กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 857

ลู่​จือ​กล่าว​ “ลงมือ​ครั้งนี้​ ได้​กำไร​มาไม่น้อยหรือ​?”

คน​ทั้ง​กลุ่ม​มาปราก​ฎตัว​ที่​ประตู​ภูเขา​แห่ง​นี้​ เรื่อง​เกิดขึ้น​ฉุกละหุก​จึงเป็นเหตุให้​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ตน​นั้น​ไม่ทัน​ไป​เยือน​คลังสมบัติ​ แม้จะบอ​กว่า​คนตาย​เพราะ​โลภ​ใน​ทรัพย์สิน​ นก​ตาย​เพราะ​อาหาร​ แต่​เมื่อ​ถึงช่วงเวลา​ที่​ชีวิต​แขวน​อยู่​บน​เส้นด้าย​จริงๆ​ ก็​ไม่มีอะไร​ให้​ต้อง​ลังเล​อีกแล้ว​ คน​ที่​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ ไม่ว่า​จะเป็น​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​หรือ​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​แห่ง​ป่า​เขา​ ล้วน​เข้าใจ​หลักการ​ตื้นเขิน​ข้อ​นี้​ดี​ เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​ที่​ตาย​อยู่​ใน​กอง​เงิน​นั้น​น่า​อัดอั้น​ขัด​เคืองใจ​ที่สุด​แล้ว​

“ของ​ทั้งหลาย​รวมกัน​ก็​ไม่น้อย​จริงๆ​ จะบอ​กว่า​ได้​กำไร​เป็นกอบเป็นกำ​ก็​ไม่เกิน​จริง​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​รากฐาน​ของ​สำนัก​แห่ง​หนึ่ง​ ต่อให้​ไม่พูดถึง​ยันต์​ชำระ​กระบี่​สามแผ่น​นั้น​ก็​ยัง​ได้​กำไร​เยอะ​อยู่ดี​”

ฉีถิงจี้ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “พวก​นักพนัน​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​เคย​พูด​กัน​ไว้​มาตั้ง​นาน​แล้ว​ไม่ใช่หรือว่า​ ร่วมมือ​กับ​อิ่น​กวาน​เป็น​เจ้ามือ​ คิด​จะขาดทุน​ก็​ยัง​ยาก​ ต่อให้​นอน​อยู่​ก็​ยัง​ได้​กำไร​”

ลู่​จือ​เอ่ย​เตือน​ว่า​ “เฉิน​ผิง​อันเป็น​นัก​บัญชี​ที่​คิด​คำนวณ​ได้​อย่าง​ละเอียด​รอบคอบ​นะ​”

ฉีถิงจี้พยักหน้า​ “เดี๋ยว​กลับ​ไป​แล้ว​นับ​ผล​เก็บเกี่ยว​ที่​ได้​จาก​การ​มาเยือน​นคร​ป่าย​ฮวา​ก็​จะแบ่ง​ให้​อิ่น​กวาน​สัก​…สี่ส่วน​?”

คิดไม่ถึง​ว่า​ลู่​จือ​จะเอ่ย​ว่า​ “สี่ส่วน​? เขา​ไม่ได้​ออกแรง​เสียหน่อย​ แบ่ง​ให้​เขา​สอง​ส่วน​ก็​ถือว่า​มีน้ำใจ​มาก​แล้ว​”

ฉีถิงจี้เอ่ย​อย่าง​ปลาบปลื้ม​ว่า​ “ในที่สุด​ก็​พอ​จะมีท่าที​ของ​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​บ้าง​แล้ว​”

ลู่​จือ​พูด​ “ชุด​คลุม​ไม่เลว​ เป็น​ของ​ข้า​ วันหน้า​ข้า​จะได้​เอา​ไป​มอบให้​แม่นาง​น้อย​อู๋​ม่าน​เหยียน​ผู้​นั้น​”

ฉีถิงจี้หยิบ​ชุด​คลุม​อาคม​ชิงถงตัว​นั้น​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ โยน​ให้​ลู่​จือ​

ลู่​จือ​ยื่นมือ​ไป​รับ​มา สะบัด​ชุด​คลุม​อาคม​เบา​ๆ แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ตกตะลึง​ว่า​ “เรื่อง​อย่าง​การ​นั่งลง​แบ่ง​ของโจร​นี้​ ดูเหมือนว่า​พอได้​ทำ​แล้ว​ชักจะ​ติดใจ​แล้ว​นะ​”

ฉีถิงจี้พยักหน้า​รับ​ “ข้า​เอง​ก็​เพิ่งจะ​ค้นพบ​เหมือนกัน​”

ลู่​จือ​เบ้​ปาก​ เมื่อก่อน​ตอน​อยู่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ผู้ฝึก​กระบี่​ล้วน​ไม่มีนิสัย​นี้​ นี่​ถือเป็น​นิสัยเสีย​ๆ ที่​ถูก​อิ่น​กวาน​ชักนำ​ปลูกฝัง​มาหรือไม่​?

