กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 833

อิ่น​กวาน​หนุ่ม​กับ​หนิง​เหยา​ผู้​นั้น​จงใจห้อย​ป้าย​สงบสุข​ปลอดภัย​สอง​แผ่น​ที่ทาง​กรม​อาญา​ต้า​หลี​เป็น​ผู้​แจกจ่าย​เดิน​เข้ามา​ใน​เมืองหลวง​ หมายความว่า​อย่างไร​ ขนาด​คนโง่​ยัง​เข้าใจ​

เพียงแต่​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​อดกลั้น​ได้​อย่าง​ว่องไว​ พูด​เรื่อง​คลื่น​ลมมรสุม​ใน​ราชสำนัก​กับ​ตา​เฒ่าหัวโบราณ​ที่​รู้จัก​แต่​จะฝึก​ตน​ผู้​นี้​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​เป็ด​คุย​กับ​ไก่​

หลิว​เจีย​เงียบงัน​ไป​ตลอดทาง​ เพียงแต่ว่า​พอ​ใกล้​ถึงตรอก​อี้​ฉือ​ก็​พลัน​โพล่ง​ประโยค​หนึ่ง​ออกมา​ว่า​ “ต่ง​หู​ เจ้าไม่มีความมั่นใจ​ใน​ตัว​ใต้เท้า​ราชครู​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​?”

ต่ง​หู​อึ้ง​ตะลึง​ หัว​คิ้ว​ขมวด​เป็น​ปม​แน่น​

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าก่อกำเนิด​ที่บังคับ​รถม้า​ได้​อย่าง​นิ่มนวล​และ​มั่นคง​เงยหน้า​เหลือบตา​มอง​ไป​ยัง​จุด​ที่​ห่าง​ไป​ไกล​ ใน​เมืองหลวง​สถานที่​ส่วนใหญ่​ล้วน​มีแสงไฟจุด​สว่าง​ราวกับ​เวลากลางวัน​ สาดส่อง​ให้​ท้องฟ้า​เบื้องบน​ของ​สิ่งปลูกสร้าง​ใน​เมืองหลวง​คล้าย​ถูก​ปู​ทับ​ด้วย​ผ้า​โปร่ง​สีเหลือง​หม่น​เหมือน​ม่าน​หมอก​ขมุกขมัว​ชั้นหนึ่ง​ คล้าย​กระดาษ​ปิด​โคมไฟ​

หลิว​เจีย​ยิ้ม​เอ่ย​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ราชสำนัก​วงการ​ขุนนาง​อะไร​ ข้า​ล้วน​ไม่เข้าใจ​สัก​อย่าง​ นอกจาก​ฝึก​ตน​แล้วก็​รู้​แค่​เรื่อง​เดียว​ ต่อให้​ทุกวันนี้​ราชครู​จะไม่อยู่แล้ว​ แต่​เขา​ก็​ยัง​คอย​ดูแล​ชาวบ้าน​ของ​หนึ่ง​แคว้น​ ดูแล​กองทัพ​ม้าเหล็ก​และ​คน​อย่าง​เจ้ากับ​ข้า​อีก​นับไม่ถ้วน​ บางที​คนอื่น​อาจ​ทำ​เรื่อง​ที่อยู่​เบื้องหลัง​พวก​นี้​ไม่ได้​ มีเพียง​ราชครู​ชุย​เท่านั้น​ที่​ต้อง​ทำได้​อย่าง​แน่นอน​”

หัว​คิ้ว​ของ​ต่ง​หู​คลาย​ออก​ ยัง​ไม่ทัน​ถึงหน้า​ประตู​บ้าน​ก็​บอก​ให้​หยุด​รถ​แล้ว​ เขา​ลง​จาก​รถม้า​ เอ่ย​ขอบคุณ​ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​หนึ่ง​คำ​แล้ว​สาวเท้า​เดิน​เนิบ​ช้ากลับบ้าน​

หลิว​เจีย​ถาม “รถม้า​จะทำ​อย่างไร​?”

ต่ง​หู​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ “เกี่ยว​กะ​ผายลม​อะไร​กับ​ข้า​ผู้อาวุโส​ด้วย​!”

