กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 843

หนิง​เหยา​เอ่ย​ “โจว​ไห่​จิ้งผู้​นี้​ต่อสู้​ได้​น่าดู​มาก​”

เดี๋ยว​ก็​ปล่อย​หมัด​เหมือน​หัก​กิ่ง​หลิว​ เดี๋ยว​ก็​ปล่อย​ฝ่ามือ​เหมือน​ถือ​ดอกไม้​ เรือน​กาย​แผ่ว​พลิ้ว​ลอย​ล่อง​ดุจ​เมฆหลาก​สี

ใน​ความเห็น​ของ​หนิง​เหยา​ การต่อสู้​กัน​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ เจ้าหนึ่ง​หมัด​ข้า​หนึ่ง​เท้า​ อันที่จริง​น่าดู​ชมเสีย​ยิ่งกว่า​การ​ประลอง​เวท​คาถา​บน​ภูเขา​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​เสีย​อีก​ ส่วน​การ​ถามกระบี่​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ แท้จริง​แล้ว​กลับ​น่าเบื่อ​มาก​

เมื่อ​เทียบ​กับ​โจว​ไห่​จิ้งที่​ออก​หมัด​ด้วย​ลวดลาย​ฉูดฉาด​ เรือน​กาย​คล่องแคล่ว​ว่องไว​แล้ว​ หมัด​เท้า​ของ​อวี๋หง​เห็นได้ชัด​ว่า​เปิดกว้าง​ปิด​ใหญ่​ ปณิธาน​หมัด​หนา​ข้น​ พายุ​ลมกรด​ประหนึ่ง​เจียว​หลง​หลาย​ตัว​ที่​ล้อม​ขด​อยู่​รอบด้าน​ มีหลายครั้ง​ที่​ประมือ​กับ​โจว​ไห่​จิ้งแบบ​ประชิดตัว​ ล้วน​ได้รับ​ผล​เก็บเกี่ยว​ ทำลาย​กำไล​ข้อมือ​และ​ปิ่นปักผม​ของ​ปรมาจารย์​ใหญ่​หญิง​ให้​แหลก​สลาย​ไป​หลาย​ชิ้น​แล้ว​ ผู้​ที่​ชมศึก​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ลูกหลาน​ขุนนาง​ของ​ตรอก​อี้​ฉือ​และ​ถนน​ฉือเอ๋อร์​ที่​ไม่อาจ​เงยหน้า​มอง​เต็มๆ​ ตา​ได้​ พอ​เห็น​ว่า​โจว​ไห่​จิ้งใช้หลัง​เท้า​เตะ​เข้าที่​ชายโครง​ของ​อวี๋หง​เต็มแรง​ พละกำลัง​หนักหน่วง​ จน​ร่าง​ของ​อวี๋หง​กระเด็น​หวือ​ออกจาก​ลาน​ประลอง​ยุทธ​ใน​แนว​ขวาง​ไป​ไกล​สิบ​กว่า​จั้ง ทุกคน​ก็​พา​กัน​ตบ​โต๊ะ​โห่ร้อง​เสียงดัง​อย่าง​ชอบใจ​

