กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 850

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​กังขา​ “หรือไม่​ใช่เพราะ​ปี​นั้น​จางลู่​ที่​มีความผิด​ติดตัว​ ไม่ได้​แค่​ต้องการ​ทำ​ความดี​ชดใช้​ความผิด​? ยังมี​ความลับ​อย่าง​อื่น​อีกด้วย​?”

คาดไม่ถึง​ว่า​ลู่​เฉิน​จะส่ายหน้า​ “จางลู่​แค่​เฝ้าประตู​เท่านั้น​ ทรยศ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​คือ​ความจริง​ ทำงาน​ไป​ตามหน้าที่​ก็​เป็น​ความจริง​”

เฉิน​ผิง​อัน​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ก่อนหน้านี้​รู้​แค่​ว่า​จางลู่​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​นักโทษ​อาญา​ลี้ภัย​ที่เกิด​และ​เติบโต​ที่นี่​ ตอน​ที่อยู่​ห้า​ขอบเขต​กลาง​เคย​มีคนรัก​คน​หนึ่ง​ หลังจาก​นาง​รบ​ตาย​ไป​ จางลู่​ก็​ไม่ได้​แต่ง​ภรรยา​อีก​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ใน​เรื่อง​ของ​การ​รับ​ลูกศิษย์​ก็​ไม่เคย​แตก​กิ่งก้านสาขา​ แต่​จางลู่​ได้​ถ่ายทอด​เวท​กระบี่​ให้​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​รุ่นเยาว์​อย่าง​ตามแต่​ใจ ไม่เคย​เก็บงำ​อ​พราง​ แต่​ไม่ถือว่า​เป็น​อาจารย์​และ​ศิษย์​อะไร​กัน​ กระบี่​พก​ประจำตัว​ของ​จางลู่​มีชื่อว่า​ซาน​ซี ฝัก​กระบี่​แผ่​เต็มไปด้วย​เกล็ด​สีดำ​ ว่า​กัน​ว่า​ใน​อดีต​ระหว่าง​ที่​ล่าสัตว์​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ท่าน​นี้​ได้​สังหาร​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ไป​ตน​หนึ่ง​ แล้ว​หลอม​เส้นเอ็น​และ​กระดูก​ของ​อีก​ฝ่าย​นำมา​ทำเป็น​กระบี่​ยาว​ หลอม​หนัง​เป็น​ฝัก​กระบี่​ ภายหลัง​ใน​เอกสาร​ของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ก็​เหลือ​แค่​คำพูด​บาง​ช่วง​บาง​ตอน​ไม่ประติดประต่อ​ ดูเหมือนว่า​ใน​อดีต​จางลู่​จะค่อนข้าง​สนิทสนม​กับ​หอ​กระบี่​และ​หอ​ภูษา เพราะ​มีฝีมือ​ด้าน​การหลอม​วัตถุ​และ​การ​ก่อสร้าง​ที่​เชี่ยวชาญ​ สถานะ​ของ​เขา​จึงค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​คนคุม​งาน​

เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ ปี​นั้น​พอ​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​เข้าไป​อยู่​ใน​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​และ​ได้​เปิด​เอกสาร​อ่าน​ก็​ไม่รู้สึก​ประหลาดใจ​แม้แต่น้อย​ เพราะ​ใน​อดีต​ก่อนที่​ตน​จะออก​ไป​จาก​ภูเขา​ห้อย​หัว​ นอกจาก​จางลู่​จะช่วย​เอา​แท่น​สังหาร​มังกร​ก้อน​นั้น​มามอบให้​แทน​หนิง​เหยา​ ยังมี​ชุด​คลุม​อาคม​จิน​ห​ลี่​ตัว​นั้น​ที่​จางลู่​ได้​ช่วย​ร่าย​เวท​อำ​พรางตา​ให้​ ส่วน​เชือก​พันธนาการ​ปีศาจ​ที่​หลอม​มาจาก​หนวด​ยาว​ของ​เจียว​เฒ่า ตอนนั้น​จางลู่​บอ​กว่า​ได้​ไป​ขอให้​ยอด​ฝีมือ​พรรค​ยันต์​ของ​ภูเขา​ห้อย​หัว​ช่วยเหลือ​ นักพรต​ตัด​เอา​หนวด​เจียว​เล็กน้อย​ไป​เป็น​ค่าตอบแทน​ และ​ได้​ลอก​เอา​ลาย​เมฆสามลาย​ออก​มาจาก​บทความ​คำ​เขียว​บท​หนึ่ง​ หลอม​เข้าไป​ใน​เชือก​พันธนาการ​ปีศาจ​ ดังนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยัง​ได้​กำไร​ สุดท้าย​จางลู่​ยัง​สอน​คาถา​หลอม​วัตถุ​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​อีก​หนึ่ง​บท​