หลิว​เจีย​หัวเราะ​ร่า​ “ใต้เท้า​ต่ง​เดินทาง​ตอนกลางคืน​ระวัง​หน่อย​ อายุ​ก็​ตั้ง​ปูน​นี้​แล้ว​ ง่าย​ที่จะ​หู​ตา​ฝ้าฟางข้อเท้า​แพลง​ ข้า​รู้จัก​หมอ​ที่​ขาย​ยา​รักษา​อาการ​เท้า​แพลง​ใน​เมืองหลวง​หลาย​คน​เลย​ล่ะ​”

ต่ง​หู​สะอึก​อึ้ง​ ได้​แต่​เอ่ย​อย่าง​อัดอั้น​ว่า​ “เอา​รถม้า​ไป​จอด​ที่​หน้า​ประตู​วัง​ก็​จบเรื่อง​แล้ว​”

เดิน​ไป​บน​ทาง​ที่​กว้างขวาง​อย่าง​ถึงที่สุด​ของ​ตรอก​อี้​ฉือ​ บางครั้ง​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ก็​ถอนหายใจ​ บางครั้ง​ก็​พยักหน้า​ลูบ​หนวด​

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ ข้า​ผู้อาวุโส​กับ​เจ้าเฒ่าสกุล​จ้าว​เทียน​สุ่ย​ก็​เคย​เข้า​สำนัก​บัณฑิต​ฮั่น​หลิน​ใน​ปี​เดียวกัน​ ไม่ว่า​จะอ่าน​ตำรา​ดื่ม​สุรา​ ร่าย​บทกวี​จรด​พู่กัน​ เด็กหนุ่ม​สอง​คน​ที่​ต่าง​ก็​ฮึกเหิม​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ชีวิตชีวา​สดใส​ล้วน​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ราชสำนัก​ บทความ​ของ​ต่ง​ งดงาม​พร่างพราย​ดุจ​บุปผา​สีสด​ ตัวอักษร​พู่กัน​จีน​ของ​จ้าว​ประหนึ่ง​โบก​ง้าว​จ้วง​แทง​ทวน​…

เค​อจวี่​ของ​ต้า​หลี​ใน​ปี​นั้น​ ต่ง​หู​กับ​สหาย​รัก​วัย​เดียวกัน​คน​นี้​ คน​หนึ่ง​เป็น​ปั้งเหยี่ยน​ คน​หนึ่ง​เป็น​ทั่น​ฮวา​ แน่นอน​ว่า​ฝ่าย​หลัง​อายุ​มากกว่า​ตน​เกิน​ครึ่ง​รอบ​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​สู้เด็ก​อัจฉริยะ​อย่าง​ตน​ไม่ได้​ นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​ก็​คือ​อาจารย์​ผู้คุม​สอบ​การ​สอบ​ระดับ​มณฑล​ของ​พวกเขา​ใน​ปี​นั้น​ และ​ตอนที่​ต่ง​หู​เพิ่ง​เข้าไป​อยู่​ใน​วงการ​ขุนนาง​ใหม่​ๆ นั้น​ ได้​ฉาย​ประกาย​คมกริบ​ใน​ทุกหนทุกแห่ง​ ผล​คือ​ต้อง​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​เย็น​ของ​สำนัก​บัณฑิต​ฮั่น​หลิน​เกือบ​สิบ​ปี​ มีเพียง​ตำแหน่ง​ที่ว่างเปล่า​ ตอนนั้น​ต่ง​หู​ยอมรับ​แล้ว​ว่า​ตน​ไม่มีความหวัง​ใน​วงการ​ขุนนาง​จึงทุ่ม​ไห​ที่​แตกร้าว​ให้​แหลก​เสีย​เลย​ ความสามารถ​ใน​การ​ด่า​คน​คือ​อันดับ​หนึ่ง​ หาก​มีคน​ด่ากลับ​ ต่ง​หู​ก็​จะยิ่ง​ใส่อารมณ์​ด่า​รุนแรง​ขึ้น​ อีก​ทั้ง​ยัง​ด่า​เฉพาะ​ขุนนาง​บุ๋น​ไม่ด่า​แม่ทัพ​บู๊​ด้วย​ สะใจยิ่งนัก​

อันที่จริง​ต่ง​หู​ในเวลานั้น​เพิ่งจะ​อายุ​สามสิบ​ปี​ ผล​คือ​กลับ​เอาชนะ​ตรอก​อี้​ฉือ​และ​ถนน​ฉือ​อี้​จน​ช่วงชิง​ฉายา​อัน​โด่งดัง​อย่าง​ ‘ต่ง​สตรี​ปากร้าย​’ และ​ ‘ต่ง​ด่า​กราด​’ มาได้​

ต่ง​หู​หยุด​เดิน​ พอ​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​จากไป​ ทุกวันนี้​ตรง​มุมกำแพง​ก็​ไม่มีก้อนอิฐ​มาวาง​กอง​ไว้​อีก​แม้แต่​ก้อน​เดียว​

ปี​นั้น​มีครั้งหนึ่ง​ตน​เมาหนัก​มาก​ พอ​เดิน​มาถึงตรงนี้​ก็​ยื่นมือ​ไป​ค้ำ​ผนัง​ประคองตัว​ อาเจียน​จน​รู้สึก​ว่า​ตับ​ใต​ไส้พุง​จะหลุด​ออกมา​ด้วย​แล้ว​