อวี๋หง​หยุด​ร่าง​ยืน​นิ่ง​ ยกมือ​ตบ​เสื้อผ้า​ง่ายๆ​ บน​ใบหน้า​มีรอย​เลือด​เส้น​หนึ่ง​ที่​เลือด​สด​ไหล​ซึมออกมา​ช้าๆ เป็น​บาดแผล​เล็ก​ๆ ที่​ถูก​โจว​ไห่​จิ้งใช้ฝ่ามือ​มีด​กรีด​ผ่าน​ใบหน้า​ก่อนหน้านี้​ หญิงสาว​ผู้​นี้​ใช้วิธีการ​ที่​อำมหิต​จริงๆ​ ฝ่ามือ​มีด​ก่อนหน้า​นั้น​มีพลัง​อำนาจ​น่า​ครั่นคร้าม​ มอง​ดูเหมือน​ตรง​มาบั่น​คอ​ แต่​ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​ภาพลวงตา​ ท่า​ไม้ตาย​คือ​นิ้วโป้ง​ของ​นาง​ที่​ตวัด​งอ​หมาย​จะควัก​ลูกตา​ข้าง​หนึ่ง​ของ​อวี๋หง​ออกมา​ ตอนนั้น​อวี๋หง​ไร้​ซึ่งความลังเลใจ​ ยก​เท้า​ถีบ​เข้าที่​หน้าท้อง​ของ​โจว​ไห่​จิ้ง เพื่อ​ลด​แรง​ปะทะ​ส่วน​นั้น​ทิ้ง​ไป​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​เท้า​ของ​เขา​ถีบ​ทะลุ​ร่าง​ ฝ่าย​หลัง​จึงจำต้อง​ถอยหลัง​ไป​หนึ่ง​ก้าว​ ไม่อย่างนั้น​การ​ประมือ​ครั้งนี้​ก็​เท่ากับ​ว่า​อวี๋หง​ใช้การ​สูญเสีย​ดวงตา​ข้าง​หนึ่ง​มาสังหาร​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ยอดเขา​คน​หนึ่ง​ได้​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​ยังคง​หลับตา​ทำสมาธิ​ แค่​แยกแยะ​จาก​การฟังเสียง​ สำหรับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ที่​เลื่อน​เป็น​ขั้น​คืน​ความจริง​แล้ว​ เรื่อง​นี้​ไม่ยาก​แม้แต่น้อย​ เขา​เอ่ย​อธิบาย​กับ​หนิง​เหยา​ว่า​ “โจว​ไห่​จิ้งกำลัง​ตกปลา​ ไม่ถึงครึ่ง​ก้านธูป​นาง​ก็​จงใจใช้หลักเกณฑ์​ของ​วิชา​หมัด​หก​ชนิด​ที่​ไม่เหมือนกัน​แล้ว​ กระบวนท่า​หมัด​สิบ​เจ็ด​อย่าง​ล้วน​เรียนรู้​มาจาก​คนอื่น​ ชนะ​ที่​กระบวนท่า​หมัด​แปลกประหลาด​ แพ้​ตรง​ที่​ปณิธาน​หมัด​บางเบา​ ปะปนกัน​ซับซ้อน​แล้ว​น้ำหนัก​ยัง​ไม่มาก​พอ​ เพราะ​ต่าง​ก็​ไม่ใช่วิชา​หมัด​แท้จริง​ของ​โจว​ไห่​จิ้งเอง​ นาง​ไม่แบ่ง​สูงต่ำ​ใน​เรื่อง​ของ​พละกำลัง​กับ​อวี๋หง​ บวก​กับ​ที่​ฝ่ามือ​มีด​ท่า​เมื่อครู่นี้​ เกิน​ครึ่ง​ก็​เพื่อ​เพิ่ม​ความทรงจำ​ใน​ใจของ​อวี๋หง​ให้​ลึกล้ำ​กว่า​เดิม​ว่า​ ‘โจว​ไห่​จิ้งคือ​ผู้ฝึก​ยุทธ​หญิง​คน​หนึ่ง​’ ข้า​เดา​ว่า​รอ​ให้​อวี๋หง​ต้อง​เปลี่ยน​ลมปราณ​ครั้งแรก​ก็​คือ​ช่วงเวลา​ที่​โจว​ไห่​จิ้งจะแบ่ง​แพ้ชนะ​กับ​เขา​ หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ก็​จะเป็น​นาง​ที่​ใช้อาการ​บาดเจ็บสาหัส​มาแลก​ชีวิต​กับ​อวี๋หง”​

หนิง​เหยา​ถามอย่าง​สงสัย​ “สอง​ฝ่าย​มีความแค้น​ต่อกัน​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​คิด​ก่อน​ตอบ​ว่า​ “บอก​ได้​ยาก​ เพราะ​ก็​มีพวก​คน​คลั่งไคล้​วร​ยุทธ​บางส่วน​ที่​แค่​ชอบ​ใช้หมัด​มาแบ่ง​เป็น​ตาย​อย่าง​เดียว​ เพื่อ​จะได้​เอา​สิ่งนี้​มาขัดเกลา​วิถี​วร​ยุทธ​”

ยกตัวอย่างเช่น​พ่อครัว​เฒ่าบน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​บ้าน​ตน​

โจว​ไห่​จิ้งกำ​ไข่มุก​หลาย​เม็ด​ไว้​ใน​มือ​ ออกแรง​บีบ​เบา​ๆ จน​เกิด​เสียงดัง​เปรี๊ยะ​ ก่อนหน้านี้​ถูก​พายุ​หมัด​ของ​อวี๋หง​ซัด​มาโดน​ เชือก​ของ​กำไล​ข้อมือ​จึงขาด​ ไข่มุก​ส่วนใหญ่​ล้วน​หล่น​กระจาย​ลงพื้น​

