กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 760

อารามเล็กมีชื่อว่าอารามหวงฮวา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกสุดของนครเซิ่นจิ่ง เหยาเซียนจือพาเฉินผิงอันเดินวนไปวนมา สุดท้ายก็อาศัยตราประทับชิ้นหนึ่งของเจ้าเมืองเข้าไปในอารามเล็กหวงฮวาได้ อารามเล็กดัดแปลงมาจากวัดแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่ฮ่องเต้ผู้บุกเบิกแคว้นของสกุลหลิวต้าเฉวียนเป็นต้นมา ฮ่องเต้ทุกพระองค์ล้วนศรัทธาในลัทธิเต๋าอย่างยิ่ง แม้จะบอกว่าไม่ได้ผลักไสลัทธิพุทธ เพียงแต่ว่าเมื่อผู้ที่เป็นจักรพรรดิ แม่ทัพ อัครเสนาบดี รวมไปถึงชนชั้นสูงทั้งหลายต่างก็ไม่มีความสนใจในพระธรรมมากนัก จึงเป็นเหตุให้วัดวาน้อยใหญ่ที่นับแต่เมืองหลวงไปจนถึงท้องถิ่นต่างๆ ต่อให้ถูกสร้างขึ้นมา ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นการตัดชุดแต่งงานให้ลัทธิเต๋าทั้งสิ้น วัดเทียนกงที่เชื้อพระวงศ์ราชวงศ์ก่อนสร้างขึ้นมาซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองแห่งนั้น ค่อนข้างจะเป็นข้อยกเว้น อายุของวัดโบราณเยอะกว่าสกุลหลิวต้าเฉวียนมากนัก ระหว่างที่เดินทางมา เฉินผิงอันฟังเหยาเซียนจือเล่าว่าทุกวันนี้เซินกั๋วกงผู้เฒ่าก็คือผู้มีจิตศรัทธาที่ใหญ่ที่สุดของวัดเทียนกง

เหยาเซียนจือผลักประตูอาราม คงเป็นเพราะอารามเล็กไม่อาจสร้างตำหนักหลิงกวานขึ้นมาได้ บนประตูใหญ่ของอารามเต๋าจึงแปะภาพหลิงกวานไว้สององค์ หลังจากที่เหยาเซียนจือผลักประตูเปิดเกิดเป็นเสียงแอดอาดแล้ว คนทั้งสองก็เดินข้ามธรณีประตูกันเข้าไป พอเจ้าเมืองแห่งเมืองหลวงท่านนี้ปิดประตูลงด้วยตัวเองก็หันตัวกลับมาพูดชวนคุยว่า “ในอารามนอกจากหลิวเม่านักพรตหลงโจวแล้ว ก็มีแค่นักพรตน้อยสองคนที่ทำหน้าที่กวาดพื้นทำกับข้าวเท่านั้น เด็กทั้งสองล้วนเป็นเด็กกำพร้า ชาติกำเนิดบริสุทธิ์ ไม่มีคุณสมบัติในการฝึกตนอะไร หลิวเม่าถ่ายทอดมรรคกถาให้กับพวกเขาก็ยังคงไม่อาจฝึกตนได้ น่าเสียดายนัก เวลาปกตินอกจากนั่งสมาธิเป็นการทำการบ้านแล้ว อันที่จริงก็เอาแต่เล่นอย่างเดียว แต่ถึงอย่างไรติดตามอยู่ข้างกายหลิวเม่า ต่อให้เป็นเทพเซียนไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไปเสียทั้งหมด”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ องค์ชายสามผู้หนึ่งที่สามารถจับจวนจินหวงและทะเลสาบซงเจินของเป่ยจิ้นมาเล่นอยู่ในกำมือได้ อ๋องเจ้าเมืองคนหนึ่งที่สามารถช่วยให้พี่ชายขึ้นครองราชย์ได้สำเร็จ ต่อให้จะหันไปฝึกตนแล้ว คาดว่าน้ำมันในตะเกียงดวงนี้ก็คงมีแต่จะยิ่งเปลืองมากกว่าเดิม (มาจากประโยคไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน)

อยู่ดีๆ เฉินผิงอันก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ก่อนหน้านี้นั่งโดยสารเรือข้ามฟาก ข้าสังเกตเห็นว่าวัดหรูชวี่ของแคว้นเป่ยจิ้นคล้ายจะมีควันธูปกลับคืนมาอีกครั้งแล้ว”

