กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 864

เฟยเฟย​เอง​ก็​ไม่เก็บงำ​ความคิด​ ถามป๋า​ย​เจ๋อ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ “อาจารย์​ป๋า​ย​ ท่าน​กังวล​ถึงความปลอดภัย​ของ​ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​ท่าน​บรรพบุรุษ​ใหญ่​หรือ​?”

ป๋า​ย​เจ๋อ​พยักหน้า​

หวน​กลับคืน​สู่บ้านเกิด​ครา​นี้​ ป๋า​ย​เจ๋อ​จะต้อง​ปลุก​เผ่า​ปีศาจ​กลุ่ม​น้อย​ที่​จำศีล​หลับใหล​มายาวนาน​ จากนั้น​ตั้ง​ข้อกำหนด​กับ​พวก​มัน​ว่า​ต้อง​มาคอย​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​ตน​

ส่วน​พวก​ที่​พยศ​ยาก​จะกำราบ​ซึ่งต้อง​มีอยู่​ใน​บรรดา​คน​กลุ่ม​นี้​อย่าง​แน่นอน​ ก็​ให้​ทั้ง​ร่าง​จริง​และ​ชื่อจริง​ของ​พวก​มัน​นอนหลับ​ต่อไป​พร้อมกัน​อีก​สัก​หลาย​พันปี​ก็แล้วกัน​

ออกจาก​บ้านเกิด​ไป​นับ​หมื่น​ปี​ คน​ของ​บ้านเกิด​ที่​ป๋า​ย​เจ๋อ​พะวง​เป็นห่วง​ เดิมที​ก็​มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ทุกวันนี้​คน​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​บน​โลก​ก็​เหลือ​แค่​ลูกศิษย์​ใหญ่​เปิด​ขุนเขา​ของ​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​แล้ว​

แน่นอน​ว่า​หยวน​ซงเป็น​เพียงแค่​นามแฝง​ของ​ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​บรรพบุรุษ​ใหญ่​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​เท่านั้น​ อันที่จริง​นาม​จริง​ของ​มัน​มีความหมาย​ดีมาก​ หยวน​จี๋

หยวน​จี๋ที่​มาจาก​ประโยค​ชุด​เหลือง​มงคล​ ทั้ง​ยัง​มาจาก​ ‘หยวน​จี๋’ จิตวิญญาณ​แห่ง​ความโชคดี​

เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ ผ่าน​การประชุม​ริม​ลำคลอง​หลังจาก​ความขัดแย้ง​ภายใน​ครั้งนั้น​ไป​ ศึก​ของ​บน​ฟ้าล่าง​ฟ้าล้วน​ยุติ​ลง​แล้ว​

ตาม​ข้อตกลง​เดิม​ ผู้ฝึก​กระบี่​และ​สำนัก​การทหาร​สามารถ​ครอบครอง​ใต้​หล้า​แห่ง​หนึ่ง​ ปฐม​บรรพบุรุษ​ของ​สำนัก​การทหาร​ถึงกับ​สามารถ​ตั้ง​ลัทธิ​เรียก​ตน​เป็น​บรรพบุรุษ​ได้​ด้วยซ้ำ​

เพียงแต่ว่า​ปฐม​บรรพบุรุษ​สำนัก​การทหาร​ที่​มีความทะเยอทะยาน​ผู้​นั้น​ กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​กลุ่ม​ใหญ่​เว้น​จาก​พวก​เฉิน​ชิงตู​ หลง​จวิน​ กวาน​จ้าว​ และ​ปีศาจ​ใหญ่​ส่วนหนึ่ง​ที่​กระเหี้ยนกระหือรือ​กลัว​ว่า​ใต้​หล้า​จะไม่วุ่นวาย​มาก​พอ​ สุดท้าย​ทั้ง​สามฝ่าย​ต่าง​ก็​พ่ายแพ้​

ภายหลัง​ก็​เป็น​เผ่า​ปีศาจ​ที่​ได้​แบ่ง​เอา​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ใน​ทุกวันนี้​ไป​ครอง​

หลังจากที่​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​พา​เด็ก​คน​หนึ่ง​ไป​พักอาศัย​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​แห่ง​นั้น​ก็​เริ่ม​เดิน​ขึ้น​เขา​ หรือ​ก็​คือ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ใน​ยุค​หลัง​

ตอนนั้น​คน​ที่​ติดตาม​อาจารย์​และ​ศิษย์​คู่​นี้​มาด้วย​ยังมี​ป๋า​ย​เจ๋อ​อีก​คน​

ขยับ​เข้าใกล้​ยอดเขา​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าหยุด​เดิน​ ยิ้ม​เอ่ย​ ‘ป๋า​ย​เจ๋อ​ เจ้ามีความรู้​มาก​ ไม่สู้ช่วย​ตั้งชื่อ​ให้​เด็ก​คน​นี้​เถอะ​ จำไว้​ว่า​ขอให้​เป็น​นิมิตหมาย​ที่​ดี​’

ป๋า​ย​เจ๋อ​ก้มหน้า​มอง​เด็กชาย​ที่​ดวงตา​ใสแจ๋ว​ คิด​แล้วก็​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ ‘ให้​ชื่อว่า​หยวน​จี๋ดี​ไหม​?’

