หันโจ้วจิ่นยิ้มเอ่ย “ดีมาก มีมาดสง่างาม เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของเซียนกระบี่”
ผีหญิงเบ้ปาก “แต่ในเมื่อเขาก็มาแล้ว กลับทำเพียงแค่มองดูอยู่ไกลๆ ข้าคงไม่เลื่อมใสเขาเหมือนในอดีตอีกแล้ว”
หันโจ้วจิ่นยิ้มอธิบาย “เขาเป็นเซียนกระบี่นี่นะ ต่อให้จะเป็นปรมาจารย์วิถีวรยุทธที่วิชาหมัดยอดเยี่ยมเลิศล้ำ แต่จะทำอะไรได้เล่า”
ผีสาวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริงนะ! มีเหตุผล!”
เพียงแต่ว่าในใจอดเสียดายไม่ได้
ทำไมกันเล่า ผีสาวจะมีความเพ้อฝันบ้างไม่ได้เลยหรือ บุรุษหนุ่มคนบ้านเดียวกัน ยินดีเฝ้าหัวกำแพงเมืองอย่างเดียวดายเพื่อหญิงคนรักนานหลายปี จะยังไม่ยอมให้นางเลื่อมใสเขาบ้างเลยหรือ
นี่ก็คือนิสัยของนาง วันหน้าเจอหน้ากัน ไม่พูดไม่จาก็จะกระโจนเข้าใส่เหมือนเสือโหยเขมือบลูกแกะ เหล่าเหนียงได้พูดจาแทะโลมเท่าไรก็เท่านั้น
เฉินผิงอันที่อยู่บนกิ่งไม้ของยอดเขา ในที่สุดก็มองสถานการณ์ของวิญญาณหยินสามหมื่นตนบนสนามรบออกอย่างละเอียดแล้ว
นาทีถัดมา แสงกระบี่พร่างพราวเส้นหนึ่งแหวกผ่าม่านราตรี
สาดสะท้อนไปยังเส้นทางบนพื้นดิน สว่างไสวราวกับเวลากลางวัน เห็นชัดเจนทุกซอกทุกมุม เพียงแต่ว่าจุดที่ผิดไปจากปกติที่สุดก็คือปราณกระบี่เส้นนั้นยิ่งใหญ่ไพศาลถึงเพียงนี้ ทว่าภูตผีวิญญาณหยินทั้งหลายที่อยู่บนเส้นทางสู่ปรโลกกลับไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย กลับกันยังกลายเป็นว่าผีที่สติปัญญาขุ่นมัวไปนานแล้วกลับมีสายตาสว่างสดใสเพิ่มขึ้นจากปกติหลายส่วนซึ่งไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
จุดที่ห่างไปไกลอย่างถึงที่สุดพลันมีภาพยามาของขุนเขาลูกหนึ่งเหมือนกายธรรมร่างทองของผู้ฝึกตนตั้งตระหง่านขึ้นบนเส้นทาง
ใต้ฝ่าเท้าของพวกคนนำทางอย่างพวกวิญญาณวีรบุรุษแห่งศาลบุ๋นบู๊ อวี๋อวี๋ เณรน้อยโฮ่วแจว๋มีริ้วกระเพื่อมเป็นระลอก คลื่นแสงจันทร์ยามราตรีส่องประกายระยิบระยับ ราวกับว่ามี…เส้นทางสายน้ำที่ราบเรียบดุจกระจกเพิ่มมาอีกเส้นหนึ่ง
เป็นสถานการณ์ยิ่งใหญ่อันดีงามที่ขุนเขาสายน้ำอิงแอบแนบชิดกัน ลมปราณในภูเขาเปี่ยมล้น ปราณวิญญาณของสายน้ำก็เอ่อท้น
ไม่เพียงเท่านี้ เณรน้อยโฮ่วแจว๋พลันก้มหน้าลงแล้วหันหน้ามองไปก็ต้องค้นพบด้วยความตกตะลึงว่าในขบวนผีหลายลี้ที่ทอดยาวไปด้านหลังตน ใต้ฝ่าเท้าของพวกมันล้วนมีคัมภีร์สีทองบทหนึ่งปรากฏขึ้น
เมื่อภูตผีวิญญาณหยินทั้งหลายเดินไปบนทางเส้นนี้ ทุกก้าวย่างจะต้องมีดอกบัวสีทองผลิบาน ส่ายไหวอย่างมีชีวิตชีวาอยู่ใต้ฝ่าเท้า