จากนั้น​คน​ทั้งสอง​ก็​จับมือ​กัน​มาเยือน​ภาพมายา​ภูเขา​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ยันต์​สามภูเขา​ หนิง​เหยา​ได้​ออก​ไป​จาก​ซาก​ปรัก​สนามรบ​โบราณ​แห่ง​นี้​แล้ว​ ดูเหมือนว่า​หลังจาก​ส่งกระบี่​ออก​ไป​แล้ว​นาง​ก็​ไม่สน​ว่า​จะเหลือ​ปราณ​กระบี่​ทิ้ง​ไว้​หรือไม่​ เป็นเหตุให้​ซาก​ปรัก​สนามรบ​ในเวลานี้​ยังคง​มีปราณ​กระบี่​น่าสะพรึงกลัว​ คอย​บดขยี้​เข่นฆ่า​ผี​กองทัพ​หยิน​ที่​แตกฉานซ่านเซ็น​อยู่​สี่ทิศ​อย่าง​กำเริบเสิบสาน​

หลังจาก​ฉีถิงจี้จุด​ธูป​คารวะ​แล้วก็​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ ว่า​ “ยาก​จะจินตนาการ​ได้​ว่า​ หาก​ยัง​ไร้​พันธนาการ​อยู่​แบบนี้​ ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​นับว่า​พอ​จะต่อสู้​ได้​อย่าง​พวกเรา​ อยู่​ใน​ใต้​หล้า​แห่ง​นี้​จะอยู่​ร่วมกับ​คนอื่น​อย่างไร​”

การดำรงอยู่​ของ​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​ แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ที่​ยิ่งใหญ่​โอฬาร​ ก็​คล้าย​กับ​ว่า​มีคน​สามคน​ยึดครอง​กระแสน้ำ​ไหล​ กัก​ขวาง​มหา​นที​ ทั้ง​สามท่าน​นี้​ไม่ต้อง​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​แม้แต่น้อย​ เพราะ​การดำรงอยู่​ของ​พวกเขา​ก็​เป็นการ​สยบ​ขวัญ​ที่​ยิ่งใหญ่​อย่างหนึ่ง​อยู่แล้ว​

ต่อให้​จะเป็น​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​วิถี​ทางโลก​วุ่นวาย​อลหม่าน​แห่ง​นี้​ ก็​ยังมี​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ไม่อย่างนั้น​หาก​พูดถึง​แค่​จูเยี่ยน​บรรพบุรุษ​เผ่า​พันธ์​ย้าย​ภูเขา​ ถ้าร่วมมือ​กับ​อดีต​ผู้​ครอง​ลำคลอง​เย่ลั่ว​อย่าง​หย่า​งจื่อ​ แล้ว​ยัง​ดึง​เอา​ปีศาจ​ใหญ่​บน​บัลลังก์​เก่า​อีก​ตน​หนึ่ง​มาเป็น​พวก​ได้​ ก็​สามารถ​เดินกร่าง​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​ได้​แล้ว​ คาด​ว่า​จนถึง​ท้ายที่สุด​ก็​คงจะ​มีปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่และ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​รวม​แล้ว​ไม่ถึงยี่สิบ​ตน​ด้วยซ้ำ​ที่​ได้​แบ่งสรร​ใต้​หล้า​กัน​ไป​ หยุด​มือ​ชั่วคราว​ จากนั้น​ก็​เข่นฆ่า​กัน​ต่อ​ ฆ่ากัน​จนถึง​ท้ายที่สุด​เหลือ​เพียงแค่​ขอบเขต​สิบ​สี่เพียง​หยิบมือ​กลุ่ม​สุดท้าย​

