กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 845

สรุปบท บทที่ 845.3 หวนคืนสู่กำแพงเมืองปราณกระบี่: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

อ่านสรุป บทที่ 845.3 หวนคืนสู่กำแพงเมืองปราณกระบี่ จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บทที่ บทที่ 845.3 หวนคืนสู่กำแพงเมืองปราณกระบี่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เผย​เฉียน​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ “เจ้าแค่​เลือก​เอาแต่​พอสมควร​ก็​พอแล้ว​นะ​”

เฉาฉิงหล่า​งไม่ได้​สนใจ​นาง​ เพียง​ไม่นาน​จาก​ที่​ใช้มือถือ​หนังสือ​ก็​เปลี่ยนเป็น​หอบ​หนังสือ​ไว้​ใน​อ้อม​อก​ ดู​จาก​ท่าทาง​แล้ว​คงจะ​เป็น​ประเภท​ที่ว่า​ยืม​ไป​แล้ว​จะไม่คืน​ทำนอง​นั้น​

เผย​เฉียน​จนใจ​กับ​เขา​ รู้สึก​ว่า​หาก​ยัง​เป็น​ตอนที่​ตน​ยัง​เด็ก​ ป่านนี้​คง​ยก​เท้า​ถีบ​อีก​ฝ่าย​ไป​แล้ว​

อยู่ดีๆ​ เฉาฉิงหล่า​งก็​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “เจ้ามีสมุด​อยู่​เล่ม​หนึ่ง​ที่​เอาไว้​บันทึก​จำนวน​ครั้ง​ที่​อาจารย์​เขก​มะเหงก​ใช่หรือไม่​?”

เผย​เฉียน​เอ่ย​อย่าง​เดือดดาล​ “เจ้ารู้​ได้​อย่างไร​?!”

เรื่อง​นี้​พี่​หญิง​หน่วน​ซู่และ​หมี่​ลี่​น้อย​ก็​ยัง​ไม่รู้​เลย​นะ​

นาง​เก็บรักษา​สมุด​เล่ม​หนึ่ง​ไว้​เป็นความลับ​อย่าง​ดี​จริงๆ​ เก็บ​ซ่อน​ไว้​ลึกล้ำ​ยิ่งกว่า​สมุดบัญชี​ทุก​เล่ม​เสีย​อีก​ ถูก​นาง​แอบ​ตั้งชื่อ​ให้​ว่า​ ‘รวม​มะเหงก​’ …

ทุกครั้งที่​อาจารย์​พ่อ​เขก​มะเหงก​ ที่ไหน​เวลา​ใด​ เหตุผล​อย่าง​เป็น​รูปธรรม​ ล้วน​มีบันทึก​ไว้​อย่าง​ละเอียด​

เฉาฉิงหล่า​งหันหน้า​มาพูด​ด้วย​สีหน้า​ตกใจ​ “มีจริงๆ​ หรือ​นี่​? ไม่ได้การ​ล่ะ​ ข้า​ต้อง​เอา​ไป​ฟ้อง​อาจารย์​แล้ว​”

แค่​เดา​ไป​ส่งเดช​จริงๆ​

เผย​เฉียน​หัวเราะ​ร่า​ สิบ​นิ้ว​สอด​ผสาน​กัน​ เจ้าหมอ​นี่​คิด​จะไป​ฟ้อง​ใช่ไหม​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​อย่า​มาโทษ​ว่า​ข้า​ไม่เห็นแก่​มิตรภาพ​ของ​คน​ร่วม​สำนัก​ก็แล้วกัน​

เฉาฉิงหล่า​งยิ้ม​กล่าว​ “ล้อเล่น​หรอก​น่า​ ใช่แล้ว​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​แท้จริง​แล้ว​ทุกวันนี้​อาจารย์​เป็นกังวล​อย่าง​มากว่า​การท่อง​ยุทธ​ภพ​ของ​เจ้าจะเหมือน​เขา​มากเกินไป​”

