กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 862

สาย​ของ​เห​วิน​เซิ่ง ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​สามคน​

ต่าง​ก็​อำมหิต​กับ​ตัวเอง​อย่าง​มาก​

ทำไม​ถึงเป็น​เช่นนี้​?

คง​เป็น​เพราะ​พวกเขา​ทั้ง​สามต่าง​ก็​มีความหวัง​ส่วนหนึ่ง​ต่อ​โลก​ใบ​นี้​กระมัง​

ไม่ใช่ว่า​วิถี​ทางโลก​งดงาม​มาก​พอ​ ถึงได้​ทำให้​ใจคน​เกิด​ความหวัง​ แต่​เป็น​เพราะ​วิถี​ทางโลก​ไม่งดงาม​มาก​พอ​ บน​โลก​มนุษย์​ไม่มีเรื่อง​เล็กน้อย​ ถึงได้​มีความหวัง​ต่อ​วิถี​ทางโลก​มากขึ้น​

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ถามอย่าง​สงสัย​ใคร่รู้​ “โจว​มี่สั่งให้​หยวน​ซงยืน​นิ่ง​อยู่​บน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ไม่ขยับ​อย่าง​โง่งม ให้​เฉิน​ผิง​อัน​เงื้อ​กระบี่​ฟัน​ไป​หมื่น​ครั้ง​ ก็​เพราะ​ต้องการ​ความ​เป็น​เทพ​ที่​แผ่​กระจาย​ออก​มาจาก​ความเสียหาย​หลัง​ปล่อย​กระบี่​?”

มรรค​จารย์​เต๋า​พยักหน้า​ “รับมือ​กับ​คน​ฉลาด​ หลาย​ๆ ครั้ง​ก็​มีเพียง​วิธี​ที่​โง่เขลา​เท่านั้น​ถึงจะได้ผล​ดีเยี่ยม​”

ขอ​แค่​เฉิน​ผิง​อัน​ยอมรับ​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ก็​ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​จะอ้อม​ผ่าน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ไป​ไม่พ้น​

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​วัก​น้ำขึ้น​มาหนึ่ง​กำมือ​ แกว่ง​อยู่​ใน​ฝ่ามือเบา​ๆ อาศัย​สิ่งนี้​มาประเมิน​น้ำหนัก​ของ​กฎระเบียบ​และ​มารยาท​พิธีการ​ของ​ห​ลี่​เซิ่งและ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ใน​ทุกวันนี้​ “ไม่ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะสามารถ​ย้าย​ภูเขา​ได้​หรือไม่​ ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​ของ​หลาย​ใต้​หล้า​ต่าง​ก็​เห็น​ขั้น​ตอนนี้​อยู่​ใน​สายตา​ เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​จะกลายเป็น​เป้าหมาย​ที่​ถูก​ผู้คน​เล่นงาน​แซงหน้า​อวี๋​โต้​ว​ไป​ก่อน​เสีย​อีก​”

อู๋ซวงเจี้ยง​เคย​มอบ​คำทำนาย​ประโยค​หนึ่ง​ให้​กับ​เต๋า​เหล่า​เอ้​ออ​วี๋​โต้​ว​ หาก​ท่าน​ไม่ฝึก​ขัดเกลา​คุณธรรม​ ก็​คือ​หนทาง​สู่ความตาย​

เพราะ​คน​ที่อยู่​บน​เรือ​จะกลายเป็น​ศัตรู​ไป​หมดสิ้น​

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​หัวเราะ​หยัน​เสียง​เย็น​ “อริยะ​ผู้​มีคุณูปการ​มีคุณธรรม​ใน​สมัยโบราณ​ สร้าง​คุณ​ความชอบ​ใหญ่​ ช่วงชิง​ใต้​หล้า​ อาศัย​ใจคน​ โจว​มี่ใน​ยุคปัจจุบัน​หมาย​จะใช้เหนือ​ฟ้ามาช่วงชิง​ใต้​หล้า​ไป​ครอง​ อาศัย​ชีวิต​คน​”

