วจะทำให้น้องเฉินขบขันเอาได้”
หลิวจงกลัวก็แต่ว่าตัวเองต้องขายหน้าต่อหน้าลูกศิษย์ผู้สืบทอด เพราะถึงอย่างไรหมัดก็กลัวคนอายุน้อยแข็งแรงนี่นะ หากเจ้ามาข้าไป ทั้งสองฝ่ายประมือกันไปแล้วหลายสิบกระบวนท่า ใครแพ้ใครชนะ เกียรติยศหน้าตาก็ยังต้องรักษาเอาไว้บ้าง หากเซียนกระบี่เฉินฝึกวิชามีดแค่ไม่กี่วัน ลงมือไม่รู้จักหนักเบาขึ้นมา การถามหมัดประลองมีดที่เดิมทีควรจะหยุดเมื่อพอสมควร แต่ดันกลายเป็นว่าเฉินผิงอันอายุน้อยอารมณ์พลุ่งพล่าน เห็นตนเป็นเหมือนติงอิงขึ้นมา หลิวจงก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองจะมีโอกาสชนะแม้แต่น้อย
เฉินผิงอันส่ายหน้า “แค่ขอความรู้วิชาหมัดจากพี่ใหญ่หลิวเท่านั้น อันที่จริงที่พูดว่าประลองอะไรนั่นล้วนเป็นข้าที่ประมาทไปเอง”
ผู้เฒ่าชำเลืองตามองดาบพกของเหยาหลิ่งจือผู้เป็นลูกศิษย์แวบหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องของการประลองฝีมือ เขารู้สึกหวั่นไหวอยู่บ้างจริงๆ เดิมทีหลิวจงก็เป็นคนลุ่มหลงในวรยุทธอยู่แล้ว อีกทั้งการต่อสู้ในปีนั้นเคยประมือกับเฉินผิงอันมาก่อน ยังไม่สาแก่ใจมากพอ เสมอกัน ถือว่าเสมอกัน
หลังจากนั้นก็ยิ่งถูกอวี๋เจินอี้ที่ฝึกวิชาตระกูลเซียนตามติดมารังแก ทำให้หลิวจงยิ่งอัดอั้นตันใจมากกว่าเดิม
ดาบพกเล่มนี้ของเหยาหลิ่งจือผู้เป็นลูกศิษย์มีประวัติความเป็นมายิ่งใหญ่มาก ด้ามมีดทำมาจากไม้ ด้านนอกห่อหุ้มไว้ด้วยด้ายสีเหลืองสด ตรงที่จับปกป้องมือเป็นลายดอกไม้สีทองชุบด้วยทองแดง น้ำหนักหนักมาก ตรงด้ามดาบฝังเลื่อมปะการังสีแดงสดและหินชิงจินไว้เต็มไปหมด ฝักดาบก็ทำมาจากไม้เช่นกัน หุ้มด้วยหนังปลาฉลามสีเขียวหนึ่งชั้น รัดห่วงทองชุบทองแดงสองชั้น ล้วนเป็นฝีมือของหน่วยการผลิตต้าเฉวียนที่ทำเพิ่มให้ในภายหลัง
‘หมิงเฉวียน’ (น้ำพุที่มีชื่อเสียง) ที่ถูกเก็บอยู่ในคลังสมบัติของต้าเฉวียนมาสองร้อยปีเล่มนี้ แม้จะบอกว่าชื่อฟังดูแล้วเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของทองแดงอยู่บ้าง แต่กลับมีระดับเป็นสมบัติอาคมของแท้แน่นอน เคยถูกฮ่องเต้ผู้บุกเบิกแคว้นของสกุลหลิวนำมาสังหารฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ก่อนกับมือตัวเอง ดังนั้นจึงมีโชคชะตาบู๊ของต้าเฉวียนส่วนหนึ่งรวมถึงปราณมังกรที่หนักมากซุกซ่อนอยู่ด้านในอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะใช้รับมือกับผู้ฝึกยุทธเต็มตัวหรือเซียนซือบนภูเขาก็ไม่มีทางเสียเปรียบอาวุธใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำมาใช้สยบกำราบภูตแห่งป่าเขาและพวกผีวิญญาณวัตถุหยินก็ยิ่งมีพลานุภาพสูงมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!