กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 809

ผลคือเฉินผิงอันเพิ่งจะส่งฝ่ามือข้างหนึ่งออกไป เพียงแค่เริ่มตั้งท่าหมัดเท่านั้น เผยเฉียนก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่งแล้ว

หนิงเหยารู้สึกว่าวันนี้คงจะเรียนหมัดกันไม่ได้แล้ว

เฉินผิงอันยิ่งสงสัย “เผยเฉียน?”

เผยเฉียนก้มหน้า พูดเสียงเบาราวเสียงยุง “ข้าไม่กล้าออกหมัด”

เฉินผิงอันหัวเราะอย่างฉุนๆ “ทำไม กังวลว่าขอบเขตตัวเองจะสูงเกินไป ปณิธานหมัดหนักเกินไป ไม่ทันระวังหมัดเดียวต่อยให้อาจารย์พ่อบาดเจ็บ สองหมัดต่อยให้ร่อแร่ปางตายรึ?”

เผยเฉียนเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นดิน ส่ายหน้าแต่ไม่เอ่ยอะไรสักคำ

เฉินผิงอันมองไปทางหนิงเหยา นางส่ายหน้าแสดงให้รู้ว่าควรเปลี่ยนวิธี อย่าได้บังคับฝืนใจ

เฉินผิงอันคิดแล้วก็หันไปเรียกเด็กชายผมขาว “เจ้ามานี่ มาช่วยกันหน่อย”

เด็กชายผมขาวเต้นผาง “จ่ายเงินเป็นข้า โดนซ้อมก็เป็นข้าอีก บรรพบุรุษอิ่นกวานท่านยังมีคุณธรรมในยุทธภพอยู่บ้างหรือไม่?!”

เผยเฉียนเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความละอายใจ เฉินผิงอันยิ้มพลางโบกมือ “ไม่รีบร้อน ต่อจากนี้แค่มองดูอาจารย์พ่อออกหมัดอย่างละเอียดก็พอ”

หนิงเหยากวักมือเรียกเผยเฉียน

เผยเฉียนเดินไปหา หนิงเหยาเอ่ยเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไร”

เผยเฉียนพยักหน้า

หนิงเหยาเห็นว่าบนหน้าผากนางมีเหงื่อซึมออกมาก็ช่วยเช็ดเหงื่อให้เผยเฉียนด้วยท่าทางอ่อนโยน

เผยเฉียนเขินอายอยู่บ้าง

เด็กชายผมขาวตั้งท่ากดลมปราณลงสู่จุดตันเถียน จากนั้นสะบัดไหล่ สองมือขยับขึ้นลงราวกับน้ำกระเพื่อม ตวาดเสียงดังหนึ่งทีแล้วเริ่มขยับเท้าวนอ้อมไปรอบกายเฉินผิงอัน “บรรพบุรุษอิ่นกวาน หมัดเท้าไร้ตา ล่วงเกินแล้ว!”

เฉินผิงอันยืนอยู่ที่เดิม เกือบจะหมดอารมณ์ลงมือเสียแล้ว

หมี่ลี่น้อยนั่งยองอยู่ห่างไปไกล เก็บลูกพลับที่หล่นอยู่บนพื้นมาได้หอบใหญ่ กินได้หนึ่งคำก็คือหนึ่งคำ กินแล้วไม่เห็นว่ารสชาติจะเป็นอย่างไรเลย

เด็กชายผมขาวเดินวนครบรอบไปแล้วหนึ่งรอบก็กระโดดผลุงขึ้น ตั้งท่าไก่ทองยืนขาเดียว ฝ่ามือสองข้างตวัดจิ้มมาด้านหน้า พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บรรพบุรุษอิ่นกวาน ฝ่ามือนี้ของข้าคือหมัดตั๊กแตน ต้องระวังตัวให้ดีนะ!”