ฉีถิงจี้หยิบ​ธงผืน​หนึ่ง​ออกมา​ โยน​ไป​ไว้​ใน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​สนามรบ​โบราณ​ ธงพลัน​ปัก​ตั้ง​ตระหง่าน​ ประหนึ่ง​เปิด​ประตู​บาน​ใหญ่​ เพียง​ไม่นาน​ก็​รวบรวม​เอา​กองทัพ​หยิน​หลาย​หมื่น​ตน​ที่​สติปัญญา​ขุ่นมัว​มาจาก​สี่ด้าน​แปด​ทิศ​ ราวกับว่า​ได้รับ​โองการ​คำสั่ง​อย่างหนึ่ง​ ประหนึ่ง​กองทัพ​ใหญ่​ที่​เป่าแตร​หยุด​รบ​สั่งให้​กองทัพ​กอง​แล้ว​กอง​เล่า​ถอยทัพ​กลับมา​ กรู​กัน​เข้าหา​ธงผืน​นั้น​อย่าง​บ้าคลั่ง​ นอกจากนี้​ตัว​ของ​ธงผืน​นี้​ก็​ยัง​ควบ​อยู่​ระหว่าง​ถ้ำสวรรค์​กับ​พื้นที่​มงคล​ คือ​สถาน​ประกอบ​พิธีกรรม​เซิน​หลัว​ (ปราก​ฎการณ์​อัน​มากมาย​หลากหลาย​) แห่ง​หนึ่ง​ที่​เหมาะ​แก่​การ​ฝึก​ตน​ของ​ภูตผี​ ทว่า​วิญญาณ​วีรบุรุษ​ แม่ทัพ​ผี​เซียน​ดิน​บางส่วน​ที่​เดิมที​ได้​แบ่งแยก​ดินแดน​มาตั้งตัว​เป็นอิสระ​ แน่นอน​ว่า​ย่อม​ไม่ยินดี​พึ่งพิง​อยู่​ใต้​ชายคา​ของ​ผู้อื่น​ สูญเสีย​อิสรภาพ​ที่​มีอยู่​ไป​ แต่ละ​ตน​จึงพา​กัน​เก็บงำ​ลมปราณ​ พยายาม​ที่จะ​หลบ​ซ่อนตัว​

ผล​คือ​ฉีถิงจี้หยิบ​ของ​ชิ้น​หนึ่ง​จาก​ใน​บรรดา​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​มากมาย​หลาย​ชิ้น​ พอ​เรียก​ออกมา​แล้วก็​เห็น​เป็น​ปล้อง​ไม้ไผ่​สีทอง​ที่​ซุกซ่อน​ปณิธาน​ที่​แท้จริง​ของ​เวท​อสนี​ เมื่อ​หล่น​ลง​ใกล้​กับ​ธง ปล้อง​ไม้ไผ่​ก็​หยั่งราก​ลง​สู่พื้นดิน​ เวลา​เพียง​ชั่วพริบตา​ บน​สนามรบ​โบราณ​ก็​คล้าย​กับ​มีป่าไผ่​สีทอง​แถบ​หนึ่ง​ที่​กิน​รัศมี​หลาย​ร้อย​ลี้​ ตลอดทั้ง​พื้นดิน​เต็มไปด้วย​สายฟ้า​ที่​ถัก​ทอ​แปลบปลาบ​ อีก​ทั้ง​ป่าไผ่​ยัง​อาศัย​ปล้อง​ไม้ไผ่​ที่​แผ่ขยาย​ไป​ต่อเนื่อง​ด้าน​ใต้​พื้นดิน​ ทำให้เกิด​เป็น​แสงทอง​ทอ​ประกาย​ระยิบระยับ​เป็น​จุด​ๆ ล้วน​เป็น​หน่อ​ไผ่​สีทอง​ที่​ผุด​พ้น​พื้นดิน​ออกมา​อย่าง​ว่องไว​ จากนั้น​ก็​กลาย​เป็นต้น​ไผ่​ต้น​แล้ว​ต้น​เล่า​ แสงสีทอง​ของ​ป่าไผ่​ส่อง​ประกาย​วับ​วาว​ ใบไม้​แต่ละ​ใบ​ล้วน​ซุกซ่อน​ท่วงทำนอง​แห่ง​วิชา​อสนี​เอาไว้​ส่วนหนึ่ง​ เป็นเหตุให้​เบื้อง​ใต้​ป่าไผ่​ที่อยู่​บน​พื้นดิน​ได้​เกิด​เป็น​สายฟ้า​บ่อ​หนึ่ง​ขึ้น​มา