นาง​คลี่​ยิ้ม​หวาน​ “เอว​ของ​ผู้อาวุโส​อวี๋​ช่างแข็งแกร่ง​ทรงพลัง​ยิ่งนัก​ มิน่าเล่า​ถึงแตก​กิ่งก้านสาขา​มีลูกหลาน​มากมาย​ ครั้งนี้​ระหว่าง​ที่​เดินทาง​มาเมืองหลวง​ ได้ยิน​ว่า​ราชวงศ์​จูอิ๋ง​เก่า​แห่ง​นั้น​ ผู้ฝึก​ยุทธ​แซ่อวี๋​ของ​พวก​เจ้ามีอำนาจ​บารมี​แผ่​ไป​แปด​ทิศ​ หมัด​สยบ​ครึ่ง​แคว้น​”

พวก​ผู้ชม​พา​กัน​หัวเราะ​ครืน​

อวี๋หง​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ “ผู้ฝึก​ยุทธ​ต่อสู้​กัน​ พูดจา​ไร้สาระ​ให้​น้อย​หน่อย​”

โจว​ไห่​จิ้งยก​มือขึ้น​ คลาย​หมัด​ออก​ ไข่มุก​หลาย​เม็ด​ถูก​บีบ​จน​กลายเป็น​ผุยผง​ที่​ปลิว​กระจาย​ตาม​ลม​ไป​สี่ทิศ​

นาง​ชูหมัด​ขึ้น​สูง ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “สามารถ​มอง​เป็น​ยา​ชนิด​หนึ่ง​ได้​ ช่วย​ให้​อายุขัย​ยืนยาว​ สตรี​ก็​สามารถ​นำ​ไป​ทำ​เป็นผง​ประทิน​โฉมทา​หน้า​ได้​”

คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​เหล่า​เหนียง​ ทาง​ร้าน​ต้อง​เพิ่ม​เงิน​ให้​ด้วย​

อวี๋หง​เริ่ม​แสดง​โทสะ​ออกมา​ทาง​สีหน้า​บ้าง​แล้ว​ “ผู้ฝึก​ยุทธ​ประลอง​ฝีมือ​กัน​ไม่ใช่เด็ก​เล่น​สนุก​ โจว​ไห่​จิ้ง การเรียน​วร​ยุทธ​ของ​เจ้าฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ราบรื่น​เกินไป​ เป็นเหตุให้​ไม่เคารพ​วิถี​วร​ยุทธ​ถึงเพียงนี้​ วันนี้​ข้า​ผู้อาวุโส​จะสอน​เจ้าว่า​ควรจะเป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​อย่างไร​!”

โจว​ไห่​จิ้งปัด​มือ​ “อย่า​สอน​ข้า​ว่า​ควร​เป็น​สตรี​อย่างไร​ก็​พอ​”

เสียง​ผิวปาก​ดัง​ขึ้น​ลง​เป็น​ระลอก​

อวี๋หง​หัวเราะ​หยัน​ “ปากคอ​เราะร้าย​ ยัง​จะเป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​อะไร​อีก​?! ต่อจากนี้​ข้า​ผู้อาวุโส​จะไม่เกรงใจ​เจ้าแล้ว​ หาก​ไม่ระวัง​ต่อย​ให้​ขอบเขต​ยอดเขา​ของ​เจ้าหาย​ไป​ก็​อย่า​มาโทษ​ฟ้าตำหนิ​คน​ เป็น​เจ้าที่​รนหาที่​เอง​”

หนิง​เหยา​หัวเราะ​ งอ​นิ้ว​เขก​ลง​ไป​บน​หน้าผาก​ของ​คน​บางคน​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​อย่าง​จนใจ​ “ข้า​ไม่ใช่หม่า​ขู่​เสวียน​สักหน่อย​ ต่อย​ตี​กับ​คนอื่น​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ยาม​ที่​ต้อง​ถามหมัด​ก็​มีน้อย​นัก​ที่จะ​พูดคุย​กับ​ฝ่าย​ศัตรู​”

โจว​ไห่​จิ้งแสร้ง​ทำท่า​ตกใจ​ขวัญ​ผวา​ ยกมือ​ตบ​หัวใจ​จน​เกิด​แรง​กระเพื่อม​เบา​ๆ