ผล​คือ​ถูก​คน​ถีบ​ ต่ง​หู​หันขวับ​กลับ​ไป​ด่า​ รอ​กระทั่ง​ดวงตา​ที่​ปรือ​ปรอย​ด้วย​ความเมา​เห็น​ว่า​ถึงกับ​เป็น​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​ก็​ตกใจ​จน​สร่าง​เมาเลย​ทีเดียว​

ตอนนั้น​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​หัวเราะ​ร่า​ถามว่า​ ‘โอ้โห​ ข้า​ก็​นึก​ว่า​ใคร​ที่​ใจกล้า​ ถึงกับ​กล้า​มาทำตัว​เป็น​หมา​บ้า​อาละวาด​อยู่​ตรงนี้​ ที่แท้​ก็​ใต้เท้า​ต่ง​ผู้เรียบเรียง​ต่ง​เอง​หรือ​นี่​’

ต่ง​หู​คือ​บัณฑิต​ที่​เคารพ​ครูบาอาจารย์​อย่าง​มาก​ ต่อให้​ไม่กลัว​ฟ้าไม่เกรง​ดิน​มาก​แค่​ไหน​ก็​ควร​ต้อง​กลัว​อาจารย์​ผู้คุม​สอบ​ท่าน​นี้​ไม่ใช่หรือ​ เขา​จึงตกใจ​เหมือน​ลูกเจี๊ยบ​ที่​ตัวสั่น​ระริก​อยู่​ท่ามกลาง​ลมหนาว​

นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​ยิ้ม​ตาหยี​ถามว่า​ ‘ผู้เรียบเรียง​ต่ง​ ทำไม​ถึงด่า​แค่​ใต้เท้า​ขุนนาง​บุ๋น​ของ​ตรอก​อี้​ฉือ​พวกเรา​เท่านั้น​ล่ะ​ ทำไม​ไม่ด่า​เจ้าพวก​แม่ทัพ​บู๊​หยาบกระด้าง​ของ​ถนน​ฉือเอ๋อร์​บ้าง​?’

พอ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ต่ง​หู​ก็​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความมั่นใจ​ ทำ​คอแข็ง​ตอบ​ไป​ตามตรง​ว่า​ ‘ด่า​ขุนนาง​บุ๋น​ ตอนนี้​ข้า​ยัง​หนุ่ม​เปี่ยม​ไป​ด้วย​กำลังวังชา​ ไม่ว่า​จะต่อย​ตี​กับ​ใคร​ก็​ล้วน​ไม่ขี้ขลาด​ หาก​ด่า​พวก​เมล็ด​พันธ์​แม่ทัพ​ที่​มือ​หนา​ขาใหญ่​พวก​นั้น​ แล้ว​ต้อง​เดิน​ตอนกลางคืน​อย่าง​คืนนี้​ก็​อาจ​ได้​นอนหลับ​อยู่​บน​พื้น​แล้ว​ อีก​อย่าง​กองทัพ​ชายแดน​ต้า​หลี​ของ​พวกเรา​ หลาย​ปี​มานี้​คว้า​ชัยชนะ​ใน​ศึก​ใหญ่​ที่​สำคัญ​มาได้​ติดต่อกัน​ ข้า​ด่า​ไม่ออก​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่ทาง​ฝั่งนั้น​ทุกๆ​ สามวัน​ห้า​วัน​ต้อง​จัด​งานศพ​อยู่​หลาย​งาน​ จะด่า​อะไร​กัน​’

นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​พยักหน้า​รับ​ ‘ไม่เลว​ นับว่า​ไม่โง่เกินไป​ เอาล่ะ​ จะอ้วก​ก็​กลับบ้าน​ไป​อ้วก​บน​ท้อง​แม่เจ้าโน่น​ หาก​เจ้าไม่เป็น​พวก​แข็ง​นอก​ออก​ใน​ก็​คง​สมอง​มีรู​ ถึงได้​เฉยชา​ต่อ​ภรรยา​ผู้​งดงาม​ที่อยู่​ใน​บ้าน​ หาก​ยัง​เป็น​แบบนี้​ต่อไป​ระวัง​ดอก​ซิ่งแดง​จะบาน​ออก​ไปนอก​กำแพง​’ (เปรียบเปรย​ว่า​สตรี​ที่​แต่งงาน​แล้ว​มีชู้)

ตอนนั้น​ต่ง​หู​ได้ยิน​เข้า​ก็​หน้า​แดงก่ำ​ทันใด​ หากว่า​อีก​ฝ่าย​ไม่ใช่อาจารย์​ผู้คุม​สอบ​ของ​ตน​ เขา​คง​ต้อง​ปล่อย​หมัด​แสกหน้า​อีก​ฝ่าย​เข้าให้​แล้ว​

