กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 844

สรุปบท บทที่ 844.4 ร่วมกันโค่นเปลี่ยวร้าง: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอน บทที่ 844.4 ร่วมกันโค่นเปลี่ยวร้าง จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 844.4 ร่วมกันโค่นเปลี่ยวร้าง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ซูหลา​งมั่นใจ​ได้​นาน​แล้ว​ว่า​ในอนาคต​ยาม​ที่​ตน​สวม​ชุด​แพร​กลับคืน​บ้านเกิด​จะต้อง​ถือโอกาส​ผ่าน​ทาง​แวะ​ไป​เยี่ยมเยือน​ซ่งอวี่​เซาแห่ง​แคว้น​ซูสุ่ย​และ​ตระกูล​หลิว​แห่ง​แคว้น​ไฉ่อี​เสียหน่อย​ จากนั้น​ก็​ง่ายดาย​มาก​ ไม่ต้อง​ไปมาหาสู่​กัน​บ่อยๆ​ เพราะ​แบบ​นั้น​จะดู​เป็น​วิธีการ​ของ​คน​ต่ำช้า​เกินไป​ แค่​ต้อง​คอย​ดูแล​สอง​ฝ่าย​อย่าง​ลับ​ๆ บ้าง​ก็​พอ​

เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​ไป​ถึงปากตรอก​พร้อมกับ​ซูหลา​งก็​เป็น​ฝ่าย​หยุด​เดิน​ก่อน​ เอ่ย​ว่า​ “จากลา​กัน​ตรงนี้​”

ซูหลา​งกุม​หมัด​เอ่ย​อำลา​ แต่​จู่ๆ ก็​อดไม่ไหว​ถามว่า​ “ไม่ทราบ​ว่า​ตอนนี้​เจ้าสำนัก​เฉิน​อายุ​เท่าไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ไม่ถึงหนึ่งร้อย​”

ซูหลา​งเอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “เจ้าสำนัก​เฉิน​ช่างเป็น​ผู้​มีพรสวรรค์​บน​วิถี​กระบี่​จริงๆ​ ใน​สายตา​ของ​ผู้เยาว์​แล้ว​ ไม่ด้อย​ไป​กว่า​เซียน​กระบี่​ใหญ่​เว่ย​แห่ง​ศาล​ลม​หิมะ​เลย​”

เฉิน​ผิง​อัน​เพียง​คลี่​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​อะไร​ มิน่าเล่า​เซียน​กระบี่​ไผ่​เขียว​ท่าน​นี้​ถึงอยู่​กับ​โจว​ไห่​จิ้งได้​ คน​หนึ่ง​ไม่ดู​บุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​ อีก​คน​หนึ่ง​ไม่อ่าน​รายงาน​ภูเขา​สายน้ำ​

ทาง​ฝั่งของ​รถม้า​ โจว​ไห่​จิ้งเอ่ย​สัพยอก​ผ่าน​ผ้าม่าน​ “เก๋​อ​เต้า​ลู่​ พวก​เจ้าคงจะ​ไม่ใช่ผู้​ถวายงาน​ใน​วังหลวง​กระมัง​ หรือว่า​เป็น​ฮ่องเต้​ที่​อยาก​พบ​ข้าน้อย​?”

ภิกษุ​น้อย​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​เก๋​อห​ลิ่ง​สอง​เท้า​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ รีบ​ร้อง​ภาษาพระธรรม​คำ​หนึ่ง​ทันที​

กลิ่นหอม​ของ​เครื่อง​ประทิน​โฉมใน​ห้อง​โดยสาร​รถม้า​ลอดผ่าน​ม่าน​ไม้ไผ่​ม่วง​ออกมา​จางๆ รม​จน​ภิกษุ​น้อย​เกือบจะ​เวียนหัว​ตาลาย​แล้ว​

เก๋​อห​ลิ่ง​ขับ​รถม้า​อย่าง​คล่องแคล่ว​ คน​รุ่น​บิดา​เป็น​ขุนนาง​หลัว​เจี้ยง​ ตอน​เด็ก​ก็​เรียน​ขี่ม้า​ยิง​ธนู​มาอย่าง​คุ้นเคย​ เขา​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ปรมาจารย์​โจว​พูด​เรื่องตลก​แล้ว​”

