กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 809

เฉินผิงอันกลั้นยิ้ม พูดกับเผยเฉียนว่า “แม้ว่าอาจารย์พ่อจะแพ้ แต่เฉาสือก็ถูกอาจารย์พ่อต่อยจนหน้ากลายเป็นหัวหมู ไม่เสียเปรียบหรอก”

เผยเฉียนเกาหัว “อาจารย์พ่อเคยบอกไม่ใช่หรือว่าด่าคนอย่าแฉข้อด้อย ตีคนอย่าตีหน้า นี่ล้วนเป็นข้อห้ามใหญ่ของยุทธภพไม่ใช่หรือ?”

เฉินผิงอันกล่าว “จะต้องเกรงใจเฉาสือไปไย ล้วนเป็นสหายเก่ากันแล้ว”

เผยเฉียนคลี่ยิ้มกว้าง

ดื่มเหล้าไป เฉินผิงอันกับหนิงเหยาต่างก็ใช้เสียงในใจเล่าเรื่องของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง

เด็กชายผมขาวลากเจ้าฟักแคระหมี่ลี่น้อยให้ไปดูการประลองยุทธที่เวทีประลองต่อ หมี่ลี่น้อยจึงไปเขย่งปลายเท้าเป็นเพื่อนเจ้าฟักแคระ ฟุบตัวอยู่บนหน้าต่างมองบนเวทีประลองที่ส่งเสียงฮื่อ ฮ่า หมัดไปเท้ามา

เฉินผิงอันเล่าเรื่องการประชุมของศาลบุ๋นให้ฟังคร่าวๆ หนิงเหยาก็บอกถึงคำเตือนของหาวซู่สิงกวาน

สุดท้ายหนิงเหยานึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ “เรือข้ามฟากของภูเขาต่าเจี้ยวลำนั้น นอกจากผู้ฝึกตนบางส่วนที่ยินดีอยู่บนเรือราตรีต่อแล้ว เรือข้ามฟากและทุกคนที่เหลือ อาจารย์จางล้วนปล่อยไปทั้งหมด”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “มีชีวิตรอดจากหายนะ แค่ตกใจไปเอง ก็คือการฝึกตนที่ดีที่สุด ดังนั้นถึงได้บอกว่ายังคงเป็นเจ้าที่หน้าใหญ่ หากเป็นข้า เจ้าของเรือลำนี้หากไม่เผยโฉม หรือต่อให้เผยตัวก็ยังต้องนั่งลงเรียกราคาสูงเทียมฟ้ากับข้าอย่างแน่นอน”

ไม่ใช่ว่าผู้ฝึกกระบี่คนใดก็ล้วนสามารถใช้กระบี่เปิดตราผนึกของเรือข้ามฟากได้ตามใจชอบ

นี่คือการแสดงความเคารพที่อาจารย์จางเจ้าของเรือราตรีมีต่อบุคคลอันดับหนึ่งของใต้หล้าใหม่เอี่ยม

หนิงเหยาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เห็นได้ชัดว่าเห็นแก่หน้าของหลี่เซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าสักหน่อย”

เฉินผิงอันคลี่ยิ้มกว้างสดใส “ก็จริงนะ การประชุมครั้งนี้บางทีอาจมีเพียงข้าที่หลี่เซิ่งออกหน้าด้วยตัวเอง ทั้งรับและส่ง”

หนิงเหยายิ้มบางๆ เอ่ยว่า “มีหน้ามีตาเสียจริง”

อาจารย์ผู้เฒ่าท่านหนึ่งมาโผล่อยู่ข้างโต๊ะเหล้า ยิ้มถามว่า “ขอเหล้าสักชามดื่มจากอาจารย์เฉินและแม่นางหนิงได้หรือไม่?”

