บทที่ 761.3 ไม่ถูก
มือขวาจับกระบี่แต่กลับไม่ได้ชักกระบี่ออกจากฝัก เป็นฝ่ายขยับเข้าใกล้รับกระบี่ที่สามของเผยหมิ่น
จนถึงตอนนี้เผยหมิ่นก็ยังไม่ได้ออกกระบี่อย่างแท้จริง
เผยหมิ่นไม่ใช่ผู้ที่เป็นความภาคภูมิใจที่สุดในโลกผู้นั้น แม้ไม่ใช่ผู้ฝึกตนใหญ่ขอบเขตสิบสี่ แต่ผู้เฒ่ากลับเป็นผู้ฝึกกระบี่จริงแท้แน่นอน แน่นอนว่าย่อมต้องมีกระบี่บินแห่งชะตาชีวิต
ผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตบินทะยานคนหนึ่ง อีกทั้งยังได้ครอบครองกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตที่น่าตะลึงพรึงเพริดถึงสี่เล่ม!
เผยหมิ่นส่ายหน้ายิ้มกล่าว “จะเอาแต่มั่นใจว่าข้าไม่มีทางฆ่าเจ้าแล้วทำตัวไร้ความยำเกรงแบบนี้ต่อไปตลอดคงไม่ได้กระมัง? นิสัยที่ชอบกวนโอ้ยรนโดนต่อยตีเช่นนี้ วันหน้าต้องเปลี่ยนเสียใหม่”
คนหนุ่มที่เกิดมาก็มินิสัยระมัดระวังรอบคอบ ยังคงเลือกที่จะให้คนและกระบี่แยกกันลงมือ กระบี่ยาวและเฉินผิงอันที่ถือฝักกระบี่หายตัวไปพร้อมกันอีกครั้ง
แต่เฉินผิงอันกลับไม่ได้เลือกจะปล่อยกระบี่เลียนแบบก่อนหน้านี้ แต่ปล่อยความคิดให้กระจายไปแปดทิศ ระหว่างฟ้าดินมีกระบี่ผุดขึ้นมาจำนวนนับไม่ถ้วน ควบคุมแม่น้ำยาวกระบี่บินแปดเส้นให้พุ่งเข้าหาเผยหมิ่นอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร
เผยหมิ่นพยักหน้า กระบี่เยอะแล้วร้ายกาจจริงเสียด้วย
กระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มที่สองของคนหนุ่มร่วมประสานกับวิชาอภินิหารแห่งชะตาชีวิตของกระบี่บินเล่มแรก มองไปแล้วเหมือนจะไร้ช่องโหว่อยู่จริง แต่เมื่ออยู่ในสายตาของเผยหมิ่นก็เป็นแค่มองดูคล้ายเท่านั้น
เผยหมิ่นครุ่นคิด ในที่สุดก็เรียกกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มหนึ่งออกมา
ตลอดทั้งฟ้าดินขนาดเล็กกลายเป็นบ่อสายฟ้าสีขาวหิมะ งูยาวสายฟ้านับพันนับหมื่นเส้นเหมือนกระบี่บินที่ปริแตกอย่างกำเริบเสิบสาน ยังคงใช้หนึ่งปะทะหนึ่ง ใช้กระบี่บินปะทะกับกระบี่บิน
กระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มนี้มีชื่อว่า ‘เสินเซียว’ (เทพสวรรค์ ตามความเชื่อของลัทธิเต๋าคือเทพลำดับสูงสุดในเก้าชั้นฟ้า)
ส่วนตัวเผยหมิ่นเองนั้นได้พลิ้วกายลงข้างลำธารช้าๆ ตลอดทางที่ผ่านมากระบี่บินดวงจันทร์ในบ่อล้วนถูกปราณกระบี่ของทั้งร่างเผยหมิ่นกระแทกชนออก เผยหมิ่นทรุดตัวนั่งยองอยู่ริมน้ำ ยื่นมือไปวักน้ำกอบหนึ่งขึ้นมาชั่งน้ำหนัก
ไม่เพียงแต่น้ำในลำธารทั้งสายของฟ้าดินเล็กนกในกรง แม้แต่ไอน้ำทั้งหมดก็ล้วนถูกกักอยู่ในฝ่ามือของเขา นี่ก็คือวิชาอภินิหารอันเป็นพรสวรรค์ของกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตอีกเล่มของเผยหมิ่น
กระบี่บินมีชื่อว่า ‘สุ่ยเซียน’ (เซียนน้ำ)