ลู่​เฉิน​เอ่ย​เตือน​อย่าง​จนใจ​ว่า​ “สุรา​ใน​จารึก​อาหาร​และ​สินค้า​ จางลู่​ชื่นชม​ซูจื่อ​อย่าง​มาก​ แล้ว​เขา​ยัง​เชี่ยวชาญ​การหลอม​วัตถุ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​การ​สร้าง​ธนู​ หาก​ข้า​จำไม่ผิด​ ด้านใน​ฝู่เฉวียน​ของ​นคร​บิน​ทะยาน​ยัง​ซ่อน​ธนู​ดี​ที่​ฝุ่น​เกาะ​มานาน​ปี​ไว้​หลาย​เล่ม​ ต่อให้​ระดับ​ขั้น​จะดีเยี่ยม​ แต่​ก็​ยัง​ได้​แค่​มีจุดจบ​ที่​ต้อง​กิน​ฝุ่น​อยู่ดี​ ช่วยไม่ได้​ เป็น​ถึงผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​แล้ว​ ใคร​เล่า​จะยัง​ยินดี​ใช้ธนู​”

เฉิน​ผิง​อัน​ครุ่นคิด​ ซูจื่อ​องอาจ​ห้าวหาญ​ ชอบ​ดื่มเหล้า​ และ​เคย​เอ่ย​ว่า​สุรา​คือ​วาสนา​แห่ง​ฟ้าประทาน​ (เทียน​ลู่​ ลู่​เดียว​กับ​ชื่อ​จางลู่​) เมื่อ​ข้า​ได้​ครอง​สิ่งนี้​ จะไม่สุขใจ​ได้​หรือ​ และ​ใน​ตำรา​จารึก​อาหาร​และ​สินค้า​ก็​กล่าว​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​สุรา​คือ​วาสนา​อัน​งดงาม​แห่ง​สวรรค์​ (เหม่​ย​ลู่​ ลู่​เดียว​กับ​ชื่อ​เทียน​ลู่​)

แต่ว่า​สิ่งเหล่านี้​ล้วน​เป็น​ ‘ของ​ที่​เพิ่ม​มา’ เฉิน​ผิง​อัน​ถอนหายใจ​ ยก​มือสอง​ข้างขึ้น​นวด​คลึง​ข้าง​แก้ม​

ที่แท้​จางลู่​ก็​เหมือน​เฒ่าหูหนวก​ที่​เป็น​คน​เฝ้าคุก​ ต่าง​ก็​ไม่ใช่ผู้ฝึก​ตน​ของ​เผ่า​มนุษย์​ แต่​มีชาติกำเนิด​เป็น​เผ่า​ปีศาจ​

เพียงแต่ว่า​สถานะ​ของ​จางลู่​ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ และ​ยิ่ง​ถูก​ใต้​หล้า​ไพศาล​รับ​ตัว​เอาไว้​

เพราะ​ ‘เทียน​ลู่​’ นี้​ เป็น​ทั้ง​คำ​เรียกขาน​แทน​สุรา​ แล้ว​ยัง​เป็น​สัตว์​มงคล​ชนิด​หนึ่ง​ที่​ถูก​บันทึก​ไว้​ใน​ ‘ตำรา​ภูเขา​และ​ทะเล​’ นับตั้งแต่​ยุค​บรรพกาล​เป็นต้นมา​ขุนนาง​และ​ชนชั้นสูง​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​จะชอบ​นำ​รูปปั้น​ของ​เทียน​ลู่​ไป​วาง​ไว้หน้า​สุสาน​ มีความหมาย​เพื่อให้​คอย​ปกป้อง​สุสาน​บรรพชน​ ให้​บรรพชน​ที่อยู่​ใน​ยมโลก​ได้​พักผ่อน​อย่าง​สงบสุข​

