กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 834

สรุปบท บทที่ 834.3 ประหนึ่งลากเรือกลวง: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปเนื้อหา บทที่ 834.3 ประหนึ่งลากเรือกลวง – กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บท บทที่ 834.3 ประหนึ่งลากเรือกลวง ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หัน​โจ้วจิ่น​ยิ้ม​เอ่ย​ “ดีมาก​ มีมาด​สง่างาม เปี่ยม​ไป​ด้วย​เสน่ห์​ของ​เซียน​กระบี่​”

ผี​หญิง​เบ้​ปาก​ “แต่​ใน​เมื่อ​เขา​ก็​มาแล้ว​ กลับ​ทำ​เพียงแค่​มองดู​อยู่​ไกลๆ​ ข้า​คง​ไม่เลื่อมใส​เขา​เหมือน​ใน​อดีต​อีกแล้ว​”

หัน​โจ้วจิ่น​ยิ้ม​อธิบาย​ “เขา​เป็น​เซียน​กระบี่​นี่​นะ​ ต่อให้​จะเป็น​ปรมาจารย์​วิถี​วร​ยุทธ​ที่​วิชา​หมัด​ยอดเยี่ยม​เลิศ​ล้ำ​ แต่​จะทำ​อะไร​ได้​เล่า​”

ผี​สาว​พยักหน้า​อย่าง​เห็นด้วย​ “ก็​จริง​นะ​! มีเหตุผล​!”

เพียงแต่ว่า​ใน​ใจอด​เสียดาย​ไม่ได้​

ทำไม​กัน​เล่า​ ผี​สาวจะ​มีความเพ้อฝัน​บ้าง​ไม่ได้​เลย​หรือ​ บุรุษ​หนุ่ม​คนบ้านเดียวกัน​ ยินดี​เฝ้าหัว​กำแพงเมือง​อย่าง​เดียวดาย​เพื่อ​หญิง​คนรัก​นาน​หลาย​ปี​ จะยัง​ไม่ยอมให้​นาง​เลื่อมใส​เขา​บ้าง​เลย​หรือ​

นี่​ก็​คือ​นิสัย​ของ​นาง​ วันหน้า​เจอ​หน้า​กัน​ ไม่พูดไม่จา​ก็​จะกระโจน​เข้าใส่​เหมือน​เสือ​โหย​เขมือบ​ลูก​แกะ​ เหล่า​เหนียง​ได้​พูดจา​แทะโลม​เท่าไร​ก็​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​ที่อยู่​บน​กิ่งไม้​ของ​ยอดเขา​ ในที่สุด​ก็​มอง​สถานการณ์​ของ​วิญญาณ​หยิน​สามหมื่น​ตน​บน​สนามรบ​ออก​อย่าง​ละเอียด​แล้ว​

นาที​ถัดมา​ แสงกระบี่​พร่างพราว​เส้น​หนึ่ง​แหวก​ผ่า​ม่าน​ราตรี​

สาด​สะท้อน​ไป​ยัง​เส้นทาง​บน​พื้นดิน​ สว่างไสว​ราวกับ​เวลากลางวัน​ เห็น​ชัดเจน​ทุกซอกทุกมุม​ เพียงแต่ว่า​จุด​ที่​ผิด​ไป​จาก​ปกติ​ที่สุด​ก็​คือ​ปราณ​กระบี่​เส้น​นั้น​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​ถึงเพียงนี้​ ทว่า​ภูตผี​วิญญาณ​หยิน​ทั้งหลาย​ที่อยู่​บน​เส้นทาง​สู่ปรโลก​กลับ​ไม่มีความหวาดกลัว​แม้แต่น้อย​ กลับกัน​ยัง​กลายเป็น​ว่า​ผี​ที่​สติปัญญา​ขุ่นมัว​ไป​นาน​แล้ว​กลับ​มีสาย​ตาสว่าง​สดใส​เพิ่มขึ้น​จาก​ปกติ​หลาย​ส่วน​ซึ่งไม่สมเหตุสมผล​เลย​สักนิด​

จุด​ที่​ห่าง​ไป​ไกล​อย่าง​ถึงที่สุด​พลัน​มีภาพ​ยามา​ของ​ขุนเขา​ลูก​หนึ่ง​เหมือน​กาย​ธรรม​ร่าง​ทอง​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ตั้ง​ตระหง่าน​ขึ้น​บน​เส้นทาง​

ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​พวก​คนนำทาง​อย่าง​พวก​วิญญาณ​วีรบุรุษ​แห่ง​ศาล​บุ๋น​บู๊​ อวี๋อวี๋​ เณร​น้อย​โฮ่ว​แจว๋​มีริ้ว​กระเพื่อม​เป็น​ระลอก​ คลื่น​แสงจันทร์​ยาม​ราตรี​ส่อง​ประกาย​ระยิบระยับ​ ราวกับว่า​มี…เส้นทาง​สายน้ำ​ที่​ราบเรียบ​ดุจ​กระจก​เพิ่ม​มาอีก​เส้น​หนึ่ง​

เป็น​สถานการณ์​ยิ่งใหญ่​อัน​ดีงาม​ที่​ขุนเขา​สายน้ำ​อิงแอบ​แนบชิด​กัน​ ลมปราณ​ใน​ภูเขา​เปี่ยมล้น​ ปราณ​วิญญาณ​ของ​สายน้ำ​ก็​เอ่อ​ท้น​

ไม่เพียงเท่านี้​ เณร​น้อย​โฮ่ว​แจว๋​พลัน​ก้มหน้า​ลง​แล้ว​หันหน้า​มอง​ไป​ก็​ต้อง​ค้นพบ​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ว่า​ใน​ขบวน​ผี​หลาย​ลี้​ที่​ทอด​ยาว​ไป​ด้านหลัง​ตน​ ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​พวก​มัน​ล้วน​มีคัมภีร์​สีทอง​บท​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​

เมื่อ​ภูตผี​วิญญาณ​หยิน​ทั้งหลาย​เดิน​ไป​บน​ทาง​เส้น​นี้​ ทุก​ก้าวย่าง​จะต้อง​มีดอกบัว​สีทอง​ผลิบาน​ ส่าย​ไหว​อย่าง​มีชีวิตชีวา​อยู่​ใต้​ฝ่าเท้า​

เส้นทาง​เบื้อง​ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​ลู่​ฮุย​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​และ​วิญญาณ​หยิน​ที่​ติด​ตามมา​ด้านหลัง​มีตัวอักษร​สีขาว​หิมะ​ที่เกิด​จาก​การ​หล่อหลอม​กวี​ชายแดน​บท​แล้ว​บท​เล่า​ ตัวอักษร​ร้อย​เรียง​กัน​เป็น​ประโยค​ ประโยค​ร้อย​เรียง​กัน​เป็น​บทกวี​ บทกวี​กลาย​มาเป็น​เส้นทาง​

ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​เต้า​ลู่​เก๋​อห​ลิ่ง​และ​เจิน​เห​ริน​ลัทธิ​เต๋า​ทั้งหลาย​ก็​มีคาถา​เต๋า​ที่​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​บท​แล้ว​บท​เล่า​ เป็นเหตุให้​ตลอดทั้ง​เส้นทาง​ส่อง​ประกาย​แก้ว​ใสเจ็ด​สี

ส่วน​อวี๋อวี๋​ก็​ค้นพบ​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ว่า​บน​เส้นทาง​เบื้องหน้า​ตน​ ท่ามกลาง​สีสัน​ของ​น้ำ​ ปราก​ฎเป็น​กระบี่​บิน​จำลอง​ขนาดใหญ่​เท่า​ลำ​เรือ​หลาย​ต่อ​หลาย​ลำ​ เรียงราย​ปู​แผ่​กลายเป็น​เส้นทาง​

ภาพ​เหตุการณ์​ผิดปกติ​ไม่ได้​เกิดขึ้น​แค่นี้​ เมื่อ​คน​ชุด​เขียว​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​อย่าง​ถึงที่สุด​เริ่ม​เดิน​ขึ้น​เขา​ไป​ช้าๆ พริบตา​นั้น​บน​ร่าง​ของ​เขา​ก็​มีเส้นด้าย​สีทอง​มากมาย​สาด​ยิง​ออกมา​ ล่องลอย​ออก​ไป​ชักนำ​วิญญาณ​วีรบุรุษ​สามหมื่น​กว่า​ดวง​ที่​รบ​ตาย​บน​สนามรบ​มาทีละ​ตน​