เวลา​นั้น​เด็กชาย​เผ่า​ปีศาจ​ที่​เพิ่งจะ​หลอม​ร่าง​จำแลง​กาย​ได้​สำเร็จ​ ในที่สุด​ก็​มีคำถาม​มากมาย​อยาก​จะถามป๋า​ย​เจ๋อ​ที่​มีความรู้​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​

‘จอม​ปราชญ์​น้อย​ผู้​นั้น​ มีความสามารถ​ใน​การต่อย​ตี​มาก​ขนาด​นั้น​เลย​หรือ​? ถ้าอย่างนั้น​ทำไม​ไม่ชื่อว่า​จอม​ปราชญ์​ใหญ่​ล่ะ​?’

‘ท่าน​ชื่อ​ป๋า​ย​เจ๋อ​ เป็น​เพราะว่า​ท่าน​แซ่ป๋า​ย​นาม​ว่า​เจ๋อ​หรือ​? ทำไม​ใครๆ​ ต่าง​ก็​ชอบ​เรียก​ท่าน​ว่า​ ‘อาจารย์​’ กัน​ล่ะ​ อาจารย์​บอ​กว่า​คำ​นี้​มีความหมาย​ว่า​เกิด​ก่อน​ อายุ​เยอะ​ แล้ว​อาจารย์​พ่อ​ล่ะ​ หมายความว่า​อะไร​ เป็น​เพราะว่า​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​เป็น​ทั้ง​บิดา​เป็น​ทั้ง​อาจารย์​หรือ​?’

‘พวกเรา​แบ่ง​ได้​ใต้​หล้า​แห่ง​นี้​มาครอง​ ได้ยิน​ว่า​อาณาเขต​ของ​ที่นี่​คล้าย​จะใหญ่​ที่สุด​เลย​นะ​ เป็น​เพราะ​พวกเรา​สร้าง​คุณูปการ​ไว้​ใหญ่​ที่สุด​หรือ​?’

ระหว่าง​เส้น​ทางเดิน​ขึ้น​เขา​ ป๋า​ย​เจ๋อ​ที่​มีความอดทน​ดีเยี่ยม​ค่อยๆ​ ไขข้อข้องใจ​ให้​เด็กชาย​ไป​ทีละ​ข้อ​

เดิน​ไป​ถึงบน​ยอดเขา​ บรรพบุรุษ​ใหญ่​แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​ สุดท้าย​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ ‘ป๋า​ย​เจ๋อ​ ภูเขา​ลูก​นี้​ยัง​ไม่มีชื่อ​ คน​ที่​มีความสามารถ​มาก​ย่อม​ต้อง​เหนื่อย​กว่า​คนอื่น​ เจ้าก็​ตั้งชื่อ​ให้​มัน​ไป​พร้อมกัน​เลย​ดี​ไหม​?’

กาลเวลา​ไหล​หาย​ไป​เหมือน​สายน้ำ​ แสงจันทร์​แม้จะหล่น​ลงมา​แต่​ไม่เคย​ผละ​จาก​ฟากฟ้า​

ป๋า​ย​เจ๋อ​จึงตั้งชื่อ​ให้​ภูเขา​สูงใต้​ฝ่าเท้า​ว่า​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ (ค้ำ​ยัน​/ประคอง​จันทร์​)

สุดท้าย​ป๋า​ย​เจ๋อ​ลูบ​ศีรษะ​เด็กชาย​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ ‘เริ่มต้น​ศักราช​ใหม่​ สรรพสิ่ง​ใน​โลก​ล้วน​เปลี่ยน​ใหม่​ วัน​หน้าต่าง​คน​ต่าง​ฝึก​ตน​ หาก​มีโอกาส​ก็​มารำลึก​ความหลัง​ใหม่​กัน​อีกครั้ง​’

ป๋า​ย​เจ๋อ​ถอน​สาย​ตากลับ​มาจาก​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​

เฟยเฟย​เปิดปาก​ถาม “ครั้งนี้​อาจารย์​ป๋า​ย​จะยืน​อยู่​ข้าง​พวกเรา​ ใช่หรือไม่​?”