ไม่ว่า​จะเป็น​เวท​อสนี​แห่ง​มหา​มรรคา​หรือ​ตัว​วัสดุ​ของ​ปล้อง​ไผ่​เอง​ ทั้งสอง​อย่าง​ล้วน​เป็น​วัตถุ​ที่​สามารถ​กำราบ​ภูตผี​มาได้​ตั้ง​แต่กำเนิด​อยู่แล้ว​

สุดท้าย​บน​ซาก​ปรัก​ก็​หลงเหลือ​เพียง​เส้นทาง​สี่เส้น​ที่​ทอด​ยาว​ไป​สู่ธงผืน​นั้น​ นอกจากนี้​แล้วก็​ไม่เหลือ​เส้นทาง​ใดๆ​ ให้​พวก​ภูตผี​ได้​เดิน​กัน​อีก​

ลู่​จือ​มอง​ธงเรียก​วิญญาณ​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​แวบ​หนึ่ง​ เอ่ย​ถามอย่าง​สงสัย​ว่า​ “เจ้ายัง​ทำ​เรื่อง​นี้​เป็น​ด้วย​หรือ​?”

ฉีถิงจี้อธิบาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เมื่อก่อน​ตอน​อยู่​บน​สนามรบ​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ทุกครั้งที่​พวกเรา​ส่งกระบี่​ออก​ไป​จะต้อง​ถูก​เล่นงาน​ แน่นอน​ว่า​ไม่อาจ​เอ้อระเหย​ลอยชาย​ได้​ จึงไม่มีเวลา​มาก​พอให้​ข้า​ได้​ร่าย​ใช้วิธีการ​ที่​มีลวดลาย​ฉูดฉาด​พวก​นี้​”

พูด​ง่ายๆ​ ก็​คือ​ เวท​คาถา​วิชา​อภินิหาร​นับ​พัน​หมื่น​ก็​ล้วน​มิอาจ​สู้แสงกระบี่​ที่​เปล่ง​วูบ​ทีเดียว​ได้​

เว้น​จาก​วิถี​กระบี่​แล้ว​ หาก​ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​เชี่ยวชาญ​วิชา​นอกลู่นอกทาง​ก็​จะตก​เป็นที่​ต้องสงสัย​ว่า​ไม่เป็นโล้เป็นพาย​ ไม่ทำ​อะไร​เป็นการเป็นงาน​ พอๆ กับ​บัณฑิต​คน​หนึ่ง​ที่​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​ตี​เหล็ก​ผ่า​ฟืน​

ลู่​จือ​อยู่​ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​จึงหยิบ​กระบี่​ที่​เหลือ​อีก​สอง​เล่ม​ออก​มาจาก​กล่อง​กระบี่​ เถียวเจี่ย​ ถึงกับ​เป็น​คราบ​ร่าง​ที่​ล้ำค่า​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง สามารถ​นำมา​ทำเป็น​ชุด​คลุม​อาคม​ที่​คล้ายคลึง​กับ​เม็ด​เสื้อเกราะ​ของ​สำนัก​การทหาร​ได้​ สามารถ​ทำให้​ผู้ฝึก​ตน​กลายเป็น​คน​ที่​เข้าใจ​ได้​โดย​ไม่ต้อง​มีอาจารย์​สั่งสอน​ ครอบครอง​เวท​ลับ​ชั้นสูง​สอง​ชนิด​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง หนึ่ง​โจมตีหนึ่ง​ป้องกัน​ แต่กลับ​ทำให้​ลู่​จือ​รู้สึก​อึดอัด​อย่าง​ถึงที่สุด​ จึงโยน​กระบี่​เล่ม​นี้​กลับ​เข้าไป​ไว้​ใน​กล่อง​กระบี่​