เหยาเซียนจือค่อยๆ ปรับตัวจนเคยชินกับความคิดที่ก้าวกระโดดของอาจารย์เฉินแล้ว เพราะเขามักจะเป็นเช่นนี้ ประโยคก่อนหน้ายังพูดถึงสนามรบที่กองทัพชายแดนต้าเฉวียนถอยกลับเข้ามาพิทักษ์เมืองหลวงและความเสียหายจากสงคราม วาดเส้นคดเคี้ยวมากมายอยู่บนโต๊ะหินอยู่เลย แต่ครู่เดียวก็เปลี่ยนไปถามถึงสกุลสวี่ของอารามฉ่าวมู่ที่ยังหลงเหลืออยู่ว่าทุกวันนี้มีสภาพการณ์เช่นไรในต้าเฉวียนแล้ว

เหยาเซียนจือถาม “วัดโบราณของเป่ยจิ้นที่มีแท่นหินดอกบัวแห่งนั้นน่ะหรือ? ฮ่องเต้หนุ่มของเป่ยจิ้นศรัทธาในพุทธศาสนา ดังนั้นหลายปีมานี้ลัทธิพุทธจึงรุ่งเรืองอย่างมาก เขาออกราชโองการให้สร้างวัดขึ้นมาหลายแห่ง เดิมทีวัดหรูชวี่ก็เป็นวัดโบราณพันปีอยู่แล้ว เพราะถูกทิ้งร้างมานานเกินไป กลับกลายเป็นว่าสภาพของวัดถูกรักษาไว้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ทุกวันนี้จึงถือว่าเป็นวัดใหญ่ของเป่ยจิ้นแล้ว เมื่อหลายปีก่อนมีภิกษุสมณศักดิ์สูงหลายรูปที่ทยอยกันได้รับคำสั่งให้ไปเข้าพักอยู่ที่วัดหรูชวี่ ควันธูปจึงโชติช่วงขึ้นมาทันใด”

“นั่นเรียกว่าจำวัด”

เฉินผิงอันยิ้มแก้คำพูดของเหยาเซียนจือให้ถูกต้องก่อน จากนั้นก็ถามอีกว่า “เคยได้ยินเรื่องของภิกษุรูปโฉมอ่อนเยาว์ แต่อายุที่แท้จริงต้องไม่น้อยแล้วแน่นอนคนหนึ่งหรือไม่ เขาเดินทางจากทิศเหนือลงมาทางใต้ เชี่ยวชาญถึงแก่นของพระธรรม อาจมีความเกี่ยวข้องของสายของหนิวโถวอยู่บ้าง ไม่แน่ว่าจะต้องจำวัดอยู่ในเป่ยจิ้น มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าอาจอยู่ในต้าเฉวียนของพวกเจ้าหรือไม่ก็ในหนันฉี”

เหยาเซียนจือคิดแล้วก็ส่ายหน้ายิ้มกล่าว “เอาเป็นว่าข้าไม่เคยได้ยินก็แล้วกัน ภิกษุที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของเป่ยจิ้นหนันฉีทุกวันนี้ ดูเหมือนว่าจะอายุเยอะกันแล้ว ยังคงเป็นเพราะโยคนั้น ท่านไปถามหลิ่งจือกับผู้ถวายงานหลิวดีกว่า ข้าไม่เข้าใจระบบลัทธิพุทธของสายหนิวโถวเลยแม้แต่น้อย อาจารย์เฉินเข้าใจเรื่องนี้ด้วยหรือ? บังเอิญนัก ฮ่องเต้ของพวกเราก็เชี่ยวชาญด้านพระธรรมคำสอนอย่างยิ่ง ต้องมีเรื่องให้คุยกันได้แน่นอน”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “หากมีโอกาสจะต้องลองถามผู้ถวายงานหลิวดู”

ครั้งแรกที่เฉินผิงอันเดินทางมาเยือนใบถงทวีป ก่อนที่จะจับผลัดจับผลูหลงเข้าไปในพื้นที่มงคลดอกบัว เคยเดินทางผ่านวัดหรูชวี่ของแคว้นเป่ยจิ้น แล้วก็ได้เจอกับคนจิ๋วดอกบัวที่นั่น

ภายหลังในภูเขากันดารห่างไกลที่มีป่ารกครึ้ม เส้นทางบนภูเขาอันตราย อยู่ห่างไกลจากผู้คน เฉินผิงอันก็ได้เจอกับภูตที่สติวิปลาสตนหนึ่ง มันพร่ำท่องประโยคเศร้าเสียใจซ้ำไปซ้ำมา