มรรคา​จารย์​เต๋า​ยิ้ม​ถาม “เจ้าว่า​เจี่ย​เซิงแห่ง​ไพศาล​ผู้​นี้​ ปี​นั้น​นาที​ที่​เขา​ข้าม​ผ่าน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ไป​ ใน​ใจกำลัง​คิด​อะไร​อยู่​?”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ตอบ​ส่งๆ “คงจะ​คิด​ว่า​ ‘โชคชะตา​ทรยศ​ โลก​ใบ​นี้​มิอาจ​ยอมรับ​’ กระมัง​ บัณฑิต​ผู้​นี้​ยังมี​จิตใจ​ที่สูง​ยิ่งกว่า​ผืน​ฟ้า ถ้าอย่างนั้น​ก็​เหลือ​แค่​เส้น​ทางขึ้น​ฟ้าให้​เดินเส้น​เดียว​แล้ว​ ข้า​เดา​เอา​ว่า​ผ่าน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ไป​ได้​ไม่นาน​เท่าไร​ โจว​มี่จะต้อง​เคย​เงยหน้า​มอง​ฟ้า มั่นใจ​ว่า​ฟ้าสูงแห่ง​นั้น​ต่างหาก​ถึงจะเป็น​บ้านเกิด​แห่ง​ใจของ​ตัวเอง​”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​แบมือ​ออก​ ปล่อย​น้ำ​ที่​สะสมอยู่​ใน​ฝ่ามือ​กลับ​ลง​ไป​ใน​ทะเล​ “หาก​ถูก​เฉิน​ผิง​อัน​ย้าย​ภูเขา​ไป​ได้​จริงๆ​ ใช้กระบี่​สังหาร​หยวน​ซง จะได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​หัว​กำแพง​หรือไม่​? แกะสลัก​อักษร​อะไร​? ผิง​ อัน​? บวก​กับ​อักษร​ ‘เฉิน’​ ที่​เฉิน​ซีแกะสลัก​ไว้​ก่อนหน้า​นั้น​ หาก​ยัง​สามารถ​สังหาร​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​หนึ่ง​ได้​อีก​ จุ๊ๆ ถูก​เจ้าเด็ก​นี้​รวม​ชื่อ​จน​ครบ​คน​ ลำพัง​แค่​เรื่อง​นี้​ อีก​หมื่น​ปี​ให้หลัง​ ถ้าอย่างนั้น​ชื่อ​ของ​เขา​เฉิน​ผิง​อัน​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​ยิ่งใหญ่​กว่า​อวี๋​โต้​ว​แล้ว​ล่ะ​ ไม่ถือว่า​เป็น​ความเห็นแก่ตัว​ทั้งหมด​ เพราะ​ยัง​จะช่วย​ให้​ซาก​ปรัก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ถูก​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ใน​ยุค​หลัง​พูดถึง​มากขึ้น​ นาน​ขึ้น​”

บน​ภูเขา​มีคำกล่าว​อย่างหนึ่ง​เผยแพร่​ออก​ไป​ ถูก​คน​บน​โลก​หลงลืม​อดีต​ที่​เคย​เกิด​ขึ้นไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ ก็​คือ​การตาย​อีก​อย่างหนึ่ง​หลังจากที่​คนตาย​ไป​แล้ว​

มรรคา​จารย์​เต๋า​ส่ายหน้า​ “หาก​จะแกะสลัก​ตัวอักษร​จริง​ ก็​มีแต่​จะแกะสลัก​อักษร​คำ​ว่า​ ‘ผิง​’ จาก​ชื่อ​ฝูผิง​เท่านั้น​” (ผิง​ ฝูผิง​ที่​แปล​ว่า​จอก​แหน​ล่องลอย​เขียน​คนละ​แบบ​กับ​ผิง​ใน​ชื่อ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​)

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​พยักหน้า​

มรรคา​จารย์​เต๋า​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “พูด​คำ​ว่า​โจว​มี่น้อยลง​ ยืน​พูด​ไม่ปวด​เอว​”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​คลี่​ยิ้ม​อย่าง​สง่างาม

