กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 805

รอกระทั่งคิดไปถึงไข่มุกฉิวของหลุมน้ำลู่ที่กองกันเป็นภูเขา ส่องประกายแสงระยิบระยับมลังเมลืองอยู่ในคลังสมบัติภูเขาลั่วพั่วบ้านตน เฉินผิงอันก็รีบเอ่ยเสริมไปอีกประโยคว่า “หากวันหน้าโชคดีได้ร่วมสนามรบกับผู้อาวุโสชิงจง ผู้เยาว์ต้องออกกระบี่อย่างแน่นอน”

ในใจชิงจงฮูหยินรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง เป็นบุรุษตัวโตๆ แต่กลับอิดออดไม่ผึ่งผายเอาเสียเลย

เฉินผิงอันเองก็ได้แต่ทำเป็นมองไม่เห็นความไม่สบอารมณ์ของตั้นตั้นฮูหยินท่านนี้

จั่วโย่วพลันเอ่ยว่า “มีปัญหาหรือ?”

ฉีถิงจี้ยิ้มบางๆ “ดูเหมือนว่าจะมีอยู่บ้าง”

ลู่จือเอ่ยแค่คำเดียว “อ้อ?”

ชิงจงฮูหยินพูดอย่างหนักแน่นเด็ดเดี่ยว “ตอบอาจารย์จั่ว ไม่มีปัญหาแน่นอน!”

เอาอีกแล้ว

ก่อนหน้านี้ก็เป็นนักพรตเฒ่าสามคนที่มีฮว่อหลงเจินเหรินเป็นหนึ่งในนั้น เจ้าหนึ่งคำข้าหนึ่งคำพากันข่มขู่คน

ตอนนี้ก็มีเซียนกระบี่สามคนที่มีจั่วโย่วเป็นหนึ่งในนั้นอีก

ชอบรังแกสตรีที่โดดเดี่ยวเดียวดายทั้งยังสำรวมตนกันยิ่งนัก ต้องการอะไรกันแน่

หากพวกเจ้าแน่จริงก็ไปหาเรื่องเซียวสวิ้นที่เป็นผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตสิบสี่ของใต้หล้าเปลี่ยวร้างเสียสิ ทว่าตั้นตั้นฮูหยินมาคิดดูอีกที ดูเหมือนว่าใต้หล้านี้คนที่หาเรื่องเซียวสวิ้นมากที่สุดก็คืออาจารย์จั่วตรงหน้านี้เอง ดังนั้นนางจึงได้แต่ยิ้มประจบอย่างโง่งม

ไม่สนใจตั้นตั้นฮูหยินที่สถานะและขอบเขตไม่ต่ำต้อย มีเพียงความกล้าที่ไม่มากอีกต่อไป ลู่จือถามว่า “การประชุมครั้งนี้ ศาลบุ๋นคิดจะประชุมไปอีกนานแค่ไหน?”

ฉีถิงจี้กล่าว “จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ พวกเราไม่ใช่คนตัดสินใจ หากเจ้าทนอยู่ไม่ไหวจริงๆ ก็ออกไปดื่มเหล้าข้างนอกก่อนสักกา จากนั้นก็กลับไปที่ทักษินาตยทวีป หลังจบเรื่องข้าจะอธิบายให้ทางศาลบุ๋นฟังเอง”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “อาจารย์ลู่หนีไปกลางคันไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่ทางที่ดีที่สุดอาจารย์ลู่อย่าขี่กระบี่ออกไปจากหน้าประตูของศาลบุ๋นก็แล้วกัน สามารถทำให้ยุ่งยากกว่าเดิมสักหน่อย ไปพบกับสิบแปดกระบี่ของสำนักกระบี่หลงเซี่ยงก่อนแล้วค่อยกลับไปที่ทักษินาตยทวีปด้วยกัน”

ฉีถิงจี้พยักหน้ารับ

เพราะถึงอย่างไรเขาและลู่จือต่างก็ไม่ใช่อาเหลียงที่มาศาลบุ๋นเป็นเรื่องปกติเหมือนกินข้าว มารยาทที่ควรให้เกียรติไว้หน้ากัน ก็ยังต้องควรมอบให้กับศาลบุ๋น

ลู่จือคิดว่าสามารถทำได้ ดื่มเหล้าแล้วค่อยดอดหนีไป เดินไปหลายๆ ก้าวก่อนค่อยขี่กระบี่เผ่นหนี อันที่จริงนี่ก็ไม่ต่างจากตอนอยู่ที่กำแพงเมืองปราณกระบี่สักเท่าไร

ลู่จือจึงแสร้งทำเป็นขอเหล้ากาหนึ่งจากเฉินผิงอันมาหิ้วไว้ในมือ แล้วก้าวเดินไปที่หน้าประตูใหญ่