เผย​เฉียน​อึ้ง​ตะลึง​ ขมวดคิ้ว​พูด​ “ข้า​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​เลียนแบบ​อาจารย์​พ่อ​ แต่​ไม่ว่า​จะเลียนแบบ​อย่างไร​ก็​ทำได้​ไม่เหมือน​ อีก​อย่าง​ หาก​มีวันใด​ที่​เรียนรู้​ได้​เหมือน​แล้วก็​ยัง​เป็น​เส้นทาง​ที่​ข้า​เดิน​ด้วยตัวเอง​”

เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ เผย​เฉียน​ก็​พูด​คล้าย​พึมพำ​ว่า​ “อาจารย์​พ่อ​ไม่ต้อง​กังวล​กับ​เรื่อง​นี้​”

เฉาฉิงหล่า​งถาม “คำพูด​พวก​นี้​เจ้าเอา​ไป​พูด​กับ​อาจารย์​พ่อ​ของ​เจ้าเอง​เถอะ​”

เผย​เฉียน​นั่ง​อยู่​บน​ธรณีประตู​ หันหลัง​ให้​กับ​ตำรา​มากมาย​พวก​นั้น​ เอ่ย​อย่าง​อัดอั้น​ว่า​ “ข้า​ไม่กล้า​”

เฉาฉิงหล่า​งหันหน้า​เข้าหา​ชั้น​หนังสือ​ หันหลัง​ให้​ทาง​หน้า​ประตู​ พูด​พึมพำ​ว่า​ “มีอะไร​ให้​ไม่กล้า​กัน​ หาก​เจ้าเอาแต่​เงียบงัน​ไป​ตลอด​ อาจารย์​ก็​จะต้อง​เป็นห่วง​เจ้าไป​ตลอด​ มีเพียง​เจ้าพูด​ออกมา​ อาจารย์​ถึงจะวางใจ​ได้​อย่าง​แท้จริง​ เพราะ​จะรู้สึก​ว่า​เจ้าเติบใหญ่​จริงๆ​ แล้ว​”

เผย​เฉียน​เงียบ​ไป​นาน​

เฉาฉิงหล่า​งหา​หนังสือ​และ​คอย​หยิบ​เอา​มาอยู่​เป็นระยะ​ เขา​เอ่ย​ว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​ข้า​ก็​จะพูด​ความในใจ​กับ​เจ้าก็แล้วกัน​ เผย​เฉียน​ตอนที่​เป็น​เด็ก​ ข้า​ไม่มีทาง​ให้อภัย​ บางที​ภายหลัง​ก็​อาจจะ​ไม่ให้อภัย​ด้วย​เหมือนกัน​ ก่อนหน้านี้​ตอน​ที่อยู่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เพื่อให้​อาจารย์​และ​ศิษย์​พี่​เล็ก​สบายใจ​ ข้า​จึงโกหก​ แต่​ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​ใน​ตอนนี้​ ข้า​กลับ​รู้สึก​ว่า​ดีมาก​”

เผย​เฉียน​ที่​หันหลัง​ให้​เฉาฉิงหล่า​งพลัน​ตา​แดงก่ำ​

เพราะ​อันที่จริง​นาง​รู้ดี​ว่า​ ครั้งนั้น​เฉาฉิงหล่า​งไม่ได้​โกหก​ ที่​เขา​โกหก​จริงๆ​ คือ​คำพูด​ครั้งนี้​ใน​วันนี้​ต่างหาก​

เผย​เฉียน​นั่ง​อยู่​บน​ธรณีประตู​ ก้มหัว​ค้อม​เอว​ สอง​มือ​กอดเข่า​

เฉาฉิงหล่า​งหันหน้า​มาถาม “เผย​เฉียน​ ได้​หนังสือ​มาเยอะ​มาก​แล้ว​ เจ้าให้​ข้า​ยืม​วัตถุ​ฟางชุ่น​สัก​ชิ้น​สิ?”