หาก​จะบอก​ว่าการ​ทรยศ​ออกจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​คือ​การ​เลือก​ของ​ตัว​จางลู่​เอง​ และ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ก็​ยินดี​เคารพ​ใน​การ​เลือก​นี้​ของ​เขา​ ถ้าอย่างนั้น​เรื่อง​เดียว​ที่​จางลู่​ต้อง​ทำ​ บางที​อาจ​เป็นการ​รับปาก​เฉิน​ชิงตู​ว่า​จะอยู่​เพื่อ​เฝ้าประตู​ใหญ่​ต่อไป​ เหมือน​การเฝ้า​ ‘หลุมศพ​’ สุดท้าย​ก็​คอย​ดูแล​ซาก​ปรัก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ที่​กลาย​มาเป็น​เหมือน​สุสาน​แห่ง​หนึ่ง​

จางลู่​เอง​ก็​รักษา​สัญญา

ถ้าอย่างนั้น​เขา​ก็​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​

มิน่าเล่า​การประชุม​ของ​สอง​ใต้​หล้า​ครั้งนั้น​ ทั้งๆ ที่​อยู่​กัน​คนละ​ฝ่าย​แล้ว​ แต่​อา​เหลียง​ก็​ยัง​ยินดี​จะมีรอยยิ้ม​ให้​กับ​จางลู่​ ยังคง​เป็น​สหาย​รัก​กัน​เช่น​เดิม​

เฉิน​ผิง​อัน​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ที​ ไม่สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​แล้ว​ ครั้งนี้​หาก​ทั้งสองฝ่าย​ได้​กลับมา​เจอกัน​อีกครั้ง​บน​สนามรบ​จริงๆ​ ต่าง​คน​ต่าง​ออก​กระบี่​อย่าง​เต็มกำลัง​ก็​คือ​การ​ให้​ความเคารพ​ที่​ใหญ่​ที่สุด​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “เจ้าลัทธิ​ลู่​ ขอ​ถามหน่อย​ว่า​จะขอยืม​มรรค​กถา​ได้​อย่างไร​?”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​พลาง​ปลด​กวาน​ดอกบัว​บน​ศีรษะ​ลงมา​ โยน​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ง่ายๆ​ ของ​แทน​ตัว​ลัทธิ​เต๋า​ของ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงกลับ​มอบให้​คนอื่น​ง่ายๆ​ เช่นนี้​

เฉิน​ผิง​อัน​รับ​มาไว้​ด้วยมือ​เดียว​ หนิง​เหยา​ช่วย​คลาย​มวยผม​ให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ เฉิน​ผิง​อัน​ปลด​ปิ่น​หยก​ขาว​ลงมา​ เก็บ​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​แล้ว​สวม​กวาน​ดอกบัว​ลง​บน​ศีรษะ​ตัวเอง​อย่าง​ไม่ลังเล​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​หน้าทะเล้น​ “เอา​ไป​สวม​ไว้​แล้ว​ จากนี้​ข้า​จะเข้าไป​สิงอยู่​ด้านใน​ เจ้าว่า​บังเอิญ​หรือไม่​ พวกเรา​สอง​คน​ต่าง​ก็​ถือว่า​พา​จิต​หยิน​ออกจาก​ช่อง​โพรง​เดินทางไกล​พอดี​ แต่​บอก​ไว้​ก่อน​ว่า​ บน​ร่าง​มีมรรค​กถา​ขอบเขต​สิบ​สี่ ไม่ว่า​จะดี​หรือ​ร้าย​ล้วน​ต้อง​แบกรับ​ผล​ที่​ตามมา​เอา​เอง​ ช่างเถิด​ เหตุผล​ข้อ​นี้​เจ้าต้อง​เข้า​ใจดี​ยิ่งกว่า​ใคร​อยู่แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “บังเอิญ​เหมือนกัน​ ก่อนที่​ผู้เยาว์​จะไป​ถามกระบี่​ที่​สำนัก​สั่ว​อวิ๋น​ของ​อุตรกุรุทวีป​ ได้​สวม​กวาน​เต๋า​ที่​มีลักษณะ​คล้ายคลึง​กัน​นี้​ ใช้ฉายา​อย่างหนึ่ง​ว่า​อู๋​ตี๋​ (ไร้​เทียมทาน​)”