เขาปรากฏตัวกะทันหัน ราวกับว่าลูกค้าที่นั่งอยู่บนโต๊ะเหล้าบริเวณใกล้เคียง ต่อให้จะเป็นนักดื่มที่คอยจับตามองคนที่ขวางหูขวางตาถึงที่สุดอย่างเฉินผิงอันอยู่ตลอดเวลาก็ยังไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย รู้สึกเพียงว่าสมเหตุสมผลดีแล้ว เดิมทีก็ควรเป็นเช่นนี้

เฉินผิงอันกุมหมัดยิ้มกล่าว “คารวะเจ้าเรือจาง เชิญนั่งได้ตามสบาย”

อาจารย์จางนั่งลงแล้วก็หยิบจอกเหล้าใบหนึ่งออกมาจากชายแขนเสื้อ เหล้าเต็มจอกได้ด้วยตัวเอง ถึงกับเป็นจอกน้ำพุสุราเลยหรือ?

เฉินผิงอันถาม “รบกวนเจ้าเรือจางช่วยบอกกล่าวไปยังเจ้านครสองแห่งอย่างนครจีเฉวี่ยนและนครป๋ายเหยี่ยนหน่อยได้หรือไม่ว่า ข้าน่าจะไม่ไปที่นั่นแล้ว คราวหน้าที่ขึ้นเรือมาจะต้องแวะไปเยี่ยมเยือนแน่นอน”

อาจารย์จางพยักหน้า “ไม่มีปัญหา”

เฉินผิงอันถามอีกว่า “ข้าสามารถเปิดร้านที่นครเถียวมู่ได้หรือไม่?”

อาจารย์จางยังคงพูดง่ายอย่างถึงที่สุด “ยินดีต้อนรับ”

บนเกาะกุ้ยฮวา เฉินผิงอันมีเรือนเล็กกุยม่ายอยู่ในนามแห่งหนึ่ง ในสวนน้ำค้างวสันต์ก็มีหน้าผาอวี้อิ๋ง แล้วยังมีร้านผีฝูด้วยอีกแห่งหนึ่ง

ครั้งนี้เดินทางไปเยือนอุตรกุรุทวีป บางทีอาจจะต้องปรึกษากับทางถ้ำสวรรค์วังมังกรเสียหน่อย พูดถึงเรื่องการ ‘เช่า’ เกาะบางแห่ง

คือเกาะเป็ดน้ำที่ไม่มีเจ้าของมานานหลายปี

เฉินผิงอันให้ความสำคัญกับขุนเขาสายน้ำแห่งนั้นมาก คิดเอาไว้ว่าในชีวิตของการฝึกตนในอนาคต จะคอยไปปิดด่านฝึกตนอยู่ที่นั่นเป็นระยะ

ไม่ว่าจะอย่างไร เฉินผิงอันก็หวังว่าจะสามารถเก็บมันมาไว้ในกระเป๋าตัวเองได้ ไม่ว่าจะอาศัยเงินเทพเซียนซื้อมาหรืออาศัยความสัมพันธ์ควันธูปเครือข่ายผู้คน ก็จะต้องลองดูสักตั้ง

ถ้ำสวรรค์วังมังกรถูกกองกำลังสามตระกูลแบ่งสรรกัน สำนักมังกรน้ำที่เป็นดั่งหอเรือนใกล้น้ำ ทะเลสาบกระบี่ฝูผิงของลี่ไฉ่ หน่วยฉงเสวียนของราชวงศ์ต้าหยวน แล้วก็ยังมีเสิ่นหลินแห่งตำหนักวารีหนันซวินที่ได้เลื่อนขั้นเป็นหลิงหยวนกงแห่งลำน้ำใหญ่ หลี่หยวนอดีตสุ่ยเจิ้งของลำน้ำใหญ่ที่ได้เลื่อนขั้นเป็นหลงถิงโหว การประชุมศาลบุ๋นก่อนหน้านี้ หยางชิงข่งผู้เป็นราชครูต้าหยวนเป็นฝ่ายมาเยี่ยมเยือนที่สวนกงเต๋อ ดังนั้นนอกจากสองสำนักเหนือใต้ของสำนักมังกรน้ำที่เฉินผิงอันสานสะพานความสัมพันธ์ไว้แล้ว การเช่าเกาะเป็ดน้ำ หรือถึงขั้นซื้อมันไว้โดยตรง ก็มีโอกาสแล้ว

ขอแค่สำนักมังกรน้ำตอบตกลงกับเรื่องนี้ ทุกวันนี้เฉินผิงอันก็ย่อมมีวิธีการอื่นมาร่วมหาเงินจากจุดอื่นกับสำนักมังกรน้ำ