เฉินผิงอันวาดเท้าออกไปโดยตรง เด็กชายผมขาวถูกแตะเข้าที่ก้านคอ ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่ง เด้งกระดอนอยู่บนพื้นสองสามที ระหว่างนั้นยังมีการพลิกตัวด้วย

สุดท้ายเด็กชายผมขาวก็นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น โบกมือพูดอย่างมีใจแต่ไร้กำลังว่า “ไม่สู้แล้วๆ หมี่ลี่น้อยจำไว้ว่าจดค่ายาลงบัญชีด้วย แค่สองสามตำลึงเงินก็พอ กลับไปถึงภูเขาลั่วพั่ว ข้าจะไปเบิกเอาจากเทพแห่งโชคลาภเหวยเอง”

เฉินผิงอันถลึงตาใส่ “จริงจังหน่อย”

เด็กชายผมขาวทอดถอนใจ กระโดดผลุงขึ้นมา ปัดฝุ่นบนร่าง “ก็ได้ๆ”

การประลองฝีมือของคนทั้งสองต่อจากนั้น เทวบุตรมารนอกโลกที่เป็นขอบเขตบินทะยานตนนี้ได้ใช้กระบวนท่าหมัดของผู้ฝึกยุทธในใต้หล้ามืดสลัว ส่วนเฉินผิงอันใช้หมัดที่ ‘เบาแต่แม่นยำ’ คล้ายหมัดเท้าของสตรี ทว่าแค่มองดูเหมือน ‘ละมุนละม่อม’ เท่านั้น แท้จริงแล้วกลับว่องไวเฉียบคมอย่างยิ่ง

เผยเฉียนมองดูอย่างละเอียด ไม่ใช่แค่วิถีแห่งการออกหมัดหรือกระบวนท่าที่ผ่านตาแล้วไม่ลืมเท่านั้น นางยังสามารถมองเห็นร่องรอยการไหลรินของปณิธานหมัดอาจารย์พ่อได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

ไม่เพียงแค่การลงมือของเฉินผิงอันเท่านั้น แม้แต่วิชาหมัดและโครงท่าของแต่ละสำนักที่เชื่อมโยงกันได้อย่างดีเยี่ยมของเด็กชายผมขาวก็ล้วนถูกเผยเฉียนเก็บมาไว้ในคลองจักษุทั้งสิ้น

อันที่จริงหลังจากที่อู๋ซวงเจี้ยงขึ้นเรือราตรีมาพบเจอกับจิตมารคู่รัก เนื่องจากช่วยนางคลายตราผนึกมากมายอย่างลับๆ ดังนั้นทุกวันนี้เด็กชายผมขาวจึงเท่ากับเป็นคลังยุทโธปกรณ์ เป็นถ้ำเทพเซียนที่เดินได้แห่งหนึ่ง วิชาอภินิหาร เวทกระบี่และวิชาหมัดส่วนใหญ่ที่อู๋ซวงเจี้ยงรู้มา อย่างน้อยที่สุดนางก็รู้เจ็ดแปดส่วน และบางทีในเจ็ดแปดส่วนนี้อาจขาดไปในเรื่องจิตวิญญาณหรือท่วงทำนองบางอย่าง แต่ดูเหมือนว่าจะเพียงพอสำหรับเฉินผิงอันกับเผยเฉียน คู่อาจารย์และศิษย์ที่เดินทางร่วมกับนางแล้ว

บางทีนี่ต่างหากถึงจะเป็นของขวัญตอบแทนที่ใหญ่สุดที่อู๋ซวงเจี้ยงมอบให้กับภูเขาลั่วพั่วจากการค้าขายครั้งนั้น

อู๋ซวงเจี้ยงจงใจไม่พูดถึงเรื่องนี้ แน่นอนว่าเพราะมั่นใจว่า ‘หมาไร้บ้านที่กินอิ่มก็วิ่งหนีไป’ อย่างเฉินผิงอันผู้นี้ต้องสามารถคิดถึงเรื่องนี้ได้แน่นอน

ดังนั้นเฉินผิงอันที่แรกเริ่มแค่อยากให้เผยเฉียนมองดูหมัด ยิ่งออกหมัดก็ยิ่งจริงจัง มีกลิ่นอายของการประลองฝีมือบ้างแล้ว

เด็กชายผมขาวร้องโหวกเหวกพลางปล่อยหมัดออกไปอย่างไม่ใส่ใจ ทว่าหมัดที่ว่านี้กลับเป็นท่าไม้ตายของผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทางคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของใต้หล้ามืดสลัว

เผยเฉียนจดจำไว้ทีละอย่าง

หมี่ลี่น้อยยุ่งอยู่กับการกินลูกพลับ ลูกแล้วลูกเล่า แล้วก็พลันตัวสั่นเยือก แรกเริ่มแค่รู้สึกว่าฝาดเล็กน้อย เวลานี้ดูเหมือนว่าปากจะเริ่มชาด้วยแล้ว

หนิงเหยามองคนชุดเขียวที่ออกหมัดราวเมฆคล้อยน้ำไหลก็ให้รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้เห็นการถามหมัดที่ศาลบุ๋นกับตาตัวเอง

จำได้ว่าปีนั้นตอนอยู่บนหัวกำแพงเมือง ดูเหมือนว่าเขาจะต่อยเฉาสือไม่โดนแม้แต่หมัดเดียว?