กลับเป็น​ ‘หนัน​หมิง​’ เล่ม​นั้น​ที่​พอ​ถือ​ไว้​ใน​มือ​ก็​สามารถ​มีค่าย​กล​ประหลาด​เพิ่ม​มาแห่ง​หนึ่ง​ ลู่​จือ​ค้นพบ​ว่า​ดูเหมือน​ตนเอง​จะมายืน​อยู่​ใจกลาง​สระ​สวรรค์​ที่​ผืนน้ำ​กว้างใหญ่​ มอง​ดูเหมือน​อยู่​ห่าง​จาก​ฉีถิงจี้ที่อยู่​ข้าง​กาย​แค่​ไม่กี่​ก้าว​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​ห่างไกล​กัน​เป็น​พัน​ลี้​ เหมาะ​แก่​การ​นำมา​รับมือ​กับ​อาวุธ​หนัก​ที่​ใช้ใน​การ​โจมตี​ซึ่งเป็น​สมบัติ​ก้น​กรุ​ทั้งหลาย​ แน่นอน​ว่า​สามารถ​นำมา​รับมือ​กับ​กระบี่​บิน​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​เป็น​ศัตรู​ได้​เหมือนกัน​

ส่วน​โหย​วเริ่น​เล่ม​นั้น​ก็​มหัศจรรย์​มาก​เหมือนกัน​ ลู่​จือ​ถือ​กระบี่​ยาว​ไว้​ใน​มือ​ ข้าง​กาย​ก็​มีภาพมายา​ของ​สัตว์​วิเศษ​ที่​มีรูปร่าง​เป็น​ปลา​มังกร​ตัว​หนึ่ง​ปราก​ฎขึ้น​มา ปลา​สีเขียว​ตัว​ใหญ่​นี้​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​แล้ว​ว่าย​ล้อ​มวน​ไป​รอบกาย​ของ​ลู่​จือ​

ลู่​จือ​รู้สึก​ว่า​มอง​แล้ว​ถูกชะตา​อย่าง​มาก​ จึงไม่ได้​เก็บ​กระบี่​ยาว​โหย​วเริ่น​เล่ม​นี้​กลับ​ไป​

อีก​ทั้ง​หลังจาก​ที่สอง​มือ​แยกกัน​ถือ​หนัน​หมิง​และ​โหย​วเริ่น​แล้ว​ เพียง​ไม่นาน​ลู่​จือ​ก็​ต้อง​รู้สึก​ตกตะลึง​อีกครั้ง​ ที่แท้​ปลา​สีเขียว​ที่​สะบัด​หาง​ว่า​ยวน​อยู่​ข้าง​กาย​ตัว​นั้น​สามารถ​สร้าง​ให้​มีจาก​ไม่มี ถึงกับ​ดึง​เอา​โชคชะตา​น้ำ​ของจริง​มาจาก​น้ำ​ใน​สระ​สวรรค์​ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​นาง​ที่​เดิมที​เป็น​ภาพมายา​ นำมา​เสริมสร้าง​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​กับ​ตัวเอง​ได้​

ลู่​จือ​กล่าว​ “มรรค​กถา​ของ​ลู่​เฉิน​ค่อนข้าง​น่าสนใจ​”

ฉีถิงจี้พูด​อย่าง​อ่อนใจ​ “คน​เขา​จะดี​จะชั่ว​ก็​เป็น​ถึงเจ้าลัทธิ​สามของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงเชียว​นะ​”

ลู่​จือ​กล่าว​ “ช่วยไม่ได้​ เวลา​ที่​ลู่​เฉิน​อยู่​ข้าง​กาย​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เหมือนกับ​…เป็น​แค่​ลูกจ้าง​ใน​ร้าน​ที่​คอย​วิ่ง​ทำงาน​จุกจิก​ให้​คนอื่น​ ยาก​ที่​ข้า​จะเอา​เขา​ไป​คิด​รวม​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​ได้​”

ฉีถิงจี้หลุด​หัวเราะ​พรืด​

ลู่​จือ​ไม่มัว​คุย​เล่น​อีก​ ถือโอกาส​ที่​ยังมี​เวลา​เหลือ​อีก​เกือบ​ครึ่ง​ก้านธูป​เริ่ม​หลอม​กระบี่​ หรือ​ควรจะ​พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​หลอม​ยันต์​ชำระ​กระบี่​ที่​ได้​มาจาก​นค​รอ​วี้​ซูแผ่น​นั้น​

ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​ยันต์​ใหญ่​ซึ่งมีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ไป​ทั้ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ธรณีประตู​ใน​การ​วาด​ยันต์​สูงยิ่ง​ ทว่า​ยาม​ที่​คนนอก​หลอม​ขึ้น​มากลับ​ว่องไว​อย่าง​มาก​