สะพาน​โค้ง​สีทอง​

ห​ร่วน​ซิ่ว​มอง​แสงกระบี่​ที่​ออก​เดินทางไกล​เส้น​นั้น​ จักรวาล​เวิ้งว้าง​นอก​ฟ้าที่​กว้างใหญ่​ไพศาล​ไร้​ที่​สิ้นสุด​ ดวงดาว​แต่ละ​ดวง​เล็ก​เหมือน​เมล็ด​งาที่​สาด​โปรย​อยู่​บน​พื้น​ มากมาย​จน​นับไม่ถ้วน​ มีบางส่วน​ที่​เบียดเสียด​กัน​ถี่แน่น​ จับกลุ่ม​กลายเป็น​ทางช้างเผือก​อัน​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​ที่​สว่าง​เจิดจ้า​พร่างพราว​ แสงกระบี่​ที่​พลัง​อำนาจ​ยิ่งใหญ่​น่า​ครั่นคร้าม​สอด​ลอด​ทะลุ​ธาร​ดารา​ประหนึ่ง​ไฟกลาง​หิน​ ม้าขาว​ควบ​ผ่าน​ช่องแคบ​ พุ่ง​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​เหนือกว่า​การ​ไหลริน​ของ​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​เสีย​อีก​

ส่วน​โจว​มี่ก็​หรี่ตา​ลง​หลุบ​มองโลก​มนุษย์​

หลี​เจิน​ฟุบ​ตัว​อยู่​บน​ราว​ระเบียง​ กะพริบตา​ปริบๆ​ “เอ๊ะ​ ทำไม​กระแสน้ำ​ไหล​ถึงเปลี่ยน​ช่องทาง​เสีย​ล่ะ​? นี่​ถือว่า​เป็น​…ประวัติการณ์​เลย​หรือไม่​?”

โจว​มี่ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ทำท่า​สมน้ำหน้า​สะใจต่อหน้า​คนอื่น​ ไม่ใช่นิสัย​ที่​ดี​อะไร​เลย​จริงๆ​”

หลี​เจิน​หันหน้า​ไป​มอง​โจว​มี่ ต่อให้​รู้ไส้​รู้​พุง​กัน​ดี​ แต่​พอ​มอง​มาก​หน่อย​ก็​ยัง​อดไม่ไหว​ที่จะ​รู้สึก​เลื่อมใส​ใน​ตัว​มหาสมุทร​ความรู้​แห่ง​ใต้​หล้า​ ‘จิ้งจอก​เฒ่าเหนือ​เมฆ’ ที่​กิน​ฝ่าเหยียน​อาจารย์​ของ​เชี่ยอวิ้นจน​สิ้นซาก​ผู้​นี้​ไม่ได้​

ห​ลี่​เจิน​ถอน​สายตา​กลับมา​ มอง​ไปนอก​สะพาน​โค้ง​สีทอง​

ใน​สายตา​ของ​ทวยเทพ​ชั้นสูง​แล้ว​ แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ก็​เหมือน​โชคชะตา​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ใน​ดวงตา​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่​ใช้ศาสตร์​การ​มอง​ลมปราณ​ นอกจาก​ร่าง​ทอง​ของ​องค์​เทพ​เอง​แล้ว​ ทุกหนทุกแห่ง​ก็​ล้วน​มีแต่​พวก​มัน​

ส่วน​ใน​สายตา​ของ​เทพ​สูงสุด​กลับเป็น​ทัศนียภาพ​อีก​แบบ​หนึ่ง​ ก็​เหมือนกับ​บ้าน​ไร้​ผนัง​หลัง​หนึ่ง​ที่​ประกอบ​กัน​ขึ้น​มาจาก​สิ่งที่​เล็ก​ละเอียด​อย่าง​ถึงที่สุด​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ เพียงแค่​ขยับ​ สิ่งเล็ก​ๆ เหล่านั้น​ก็​เคลื่อนไหว​เปลี่ยนแปลง​ไป​ได้​นับ​แสน​นับ​ล้าน​ มอง​ดูเหมือน​มีระเบียบ​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​ไร้​ซึ่งระเบียบ​