เผย​เฉียน​พูด​เสียง​อู้อี้​ “ไสหัวไป​”

เฉาฉิงหล่า​งยิ้ม​กล่าว​ “คิดดอกเบี้ย​ก็ได้​”

เผย​เฉียน​ยังคง​ไม่มีการตอบโต้​ เฉาฉิงหล่า​งจึงได้​แต่​ถอดใจ​ไป​เอง​

ขยับ​ไป​ใกล้​หน้า​ประตู​ใหญ่​ของ​เรือน​ เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​หยุด​เดิน​ หันไป​มอง​ทาง​ฝั่งของ​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​

ปี​นั้น​ตน​เดิน​กางร่ม​ออก​ไป​จาก​ตรอก​ที่​ฝนตก​พร้อมกับ​เฉาฉิงหล่า​ง มีแม่นาง​น้อย​ถ่าน​ดำ​คน​หนึ่ง​ยืน​นิ่ง​อย่าง​เดียวดาย​อยู่​หน้า​ประตู​บ้าน​เนิ่นนาน​

ห​ลี่​เซิ่งกับ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าเดิน​ไป​ข้างหน้า​ต่อ​ กระทั่ง​ไป​ถึงหน้า​ประตู​ถึงได้​หยุด​เดิน​

เฉิน​ผิง​อัน​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ครั้ง​ หันหน้า​กลับมา​ เดิน​เร็ว​ๆ ไป​ทาง​หน้า​ประตู​

ศาล​บุ๋น​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​ห​ลี่​เซิ่งท่าน​นี้​ มีหลาย​ๆ ครั้ง​ที่​แท้จริง​แล้วก็​อยู่​ใน​สภาวะ​จนตรอก​เหมือนกับ​ศิษย์​พี่​ชุย​ฉาน​

ปี​นั้น​ชุย​ฉาน​ไป​เยือน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ เคย​พูดคุย​เปิดใจ​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ครั้งหนึ่ง​

ข้า​พูด​ไป​แล้ว​ จะมีคน​เชื่อ​หรือ​? ต่อให้​มีบางคน​เชื่อ​ ก็​จะต้อง​มีเรื่อง​ดี​ๆ เกิดขึ้น​แน่นอน​หรือ​?

หลังจาก​เฉิน​ผิง​อัน​ฟังแล้ว​ แน่นอน​ว่า​เขา​ย่อม​เข้าใจ​ใน​ความ​จนใจ​ของ​อีก​ฝ่าย​

ไม่แน่​ว่า​หาก​รู้​ความจริง​แต่​เนิ่นๆ​ กลับ​ยิ่ง​จะมีคน​มากกว่า​เดิม​ที่​เลือก​จะเป็น​ฝ่าย​เปิด​ประตู​ต้อน​รับแขก​ การบุก​รุดหน้า​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​กลับ​จะยิ่ง​ราบรื่น​มากขึ้น​ ทำลาย​ฝูเหยา​ทวีป​และ​ใบ​ถงทวีป​ให้​แหลก​เละ​อย่าง​สิ้นเชิง​ ใช้ความเร็ว​ที่​มาก​ที่สุด​ยึดครอง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ จากนั้น​ก็​เป็น​เกราะ​ทอง​ทวีป​ หลิว​เสีย​ทวีป​ ธวัล​ทวีป​ กองกำลัง​ไม่น้อย​ของ​สามทวีป​ไม่ทัน​ได้​สู้รบ​ก็​ต้อง​ยกธงขาว​ยอมแพ้​ สุดท้าย​ก็​มีแค่​อุตรกุรุทวีป​กับ​ทัก​ษินา​ตย​ทวีป​เท่านั้น​ที่จะ​ดึงดัน​ต่อต้าน​ไป​พร้อมกับ​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ ต่อมา​ก็​ถูก​ข้าศึก​ยึดครอง​ต่อ​อีกครั้ง​…