หากยังมีที่พักคล้ายคลึงกับท่าเรือบนเรือราตรีลำนี้อีก แน่นอนว่าย่อมดียิ่งกว่า

การมาพักผ่อนผ่อนคลายอารมณ์จากการฝึกตนบนภูเขาในอนาคต นอกจากจะเป็นอาจารย์สอนหนังสือหรือตกปลาแล้ว อันที่จริงยังมีอีกอย่าง ก็คือพยายามมาหาประสบการณ์บนเรือราตรีบ่อยๆ เพราะว่าที่นี่มีหนังสือเยอะมาก คนเก่าๆ และเรื่องราวเก่าๆ ก็ยิ่งเยอะกว่า หากโชคดีได้พัฒนาไปอีกก้าว สามารถเปิดร้านไว้ที่นี่ได้โดยตรง การขึ้นเรือก็ยิ่งมีเหตุผลชอบธรรมมากขึ้น หรือว่าจะอนุญาตให้เจ้าเส้าเป่าเจวี้ยนเป็นเจ้านครได้แค่คนเดียว ไม่อนุญาตให้ข้าเปิดร้านทำกิจการบ้างเลย?

อาจารย์จางกล่าว “มีความคิดอย่างหนึ่ง อาจารย์เฉินลองฟังดูสักหน่อยดีไหม?”

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “เจ้าเรือจางว่ามาได้เลย”

อาจารย์จางเอ่ยว่า “อาจารย์หลินอันของนครหลิงซีอยากจะยกตำแหน่งเจ้านครให้กับอาจารย์เฉิน ท่านคิดเห็นเป็นเช่นไร?”

เฉินผิงอันหันหน้าไปมองหนิงเหยา

หนิงเหยากล่าว “ไม่เกี่ยวกับข้า ก่อนหน้านี้ไปเที่ยวเยือนนครหลิงซี ข้ากับหลี่ฮูหยินพูดคุยกันได้ไม่เลว แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่นางจะยกนครให้เช่นนี้”

อาจารย์จางจึงไขปริศนาให้ “เป็นเซียนฉาที่ก่อนหน้านี้ขึ้นเรือมาเสนอความเห็น อาจารย์หลินอันรู้สึกว่าสามารถทำเรื่องนี้ได้ ข้าเองก็เคารพในความต้องการของอาจารย์หลินอัน”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “ข้าไม่มีวิชาอภินิหารที่เป็นพรสวรรค์อย่างการถอดจิตท่องฝันเช่นเส้าเป่าเจวี้ยน เป็นเจ้านครของนครหลิงซีมีแต่จะเป็นเถ้าแก่สะบัดมือทิ้งร้านที่พึ่งพาไม่ได้ ย่อมต้องผิดต่อภาระยิ่งใหญ่ที่อาจารย์หลินอันมอบให้ ข้าว่าไม่ดีหรอก แค่ได้เปิดร้านหนังสือสักแห่งในนครเถียวมู่ ข้าก็พอใจมากแล้ว”

อาจารย์จางยิ้มกล่าว “ตำแหน่งเจ้านครก็ให้เว้นว่างเอาไว้ก่อน ถึงอย่างไรก็มีรองเจ้านครสองท่านคอยจัดการกิจธุระทุกอย่างให้ หลายปีที่อาจารย์หลินอันรับหน้าที่เป็นเจ้านคร เดิมทีนางก็ไม่สนใจกิจธุระต่างๆ อยู่แล้ว แต่กระนั้นนครหลิงซีก็สามารถดำเนินการมาได้อย่างไร้อุปสรรค”

เฉินผิงอันอึ้งตะลึง “แล้วอาจารย์จางไม่บอกแต่แรก?!”

อาจารย์จางเพียงแค่ยิ้มแล้วยกจอกเหล้าขึ้นดื่มกับตัวเอง

อ้อ ทีนี้รู้จักเรียกว่าอาจารย์แล้ว ไม่เรียกเจ้าเรือจางที่ฟังดูห่างเหินแล้วรึ?

อาจารย์จางถาม “เปิดร้าน เป็นเถ้าแก่ คิดว่าจะเปิดร้านทำการค้าอะไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!