เณร​น้อย​รู้สึก​อิจฉา​ยิ่งนัก​ “ปรมาจารย์​โจว​เพิ่ง​เคย​ได้​พบ​เจอ​กับ​อาจารย์​เฉิน​วันนี้​ก็ได้​รับคำ​เรียกขาน​อย่าง​เคารพ​ว่า​อาจารย์​มาจาก​อาจารย์​เฉิน​แล้ว​ ช่างทำให้​อาตมา​อิจฉา​ยิ่งนัก​”

โจว​ไห่​จิ้งพูด​หยอก​ “เป็น​ภิกษุ​รูป​หนึ่ง​ก็​สนใจ​ชื่อเสียง​จอมปลอม​พวก​นี้​ด้วย​หรือ​?”

เณร​น้อย​รีบ​ส่ายหน้า​อย่าง​แรง​ทันที​ “รับคำ​ว่า​ ‘ภิกษุ​’ นี้​ไม่ไหว​หรอก​ อาตมา​ยัง​ไม่เคย​เข้า​พิธี​อุปสมบท​อย่าง​เป็นทางการ​เลย​”

หนิง​เหยา​กลับ​มาถึงโรงเตี๊ยม​ก็​เจอ​กับ​คน​สอง​คน​ที่​ไม่คาดคิด​ จึงยิ้ม​ถามว่า​ “พวก​เจ้ามาได้​อย่างไร​?”

เผย​เฉียน​ ใน​มือถือ​ไม้เท้า​เดินป่า​ เฉาฉิงหล่า​ง สวม​ชุด​ลัทธิ​ขงจื๊อ​

เผย​เฉียน​ยิ้ม​ตอบ​ “ก่อนหน้านี้​ได้รับ​กระบี่​บิน​ส่งข่าว​จาก​อาจารย์​พ่อ​ บอ​กว่า​จะอยู่​ที่นี่​ประมาณ​ครึ่ง​เดือน​ ศิษย์​พี่​เล็ก​จึงให้​เฉาฉิงหล่า​งมาร่วม​งานแต่ง​ที่นี่​ บอ​กว่า​อาจารย์​พ่อ​ไม่สะดวก​จะออกหน้า​ สถานะ​ของ​เฉาฉิงหล่า​งก​ลับ​ค่อนข้างจะ​เหมาะสม​ ข้า​ก็​เลย​ตาม​มาหา​อาจารย์​พ่อ​กับ​อาจารย์​แม่ที่นี่​”

เฉาฉิงหล่า​งประสานมือ​คารวะ​ “ศิษย์​เฉาฉิงหล่า​งคารวะ​อาจารย์​แม่”

เขา​แอบ​ผ่อน​ลมหายใจ​โล่งอก​ ในที่สุด​เผย​เฉียน​ก็​ไม่ได้​ลง​ไป​นั่งคุกเข่า​โขก​หัว​ปัง​ๆๆ โดย​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​อีกแล้ว​

ยืดตัว​ขึ้น​ตรง​ เฉาฉิงหล่า​งก็​อธิบาย​ว่า​ “เผย​เฉียน​เข้า​เมืองหลวง​มาพร้อม​ข้า​ครั้งนี้​ เพราะ​ศิษย์​พี่​เล็ก​ต้อง​การป้องกัน​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​ที่​ไม่จำเป็น​ นอกจากนี้​ข้า​เอง​ก็​ต้อง​ลา​ออกจาก​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ที่​สำนัก​บัณฑิต​ฮั่น​หลิน​อย่าง​เป็นทางการ​ด้วย​”

ออกจาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ เดิน​ทางลง​ใต้​ไป​เลือก​สำนัก​เบื้องล่าง​ที่​ใบ​ถงทวีป​

เดิมที​ก็​เป็น​ความต้องการ​ของ​ศิษย์​พี่​เล็ก​ เพื่อ​รักษา​สถานะ​ของ​เปีย​น​ซิว​ (ชื่อ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ ทำหน้าที่​เรียบเรียง​ตำรา​ต่างๆ​ เช่น​ตำรา​ประวัติศาสตร์​ของ​แคว้น​) แห่ง​สำนัก​บัณฑิต​ฮั่น​หลิน​เอาไว้​ บอ​กว่า​ศิษย์​พี่​เล็ก​ย่อม​ต้อง​มีวิธี​