หนึ่ง​คน​เดิน​ขึ้น​เขา​ ลาก​คน​เบื้องหลัง​ให้​เดิน​ไป​ข้างหน้า​

ใช้การ​ผลาญ​ของ​บุญ​กุศล​ หล่อหลอม​ออกมา​เป็น​ด้าย​ยาว​แห่ง​ผลกรรม​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ นำมา​ชักนำ​วิญญาณ​หยิน​สามหมื่น​ดวง​ที่อยู่​ด้านหลัง​ คน​ชุด​เขียว​เดิน​นำ​อยู่​ด้านหน้า​

หลังจากนั้น​แผ่น​หลัง​ที่​เดิน​ขึ้น​เขา​ของ​คน​ชุด​เขียว​ ยิ่ง​นาน​ฝีเท้า​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​ก้าว​เร็ว​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ สุดท้าย​ทะยาน​ลม​ไป​เหมือน​เรือ​กลวง​ลำ​หนึ่ง​ เหมือน​เรือข้ามฟาก​ลำ​หนึ่ง​ คน​คน​หนึ่ง​นำพา​วิญญาณ​วีรบุรุษ​สามหมื่น​ดวง​เดิน​ขึ้นเขาลงห้วย​ไป​ด้วยกัน​ บิน​ทะยาน​พุ่ง​ไป​ข้างหน้า​ด้วย​ความว่องไว​เหนือ​เกิน​การคาดการณ์​ เร่งรุด​ไป​ยัง​งานพิธี​ขมา​กรรม​ธรณี​ธารา​และ​พิธี​บวง​สรวงสวรรค์​

สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​กลุ่ม​ใหญ่​และ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ของ​ฝ่าย​ต่างๆ​ เวลานี้​คล้าย​จะไม่มีเรื่อง​อะไร​ให้​ทำ​

แค่​ต้องตาม​ไป​อย่าง​เดียว​

ต่อให้​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​หยวน​ฮว่า​จิ้งที่​จิต​แห่ง​มรรคา​แข็งแกร่ง​ก็​ยัง​ต้อง​อึ้ง​งัน​ไร้​คำพูด​

ซ่งซวี่​กลับ​ยิ้ม​อย่าง​เข้าใจ​ อิ่น​กวาน​ช่าง ‘คุยเก่ง​’ จริงๆ​

องค์​ชาย​แห่ง​สกุล​ซ่งต้า​หลี​อย่าง​ซ่งซวี่​เก็บ​ความคิด​ทั้งหมด​คืน​มาแล้ว​กุม​หมัด​คารวะ​แผ่น​หลัง​นั้น​อยู่​ไกลๆ​ ใน​ใจเปี่ยม​ไป​ด้วย​ความเลื่อมใส​

ผี​สาว​อึ้ง​ค้าง​ไร้​คำพูด​ ผ่าน​ไป​เนิ่นนาน​จึงจะพึมพำ​ว่า​ “ผลบุญ​มากมาย​ขนาด​นี้​เชียว​นะ​ ตัดใจ​ไม่ต้องการ​ได้​ลง​หรือ​? การค้า​ที่​ขาดทุน​เช่นนี้​ ขนาด​ข้า​ที่​เป็น​คนนอก​ยัง​รู้สึก​เสียดาย​แทน​เลย​”

ดวงตา​ของ​หัน​โจ้วจิ่นทอ​ประกาย​วับวาม​ ยิ้ม​หวาน​เอ่ย​ว่า​ “เขา​คือ​อิ่น​กวาน​นี่​นะ​ ทำ​อะไร​ก็​ไม่น่า​ประหลาดใจ​หรอก​”

หลังจาก​ขยับ​เข้าใกล้​จุดหมาย​ คน​ชุด​เขียว​ก็​ทำ​เพียงแค่​หมุนตัว​กลับมา​กุม​หมัด​หนัก​ๆ ให้​กับ​วิญญาณ​วีรบุรุษ​บน​สนามรบ​ทั้งหลาย​เหล่านั้น​ จากนั้น​ก็​กลายร่าง​เป็น​แสงกระบี่​พุ่ง​ทะยาน​จากไป​