บน​หลังคาเรือน​อีก​หลัง​หนึ่ง​ จ้าวต​วน​หมิง​พลัน​มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​หนึ่ง​ เด็กหนุ่ม​ตกใจ​อย่าง​หนัก​ กระตุก​ชาย​แขน​เสื้อ​ของ​เฉาเกิง​ซิน​ ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ว่า​ “ผี​ขี้เหล้า​เฉา ทั้ง​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​เหนียง​เนียง​ก็​มาด้วย​ อวี๋หง​กับ​พี่​หญิง​โจว​ช่างหน้าใหญ่​นัก​ แค่นี้​ก็​พอ​จะสร้าง​ความรุ่งโรจน์​เกียรติยศ​ให้​กับ​วงศ์ตระกูล​ได้​แล้ว​ การเรียน​หมัด​ดีจริง​ดัง​คาด​ ผู้ฝึก​ลมปราณ​อย่าง​พวกเรา​ต่อสู้​กัน​ ไหน​เลย​จะทำให้​ฮ่องเต้​หันมา​มอง​ได้​”

เฉาเกิง​ซิน​ไม่แม้แต่​จะมอง​ไป​ยัง​ตำแหน่ง​ที่​สายตา​ของ​เด็กหนุ่ม​มอง​ไป​ เพียงแค่​จ้องมอง​การ​ถามหมัด​อัน​ตระการตา​ที่อยู่​ใน​สถาน​ประกอบ​พิธีกรรม​เปลือกหอย​ตา​ไม่กะพริบ​ ก่อนหน้านี้​ตอนที่​พี่​หญิง​โจว​ยืน​นิ่ง​ไม่ขยับ​ ขา​ก็​ดู​ยาว​มาก​แล้ว​ ตอนที่​ถามหมัด​กับ​คนอื่น​ ท่วงท่า​องอาจ​ผึ่งผาย​ ฟาด​ขา​เตะ​ที​หนึ่ง​ เฉาเกิง​ซิน​ก็​นึก​อยาก​จะผลัก​เจ้าเฒ่าอวี๋​ออก​ไป​ให้​ไกล​ ให้​ตน​ไป​รับ​ลูก​เตะ​นั้น​ของ​นาง​แทน​ เขา​เอ่ย​เตือน​เด็กหนุ่ม​ว่า​ “ควบคุม​ดวงตา​ให้​ดี​ อะไร​ที่​ไม่ควร​มอง​ สามารถ​อดทน​ไว้​ไม่หันไป​มอง​ได้​ก็​คือ​การฝึกฝน​จิตใจ​”

จ้าวต​วน​หมิง​ถอน​สายตา​กลับมา​ หัวเราะ​อย่าง​ฉุนๆ​ ว่า​ “เจ้ามีความสามารถ​ก็​ควบคุม​ปาก​ของ​ตัวเอง​ให้​ดี​สิ อย่า​ดื่มเหล้า​”

เฉาเกิง​ซิน​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “ก็​ข้า​ต้อง​ใช้เหล้า​อุด​ปาก​นี่​นา​ ดื่มเหล้า​ทำให้​ตาปรือ​พร่ามัว​ มอง​บุปผา​สาวงาม​ใน​ม่าน​หมอก​จะยิ่ง​งดงาม​มากกว่า​เดิม​”

หญิง​ออกเรือน​แล้ว​ท่าทาง​สุภาพอ่อนโยน​ โฉมหน้า​อ่อนเยาว์​ ข้าง​กาย​มีแม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ติด​ตามมา​ด้วย​ คน​ทั้ง​สามเพิ่งจะ​มาถึงก็​นั่งลง​ตรง​ตำแหน่ง​ติด​หน้าต่าง​ของ​เหลา​สุรา​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​ด้านนอก​ลาน​ประลอง​ยุทธ​พอดี​ บน​โต๊ะ​วาง​ผลไม้​และ​ของ​ทาน​เล่น​เอาไว้​เรียบร้อย​ หลาย​โต๊ะ​ที่อยู่​ใกล้เคียง​ย่อม​ต้อง​เป็น​ผู้​ถวายงาน​เชื้อพระวงศ์​ต้า​หลี​ที่​ร่าย​เวท​อำ​พรางตา​เอาไว้​ สามคน​เจ้าของ​โต๊ะ​ก็​คือ​ฮ่องเต้​ซ่งเห​อ​ ไทเฮา​อวี๋เหมี่ยน​ อวี๋อวี๋​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​การทหาร​สาย​แผนภูมิ​ดิน​ เพียงแต่ว่า​ซ่งซวี่​ที่​เป็น​องค์​ชาย​กลับ​ไม่ได้​ปรากฏตัว​