ตอนนั้นเฉินผิงอันไม่ได้คิดอะไรมาก ภายหลังไปเป็นนักบัญชีที่ทะเลสาบซูเจี่ยน ออกจากบ้านเดินทางไกล ได้พบเจอกับภิกษุชุดขาวที่นั่งนิ่งอยู่ในถ้ำหินริมหน้าผาแคว้นเหมยโย่วโดยบังเอิญ อีกฝ่ายนั่งตัวตรงท่ามกลางลมพัดแรง แล้วยังเจอวานรตัวหนึ่งปีนไต่หน้าผาขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าภูตน้อยแห่งป่าเขาที่พบเจอในปีนั้นจะเชื่อมโยงไปยังวาสนาครั้งหนึ่ง

เฉินผิงอันขอความรู้ด้านพระธรรมคำสอนจากภิกษุ ภิกษุที่ตัวอยู่ในแจกันสมบัติทวีป นอกจากจะช่วยชี้แนะปริศนาบางอย่างให้แล้ว ยังเอ่ยประโยคหนึ่งว่า ‘ใบถงทวีปอย่าได้เกิดสายหนิวโถว’ ดังนั้นในภายหลังเฉินผิงอันจึงตั้งใจไปทำความเข้าใจกับนิกายหนิวโถวมาด้วย เพียงแต่ว่าเข้าใจอย่างครึ่งๆ กลางๆ ทว่าการอธิบายเกี่ยวกับอุปสรรคทางตัวอักษรของภิกษุกลับทำให้เฉินผิงอันได้รับผลประโยชน์มหาศาล

นักพรตหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องสำหรับฝึกตนที่เงียบสงบ บนศีรษะสวมกวานหย่วนโหยว ในมือประคองถือแส้ปัดฝุ่น เท้าสวมรองเท้าปักลายเมฆ เขาเพียงแค่ชำเลืองตามองเหยาเซียนจือแวบหนึ่งแล้วก็ไม่มองมากอีก แต่จ้องเป๋งตรงไปที่บุรุษสวมชุดกว้าตัวยาวสีเขียวผู้นั้น ครู่หนึ่งต่อมาก็คล้ายจะจำอีกฝ่ายได้จึงคลี่ยิ้มกว้าง สะบัดแส้ปัดฝุ่น ประสานมือคารวะตามขนบลัทธิเต๋า “ผินเต้าคารวะเซียนกระบี่เฉิน ใต้เท้าเจ้าเมือง”

เฉินผิงอันเขย่าหมัดคารวะกลับคืน “คารวะนักพรตหลงโจว”

เหยาเซียนจือคร้านจะคารวะกลับคืน เขากลั้นยิ้ม สองคนนี้เจอหน้ากันแต่ไม่ได้ตีกัน ก็ช่างฝึกขัดเกลาจิตใจบ่มเพาะนิสัยกันมาได้ดีจริงๆ ทั้งสองฝ่ายไม่เสียแรงที่เป็นผู้ฝึกตน

เหยาเซียนจือนึกอยากจะปลดน้ำเต้าบรรจุเหล้าตรงเอวลงมาดื่มเหล้าชมเรื่องสนุก ผลกลับถูกเฉินผิงอันตบแขน เอ่ยว่า “อีกเดี๋ยวรอเข้าไปในห้องแล้วค่อยดื่ม”

เหยาเซียนจือไม่เข้าใจเรื่องราว แต่ก็ยังวางกาเหล้าลง

หลิวเม่าที่มีฉายาทางเต๋าว่านักพรตหลงโจวได้ยินประโยคนี้แล้วก็ส่ายหน้ายิ้มเจื่อน “เซียนกระบี่เฉิน ไยต้องบีบบังคับกันถึงเพียงนี้ด้วยเล่า?”