เส้นทางเบื้องใต้ฝ่าเท้าของลู่ฮุยลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อและวิญญาณหยินที่ติดตามมาด้านหลังมีตัวอักษรสีขาวหิมะที่เกิดจากการหล่อหลอมกวีชายแดนบทแล้วบทเล่า ตัวอักษรร้อยเรียงกันเป็นประโยค ประโยคร้อยเรียงกันเป็นบทกวี บทกวีกลายมาเป็นเส้นทาง
ใต้ฝ่าเท้าของเต้าลู่เก๋อหลิ่งและเจินเหรินลัทธิเต๋าทั้งหลายก็มีคาถาเต๋าที่ลี้ลับมหัศจรรย์บทแล้วบทเล่า เป็นเหตุให้ตลอดทั้งเส้นทางส่องประกายแก้วใสเจ็ดสี
ส่วนอวี๋อวี๋ก็ค้นพบด้วยความตกตะลึงว่าบนเส้นทางเบื้องหน้าตน ท่ามกลางสีสันของน้ำ ปรากฎเป็นกระบี่บินจำลองขนาดใหญ่เท่าลำเรือหลายต่อหลายลำ เรียงรายปูแผ่กลายเป็นเส้นทาง
ภาพเหตุการณ์ผิดปกติไม่ได้เกิดขึ้นแค่นี้ เมื่อคนชุดเขียวที่อยู่ห่างไปไกลอย่างถึงที่สุดเริ่มเดินขึ้นเขาไปช้าๆ พริบตานั้นบนร่างของเขาก็มีเส้นด้ายสีทองมากมายสาดยิงออกมา ล่องลอยออกไปชักนำวิญญาณวีรบุรุษสามหมื่นกว่าดวงที่รบตายบนสนามรบมาทีละตน
หนึ่งคนเดินขึ้นเขา ลากคนเบื้องหลังให้เดินไปข้างหน้า
ใช้การผลาญของบุญกุศล หล่อหลอมออกมาเป็นด้ายยาวแห่งผลกรรมจำนวนนับไม่ถ้วน นำมาชักนำวิญญาณหยินสามหมื่นดวงที่อยู่ด้านหลัง คนชุดเขียวเดินนำอยู่ด้านหน้า
หลังจากนั้นแผ่นหลังที่เดินขึ้นเขาของคนชุดเขียว ยิ่งนานฝีเท้าของเขาก็ยิ่งก้าวเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายทะยานลมไปเหมือนเรือกลวงลำหนึ่ง เหมือนเรือข้ามฟากลำหนึ่ง คนคนหนึ่งนำพาวิญญาณวีรบุรุษสามหมื่นดวงเดินขึ้นเขาลงห้วยไปด้วยกัน บินทะยานพุ่งไปข้างหน้าด้วยความว่องไวเหนือเกินการคาดการณ์ เร่งรุดไปยังงานพิธีขมากรรมธรณีธาราและพิธีบวงสรวงสวรรค์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งขุนเขาสายน้ำกลุ่มใหญ่และผู้ฝึกลมปราณของฝ่ายต่างๆ เวลานี้คล้ายจะไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ
แค่ต้องตามไปอย่างเดียว
ต่อให้เป็นผู้ฝึกกระบี่หยวนฮว่าจิ้งที่จิตแห่งมรรคาแข็งแกร่งก็ยังต้องอึ้งงันไร้คำพูด
ซ่งซวี่กลับยิ้มอย่างเข้าใจ อิ่นกวานช่าง ‘คุยเก่ง’ จริงๆ
องค์ชายแห่งสกุลซ่งต้าหลีอย่างซ่งซวี่เก็บความคิดทั้งหมดคืนมาแล้วกุมหมัดคารวะแผ่นหลังนั้นอยู่ไกลๆ ในใจเปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใส
ผีสาวอึ้งค้างไร้คำพูด ผ่านไปเนิ่นนานจึงจะพึมพำว่า “ผลบุญมากมายขนาดนี้เชียวนะ ตัดใจไม่ต้องการได้ลงหรือ? การค้าที่ขาดทุนเช่นนี้ ขนาดข้าที่เป็นคนนอกยังรู้สึกเสียดายแทนเลย”
ดวงตาของหันโจ้วจิ่นทอประกายวับวาม ยิ้มหวานเอ่ยว่า “เขาคืออิ่นกวานนี่นะ ทำอะไรก็ไม่น่าประหลาดใจหรอก”
หลังจากขยับเข้าใกล้จุดหมาย คนชุดเขียวก็ทำเพียงแค่หมุนตัวกลับมากุมหมัดหนักๆ ให้กับวิญญาณวีรบุรุษบนสนามรบทั้งหลายเหล่านั้น จากนั้นก็กลายร่างเป็นแสงกระบี่พุ่งทะยานจากไป