บางที​ใน​กลุ่ม​ขบวน​เดินทาง​ยามค่ำคืน​ของ​คืนนี้​อาจจะ​มีทหารม้า​ชายแดน​กลุ่ม​ที่​เจอ​บน​เส้นทาง​ท่ามกลาง​ลม​หิมะ​ใน​ปี​นั้น​ หรือ​อาจจะ​เป็น​สหาย​ร่วม​รบ​ของ​พวกเขา​

รถม้า​คัน​หนึ่ง​ที่​ตามหลัง​ขบวน​มา เนื่องจาก​คน​ที่อยู่​ใน​รถ​คือ​รอง​เจ้ากรม​พิธีการ​ฝ่ายขวา​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ใช่ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​ ไม่เหมาะ​จะขยับ​เข้าไป​ใกล้​มาก​นัก​ รอง​เจ้ากรม​พิธีการ​ฝ่ายขวา​ผู้​นี้​เรียก​แม่ทัพ​บู๊​ของ​กองทัพ​ชายแดน​ที่​เดินทาง​ร่วมกัน​มาคน​หนึ่ง​ ทั้งสองฝ่าย​ปรึกษา​กัน​เรียบร้อย​ สิ่งศักดิ์สิทธิ์​และ​ผู้ฝึก​ตน​ทุกคน​ซึ่งรวม​ซ่งซวี่​และ​หยวน​ฮว่า​จิ้งเป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ต่าง​ก็​ได้รับ​คำสั่ง​ เรื่อง​ใน​วันนี้​ใคร​ก็​ห้าม​แพร่งพราย​ออก​ไป​ชั่วคราว​ ให้​รอ​ฟังข่าว​จาก​ทาง​กรม​พิธีการ​

บน​ยอดเขา​ที่​เงียบสงัด​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่งตั้งอยู่​ชาน​เมืองหลวง​ เฉิน​ผิง​อัน​พลิ้ว​กาย​ลง​ ปาดเหงื่อ​บน​หน้าผาก​ นั่งขัดสมาธิ​ ปรับ​ภาพ​บรรยากาศ​อัน​ปั่นป่วน​วุ่นวาย​ของ​ฟ้าดิน​เล็ก​ใน​ร่าง​ให้​สงบ​ลง​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ามาถึงอย่าง​เงียบเชียบ​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ทรัพย์สิน​ที่​สะสมมาอย่าง​ยากลำบาก​ นึก​จะไม่ต้องการ​ก็​ไม่ต้องการ​เลย​หรือ​?”

การกระทำ​นี้​ของ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ต้อง​มีความตั้งใจ​อย่าง​มาก​ ไม่เพียงแต่​ช่วย​นำทาง​ ยัง​ใช้วิธีการ​อย่างหนึ่ง​ ก่อนที่จะ​ลงมือทำ​ จิตใจ​ต้อง​เที่ยงตรง​จริงใจ​ บอกกล่าว​สถานะ​ผู้ฝึก​ตน​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ของ​ตัวเอง​ให้​ฟ้าดิน​ทราบ​ก่อน​ นี่​จึงเป็นเหตุให้​ทำได้​เพียง​สละ​ผลบุญ​คุณงามความดี​ที่ผ่านมา​เท่านั้น​ ไม่อาจ​ช่วงชิง​คุณ​ความชอบ​ใดๆ​ มาได้​แม้แต่น้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​ลืมตา​ขึ้น​ทันที​ ยิ้ม​เอ่ย​ “มาจาก​ฟ้าดิน​ก็​คืน​กลับ​ไป​ให้​ฟ้าดิน​ เป็นเรื่อง​ที่​สมเหตุสมผล​ดีแล้ว​ ก็​เหมือนกับ​การ​หาเงิน​อย่าง​ยากลำบาก​ก็​ไม่ใช่เพื่อให้​ใช้จ่าย​ได้​อย่าง​สบาย​หรอก​หรือ​ อีก​อย่าง​วันหน้า​ก็​ยัง​สามารถ​ช่วงชิง​มาได้​ใหม่​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่านั่ง​ยอง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ อืม​รับ​หนึ่ง​ที​ บอก​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​พักผ่อน​อีก​สักพัก​ แต่​อยู่ดีๆ​ ก็​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ปลงอนิจจัง​ “ข้า​ถนอม​ดอก​เหมย​ดวงจันทร์​ ดึกดื่น​จึงตัดใจ​ข่มตา​นอน​ไม่ลง​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​คล้อยตาม​ “ดึกดื่น​ตัดใจ​ข่มตา​นอน​ไม่ลง​ ดวงจันทร์​ดอก​เหมย​สงสาร​ข้า​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าใช้หมัด​ทุบ​ฝ่ามือ​ “ประเสริฐ​ยิ่ง​”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ก็​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​อาจารย์​นี่​นา​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าคลี่​ยิ้ม​ “เจ้าเด็ก​ตัว​เหม็น​ ตอนนี้​ไม่มีคนนอก​อยู่​เสียหน่อย​ จะไม่สิ้นเปลือง​แย่​หรือ​”