แต่​เฉาฉิงหล่า​งไม่ตอบ​ตกลง​ รับ​เงินเดือน​มาโดย​ไม่ทำงาน​ ไม่ไป​ขานชื่อ​ใน​ที่ว่าการ​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ถูก​หลัก​มารยาท​ หาก​อยาก​ให้​จิตใจ​ของ​ตัวเอง​เที่ยงตรง​ ก็​ต้อง​ซื่อสัตย์​กับ​ตัวเอง​ให้​ได้เสีย​ก่อน​ ใน​ฐานะ​บัณฑิต​สาย​เห​วิน​เซิ่ง จำเป็นต้อง​ใช้คำ​ว่า​จริง​ใจมาเป็น​บรรทัดฐาน​ใน​การ​ทำ​สิ่งต่างๆ​

หนิง​เหยา​พยักหน้า​ “อาจารย์​พ่อ​ของ​พวก​เจ้าไป​พบ​สหาย​คน​หนึ่ง​ใน​ยุทธ​ภพ​ อีก​พัก​หนึ่ง​ถึงจะกลับมา​”

นาง​ขอยืม​มานั่ง​ยาว​สอง​ตัว​มาจาก​เถ้าแก่​ผู้เฒ่า​ พอ​นั่งลง​แล้ว​ หนิง​เหยา​ก็​ถามทันที​ว่า​ “การ​ถามหมัด​ที่​ศาล​เทพ​อัคคี​ ทำไม​พวก​เจ้าถึงไม่ไปดู​สักหน่อย​ล่ะ​?”

เผย​เฉียน​กล่าว​อย่าง​เขินอาย​ “มารอ​อาจารย์​พ่อ​ที่นี่​สำคัญ​กว่า​”

เฉาฉิงหล่า​งที่นั่ง​อยู่​บน​ม้านั่งยาว​อีก​ตัว​ไม่ได้​พูด​อะไร​

บน​ถนน​มีเด็กสาว​คน​หนึ่ง​เดิน​กระโดดโลดเต้น​มา พอ​ขยับ​เข้าใกล้​โรงเตี๊ยม​ท่าทาง​ก็​สำรวม​ขึ้น​หลาย​ส่วน​ทันที​

เด็กสาว​ไม่เกรงใจ​อาจารย์​หนิง​ นาง​นั่ง​แปะ​ลง​ข้าง​กาย​หนิง​เหยา​ ถามอย่าง​สงสัย​ว่า​ “อาจารย์​หนิง​ ไม่ได้​ไปดู​คน​ตี​กันที่​ศาล​เทพ​อัคคี​หรอก​หรือ​? สนุก​มาก​เลย​ล่ะ​ เมื่อ​เทียบ​กับ​พวก​เด็ก​ๆ ของ​ตรอก​อี้​ฉือ​กับ​ถนน​ฉือเอ๋อร์​ขว้าง​อิฐ​ ข่วน​หน้า​กัน​แล้วก็​น่าดู​กว่า​มาก​จริงๆ​”

หนิง​เหยา​ยิ้ม​กล่าว​ “ไปมา​แล้ว​ แต่​คน​เยอะ​เกินไป​ บวก​กับ​ที่​ไป​สาย​ก็​เลย​ไม่ได้​ที่นั่ง​ดี​ๆ มองเห็น​ได้​ไม่ชัดเจน​นัก​”

เด็กสาว​เอ่ย​อย่าง​ละอายใจ​ “ต้องโทษ​ข้า​ ต้องโทษ​ข้า​ ออกจาก​บ้าน​ไป​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ กังวล​ว่า​จะถูก​ท่าน​พ่อ​ข้า​ขัดขวาง​ก็​เลย​ไม่ได้​เรียก​อาจารย์​หนิง​ไป​ด้วย​ ข้า​กับ​สหาย​ใน​ยุทธ​ภพ​หลาย​คน​ได้​ที่นั่ง​ดี​ๆ แถบ​ใหญ่​เลย​ล่ะ​!”

นาง​นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​หนิง​เหยา​ พูดเจื้อยแจ้ว​ไม่หยุด​

“จอม​ยุทธ์​หญิง​โจว​ผู้​นั้น​สวย​มาก​เลย​!”

“เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​อวี๋​ก็​สมคำเล่าลือ​จริงๆ​ เรียก​ได้​ว่า​เป็นยอด​ฝีมือ​ล้ำ​โลก​ที่​สามารถ​มอบ​ตำรา​หรือไม่​ก็​ถ่ายทอด​กำลังภายใน​หกสิบ​ปี​ให้​คนอื่น​ได้​ง่ายๆ​ อย่าง​ที่​กล่าวถึง​ใน​ตำรา​ อาจารย์​หนิง​ก่อนหน้านี้​ท่าน​คง​เห็น​แล้ว​กระมัง​ เขา​บินลง​มาจาก​ฟ้าตลอดทาง​ แล้วก็​มายืน​อยู่​บน​เวที​ประลอง​ บารมี​อำนาจ​ของ​ยอด​ฝีมือ​เช่นนั้น​ มาด​ของ​ปรมาจารย์​เช่นนั้น​ สุดยอด​ไป​เลย​!”

“ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​เผย​เฉียน​ที่​ลำดับ​อยู่​สูงกว่า​พวกเขา​ จอม​ยุทธ​หญิง​ใหญ่​เผย​จะมีมาด​ห้าวหาญ​เพียงใด​ เพียงแค่​นาง​ถลึงตา​คง​ต้อง​ทำให้​คน​ที่​เป็น​ศัตรู​กับ​นาง​อกสั่น​ขวัญ​ผวา​ ตกใจ​จน​บาดเจ็บ​ภายใน​ได้​เลย​กระมัง​!”

“ข้า​ได้ยิน​มาว่า​จอม​ยุทธ​หญิง​เผย​อายุ​ไม่มาก​ เป็น​ผู้​มีพรสวรรค์​ด้าน​การ​ฝึก​ยุทธ​ที่​ร้อย​ปี​ก็​ยาก​จะพานพบ​ ฝึกปรือ​ฝีมือ​หมัด​เท้า​จน​เข้าขั้น​นาน​แล้ว​ ทั่ว​ร่าง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​เที่ยงธรรม​ อาจารย์​หนิง​ ท่าน​เอง​ก็​เป็น​จอม​ยุทธ​หญิง​ที่​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​ เคย​โชคดี​ได้​เห็น​จอม​ยุทธ​หญิง​เผย​ไกลๆ​ สักครั้ง​บ้าง​หรือไม่​?”

หนิง​เหยา​กลั้น​ขำ​ “เจ้าคิด​ว่า​อย่างไร​ล่ะ​?”

เด็กสาว​คิด​แล้วก็​เอ่ย​ปลอบใจ​นาง​ว่า​ “ไม่เป็นไร​ๆ ข้า​เอง​ก็​ไม่เคย​เห็น​เหมือนกัน​”

เผย​เฉียน​ที่นั่ง​อยู่​อีก​ข้าง​ของ​หนิง​เหยา​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​รับฟัง​ด้วย​ความ​ปวดกบาล​

โชคดี​ที่​อาจารย์​พ่อ​ไม่อยู่​

แล้วก็​โชคดี​ที่​หมี่​ลี่​น้อย​ซึ่งควบ​หน้าที่​คน​คาบข่าว​และ​ลำโพง​กระจาย​ข่าว​ไม่ได้​ตามมา​ที่​เมืองหลวง​ด้วย​ ไม่อย่างนั้น​กลับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ไป​จะไม่ถูก​พวก​พ่อครัว​เฒ่า เฉินห​ลิง​จวิน​หัวเราะเยาะ​ตาย​เลย​หรือ​

เฉาฉิงหล่า​งนั่ง​นิ่ง​อยู่​บน​ม้านั่งยาว​อีก​ตัว​หนึ่ง​ตลอดเวลา​ สอง​มือ​กำ​เป็น​หมัด​วาง​บน​หัวเข่า​เบา​ๆ สายตา​มอง​ตรง​ไป​เบื้องหน้า​

เขา​คลี่​ยิ้ม​อบอุ่น​ วิญญูชน​ผู้​อ่อนน้อม​ สุขุม​หนักแน่น​ ก็​หนี​ไม่พ้น​เช่นนี้​เอง​

หนิง​เหยา​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​กับ​เผย​เฉียน​ “ก่อนหน้านี้​อาจารย์​พ่อ​ของ​เจ้าคิด​อยาก​จะรับ​แม่นาง​หลิว​ไว้​เป็น​ลูกศิษย์​ แม่นาง​หลิว​กลับ​ไม่ยอม​ตกลง​”