ใน​สายตา​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ โลก​มนุษย์​หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​ คน​สามคน​ที่​ลำบาก​ที่สุด​ก็​คือ​ห​ลี่​เซิ่งที่​ผสาน​มรรคา​กับ​กฎเกณฑ์​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ที่​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ผู้เฒ่า​ที่​พ่น​ควัน​โขมง​อยู่​ทุกเมื่อเชื่อวัน​ใน​เรือน​หลัง​ของ​ร้านขายยา​

คน​ทั้ง​สามเหมือน​วาด​อาณาเขต​เป็น​กรงขัง​ของ​ตัวเอง​ อีก​ทั้ง​ยัง​ยาวนาน​ถึงหนึ่ง​หมื่น​ปี​เต็ม​ด้วย​

ใน​สายตา​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ ไม่ว่า​ท่าน​ปู่​หยาง​จะมีแผนการ​ยาว​ไกล​ต่อ​ตน​หรือไม่​ ต่อให้​ภายหลัง​จะรู้​ตัวตน​ของ​ผู้เฒ่า​ แต่​ใน​สายตา​ของ​เขา​ ท่าน​ปู่​หยาง​กลับเป็น​มนุษย์​มาโดยตลอด​ ไม่ใช่ชิงถงเทียน​จวิน​ที่​ดูแล​หอ​บิน​ทะยาน​แห่ง​หนึ่ง​อะไร​

ห​ลี่​เซิ่งกล่าว​ “บอก​หนิง​เหยา​ด้วยว่า​นาง​ยัง​ต้อง​ไป​ที่​ศาล​บุ๋น​รอบ​หนึ่ง​”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ตกลง​

ไม่ใช่ว่า​ห​ลี่​เซิ่งและ​ศาล​บุ๋น​วางมาด​ แต่​นี่​เป็นการ​ยอมรับ​ที่​ศาล​บุ๋น​มีต่อ​สถานะ​ของ​หนิง​เหยา​

เฉิน​ผิง​อัน​ประสานมือ​ก้มตัว​คารวะ​ เนิ่นนาน​ก็​ยัง​ไม่ยืดตัว​ขึ้น​มา

ซิ่ว​ไฉเฒ่าตบ​ไหล่​ของ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​เบา​ๆ เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​ยืดตัว​ขึ้น​

มอง​ดวงตา​ที่​ใสกระจ่าง​คู่​นั้น​ของ​คนหนุ่ม​ ห​ลี่​เซิ่งก็​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ไม่เป็นไร​”

เหตุใด​หลักการ​เหตุผล​ดีๆ มากมาย​ถึงกลายเป็น​ความว่างเปล่า​ เพราะว่า​คน​ที่​พูด​เหตุผล​ อันที่จริง​กลับ​ไม่เคย​มีความรู้สึก​ร่วม​ด้วย​ ไม่มีความสุข​ความทุกข์​ร่วมกับ​คน​ที่​ฟังเหตุผล​ ไม่อาจ​เห็นอกเห็นใจ​ได้​อย่าง​แท้จริง​

ก็​เหมือน​ใน​เมือง​แยนจือ​แคว้น​ไฉ่อี​ใน​อดีต​ ตอนที่​เด็กหญิง​จ้าว​หลวน​เจอ​กับ​หายนะ​ได้​เกิด​ความใกล้ชิด​สนิทใจ​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​กับ​คนแปลกหน้า​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​แค่​คนเดียว​เท่านั้น​

เพราะ​เคย​ลำบาก​มาเหมือนกัน​

ความงดงาม​และ​เฉลียวฉลาด​ของ​คน​ล้วน​อยู่​ที่​ดวงตา​ทั้งคู่​ บาง​ชั่วขณะ​ความ​เงียบงัน​กลับ​กลายเป็น​ว่า​เหนือ​คำพูด​นับ​ร้อย​นับ​พัน​เสีย​อีก​