เมื่อ​หนึ่ง​หมื่น​ปีก่อน​ จะได้​เลื่อน​เป็น​เทพ​ชั้นสูง​ของ​ยุค​บรรพกาล​หรือไม่​ ก็​ต้อง​ดู​ที่ว่า​จะสามารถ​มองเห็น​วัตถุ​ที่​ไม่สามารถ​แบ่งแยก​ออก​ไป​ได้​อีก​กับ​ตา​ตัวเอง​หรือไม่​

และ​วิถี​การ​โคจร​ทุก​เส้น​จะมีระเบียบ​ใน​ช่วง​ระยะสั้น​ๆ คล้ายคลึง​กับ​ท้องน้ำ​บาง​ช่วง​ตอน​ของ​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ ก็​คือ​วิชา​อภินิหาร​วิชา​หนึ่ง​ หรือ​ก็​คือ​มรรค​กถา​จาก​การผสาน​มรรคา​กับ​ฟ้าดิน​ที่​ผู้ฝึก​ลมปราณ​เผ่า​มนุษย์​เรียกขาน​กัน​ใน​โลก​ยุค​หลัง​

ใต้​หล้า​ทั้งหลาย​ ผู้ฝึก​ตน​ที่​เดิน​ขึ้น​เขา​ใน​ภายหลัง​ เวท​คาถา​เซียน​มรรค​กถา​ทุก​บท​ที่​บันทึก​ไว้​ใน​ตำรา​หรือ​จด​จำไว้​ใน​ใจเงียบๆ​ ล้วน​ต้อง​อิง​ไป​ตาม​บรรทัดฐาน​ของ​วิถี​แห่ง​ฟ้านี้​ ตัวอักษร​บน​ตำรา​ทุก​ตัว​ เสียง​ใน​ใจทุก​เสียง​ก็​คือ​สมอเรือ​ที่​แม่นยำ​ พยายาม​ที่จะ​สร้าง​การดำรงอยู่​ที่​มีเอกลักษณ์​เป็นหนึ่งเดียว​ขึ้น​มา

เพียงแต่ว่า​ใน​สายตา​ของ​เทพ​ชั้น​สูงสุด​ การกระทำ​นี้​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ใน​โลก​มนุษย์​ยังคง​เป็น​แค่​การขูด​เรือ​หา​กระบี่​ เป็น​เรือ​ที่​ล่อง​ไป​ตามน้ำ​ จึงต้อง​ดึง​สมอเรือ​ที่​โยน​ลง​น้ำ​ให้​เคลื่อนที่​ไป​ช้าๆ ซึ่งจำใจต้อง​ทำ​เท่านั้น​ เป็นเหตุให้​ยาก​ที่จะ​พิสูจน์​ความ​เป็น​อมตะ​ มิอาจ​มีชีวิต​ยืนยาว​อยู่​ร่วมกับ​ฟ้าดิน​ได้​

ใน​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ไม่มีเรือ​ลำ​ใด​ที่​หยุด​จอด​ลอย​นิ่ง​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​

ดังนั้น​แน่นอน​ว่า​ย่อม​ไม่มีวัตถุ​ใด​ที่​สมเหตุสมผล​ตาม​หลัก​ฟ้าดิน​

“ใน​อดีต​ฉีจิ้งชุน​ศึกษา​ความรู้​และ​สอนหนังสือ​อยู่​ที่​โรงเรียน​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูหกสิบ​ปี​ สิ่งที่​เขา​ต้องการ​อย่าง​แท้จริง​ก็​คือ​ของ​สิ่งนี้​เรื่องราว​นี้​”

โจว​มี่เหมือน​กำลัง​พูด​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ “เป็นการ​ไหล​มารวมกัน​ของ​สามลัทธิ​ พยายาม​ที่จะ​ก่อตั้ง​ลัทธิ​เรียก​ตัวเอง​เป็น​บรรพบุรุษ​? ถ้าอย่างนั้น​ก็​ดูแคลน​ปณิธาน​ของ​ฉีจิ้งชุน​เกินไป​แล้ว​ น่าเสียดาย​ยิ่งนัก​ที่​เขา​เดิน​คนละ​เส้นทาง​กับ​ข้า​ ไม่ใช่คน​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​”