เหลา​สุรา​ไม่ได้​ไล่​คน​ที่มา​จับจอง​โต๊ะ​อยู่​ก่อน​แล้ว​ออก​ไป​

อวี๋อวี๋​เด็กสาว​อายุ​น้อย​ ลำดับ​อาวุโส​ของ​นางใน​ตระกูล​สกุล​อวี๋​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​ไม่ต่ำ​ ยัง​สูงกว่า​อวี๋เหมี่ยน​หนึ่ง​รุ่น​ ดังนั้น​หาก​ฮองเฮา​เหนียง​เนียง​กลับบ้าน​ไป​เยี่ยม​ญาติ​ เจอ​กับ​เด็กสาว​ก็​ยัง​ต้อง​เรียก​นาง​คำ​หนึ่ง​ว่า​ท่าน​น้า​เล็ก​ด้วยซ้ำ​ และ​ใน​บรรดา​แคว้น​มากมาย​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​เว้น​จาก​ต้า​หลี​ ตามกฎหมาย​ของ​ราชวงศ์​ ฮองเฮา​แทบ​ไม่อาจ​กลับบ้าน​ไป​เยี่ยม​ญาติ​ได้​ เพียงแต่ว่า​สกุล​ซ่งต้า​หลี​มักจะ​เปิดกว้าง​ใน​เรื่อง​ทำนอง​นี้​ ไม่ว่า​จะเป็น​ปี​นั้น​ที่​หนัน​จาน​กลับ​ไป​ยัง​เข​ตอ​วี้​จาง หรือ​จะเป็น​อวี๋เหมี่ยน​ที่​ออกจาก​วังหลวง​ไป​ยัง​ตรอก​อี้​ฉือ​สอง​ครั้ง​ ฝ่าย​กรม​พิธีการ​ก็​ล้วน​ไม่คัดค้าน​

อวี๋อวี๋​กำลัง​แอบ​ดื่มเหล้า​ต่อหน้า​ฮ่องเต้​ แอบ​ดื่ม​ไป​กา​หนึ่ง​แล้วก็​ดื่ม​เพิ่ม​อีก​กา​ ดื่มเหล้า​หมัก​ตำหนัก​ฉางชุน​ที่​รส​เหล้า​จืดจาง​แต่กลับ​เหนือกว่า​ตรง​รส​ที่​ติดค้าง​อยู่​นาน​หมด​แล้ว​ เด็กสาว​ก็​เริ่ม​จับจ้อง​ใบชา​ตระกูล​เซียน​หลาย​กระปุก​ที่อยู่​บน​โต๊ะ​ด้าน​ข้าง​ คน​ที่มา​รับหน้าที่​ไม่อาจ​ดื่มเหล้า​ได้​ ทว่า​กลับ​ได้​ดื่ม​ชาชั้นดี​อันดับ​หนึ่ง​

หนิง​เหยา​กล่าว​ “เจ้าเดา​ผิด​แล้ว​ ดูเหมือนว่า​โจว​ไห่​จิ้งจะไม่ได้​อยาก​แบ่ง​เป็น​ตาย​กับ​อวี๋หง​ ยาม​ลงมือ​จึงกะ​น้ำหนัก​ได้​ดีมาก​ หรือ​นาง​เอง​ก็​รู้​ชัดเจน​อยู่แล้ว​ว่า​ตัวเอง​จะต้อง​กลายเป็น​ผู้ฝึก​ตน​คน​สุดท้าย​ของ​สาย​แผนภูมิ​ดิน​?”

การ​ถามหมัด​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ครั้งนี้​ถึงกับ​ใช้เวลา​ต่อสู้​กัน​นาน​ถึงสอง​ก้านธูป​ เกือบ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ สุดท้าย​โจว​ไห่​จิ้งแพ้​ไป​หนึ่ง​กระบวน​หมัด​ สอง​ฝ่าย​ที่​ถามหมัด​กัน​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​

อวี๋หง​กุม​หมัด​คารวะ​แด่​สี่ทิศ​

โจว​ไห่​จิ้งยื่นมือ​มากุม​ซีก​แก้ม​ข้าง​หนึ่ง​ ถ่มเลือด​ลงพื้น​ ชวน​ให้​คน​ทะนุถนอม​เอ็นดู​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!