เฉิน​ผิง​อัน​จึงไม่เข้าฌาน​ปรับ​ลมหายใจ​ต่อ​แล้ว​ หยิบ​เหล้า​หมัก​ข้าวเหนียว​ของ​บ้านเกิด​ออกมา​สอง​กา​ ดื่ม​กับ​อาจารย์​คนละ​กา​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายิ้ม​ถาม “เวท​กระบี่​หลบหนี​วิชา​นี้​ยัง​เรียน​แก่นแท้​ไม่ได้​หรือ​? ทำไม​ไม่ขอ​ความรู้​จาก​แม่หนู​หนิง​ล่ะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​พลาง​อธิบาย​ “เป็น​อาจารย์​ของ​ข้า​เอง​ ไม่ถือว่า​เป็น​คนนอก​”

หลิว​เจีย​กังขา​ “อาจารย์​คน​ไหน​?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าจัดระเบียบ​สาบ​เสื้อ​ สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ต่อ​อีกครั้ง​ “คือ​อาจารย์​สาย​บุ๋น​ของ​ผู้เยาว์​เอง​ ซึ่งก็​คือ​อาจารย์​ของ​ศิษย์​พี่​ชุย​และ​ของ​อาจารย์​ฉี”

ใบหน้า​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าเต็มไปด้วย​ความ​ไม่กล้า​เชื่อ​ พลัน​กระวนกระวาย​ทำตัว​ไม่ถูก​ ถึงกับ​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ออกมา​

ต่อให้​เทวรูป​ใน​ศาล​บุ๋น​จะถูก​ย้ายออก​มาจาก​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​นาน​แล้ว​ ไม่ได้​กิน​หัวหมู​เย็น​นาน​หลาย​ปี​ แต่​สำหรับ​ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​อย่าง​หลิว​เจีย​แล้ว​ อริยะ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​หนึ่ง​ที่​เคย​ยืน​เคียง​บ่า​กับ​ห​ลี่​เซิ่งและ​หย่า​เซิ่ง อริยะ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ท่าน​หนึ่ง​ที่​สามารถ​สอน​ซิ่ว​หู่​ชุย​ฉาน​ เซียน​กระบี่​จั่ว​โย่ว​และ​อาจารย์​ฉีมาได้​ รอ​กระทั่ง​บุคคล​ที่​เดิม​อยู่​ไกล​สุดขอบฟ้า​มาอยู่​ใกล้​ตรงหน้า​จริงๆ​ นอกจาก​ความ​กระวนกระวาย​ไม่กล้า​พูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​แล้ว​ ก็​ไม่เหลือ​ทางเลือก​อย่าง​อื่น​เลย​จริงๆ​

จ้าวต​วน​หมิง​ใช้เสียง​ใน​ใจสอบถาม​ “พี่ใหญ่​เฉิน​ เป็น​เห​วิน​เซิ่งจริงๆ​ หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​ตอบ​ “ไม่อย่างนั้น​ยัง​จะเป็น​ใคร​ได้​อีก​ล่ะ​?”