สิ่งที่​ฉีจิ้งชุน​ต้องการ​อย่าง​แท้จริง​ก็​คือ​หวัง​ว่า​บน​ผืน​แผ่นดิน​ของ​โลก​มนุษย์​จะมีผู้ฝึก​ตน​กลุ่ม​เล็ก​ปรากฏ​ขึ้น​มาก่อน​ แล้ว​ค่อย​นำพา​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ตามมา​ เหมือน​เป็นการ​เดิน​ขึ้น​ฟ้าใหม่​อีกครั้ง​ เป็นเหตุให้​ทั้ง​ล่าง​ภูเขา​และ​โลก​มนุษย์​ต่าง​ก็​ไร้​ความทุกข์​ความกังวล​ คน​ที่​ขึ้น​เขา​กลาย​มาเป็น​ออก​เดินทางไกล​ไปนอก​ฟ้า คือ​การ​ไล่ตาม​มหา​มรรคา​ที่​แท้จริง​ และ​นี่​ก็​สอดคล้อง​กับ​การผสาน​มหา​มรรคา​ที่​ ‘แสวงหา​กระดาน​หมาก​ที่​ใหญ่​กว่า​เดิม​’ ของ​ชุย​ฉาน​ผู้​เป็น​ศิษย์​พี่​

เพียงแต่​หนึ่ง​นั้น​ที่​เริ่ม​โคจร​เร็ว​สุด​ ได้​ถูก​กุม​อยู่​ใน​มือ​ของ​ผู้​ครอง​สรวงสวรรค์​เก่า​อยู่​ตลอดเวลา​

สิ่งของ​ที่​มรรคา​จารย์​เต๋า​ต้องการ​ตามหา​ก็​คือ​หนึ่ง​นี้​ สุดท้าย​ตั้งชื่อ​ให้​มัน​ว่า​เต๋า​ (หรือ​เต้า​ มรรคา​)

เคย​หา​มาก่อน​ และ​ถึงกับ​เคย​เห็น​กับ​ตา​ตัวเอง​มาก่อน​ ทว่า​ด้วย​มรรค​กถา​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ กลับ​ยัง​ไม่อาจ​จับกุม​มัน​ไว้​ใน​มือ​ได้​ เพราะ​มัน​ปรากฏ​เพียง​พริบตาเดียว​ก็​พุ่ง​วาบ​หาย​ไป​

มรรคา​จารย์​เต๋า​เคย​เห็น​มาแล้ว​สามครั้ง​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ได้​เห็น​การ​โคจร​ของ​มหา​มรรคา​ครั้งแรก​สุด​ที่หนึ่ง​นั้น​เป็น​ผู้​พา​มาด้วย​ เป็นเหตุให้​ลัทธิ​เต๋า​มีคำกล่าว​ที่ว่า​สามก่อเกิด​สรรพสิ่ง​

นั่น​คือ​ทัศนียภาพ​ที่​เหนือ​เกิน​กว่า​จินตนาการ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​จะไป​ถึง ทั้ง​งดงาม​ทั้ง​น่าหวาดกลัว​ ทั้ง​เรียบง่าย​ทั้ง​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​ มิอาจ​วาด​รูปลักษณ์​ของ​มัน​ออกมา​ ไม่อาจ​บรรยาย​ถึงความงดงาม​ของ​มัน​

หลุดพ้น​จาก​มีไม่มี ใหญ่​เล็ก​ จริง​ลวง​ทั้งหลาย​ทั้งปวง​ คำพูด​ทั้งหมด​บน​โลก​ล้วน​กลาย​มาเป็น​อุปสรรค​ใน​การ​ทำความเข้าใจ​ความลี้ลับ​มหัศจรรย์​ของ​มัน​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!