ทำให้เผยหมิ่นสามารถกลายมาเป็นเหมือนผีพรายตนหนึ่งที่อยู่ในแม่น้ำแห่งกาลเวลา เมื่อเผยหมิ่นตั้งใจสร้างท่าเรือเอาไว้ริมน้ำ ก็จะสามารถเดินท่องกระแสน้ำได้ตามใจปรารถนาไร้พันธนาการ
นอกจากมีขีดจำกัดทางธรรมชาติชั้นหนึ่งซึ่งเผาผลาญปราณวิญญาณและพลังจิตของเผยหมิ่นไปอย่างมหาศาลแล้ว อันที่จริงเวทคาถานี้ก็หวั่นเกรงฟ้าดินเล็กอย่างนกในกรงนี้มากที่สุด เพียงแต่ว่าขอบเขตของคนหนุ่มไม่เพียงพอ ฟ้าดินไม่มั่นคงมากพอ มองดูเหมือนไร้ช่องโหว่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ถือว่าแข็งแกร่งมิอาจโจมตีอย่างแท้จริง แน่นอนว่ายังมีช่องว่างให้ฉกฉวยเล่นงานได้
เมื่อเผยหมิ่นก้าวออกไปหนึ่งก้าว ทิ้งร่างจริงไว้ตรงจุดเดิม จิตหยินที่ออกจากช่องโพรง ‘ล่องลอย’ ไปถึงท่าเรือของกาลเวลาแห่งหนึ่ง สองนิ้วก็ประกบกันเป็นกระบี่ ทิ่มไปยังแผ่นหลังของคนชุดเขียวที่อยู่ตรงตีนเขาเบาๆ
ท่ามกลางฟ้าดินที่แท้จริง เฉินผิงอันที่สัมผัสได้ขยับร่างเบี่ยงออก แต่จากนั้นร่างเขาก็เซไปหนึ่งก้าว อยู่ดีๆ ตรงแผ่นหลังก็มีรูหนึ่งปรากฏขึ้นมา ทั้งไม่มีปราณกระบี่แม้แต่น้อย แล้วก็ไม่มีปณิธานกระบี่ใดๆ หากไม่เป็นเพราะความคิดวาบขึ้นในหัวของเฉินผิงอัน เกรงว่าคงจะถูกดรรชนีกระบี่แทงทะลุหัวใจไปแล้ว ไม่ถึงกับตาย แต่อย่างน้อยก็ต้องทิ้งชีวิตไปครึ่งหนึ่ง มีโรคร้ายแรงอย่างหนึ่งที่ทิ้งไว้ให้กับเรือนกายของผู้ฝึกยุทธ ขอบเขตของผู้ฝึกลมปราณจะถดถอยหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับโชคของครึ่งชีวิตที่เหลือนั้นแล้ว
จากนั้นตรงม่านฟ้าก็มีเสาลำแสงปราณกระบี่ต้นหนึ่งปรากฏออกมาแล้วแผ่ปกคลุมร่างเขาอยู่ภายใน
สองมือถือกระบี่ ทั้งคนทั้งกระบี่กระแทกเข้าชนบนยอดเขาที่ราบเรียบลูกนั้น สุดท้ายภูเขาพังถล่มพื้นดินปริแตก ภูเขาทั้งลูกระเบิดตูมออก บนพื้นดินเกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ยักษ์
คือกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มที่สามของเผยหมิ่น ‘อีเสี้ยนเทียน’ (แปลตรงตัวคือฟ้าหนึ่งเส้น หมายถึงแสงสว่างที่ส่องลอดลงมาเป็นลำเส้นระหว่างหน้าผาหรือภูเขาสองลูก หรือแผ่นฟ้าเสี้ยวหนึ่งที่มองลอดไปเห็นระหว่างหน้าผาหรือภูเขาสองลูก)
เพียงแต่ว่าในหลุมใหญ่กลับไร้ร่องรอยของเฉินผิงอัน
ทว่าแสงกระบี่ตรงแน่วหลายเส้นกลับปรากฏขึ้นระหว่างฟ้าดิน มองดูแล้ววุ่นวายไร้ระเบียบ มีทั้งเส้นตั้งเส้นนอนที่พากันพุ่งวูบผ่านไป ทุกครั้งที่แสงกระบี่ปรากฏตัว ตรงปลายของแสงจะมีคนชุดเขียวถือกระบี่ มือซ้ายออกกระบี่ไม่หยุด
จิตหยินของเผยหมิ่นที่อยู่ตรงท่าเรือทอดถอนใจอย่างอดไม่อยู่ ดูท่าจะเป็นคนที่เดินท่องแม่น้ำแห่งกาลเวลามาจนชิน ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางหลบกระบี่นี้ได้เด็ดขาด กระบี่แรก ดูเหมือนว่าจะเป็นสิบสองกระบี่ทับซ้อนนั่น?