จ้าว​ตวน​หมิง​รีบ​ประสานมือ​คารวะ​ทันใด​ “ลูกหลาน​สกุล​จ้าว​แห่ง​เทียน​สุ่ยต้า​หลี​ จ้าว​ตวน​หมิง​ คารวะ​ท่าน​ผู้เฒ่า​เห​วิน​เซิ่ง!”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายิ้ม​กล่าว​ “หลิว​เซียน​ซือ​ ตวน​หมิง​ ไม่ต้อง​เกรงใจ​กัน​ขนาด​นี้​”

หลิว​เจีย​กุม​หมัด​เอ่ย​เสียงสั่น​ “หลิว​เจีย​คารวะ​เห​วิน​เซิ่ง”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าโบกมือ​ เดิน​เข้าไป​ใน​ตรอก​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ มาถึงหน้า​ประตู​บ้าน​หลัง​นั้น​ เนื่องจาก​ไม่ได้​ลงกลอน​เอาไว้​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงผลัก​ประตู​เปิด​ออก​ หันหน้า​มามอง​ก็​เห็น​ว่า​อาจารย์​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ เนิ่นนาน​ก็​ยัง​ไม่ข้าม​ธรณีประตู​เข้ามา​

เฉิน​ผิง​อัน​จึงหยุด​เดิน​ รอคอย​อาจารย์​อย่าง​สงบ​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ามอง​ไป​ใน​ประตู​ เนิ่นนาน​ก็​ยัง​ไม่ขยับ​เท้า​ พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ใน​เมื่อ​โชคร้าย​ขนาด​นั้น​ กลาย​มาเป็น​ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​ข้า​ ถ้าอย่างนั้น​อาจารย์​ก็​ไม่พูดว่า​ลำบาก​เจ้าแล้ว​ เรื่อง​บางอย่าง​เป็น​อาจารย์​ที่​ทำ​ไม่ถูก​”

คนใน​อดีต​ที่อยู่​ใน​ประตู​ ผู้เฒ่า​ที่อยู่​นอก​ประตู​ นับแต่​โบราณ​มาอริยะ​ปราชญ์​มัก​ต้อง​เปลี่ยวเหงา​เสมอ​

สุดท้าย​ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่ได้​เดิน​เข้าไป​ใน​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​ แต่​นั่งลง​บน​ม้านั่ง​หิน​ใน​ลาน​บ้านนอก​หอ​หนังสือ​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงขน​ตำรา​บาง​เล่ม​ออกจาก​หอ​ตำรา​มาวาง​ไว้​บน​โต๊ะ​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าดื่มเหล้า​ เปิด​ตำรา​อ่าน​ช้าๆ

อันที่จริง​ล้วน​เป็น​ผลงาน​ใน​อดีต​ตอนที่​ซิ่ว​ไฉเฒ่ายัง​ไม่ได้​เป็น​เห​วิน​เซิ่ง เป็นเหตุให้​ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​ฉบับ​พิมพ์​ฉบับ​แรก​ แต่​เห็นได้ชัด​ว่า​เป็นการ​พิมพ์​แบบ​หยาบ​ ไม่ประ​ณีติ​มาก​พอ​ เพียงแค่​ว่า​หน้า​หนังสือ​กลับ​สะอาดสะอ้าน​ผิดปกติ​ราวกับ​เป็น​หนังสือ​ใหม่​ อีก​ทั้ง​หน้า​เปล่า​รอง​ปก​ของ​หนังสือ​ทุก​เล่ม​ล้วน​ไม่มีตราประทับ​หนังสือ​ของ​คนรุ่นหลัง​ที่​เปิด​อ่าน​ประทับตรา​ไว้​ ยิ่ง​ไม่มีคำอธิบาย​อะไร​เขียน​กำกับ​ไว้​ด้าน​ข้าง​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​บน​ธรณีประตู​ของ​หอ​ตำรา​ หลับตา​เข้าฌาน​ทำสมาธิ​ หู​มีเพียง​เสียง​เปิด​ตำรา​ของ​อาจารย์​

สุดท้าย​ซิ่ว​ไฉเฒ่าเปิด​ไป​ถึงหน้าหนึ่ง​ เป็น​เนื้อหา​ของ​บท​เจี่ย​ปี้​พอดี​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าปิด​ตำรา​ลง​ เพียงแค่​เก็บ​ตำรา​เล่ม​นี้​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​เล่ม​เดียว​

ตลอด​ทั้งคืน​ไร้​เรื่องราว​และ​ไร้​คำพูด​ มีเพียง​แสงจันทร์​ที่​จากไป​อย่าง​เนิบ​ช้า ดวงตะวัน​ลอย​ขึ้น​สู่ท้องฟ้า​ สาด​แสงสว่างไสว​ให้​แก่​โลก​มนุษย์​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!