สุดท้าย​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​ก็​มอบ​สอง​ประโยค​ให้​กับ​ต่ง​หู​

‘บัณฑิต​เป็น​ขุนนาง​ ด่าน​ใจบังเกิด​คือ​ที่ตั้ง​ของ​ด่าน​ยาก​ ส่วนใหญ่​ล้วน​มาจาก​ใจร้อน​อยาก​สร้างชื่อเสียง​และ​คุณ​ความชอบ​มากเกินไป​ โชคดี​หน่อย​ก็​เป็น​เหมือน​เจ้าหนู​ต่ง​เช่น​เจ้า แต่​ก็​มีพวก​ที่​ความสามารถ​ไม่พอ​ แต่​ก็​เอา​ชาติกำเนิด​มาผสม​กล้อมแกล้ม​ได้​’

‘มีคน​มาด่า​ข้า​ หาก​ไม่ใช่เรื่องจริง​ ความผิด​ไม่ได้​อยู่​ที่​ข้า​ แต่​ก็​ยัง​แสร้ง​ทำเป็น​หูหนวกตาบอด​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ให้​เขา​ด่า​เสีย​ให้​สาแก่ใจ​ เพราะ​กลับเป็น​ข้า​ที่​ได้​ผลประโยชน์​’

ต่ง​หู​สร่าง​เมาแล้ว​ ตอนนั้น​จึงรีบ​ประสานมือ​คารวะ​ขอบคุณ​ทันที​

คิดไม่ถึง​ว่า​อาจารย์​ผู้คุม​สอบ​จะรอ​เวลานี้​อยู่​นาน​ ฝ่ามือหนึ่ง​จึงตบ​ลง​บน​หัว​ของ​ต่ง​หู​ ‘เป็น​ตอไม้​ทึ่ม​ทื่อ​จริงๆ​ อย่า​ว่าแต่​นั่ง​เก้าอี้​เย็น​อยู่​ใน​สำนัก​บัณฑิต​ฮั่น​หลิน​นาน​หลาย​ปี​เลย​ ข้า​ว่า​เอา​เจ้าไป​ทำเป็น​เก้าอี้​เย็นตัว​นั้น​ก็​ถือว่า​ยกย่อง​เจ้าแล้ว​ ยัง​มีหน้า​มาทำเป็น​น้อยเนื้อต่ำใจ​ ประโยค​ที่ว่า​ ‘ถ้อยคำ​ดุจ​หยก​ดุจ​ทองคำ​ ความหมาย​ลึกล้ำ​ชวน​ขบคิด​’ ก็​ไม่รู้จัก​พูด​บ้าง​หรือ​?’

ต่ง​หู​ยัง​จะทำ​อย่างไร​ได้​อีก​ ก็ได้​แต่​หัวเราะ​อย่าง​โง่งมเท่านั้น​

นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​เดิน​ไปเป็นเพื่อน​ต่ง​หู​ระยะทาง​หนึ่ง​ เขา​เอ่ย​ว่า​ ‘ด่า​ได้​ไม่เลว​ ใน​วงการ​ขุนนาง​ก็​ควร​ต้อง​มีคนโง่​จำพวก​นี้​อยู่​บ้าง​ ไม่อย่างนั้น​คืนนี้​ข้า​คง​ถือ​กระบอง​ออกมา​ไล่​คน​แล้ว​ แต่​ด่า​ไป​แล้ว​สิบ​ปี​ วันหน้า​ก็​เป็น​ขุนนาง​ให้​ดี​ๆ ไป​เถอะ​ ลงมือ​ปฏิบัติงาน​จริง​ ทำงาน​อย่าง​เป็นจริงเป็นจัง​เสียหน่อย​ เพียงแต่​จำไว้​ว่า​ วันหน้า​หาก​มีขุนนาง​หนุ่ม​ที่​ชอบ​ด่า​คน​แบบ​เจ้าก็​ช่วย​ปกป้อง​เขา​ให้​มาก​หน่อย​ วันหน้า​พอ​ถึงคราว​ที่​คนอื่น​ด่า​เจ้าก็​อย่า​รับ​ไม่ได้เสีย​ล่ะ​ ไม่อย่างนั้น​ประโยค​ที่สอง​ของ​วันนี้​ก็​เท่ากับ​ว่า​ข้า​พูด​ไป​เสียเปล่า​ ป้อน​เข้า​ท้องหมา​ไป​แล้ว​’

ค่ำคืน​ของ​ปี​นั้น​ ต่ง​หู​จด​จำใส่ใจไว้​เงียบๆ​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!