ป๋า​ย​เจ๋อ​พยักหน้า​

……

ห่าน​ขาวใหญ่​ตัว​หนึ่ง​รีบ​เดินทาง​จาก​ภูเขา​ห้อย​หัว​มายัง​ร้าน​ตี​เหล็ก​ มือ​เท้า​ทำท่า​ว่ายน้ำ​อยู่​กลางอากาศ​ พอ​หยุด​ยืน​นิ่ง​ก็​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ดัง​พึ่บพั่บ​

เสียงดัง​จน​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ที่นั่ง​งีบหลับ​บน​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ลืมตา​ขึ้น​มาทันใด​

ใต้​ชายคา​วาง​เก้าอี้​ไว้​สามตัว​ มีตัว​หนึ่ง​ที่ว่าง​อยู่​จึงเอา​มาใช้รับรอง​แขก​ได้​พอดี​ ชุยตง​ซาน​บิด​หมุนตัว​ ดีด​ปลายเท้า​หนึ่ง​ที​ ทิ้งตัว​ดีด​ร่าง​ปลิว​กระเด็น​ออก​ไป​ด้านหลัง​ ก้น​ร่วง​ลง​บน​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ที่อยู่​ตรงกลาง​พอดิบพอดี​ ก่อน​จะขยับ​ทั้งตัว​คน​ทั้ง​เก้าอี้​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​หลิว​เสี้ยน​หยาง​

จากนั้น​คน​สอง​คน​ที่​รู้ใจ​กัน​ดี​ก็​ยก​ศอก​ถอง​กัน​ไปมา​ สอง​ฝ่าย​ที่​เจ้าถอง​ข้า​ ข้า​ถอง​เจ้าทำเอา​คน​มอง​ตาลาย​ยิ่งนัก​

“พี่ใหญ่​หลิว​!”

“น้อง​ชุย!”​

แม่นาง​หน้า​กลม​สวม​ชุด​ผ้าฝ้าย​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ตัว​ริม​สุด​กลอกตา​มอง​บน​

ยาม​ทั้งสองฝ่าย​เอ่ย​คำ​เรียกขาน​ น้ำเสียง​ถึงกับ​สั่นสะท้าน​เล็กน้อย​

ชุยตง​ซาน​เช็ด​ปาก​ ยืด​คอ​ยาว​ไป​ทาง​ลำคลอง​หลง​ซวี​ “พี่ใหญ่​หลิว​ มีเป็ด​ผัด​หน่อไม้​แห้ง​หรือไม่​?!”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​หัวเราะ​หึหึ​ ถูมือ​เอ่ย​ว่า​ “มีหรือไม่​มี ข้า​ไม่ใช่คน​ตัดสินใจ​สักหน่อย​”

อวี๋​เชี่ยน​เย​ว่​หันหน้า​มาถลึงตา​มอง​เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ที่​คิด​เพ้อเจ้อ​ด้วย​สายตา​เดือดดาล​

หลิว​เสี้ยน​หยาง​รู้ใจ​โดยพลัน​ รีบ​หัวเราะ​ฮ่าๆ เอ่ย​ว่า​ “สตรี​ต่อให้​มีฝีมือ​แค่​ไหน​แต่​หาก​ไม่มีวัตถุดิบ​ก็​ยาก​จะปรุงอาหาร​เลิศ​รส​ได้​ น้อง​ชุย​โปรด​อภัย​ด้วย​”

จากนั้น​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ก็​ถามอย่าง​ใคร่รู้​ว่า​ “มีธุระ​จะปรึกษา​หรือ​?”

ชุยตง​ซาน​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​ “เปล่า​หรอก​ ก็​แค่​มาผ่อน​คลายอารมณ์​ที่นี่​ เมล็ด​แตง​บน​ภูเขา​เหลือ​ไม่เยอะ​แล้ว​ นี่​ข้า​ก็​ได้รับ​โองการ​จาก​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ให้​ลง​จาก​ภูเขา​มาช่วย​ซื้อ​ไม่ใช่หรือ​ หึ​ จาก​รา​คาที่​หมี่​ลี่​น้อย​บอก​มา ไม่แน่​ว่า​ข้า​อาจ​ได้​กำไร​มาเล็กน้อย​ด้วย​”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​เอ่ย​อย่าง​ขัน​ๆ ปน​ฉุน​ “เงิน​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​ เจ้าก็​กล้า​หลอก​เอา​มาด้วย​หรือ​?”

ชุยตง​ซาน​ยิ้ม​กล่าว​ “เรื่อง​นี้​เจ้าไม่เข้าใจ​แล้ว​ เป็น​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ที่​จงใจมอบ​เงิน​ค่าเดินทาง​ให้​ข้า​เป็น​รางวัล​ต่างหาก​”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!