ก้าวข้ามธรณีประตู สตรีที่ใบหน้าผอมตอบ เรือนกายสูงเพรียวผู้นี้ไปนั่งดื่มเหล้าที่ขั้นบันไดเพียงลำพัง คิดไม่ถึงว่าเพียงไม่นานก็มีคนเดินตามออกมา มานั่งลงข้างกายลู่จือ

คือฮูหยินภูเขาชิงเสิน นางยิ้มพลางส่งเหล้าหมักเทพชิงซานที่รสชาติดั้งเดิมไปให้ลู่จือหนึ่งกา เรียกขานคำหนึ่งว่าอาจารย์ลู่

ลู่จือกระดกดื่มเหล้าหมดกาอย่างรวดเร็ว แล้วเก็บกาเหล้าใส่ไว้ในชายแขนเสื้อ ก่อนจะรับเหล้ากาที่อยู่ในมือของฮูหยินภูเขาชิงเสินมา แกะผนึกดินออก ดมกลิ่น เอ่ยว่า “ดมแล้วหอมกว่า”

ฮูหยินภูเขาชิงเสินถาม “ได้ยินว่าอาจารย์ลู่คือคนของแผ่นดินกลางหรือ?”

ลู่จือเอ่ยอย่างเฉยเมย “พวกเจ้าคิดว่าใช่ก็ใช่ ถึงอย่างไรข้าก็คิดว่าไม่ใช่”

ลู่จือวางกาเหล้าในมือลงบนขั้นบันได

สตรีข้างกายหน้าตางดงามอยู่ก็จริง แต่กลับไม่รู้จักพูดเสียเลย

ฮูหยินภูเขาชิงเสินยิ้มกล่าว “ข้ามีลูกศิษย์ผู้สืบทอดอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่าฉุนชิง เป็นแม่นางน้อยที่อายุไม่มาก อยากจะเรียนเวทกระบี่จากอาจารย์ลู่ ไม่ทราบว่าอาจารย์ลู่จะยินดีตอบตกลงหรือไม่”

ลู่จือกล่าว “กล้าไปฝึกกระบี่ด้วยการสังหารปีศาจที่เปลี่ยวร้างหรือไม่?”

ฮูหยินภูเขาชิงเสินพยักหน้ารับ “กล้า”

ลู่จือหยิบกาเหล้าที่วางอยู่ข้างเท้าขึ้นมา ถามว่า “คุณสมบัติของฉุนชิงเป็นเช่นไร หากแย่เกินไปข้าสอนไม่ไหว”

ฮูหยินภูเขาชิงเสินคิดแล้วก็เอ่ยว่า “ไม่ว่าจะเรียนอะไร คุณสมบัติของฉุนชิงนับว่าดีมาก”

ลู่จือถาม “เทียบกับอิ่นกวานของพวกเราแล้วเป็นอย่างไร?”

ฮูหยินภูเขาชิงเสินเอ่ยอย่างจนใจ “อาจารย์ลู่ถามเช่นนี้ยังจะคุยกันต่อได้อย่างไร”

ลู่จือกล่าว “เรื่องของการรับลูกศิษย์ ข้าสามารถตอบตกลงได้ ค่าตอบแทนก็เรียบง่ายมาก ได้ยินว่าต้นไผ่ของภูเขาชิงเสินพวกเจ้าไม่เลว วันหน้าฮูหยินก็มอบให้กับภูเขาลั่วพั่วสักสองสามต้น ได้ยินเฉินผิงอันเล่าให้ฟังว่า บริเวณใกล้เคียงกับบ้านเกิดมีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อว่าภูเขาพีอวิ๋น มีซานจวินแซ่เว่ยอยู่คนหนึ่ง ชอบปลูกต้นไผ่ที่สุด”

ฮูหยินภูเขาชิงเสินตอบตกลง ยิ้มเอ่ยว่า “แซ่เว่ยนามป้อ”

พูดถึงแค่เรื่องที่เฉินผิงอัน ‘ช่วย’ ขายเหล้าให้กับถ้ำสวรรค์จู๋ไห่ตอนอยู่กำแพงเมืองปราณกระบี่ อันที่จริงนางก็ยินดีมอบไผ่เขียวให้เขาเปล่าๆ หลายต้นแล้ว

เพียงแต่ว่าอิ่นกวานหนุ่มไม่เคยเปิดปากพูดเอง อยู่ดีๆ นางจะเอาของไปมอบให้ก็คงไม่สมควร