ลู่​เฉิน​เหลียว​ซ้าย​แล​ขวา​ เจ้าตัวดี​ สวม​กวาน​เต๋า​ สวม​ชุด​เขียว​สะพาย​กระบี่​ ยิ่ง​สง่างามดุจ​ต้นไม้​หยก​รับลม​กว่า​เดิม​แล้ว​ ปาก​เขา​ก็​พึมพำ​ไป​ด้วยว่า​ “บุพเพ​หนอ​ บุพเพ​หนอ​”

เฉิน​ผิง​อัน​จับ​ประคอง​กวาน​เต๋า​ให้​ดี​ หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ “อาจารย์​ลู่​ ไม่สู้ขอยืม​กระบี่​ดี​ๆ เหมาะมือ​จาก​เจ้าลัทธิ​ลู่​อีก​สอง​สอง​สามเล่ม​ รบ​เคียงบ่าเคียงไหล่​กัน​ หาก​ยัง​เกรงใจ​กัน​ก็​จะดู​ไร้สาระ​เกินไป​ พวกเรา​ขอยืม​กัน​ใช่ว่า​จะไม่คืนให้​เสียหน่อย​ หาก​มีความเสียหาย​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​หัก​เป็น​เงิน​เทพ​เซียน​ก็ได้​แล้ว​ ต่อให้​ไม่คืน​ เจ้าลัทธิ​ลู่​ก็​ต้อง​เป็น​ฝ่าย​มาทวง​คืน​ถึงบ้าน​อย่าง​แน่นอน​”

ลู่​จือ​ใช้กระบี่​ยาว​ที่​ทำ​มาจาก​หอ​กระบี่​จน​ชิน​แล้ว​ แต่​การ​ออก​กระบี่​ครั้งนี้​ เพื่อ​ความปลอดภัย​ไว้​ก่อน​ ยืม​กระบี่​ดี​ๆ จากลู่​เฉิน​สัก​สอง​สามเล่ม​ก็​น่าจะ​มั่นคง​มากกว่า​

ลู่​เฉิน​อึ้ง​งัน​เป็น​ไก่​ไม้ “หา​?”

ผิน​เต้า​ยอมรับ​ว่า​ตัวเอง​ก็​ถือว่า​เป็น​คน​ที่​หน้าหนา​มาก​พอแล้ว​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​เจ้ากลับ​หนา​ยิ่งกว่า​เสีย​อีก​

ทาง​ฝั่งของ​หัว​กำแพงเมือง​ที่อยู่​อีก​ฝั่งหนึ่ง​ ลู่​จือ​ยื่นมือ​ออกมา​รอ​เรียบร้อย​ “ได้​เลย​ ยินดีต้อนรับ​เจ้าลัทธิ​ลู่​ไป​ทวงหนี้​ถึงบ้าน​ในวันหน้า​ สำนัก​กระบี่​หลง​เซี่ยง​ตั้งอยู่​ริม​มหาสมุทร​ของ​ทัก​ษินา​ตย​ทวีป​ หา​เจอ​ได้​ง่าย​มาก​”

ลู่​เฉิน​ร้อง​หา​อีก​หนึ่ง​ที​

แม้จะบอ​กว่า​บ้านเกิด​ของ​ผิน​เต้า​อยู่​ที่​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​จริง​ แต่​ไม่ใช่ว่า​คิด​อยาก​จะมาก็​มาได้​นะ​ กฎ​ของ​ห​ลี่​เซิ่งยัง​วาง​ทนโท่​อยู่​ตรงนั้น​

พวก​เจ้าสอง​คน​ตัดสินใจ​เด็ดขาด​แล้ว​ว่า​คน​หนึ่ง​จะหลอก​คน​ อีก​คน​หนึ่ง​จะชักดาบ​ไม่จ่ายหนี้​ใช่หรือไม่​?

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​ ได้​แต่​ยก​ชาย​แขน​เสื้อ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​มา มือ​อีก​ข้าง​ยื่น​เข้าไป​คลำ​ด้านใน​ อิดๆ ออดๆ​ เชื่องช้า​ ราวกับว่า​กำลัง​พลิก​ๆ ค้น​ๆ หา​สมบัติ​ใน​คลัง​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เตือน​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​ ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​มอบให้​คนอื่น​อยู่แล้ว​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​กัดฟัน​ ใจกว้าง​สักหน่อย​ ไม่อย่างนั้น​เดี๋ยว​จะถูก​อาจารย์​เฮ้อ​ดูแคลน​เอา​ได้​นะ​”

ลู่​เฉิน​ค้นหา​สมบัติ​มากมาย​ที่อยู่​ใน​จักรวาล​ชาย​แขน​เสื้อ​ พลาง​พูด​ไป​ด้วยว่า​ “ยืม​ ไม่ได้​มอบให้​!”