เหยาเซียนจืออึ้งไปนาน แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี นี่มันอะไรกับอะไรกัน? หลังจากอาจารย์เฉินเข้ามาในอารามแล้ว ทั้งคำพูดและการกระทำก็ล้วนเป็นมิตรมากเลยนะ ทำไมหลิวเม่าถึงถามเช่นนี้ได้

นักพรตหลิวเม่าไม่เห็นเจ้าเมืองแห่งเมืองหลวงที่ดีแต่จะทำอะไรโดยใช้อารมณ์อยู่ในสายตาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอดีตอ๋องเจ้าเมืองหรือเจ้าอารามคนปัจจุบันของอารามหวงฮวา เผชิญหน้ากับเหยาเซียนจือที่คล้ายลูกนกเพิ่งหัดบินในวงการขุนนางผู้นี้ แค่ก้มหัวคารวะแบบขนบลัทธิเต๋าก็ถือว่ามากพอแล้ว ทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรให้คุยกันได้จริงๆ ตนพูดถึงมรรคกถา พูดถึงการฝึกตน เหยาเซียนจือฟังไม่เข้าใจ ก็เท่ากับสีซอให้ควายฟังโดยแท้ ใต้เท้าเจ้าเมืองพูดเรื่องในราชสำนักกับตนก็ไม่ได้ อีกทั้งยังละเมิดกฎอย่างใหญ่หลวงด้วย

ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใดตนถึงสามารถมาฝึกตนอยู่ที่นี่ได้นานหลายปี แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเหยาจิ้นจือเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ใจดีมีเมตตา มีความใจอ่อนของสตรีอะไร แต่เป็นเพราะสถานการณ์ในราชสำนักไม่อาจปล่อยให้นางทำตามใจปรารถนาได้ สกุลหลิวต้าเฉวียน นอกจากเรื่องที่พอภัยมาถึงตัวพี่ชายอดีตฮ่องเต้ก็หลบลี้หนีเคราะห์ไปยังใต้หล้าแห่งที่ห้าแล้ว อันที่จริงก็ไม่มีอะไรให้วิจารณ์ได้อีก พูดประโยคที่เป็นความจริงสักคำ การที่ราชวงศ์ต้าเฉวียนสามารถทั้งรบทั้งถอย ต่อให้เจอกับสงครามใหญ่ติดต่อกันหลายครั้ง กองทัพม้าชายแดนฝีมือดีหลายกองของเหนือใต้และค่ายทัพประจำท้องถิ่นแห่งต่างๆ ล้วนมีความเสียหายด้านการศึกอย่างน่าพรั่นใจ ทว่าขวัญกำลังใจของทหารไม่แตกสลาย สุดท้ายพิทักษ์นครเซิ่นจิ่งและพื้นที่สำคัญของเมืองหลวงเอาไว้ได้ สิ่งที่อาศัยก็คือทรัพย์สมบัติอันอุดมสมบูรณ์ที่สกุลหลิวต้าเฉวียนสะสมมาทีละเล็กทีละน้อยตลอดสองร้อยปีที่ก่อตั้งแคว้น

แน่นอนว่าก็เพราะอาศัยผลบุญที่บรรพบุรุษสกุลหลิวสะสมมาส่วนนี้ ถึงได้มีเรื่องที่หลิวฉงอ๋องเจ้าเมืองผู้มีคุณความชอบในการปกป้องบ้านเมืองล้มป่วยเจ็บหนัก มีหลิวเม่าที่ได้มาพึ่งพาอยู่ใต้ชายคาของผู้อื่น เฝ้าพิทักษ์อารามเล็กแห่งหนึ่ง และมีชีวิตที่นับว่ายังปลอดภัย ทุกครั้งที่ถึงช่วงปีใหม่ บทความคำเขียว หนังสือขอพรเทพซานกวานและยันต์ของอารามหวงฮวาล้วนจะต้องส่งไปยังวังหลวงนครเซิ่นจิ่งตามจำนวนและเวลาที่กำหนด เล่าลือกันว่าทุกครั้งที่ขุนนางเก่าแก่ของราชวงศ์ก่อนซึ่งเป็นผู้ที่เห็นแก่ความสัมพันธ์ในวันวานเห็นยันต์และหนังสือขอพรพวกนั้นจะต้องพากันหลั่งน้ำตาอย่างอดไม่ได้ ว่ากันว่ายังมีผู้เฒ่าอายุมากที่พูดจาไร้ความยำเกรงบางส่วนที่พอดื่มสุรากับสหายจนเมามายแล้วก็ได้เอ่ยมาประโยคหนึ่งว่า ต่อให้แค่เพื่อได้เห็นยันต์เหล่านี้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปี ก็จะต้องมีชีวิตอยู่ให้นานอีกหนึ่งปีให้จงได้

นี่ก็คือหลักการเหตุผลที่อริยะปราชญ์ลัทธิขงจื๊อพร่ำเอ่ยด้วยความหวังดี เรื่องที่ถูกต้องย่อมสำเร็จอย่างชอบธรรม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!