ลู่จือกล่าว “ฮูหยินอย่าได้คิดมาก ข้ากับเฉินผิงอันไม่ใช่พวกเดียวกัน เพียงแต่ว่าปีนั้นออกจากภูเขาห้อยหัวไปสังหารปีศาจบนทะเล เฉินผิงอันได้ยกคุณความชอบครึ่งหนึ่งให้กับข้า ในเมื่อไม่อาจเป็นผู้ถวายงานของภูเขาลั่วพั่วได้ ก็เท่ากับติดค้างหนี้ก้อนนี้ไว้อยู่ตลอดเวลา พอดีกับที่ฮูหยินนำมามอบให้ถึงที่ ข้าสอนกระบี่ แล้วก็ถือโอกาสได้ชดใช้น้ำใจคืนด้วย”

ฮูหยินภูเขาชิงเสินพยักหน้ารับ มองลู่จืออย่างเพ่งพิศ แล้วเอ่ยว่า “มิน่าเล่าคนผู้นั้นถึงได้รู้สึกว่าอาจารย์ลู่งดงาม ตอนนี้ข้าเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”

ลู่จือหัวเราะ “คนผู้นั้นคือใคร? ฉีถิงจี้ จั่วโย่ว? คงไม่ใช่เฉินผิงอันหรอกกระมัง”

ฮูหยินภูเขาชิงเสินส่ายหน้า เอ่ยเสียงเบา “คุยกับอาจารย์ลู่ได้ยากจริงๆ”

ลู่จือดื่มเหล้าอึกใหญ่ เหลือบตามองสตรีงามเลิศล้ำที่อยู่ข้างกาย “แต่ข้ากลับรู้สึกว่าแสร้งทำเป็นไม่ชอบคนคนหนึ่งกลับยากยิ่งกว่า”

ฮูหยินภูเขาชิงเสินถาม “อาจารย์ลู่ล่ะ? เป็นอย่างไร?”

ลู่จือส่ายหน้า “ไม่อย่างไร ฝึกกระบี่ก็ไม่ง่ายแล้ว ไยต้องเพิ่มความยุ่งยากหาเรื่องลำบากให้กับตัวเองอีก”

บ้านเกิดในใจของนางมีชายหญิงมากมายเหลือเกินที่เนื่องจากการจากลา ทำให้คนที่มีชีวิตอยู่รอดต้องเจ็บปวดเสียใจจนชั่วชีวิตก็ยังไม่อาจหายดี

เพราะกำแพงเมืองปราณกระบี่แทบจะไม่มีการจากเป็นจากตายอะไรทั้งนั้น เพราะขอแค่มีคนจากไปก็ถูกกำหนดมาแล้วว่าจะไม่ได้พบเจอกันอีก

ฮูหยินภูเขาชิงเสินเอ่ย “ขออวยพรให้อาจารย์ลู่ฝ่าทะลุคอขวด เลื่อนขั้นเป็นบินทะยานในเร็ววัน”

ลู่จือกล่าว “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว ถ้ำสวรรค์จู๋ไห่ให้ข้ายืมเงินฝนธัญพืชอีกก้อนหนึ่ง ฝึกกระบี่หลอมกระบี่เปลืองเงินอย่างมาก ทำให้คนปวดหัวยิ่งนัก”

เฉินผิงอันเดินออกมาจากประตูใหญ่ของศาลบุ๋น ลังเลอยู่พักใหญ่ ก่อนหน้านี้เห็นว่าฮูหยินภูเขาชิงเสินเดินออกไปข้างนอก เฉินผิงอันก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยาก จึงปลุกความกล้าหาญ คิดว่าจะเปิดปากพูดกับฮูหยินภูเขาชิงเสิน ดูว่าจะสามารถซื้อต้นไผ่สักสองสามต้นมาจากถ้ำสวรรค์จู๋ไห่ได้หรือไม่ แน่นอนว่าไม่มีหน้าจะติดเงินภูเขาชิงเสิน เพราะถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีความสัมพันธ์ควันธูปอะไรให้พูดถึง ถ้าอย่างนั้นก็ยืมจากคนอื่นก็แล้วกัน นักพรตเนิ่น หลิ่วเต้าฉุน ถัวเหยียนฮูหยิน ยืมจากใครก็ยืมเหมือนกันนั่นแหละ

เฉินผิงอันกุมหมัดกล่าว “ผู้เยาว์เฉินผิงอันคารวะชิงเสินฮูหยิน”

ลู่จือและฮูหยินภูเขาชิงเสินต่างก็ลุกขึ้นยืน ฝ่ายหลังยิ้มถาม “อาจารย์เฉินมาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?”

เฉินผิงอันรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “ผู้เยาว์อยากจะขอซื้อต้นไผ่ภูเขาชิงเสินมาจากฮูหยินสักสองสามต้น เพียงแต่ว่ากระเป๋าฝืดเคือง ไม่กล้าตบหน้าตัวเองให้เป็นคนอ้วน ดังนั้นจึงต้องมาถามราคากับฮูหยินเสียก่อน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!