สุดท้าย​ลู่​เฉิน​ก็​หยิบ​เอา​กล่อง​กระบี่​ขนาด​เท่า​ฝ่ามือ​ใบ​หนึ่ง​ออกมา​ กระโดด​ลอยตัว​สูงจาก​ตำแหน่ง​เดิม​ ขว้าง​ไกลๆ​ ไป​ให้​ลู่​จือ​ พร้อม​ตะโกน​ไป​ด้วย​ “อาจารย์​ลู่​ ใช้ประหยัด​หน่อย​นะ​!”

ลู่​จือ​รับ​กล่อง​กระบี่​ใบ​นั้น​มา ตอบ​ว่า​ “ดู​อารมณ์​ก่อน​”

สุดท้าย​ลู่​เฉิน​ถามคำถาม​ข้อ​หนึ่ง​ “เฉิน​ผิง​อัน​ หาก​การ​เดินทาง​ไป​ครั้งนี้​ของ​พวกเรา​ แท้จริง​แล้ว​ทำให้​หลงกล​ติดกับ​โดย​ไม่ทัน​ระวัง​เล่า​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พูด​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ “แล้ว​อย่างไร​? ข้า​ก็​ยัง​เป็น​ข้า​ พวกเรา​ก็​ยัง​เป็น​พวกเรา​ เรื่อง​ที่​ต้อง​ทำ​ก็​ยัง​ต้อง​ทำ​อยู่ดี​”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​ “ถ้าอย่างนั้น​ข้า​ก็​ไม่มีปัญหา​อะไร​จริงๆ​ แล้ว​ ข้า​จะจัดวาง​ฟ้าดิน​ใหญ่​แห่ง​หนึ่ง​ทันที​ ดังนั้น​ต่อจากนี้​ก่อนที่​พวกเรา​จะออกเดินทาง​ เจ้ายัง​ต้อง​ปรับตัว​ให้​คุ้นชิน​ก่อน​ครู่หนึ่ง​ มีด​ที่​บิ่น​ไม่ถ่วง​รั้ง​การผ่า​ฟืน​ เฮ้อ​ ก็​เป็น​เหตุผล​ที่​เจ้าเข้า​ใจดี​ที่สุด​อีก​ข้อ​หนึ่ง​แล้ว​”

ระหว่าง​ที่​พูด​ร่าง​ของ​ลู่​เฉิน​ก็​สลาย​หาย​ไป​ กลายเป็น​สายรุ้ง​เส้น​หนึ่ง​ พุ่ง​หาย​เข้าไป​ใน​กวาน​ดอกบัว​ ภาพ​บรรยากาศ​ผิดปกติ​เกิดขึ้น​ระหว่าง​ฟ้าดิน​ เป็นเหตุให้​ไม่เพียงแต่​ลม​หิมะ​ใน​รัศมี​พัน​ลี้​ที่​หยุดนิ่ง​ นาที​ถัดมา​หิมะ​ทับถม​ทั้งหมด​ที่​หล่น​ร่วง​ลง​ระหว่าง​ฟ้าดิน​ก็​ยิ่ง​หายวับ​ไป​ ราวกับว่า​หิมะ​ใหญ่​ที่​พลัง​อำนาจ​โอฬาร​น่า​ครั่นคร้าม​ไม่เคย​มาเยือน​โลก​มนุษย์​มาก่อน​

หาก​จะบอ​กว่า​จิต​หยิน​ที่​หลอม​รวม​เข้าไป​อยู่​ใน​กวาน​ดอกบัว​ของ​ลู่​เฉิน​คือ​เรือ​ไม่ถูก​ผูก​ซึ่งล่อง​ไป​บน​ความว่างเปล่า​ของ​มหา​มรรคา​

ถ้าอย่างนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ในเวลานี้​ก็​เป็น​คน​ถ่อ​เรือ​ คือ​ ‘การแสดงออก​บน​มหา​มรรคา​’ ที่​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​อย่างหนึ่ง​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!