เผย​เฉียน​โน้มตัว​ไป​ข้างหน้า​ ยิ้ม​บาง​ๆ ให้​กับ​เด็กสาว​คน​นั้น​

เฉาฉิงหล่า​งไร้​คำพูด​ตอบโต้​

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่นมือ​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​ตบ​ไหล่​เฉาฉิงหล่า​ง เอ่ย​ว่า​ “ตอนที่​ไม่ได้มา​เมืองหลวง​ยัง​ไม่รู้สึก​อะไร​ ผล​คือ​พอ​มาถึงที่นี่​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ได้​ไป​เยือน​ที่ว่าการ​ตรง​ตรอก​หนันซ​วิน​ ถึงได้​ค้นพบ​ว่า​เจ้าไม่ได้​สอบ​ติด​จ้วง​หยวน​ ไม่ได้​เป็น​ต้า​ขุย​ (อีก​ชื่อ​เรียก​ของ​จ้วง​หยวน​) ของ​ใต้​หล้า​ อาจารย์​ยัง​รู้สึก​ผิดหวัง​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​”

เจ้าเด็ก​หลิน​จวิน​ปี้​ผู้​นั้น​ ทุกวันนี้​ได้​เป็น​ราชครู​ของ​ราชวงศ์​เส้าหยวน​แล้ว​

ไม่เป็นไร​ ลูกศิษย์​ของ​ตน​ อีก​เดี๋ยว​ก็​จะได้​เป็น​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​หนึ่ง​ที่​อายุ​น้อยที่สุด​ใน​เก้า​ทวีป​ของ​ไพศาล​แล้ว​ จะไม่มีปรากฏ​อีก​ใน​ภายหลัง​หรือไม่​ยัง​บอก​ได้​ยาก​ แต่​ใน​อดีต​ต้อง​ไม่เคย​มีใคร​ทำ​ได้มา​ก่อน​แน่นอน​

ก่อนหน้านี้​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​พูดคุย​เรื่อง​นี้​กับ​อาจารย์​เป็นพิเศษ​ ต่าง​ก็​รู้สึก​ว่า​หาก​แหก​กฎ​ลงมือทำ​จะไม่ค่อย​เหมาะสม​ เพราะ​เฉาฉิงหล่า​งยังอยู่​ห่าง​จาก​การ​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​มาก​นัก​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ให้​สถานะ​ตัวแทน​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แก่​เขา​ไป​ชั่ว​คราวก่อน​ก็แล้วกัน​

เฉาฉิงหล่า​งยิ่ง​รู้สึก​จนใจ​มากกว่า​เดิม​ “ศิษย์​เอง​ก็​สอบ​ใหม่​อี​กรอบ​ไม่ได้เสีย​ด้วย​ อีก​ทั้ง​ลำดับ​ใน​การ​สอบ​ระดับ​เมืองหลวง​ยัง​พูด​ง่าย​ แต่​การ​สอบ​หน้า​พระที่นั่ง​กลับ​ไม่กล้า​พูดว่า​จะต้อง​ได้​เป็น​ต้า​ขุย​แน่นอน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ข้า​เจอ​กับ​สวิน​ชวี่​ผู้​นั้น​แล้ว​ สายตา​ใน​การ​คบหา​สหาย​ของ​พวก​เจ้าสอง​คน​ต่าง​ก็​ไม่เลว​”

เฉาฉิงหล่า​งเป็นกังวล​เล็กน้อย​ เพียงแต่​ไม่นาน​ก็​วางใจ​ได้​

กังวล​ว่า​สวิน​ชวี่​จะถูก​ม้วน​หอบ​เข้าไป​ใน​ความถูก​ผิด​ของ​วงการ​ขุนนาง​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ เพียงแต่ว่า​อาจารย์​ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ ยัง​ต้อง​มีอะไร​ให้​เป็นกังวล​อีก​หรือ​ ต่อให้​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่ดี​ก็​ยัง​เปลี่ยน​มาเป็นเรื่อง​ดี​ได้​

หนิง​เหยา​ใช้เสียง​ใน​ใจถาม “ยัง​ไม่เลิก​เป็นห่วง​ทาง​ฝั่งของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​อืม​รับ​หนึ่ง​ที​ สอง​มือ​สอด​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ เรือน​กาย​เปลี่ยน​มาเป็น​งอ​งุ้ม พูด​ด้วย​สีหน้า​จนใจ​ว่า​ “ยาก​จะวางใจ​ได้​จริงๆ​”

หนิง​เหยา​ถาม “ถ้าอย่างนั้น​พวกเรา​ไป​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​กัน​สัก​รอบ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ถามอย่าง​คลางแคลง​ “แล้ว​ทาง​เมืองหลวง​นี่​ล่ะ​?”