บางทีในกลุ่มขบวนเดินทางยามค่ำคืนของคืนนี้อาจจะมีทหารม้าชายแดนกลุ่มที่เจอบนเส้นทางท่ามกลางลมหิมะในปีนั้น หรืออาจจะเป็นสหายร่วมรบของพวกเขา
รถม้าคันหนึ่งที่ตามหลังขบวนมา เนื่องจากคนที่อยู่ในรถคือรองเจ้ากรมพิธีการฝ่ายขวา ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้ฝึกตนบนภูเขา ไม่เหมาะจะขยับเข้าไปใกล้มากนัก รองเจ้ากรมพิธีการฝ่ายขวาผู้นี้เรียกแม่ทัพบู๊ของกองทัพชายแดนที่เดินทางร่วมกันมาคนหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายปรึกษากันเรียบร้อย สิ่งศักดิ์สิทธิ์และผู้ฝึกตนทุกคนซึ่งรวมซ่งซวี่และหยวนฮว่าจิ้งเป็นหนึ่งในนั้นต่างก็ได้รับคำสั่ง เรื่องในวันนี้ใครก็ห้ามแพร่งพรายออกไปชั่วคราว ให้รอฟังข่าวจากทางกรมพิธีการ
บนยอดเขาที่เงียบสงัดแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองหลวง เฉินผิงอันพลิ้วกายลง ปาดเหงื่อบนหน้าผาก นั่งขัดสมาธิ ปรับภาพบรรยากาศอันปั่นป่วนวุ่นวายของฟ้าดินเล็กในร่างให้สงบลง
ซิ่วไฉเฒ่ามาถึงอย่างเงียบเชียบ ยิ้มเอ่ยว่า “ทรัพย์สินที่สะสมมาอย่างยากลำบาก นึกจะไม่ต้องการก็ไม่ต้องการเลยหรือ?”
การกระทำนี้ของลูกศิษย์คนสุดท้ายต้องมีความตั้งใจอย่างมาก ไม่เพียงแต่ช่วยนำทาง ยังใช้วิธีการอย่างหนึ่ง ก่อนที่จะลงมือทำ จิตใจต้องเที่ยงตรงจริงใจ บอกกล่าวสถานะผู้ฝึกตนลัทธิขงจื๊อของตัวเองให้ฟ้าดินทราบก่อน นี่จึงเป็นเหตุให้ทำได้เพียงสละผลบุญคุณงามความดีที่ผ่านมาเท่านั้น ไม่อาจช่วงชิงคุณความชอบใดๆ มาได้แม้แต่น้อย
เฉินผิงอันลืมตาขึ้นทันที ยิ้มเอ่ย “มาจากฟ้าดินก็คืนกลับไปให้ฟ้าดิน เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลดีแล้ว ก็เหมือนกับการหาเงินอย่างยากลำบากก็ไม่ใช่เพื่อให้ใช้จ่ายได้อย่างสบายหรอกหรือ อีกอย่างวันหน้าก็ยังสามารถช่วงชิงมาได้ใหม่”
ซิ่วไฉเฒ่านั่งยองอยู่ด้านข้าง อืมรับหนึ่งที บอกให้เฉินผิงอันพักผ่อนอีกสักพัก แต่อยู่ดีๆ ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงปลงอนิจจัง “ข้าถนอมดอกเหมยดวงจันทร์ ดึกดื่นจึงตัดใจข่มตานอนไม่ลง”
เฉินผิงอันเอ่ยคล้อยตาม “ดึกดื่นตัดใจข่มตานอนไม่ลง ดวงจันทร์ดอกเหมยสงสารข้า”
ซิ่วไฉเฒ่าใช้หมัดทุบฝ่ามือ “ประเสริฐยิ่ง”
เฉินผิงอันกล่าว “ก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์นี่นา”
ซิ่วไฉเฒ่าคลี่ยิ้ม “เจ้าเด็กตัวเหม็น ตอนนี้ไม่มีคนนอกอยู่เสียหน่อย จะไม่สิ้นเปลืองแย่หรือ”
เฉินผิงอันจึงไม่เข้าฌานปรับลมหายใจต่อแล้ว หยิบเหล้าหมักข้าวเหนียวของบ้านเกิดออกมาสองกา ดื่มกับอาจารย์คนละกา
ซิ่วไฉเฒ่ายิ้มถาม “เวทกระบี่หลบหนีวิชานี้ยังเรียนแก่นแท้ไม่ได้หรือ? ทำไมไม่ขอความรู้จากแม่หนูหนิงล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!