จิตหยินของเผยหมิ่นอยู่ที่ท่าเรือของแม่น้ำแห่งกาลเวลาที่ดวงจิตสร้างขึ้นไว้เป็นแห่งที่สาม ปล่อยดรรชนีกระบี่ออกไปสิบสองครั้ง ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มกล้าใช้วิธีการแบ่งสมาธิแบ่งความคิดกับตน ถ้าอย่างนั้นเผยหมิ่นก็จะทำเลียนแบบอีกครั้ง ใช้สิ่งนี้มอบเป็นของขวัญตอบแทนกลับคืนไป ช่องโพรงแห่งชะตาชีวิตของคนหนุ่มวางวัตถุแห่งชะตาชีวิตห้าธาตุเอาไว้ บวกกับช่องโพรงลมปราณของภูเขาทายาทก็น่าจะพอให้เผยหมิ่นไปเคาะประตูเบาๆ ได้ครบรอบหนึ่งพอดี
ผู้เฒ่ากดขอบเขตไว้ที่เซียนเหรินอยู่ตลอดเวลา
อันที่จริงแค่นี้ก็มากพอจะรังแกเด็กรุ่นหลังคนหนึ่งได้แล้ว
คนหนุ่มผู้นี้อาศัยฟ้าดินเล็กของกระบี่บินเล่มหนึ่ง เรือนกายของผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทางร่างหนึ่ง รวมไปถึงความคุ้นเคยที่มีต่อแม่น้ำแห่งกาลเวลา บวกกับกระบี่ยาวอาวุธเซียนที่ถือไว้ในมือขวาซึ่งคมกริบมากพอ จึงได้ช่วยชีวิตตัวเองไว้แล้วสามครั้ง
ในขณะที่เผยหมิ่นเตรียมจะเก็บกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตสามเล่มอย่างเสินเซียว สุ่ยเซียนและอีเสี้ยนเทียนกลับมา
อยู่ดีๆ กระบี่หนึ่งก็พุ่งมาถึงอย่างไม่มีลางบอกกล่าว อีกทั้งยังพุ่งมาอย่างไร้เหตุผลด้วย
คือกระบี่ยาวที่หลอมมาจากปลายกระบี่ไท่ป๋ายซึ่งไม่มีคนจับ เมื่อเทียบกับการเงื้อฝักกระบี่ฟันฉับลงมาของเฉินผิงอันก่อนหน้านี้แล้ว เวทกระบี่แตกต่าง ปณิธานกระบี่และวิถีแห่งกระบี่ก็ยิ่งไม่เหมือนเดิม
กระบี่ยาวพุ่งมาถึงเป็นเส้นตรง ดิ่งเข้าหาร่างจริงของเผยหมิ่นที่อยู่ในท้องน้ำแห้งขอด ฟันฟ้าดินเล็กนกในกรงด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงบุกพุ่งมาด้านหน้าอย่างไร้สิ่งกีดขวาง ราบรื่นราวผ่าลำปล้องไผ่
จิตหยินของเผยหมิ่นถอยออกมาจากแม่น้ำแห่งกาลเวลา กลับเข้าสู่ร่างจริง ครุ่นคิดเล็กน้อยก็ไม่ได้เลือกที่จะหลบเลี่ยงประกายเฉียบคมของกระบี่เล่มนั้น แต่ยื่นนิ้วข้างหนึ่งออกไปดันปลายกระบี่ของกระบี่ยาวเอาไว้
แสงกระบี่กลุ่มหนึ่งระเบิดแตกพร่างพราย
เป็นเหตุให้ฟ้าดินขนาดเล็กทั้งแห่งเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนสว่างจ้าไปทั้งหมด
คนชุดเขียวปล่อยหมัดหนึ่งเข้าใส่ด้านหลังของเผยหมิ่น
ผลคือต้องปะทะเข้ากับกระบี่บินสามเล่มที่เผยหมิ่นยังไม่เก็บไป
หลบพ้นเสินเซียวมาได้ แต่ก็ต้องโดนสุ่ยเซียนปาดลำคอ ถูกอีเสี้ยนเทียนแทงทะลุแขนทั้งข้างที่กำเป็นหมัด สุดท้ายทะลุออกไปจากตรงหัวไหล่
ในฐานะผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทาง ในท้ายที่สุดหมัดนี้ของเฉินผิงอันถึงกับหยุดค้างห่างจากด้านหลังเผยหมิ่นมาอีกหนึ่งฉื่อ
เพราะกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มที่สี่ของเผยหมิ่นมาหยุดอยู่ตรงหว่างคิ้วของเฉินผิงอัน ห่างไปแค่หนึ่งชุ่น
กระบี่บินหยุดนิ่ง เพียงแต่ปลายกระบี่กลับชี้ตรงไป ใบหน้าที่เดิมทีเต็มไปด้วยเลือดสดของเฉินผิงอันคล้ายถูกน้ำใสหนึ่งอ่างจากปราณกระบี่ล้างจนสะอาดเอี่ยม ไม่เหลือคราบเลือดอีกแม้แต่น้อย ทว่าตรงหว่างคิ้วกลับมีรูที่เล็กอย่างถึงที่สุดปรากฏขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!