เฉิน​ผิง​อัน​แค่​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ไม่กี่​ปี​เท่านั้น​ เขา​ก็​เกือบจะ​เป็นบ้า​ไป​แล้ว​ ดังนั้น​ถึงได้​ยิ่ง​เข้า​ใจถึงความ​ทุ่มเท​ของ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​และ​ห​ลี่​เซิ่งดี​ยิ่งกว่า​ใคร​ หลักการ​เหตุผล​เดียวกัน​ ดังนั้น​ห​ลี่​เซิ่งถึงได้​ตอบ​ว่า​ไม่เป็นไร​

ก่อน​ห​ลี่​เซิ่งจะจากไป​ได้​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “พูดถึง​แค่​เรื่อง​ของ​การ​ถ่ายทอด​ความรู้​ไขข้อข้องใจ​ เหมือนกับ​อาจารย์​ของ​เจ้า ไม่เลว​เลย​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ากระทืบเท้า​ พูด​บ่นว่า​ “ห​ลี่​เซิ่ง ถ้อยคำ​ที่​มาจาก​ความจริงใจ​เช่นนี้​ เอาไว้​พูด​ตอนที่​มีการประชุม​ศาล​บุ๋น​จะไม่ดีกว่า​นี้​หรอก​หรือ​?!”

เณร​น้อย​ส่ายหน้า​เหมือน​กลอง​ป๋อง​แป๋ง​ “มิกล้า​ มิกล้า​ ทุกวันนี้​พอ​จะเข้าใจ​พระธรรม​มาบ้าง​แล้ว​ ไหน​เลย​จะกล้า​ไม่เคารพ​ต่อ​พระพุทธเจ้า​”

โจว​ไห่​จิ้งถามชวน​คุย​ “ถ้าอย่างนั้น​ภิกษุ​ที่​ข้า​ได้​พบ​เจอ​ พวกเขา​ทำ​อย่างนั้น​ถือว่า​เป็น​กา​ร.​..หมิ่นประมาท​พระพุทธเจ้า​หรือไม่​?”

เณร​น้อย​อธิบาย​อย่าง​อดทน​ “พระธรรม​สูงหรือ​ต่ำ​ไม่ได้​ดู​ว่า​ความสามารถ​ใน​การต่อสู้​ดี​หรือ​เลว​ ไม่ได้​เกี่ยวกับว่า​พวกเขา​ใช่ผู้ฝึก​ลมปราณ​หรือไม่​ ภิกษุ​ที่​สมณศักดิ์​สูงเหล่านั้น​บอ​กว่า​ตัวเอง​เหนือกว่า​พระพุทธเจ้า​เหนือกว่า​บรรพบุรุษ​ เป็นที่ตั้ง​แห่ง​เครื่องช่วย​ให้​เข้าถึง​ธรรม​ ไม่ใช่คำกล่าว​ที่​เหลวไหล​ เพียงแต่ว่า​พวกเขา​สามารถ​พูด​แบบนี้​ได้​ แต่​ทุกวันนี้​อาตมา​กลับ​ไม่อาจ​เรียนรู้​ได้​ ไม่อย่างนั้น​ก็​เหมือน​ตกลง​สู่หลุม​แห่ง​มาร.​..เฮ้อ​ ยังคง​เป็น​อาจารย์​เฉิน​ที่​คุย​ด้วย​ง่าย​ ประหยัด​แรงกาย​แรงใจ​”

ได้ยิน​เณร​น้อย​บ่นพึมพำ​ไม่จบ​ไม่สิ้น​ โจว​ไห่​จิ้งก็​เริ่ม​เสียใจ​ภายหลัง​แล้ว​ที่​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา

โชคดี​ที่​อาราม​เต๋า​ใหญ่​เพียงเท่านี้​ เก๋​อห​ลิ่ง​จึงพา​พวกเขา​มาถึงห้อง​ด้าน​ข้าง​แห่ง​หนึ่ง​แล้ว​ ถือว่า​เป็นที่ตั้ง​ของ​ที่ว่าการ​กอง​ทำเนียบ​ของ​ใต้เท้า​เต้า​ลู่​ ด้านใน​มีเก้าอี้​หนึ่ง​ตัว​ ม้านั่งยาว​รับรอง​แขก​หนึ่ง​ตัว​ เก๋​อห​ลิ่ง​ย้าย​เก้าอี้​มาให้​โจว​ไห่​จิ้ง เณร​น้อย​นั่งลง​บน​ม้านั่งยาว​ เก๋​อห​ลิ่ง​จึงยก​น้ำ​มาริน​ให้​โจว​ไห่​จิ้งและ​เณร​น้อย​สอง​ถ้วย​ โจว​ไห่​จิ้งโบกมือ​ ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​กลัว​ว่า​เจ้าจะแอบ​วาง​ยาเบื่อ​ ออกมา​อยู่​นอกบ้าน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เป็น​สตรี​ ควร​ต้อง​ระวัง​ไว้​ก่อน​จึงจะดี​”

เก๋​อห​ลิ่ง​จึงได้​แต่​เก็บ​น้ำ​ถ้วย​นั้น​เอาไว้​ คิดไม่ถึง​ว่า​โจว​ไห่​จิ้งจะยื่นมือ​ออกมา​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เก๋​อ​เต้า​ลู่​ล้อเล่น​ไม่ค่อย​เป็น​นะ​”

เณร​น้อย​ไม่รีบร้อน​ดื่ม​น้ำ​ ก้มหน้า​มอง​น้ำ​ใน​ถ้วย​แล้ว​มอง​ประเมิน​อย่าง​ละเอียด​

พระพุทธเจ้า​พิศ​น้ำ​ใน​บาตร​ มองเห็น​แมลง​สี่หมื่น​แปด​พัน​

หาง​ตา​โจว​ไห่​จิ้งเหลือบ​ไป​เห็น​เณร​น้อย​ทำ​เช่นนี้​ก็​พลัน​อึ้ง​งัน​ไป​ มารดา​มัน​เถอะ​ หรือว่า​เก๋​อ​เต้า​ลู่​ที่​มองดู​แล้ว​เป็น​คน​เที่ยงตรง​จะทำ​เรื่อง​ต่ำช้า​แบบ​นั้น​ได้​จริงๆ​?

เก๋​อห​ลิ่ง​ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​ปรมาจารย์​ใหญ่​ที่​ผ่าน​การประเมิน​ด้าน​วร​ยุทธ​ท่าน​นี้​เดินผ่าน​เส้นทาง​ยุทธ​ภพ​แบบ​ใด​มา

เพียง​ไม่นาน​ซ่งซวี่​ก็ตาม​มาถึง โจว​ไห่​จิ้งจงใจรอ​ให้เสียง​ฝีเท้า​ดัง​มาถึงหน้า​ประตู​ก่อน​แล้ว​ค่อย​เงยหน้า​มอง​ไป​

โอ้​ คนสำคัญ​มาแล้ว​

ซ่งซวี่​ก้าว​ข้าม​ธรณีประตู​ เห็น​ว่า​ไม่มีที่​ให้​นั่ง​แล้วก็​บอกเป็นนัย​แก่​เก๋​อห​ลิ่ง​กับ​เณร​น้อย​ว่า​ไม่ต้อง​ยก​ที่นั่ง​ให้​ตน​ เขา​กุม​หมัด​ให้​กับ​โจว​ไห่​จิ้ง พูด​เข้า​ประเด็น​ว่า​ “ข้า​แซ่ซ่งนาม​ซวี่​ ซวี่​ที่​แปล​ว่า​สืบเนื่อง​ มีชาติกำเนิด​จาก​สกุล​ซ่งเหวย​เซียง​อำเภอ​หัว​เซี่ยน​ ทุกวันนี้​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ มาขอ​เชิญให้​ปรมาจารย์​โจว​เข้า​ร่วมกับ​สาย​แผนภูมิ​ดิน​ของ​พวกเรา​อย่าง​เป็นทางการ​”