อันที่จริง​เขา​ไป​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​ช่วย​อะไร​ไม่ได้​ หาก​จะเข้าไป​ร่วมวง​ด้วย​จริงๆ​ ก็​มีแต่​จะช่วย​ให้​เสีย​เรื่อง​

ทว่า​ต่อให้​แค่​ได้​มอง​อยู่​ใกล้​ๆ สักครั้ง​ก็​ยัง​ดี​ ไม่ว่า​จะเป็น​ซาก​ปรัก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​หรือว่า​กุย​ซวี​สี่แห่ง​ที่​ศาล​บุ๋น​ตั้งชื่อ​ให้​ว่า​เทียน​มู่ ฉิงจี เสินเซียง​และ​รื่อ​จุ้ย​ หรือไม่​ก็​เป็น​ท่าเรือ​สามแห่ง​ที่​ใต้​หล้า​ไพศาล​สร้าง​ขึ้น​มาอย่าง​ปิ่ง​จู๋ โจ่ว​หม่า​และ​ตี้​ม่าย​ ไป​ที่ไหน​ก็ได้​ทั้งนั้น​

หนิง​เหยา​กล่าว​ “คิด​อะไร​มากมาย​ขนาด​นี้​ไป​ทำไม​? เจ้านัดหมาย​กับ​ฝัก​แคระ​ผู้​นั้น​ไว้​ภายใน​เวลา​สิบ​วัน​ อย่าง​มาก​ก็​ให้​เผย​เฉียน​นำ​ความ​ไป​บอก​ที่​วังหลวง​ บอ​กว่า​ตอนที่​เจ้าไม่อยู่​เมืองหลวง​ ก็​ไม่นับ​รวม​กับ​เวลา​สิบ​วันนั้น​ แค่นี้​ก็ได้​แล้ว​ ต่อให้​นาง​ไม่ตอบ​ตกลง​แล้ว​เกี่ยวกับ​เจ้ากะ​ผายลม​อะไร​ด้วย​”

ดวงตา​เฉิน​ผิง​อัน​เป็นประกาย​ วิธี​นี้​ใช้ได้​เลย​นี่​นา​

คิดไม่ถึง​ว่า​หนิง​เหยา​เพิ่งจะ​ลุกขึ้น​ยืน​ก็​ต้อง​นั่ง​กลับ​ลง​ไป​ใหม่​ “ช่างเถิด​ เจ้าเดิน​ทางได้​ช้าเกินไป​ ไม่แน่​ว่า​เจ้ายังอยู่​ครึ่งทาง​ รายงาน​ขุนเขา​สายน้ำ​ก็​มีผลลัพธ์​ออกมา​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​อึ้ง​ค้าง​ ลูบคลำ​ปลาย​คาง​ หรือว่า​ควร​รอ​ให้​อาจารย์​กลับมา​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ให้​อาจารย์​ไป​ขอร้อง​ห​ลี่​เซิ่ง? ตน​ไป​ขอร้อง​จะไม่เหมาะ​สัก​เท่าไร​ ควร​ให้​อาจารย์​ออกหน้า​จะดีกว่า​

ทันใดนั้น​หน้า​ประตู​โรงเตี๊ยม​ก็​มีเรือน​กาย​ของ​บัณฑิต​สอง​คน​ปรากฏตัว​ ล้วน​ข้าม​ทวีป​เดินทางไกล​มาจาก​ศาล​บุ๋น​ คน​หนึ่ง​อายุ​มาก​ คน​หนึ่ง​อยู่​ใน​วัยกลางคน​ ฝ่าย​หลัง​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “เดิน​ทางได้​ช้าเกิน​? นั่น​ก็​ไม่แน่​เสมอไป​ บอก​มาเถอะ​ อยาก​จะไป​ที่ไหน​”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!