ยันต์​ชำระ​กระบี่​สามแผ่น​ที่​มีมูลค่า​ควร​เมือง​ หา​กลู่​จือ​เอา​มาใช้ขัดเกลา​คม​ของ​กระบี่​บิน​ ‘เป่ย​โต้​ว’​ ทั้งหมด​ ผลลัพธ์​ที่​ได้​จะเด่นชัด​อย่างยิ่ง​ ระดับ​ความคม​ของ​กระบี่​บิน​ที่​ลู่​จือ​ประเมิน​ไว้​ล่วงหน้า​ก็​สามารถ​เพิ่ม​ขึ้นไป​ได้​อีก​ขั้น​หนึ่ง​

ยันต์​ชำระ​กระบี่​ทำให้​ลู่​จือ​ประหยัดเวลา​การ​ฝึก​ตน​ไป​อย่าง​น้อยที่สุด​เกือบ​หกสิบ​ปี​ ไม่ได้​หมายถึง​เวลา​หกสิบ​ปี​ที่​กาลเวลา​หมุนเวียน​เปลี่ยน​ผ่าน​ไม่มีหยุดพัก​ แต่​หมายถึง​เวลา​ที่​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ตั้งใจ​ฝึก​ตน​ มุ่งมั่น​อยู่​แต่​กับ​การหลอม​กระบี่​อย่าง​เดียว​ การ​ฝึก​ตน​หลาย​สิบ​ปี​หลาย​ร้อย​ปี​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​กล่าว​ถึงกัน​นั้น​ ล้วน​เป็นการ​ตั้งสมาธิ​มุ่งมั่น​ นั่ง​เข้าฌาน​ ปิด​ด่าน​นั่ง​นิ่ง​ ขัดเกลา​จิงชี่เสิน​ออกมา​ทีละเล็กทีละน้อย​ นี่​ต่างหาก​ถึงจะเป็น​ ‘หนึ่ง​ขวบ​ปี​’ ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ เป็น​อายุ​ที่​แท้จริง​ ไม่อย่างนั้น​แล้วก็​จะถือเป็น​ ‘อายุ​ลวง​’ ที่​ใช้เวลา​ผ่าน​ไป​อย่าง​เสียเปล่า​ทั้งสิ้น​

ดังนั้น​หนึ่ง​ขั้น​นี้​จึงไม่ถือว่า​น้อย​แล้ว​จริงๆ​ เส้นทาง​ของ​การหลอม​กระบี่​บิน​นี้​ เดินทาง​หนึ่งร้อย​ลี้​ เดิน​ไป​ได้​เก้า​สิบ​ลี้​ถึงเพิ่งจะ​ถือว่า​มาถึงครึ่งทาง​ (เปรียบเปรย​ว่า​ยิ่ง​ใกล้​จะทำสำเร็จ​ความ​ยาก​ยิ่ง​มากขึ้น​) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ ‘เป่ย​โต้​ว’​ เล่ม​นี้​ของ​ลู่​จือ​ที่​ต่อให้​จะอยู่​ห่าง​จาก​ความ​สมบูรณ์แบบ​แค่​เสี้ยว​เดียว​เท่านั้น​ แต่​ก็​ยัง​ยาก​ที่จะ​ใช้กระบี่​ตัดหัว​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​หนึ่ง​ใน​ครั้ง​เดียว​ได้​ แต่​หากว่า​นาง​ก้าว​ข้าม​ธรณีประตู​นั้น​ไป​ได้​ ถ้าอย่างนั้น​พลัง​พิฆาต​ของ​กระบี่​บิน​ลู่​จือ​ ต่อให้​จะเป็น​ใน​ประวัติศาสตร์​หมื่น​ปี​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ก็​ยัง​ถือว่า​อยู่​ใน​ยอด​บนสุด​

ขอ​แค่​ระดับ​ขั้น​ของ​กระบี่​บิน​เป่ย​โต้​ว​ได้​ถูก​หล่อหลอม​จนถึง​ขอบเขต​ที่​ไร้​จุดบกพร่อง​ สมมต​ว่า​ในอนาคต​นาง​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ได้​สำเร็จ​ นี่​ก็​หมายความว่า​หาก​คนนอก​คิด​จะสังหาร​ลู่​จือ​ก็​ต้อง​ให้​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​สอง​คน​ร่วมมือ​กัน​ จากนั้น​ก็​ต้อง​ยอม​มอบ​สอง​ชีวิต​มาให้​เสียแต่​โดยดี​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!