โจว​ไห่​จิ้งพ่น​น้ำ​พรวด​

ต่อให้​นาง​จะมาจาก​สถานที่​กันดาร​ห่างไกล​ ปลีกตัว​อยู่​คนเดียว​ไม่ค่อย​ฟังข่าว​มาก​แค่​ไหน​ จะดี​จะชั่ว​ก็​ยัง​รู้​ว่า​สถานที่​มังกร​ลุก​ผงาด​ของ​เชื้อพระวงศ์​สกุล​ซ่งต้า​หลี​คือ​ที่ไหน​

ทำไม​ ปาก​ของ​เหล่า​เหนียง​เคย​มีแสงลอด​ออกมา​หรือ​ไร​ (ปาก​มีแสงลอด​เปรียบเปรย​ว่า​พูด​ทาย​ทัก​ได้​แม่นยำ​) ต่อให้​ไม่ถูก​ฮ่องเต้​หมายตา​ใน​ความงาม​ แต่​ก็​เข้าตา​เชื้อพระวงศ์​คน​หนึ่ง​ เลย​คิด​จะเลี้ยงดู​นาง​อย่าง​ลับ​ๆ จริงๆ​?

ซ่งซวี่​ไม่เข้าใจ​จึงหันไป​มอง​เก๋​อห​ลิ่ง​

เก๋​อห​ลิ่ง​ยิ้ม​กล่าว​ “ระหว่าง​ที่​เดินทาง​กัน​มา แม่นาง​โจว​เอ่ย​หยอกล้อ​ว่า​นาง​ถูก​ฮ่องเต้​หมายตา​ จึงถูก​เลือก​ตัว​เข้าไป​อยู่​ใน​วังหลวง​ใช่หรือไม่​”

ซ่งซวี่​ยิ้ม​รับ​ “ปรมาจารย์​โจว​คิดมาก​ไป​แล้ว​ ไม่ต้อง​กังวล​เรื่อง​นี้​ ฮ่องเต้​ไม่มีทาง​ทำ​เช่นนี้​ ข้า​เอง​ก็​ไม่มีความคิด​ที่​ไม่เคารพ​เช่นนี้​เหมือนกัน​”

โจว​ไห่​จิ้งพูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “อย่า​นะ​ ทำไม​จะเรียก​ว่า​ไม่เคารพ​เสีย​ล่ะ​ เก๋​อเจิน​เห​ริน​ช่วย​หา​ห้อง​เดี่ยว​ให้​ข้า​สัก​ห้อง​ได้​ไหม​ ให้​ข้า​ได้​ประทิน​โฉมเสีย​ก่อน​”

ซ่งซวี่​กับ​เก๋​อห​ลิ่ง​มอง​ตา​กัน​ปริบๆ​ เณร​น้อย​ถือ​ถ้วย​ด้วยมือ​เดียว​ ก้ม​มอง​น้ำ​ใน​ถ้วย​แล้ว​ท่อง​คำ​หนึ่ง​ว่า​อา​มิตา​พุทธ​

เก๋​อห​ลิ่ง​อธิบาย​อย่าง​ละเอียด​ “ซ่งซวี่​คือ​องค์​ชาย​รอง​ของ​ราชวงศ์​ต้า​หลี​พวกเรา​”

โจว​ไห่​จิ้งถอนหายใจ​ น่าเสียดาย​ที่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​

ซ่งซวี่​ไม่ได้​มีคำ​โอภาปราศรัย​ใดๆ​ ที่​เกินความจำเป็น​ เขา​อธิบาย​ให้​โจว​ไห่​จิ้งฟังถึงความเป็นมา​ของ​สาย​แผนภูมิ​ดิน​ รวมไปถึง​ข้อดี​ข้อเสีย​หลังจาก​ได้​เป็นสมาชิก​คน​หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!