ทุกวันนี้การออกหมัดของเฉินผิงอันมีมาดของยอดฝีมือแล้วจริงๆ

เหตุผลก็เรียบง่ายยิ่ง ดูดีไงล่ะ

มิน่าเล่าปีนั้นพวกตัวอ่อนผู้ฝึกยุทธที่หลบอยู่ในคฤหาสน์หลบหนาวถึงได้พากันดูแคลนวิชาหมัดของอาเหลียง รอกระทั่งภายหลังได้เจิ้งต้าเฟิงมาสอนหมัดก็ยังไม่รู้สึกอะไร ต่างก็พูดกันว่ายังคงเป็นหมัดของใต้เท้าอิ่นกวานที่ทั้งน่าดูทั้งใช้ประโยชน์ได้จริง ผู้ฝึกยุทธเต็มตัวสายสิงกวาน เนื่องจากแรกเริ่มสุดคือเด็กกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นสายนี้กับสายอิ่นกวานคฤหาสน์หลบร้อนจึงมีความใกล้ชิดกันอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกยุทธอายุน้อยที่คุณสมบัติดีเยี่ยมกลุ่มนั้นที่ไม่ว่าจะชายหรือหญิงที่ต่างก็นับถือเลื่อมใสในตัว ‘เถ้าแก่เฉินอิ่นกวานคนก่อน’ ยิ่งกว่าใคร

หนิงเหยาเม้มริมฝีปาก ยิ้มจนตาหยี

ไม่รู้ว่าวันหน้าเขาไปนครบินทะยานจะเป็นภาพเหตุการณ์ที่ครึกครื้นถึงเพียงใด

ช่วงเวลาที่เฉินผิงอันไม่อยู่บนเรือข้ามฟาก นอกจากจะคุยเล่นกับหมี่ลี่น้อยเป็นประจำแล้ว อันที่จริงหนิงเหยาก็เคยพูดคุยความในใจกับเผยเฉียนเป็นการส่วนตัว

บางทีอาจเป็นเพราะได้ดื่มเหล้าร่วมกับอาจารย์แม่ เผยเฉียนดื่มไปดื่มมาถึงเหล่าเรื่องมากมายที่ซ่อนอยู่ในใจมานานหลายปี แม้แต่ตอนอยู่กับพี่หญิงหน่วนซู่และหมี่ลี่น้อยบนภูเขาลั่วพั่ว เผยเฉียนก็ยังไม่เคยพูดถึงมาก่อน

ยกตัวอย่างเช่นนางคิดถึงตอนที่เป็นเด็กอย่างมาก ตอนที่ไปช่วยขายของที่ตรอกฉีหลง ทุกวันจะต้องไปเรียนที่โรงเรียน แม้ว่าจะไม่ได้เรียนจนได้ความรู้อะไรมา เพราะทุกวันเอาแต่สนใจเรื่องการโดดเรียนและนั่งเหม่อ แต่มาถึงภายหลัง เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาก็จะรู้สึกขอบคุณความหวังดีของอาจารย์พ่อและพ่อครัวเฒ่าอย่างมาก จะดีจะชั่วก็เคยไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนมาก่อน ข้างกายเคยมีเสียงท่องตำราดังอย่างแท้จริงมาก่อน

เคยมีอาจารย์สอนหนังสือในโรงเรียนของเมืองเล็กคนหนึ่งที่คงจะรู้สึกว่าแม่นางน้อยถ่านดำชอบใจลอยเกินไป จึงโมโหที่นางไม่เอาไหน มีครั้งหนึ่งจึงบอกให้เผยเฉียนเรียกพ่อของนางมา

แม่นางน้อยถ่านดำที่เอ้อระเหยลอยชายจึงบอกไปว่าพ่อข้ายุ่งมาก ออกจากบ้านเดินทางไกลไปแล้ว แต่ในใจกลับเอ่ยว่าไม่มีความรู้กะผายลมอะไรทั้งนั้น ยังสู้พ่อครัวเฒ่าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ คิดจะสอนข้า? บางครั้งที่เจ้าท่องหนังสือยังอ่านผิดคำ ข้ากลับไม่มีทางเป็นเช่นนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!