กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 864

ก่อนที่​เฉิน​ผิง​อัน​จะรู้จัก​หลิว​เสี้ยน​หยาง​และ​ก่อนที่​กู้​ช่าน​จะเกิด​ ทุกๆ​ วันที่​สามสิบ​ของ​สิ้นปี​ เขา​จะต้อง​เฝ้าคืน​อยู่​ใน​บ้าน​บรรพบุรุษ​ตรอก​หนี​ผิง​ตั้งแต่​ค่ำ​จน​ฟ้าสว่าง​เพียงลำพัง​ ไม่เคย​มีเพื่อนบ้าน​ใกล้เคียง​มาหา​ที่​บ้าน​ และ​ตัว​เขา​เอง​ก็​ไม่มีทาง​แวะ​ไป​บ้าน​คนอื่น​ หนึ่ง​เพราะ​ใน​บ้าน​มีเขา​แค่​คนเดียว​ ดูเหมือนว่า​จะปลีกตัว​ไป​ไม่ได้​ นอกจากนี้​ก็​เพราะ​เขา​ไม่เป็นที่​ต้อนรับ​ ไม่มีใคร​ยินดี​จะพบ​เจอ​เขา​ใน​วันนี้​ พวก​คน​เฒ่าคนแก่​บางส่วน​ที่​ยินดี​จะใกล้ชิด​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ต่อให้​เวลา​ปกติ​จะยินดี​พูดคุย​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ก็​มีเพียง​วันนี้​ที่​ยัง​ต้อง​มีความ​กริ่งเกรง​อยู่​บ้าง​ หลัก​ๆ แล้ว​พวก​คน​เฒ่าคนแก่​ยัง​กลัว​ว่า​คน​รุ่นเยาว์​ใน​บ้าน​จะรู้สึก​อัปมงคล​ ใน​คืน​สิ้นปี​วันที่​สามสิบ​เช่นนี้​ย่อม​ไม่อยาก​จะทะเลาะเบาะแว้ง​กับ​คนใน​ครอบครัว​เพียง​เพื่อ​คนนอก​คน​หนึ่ง​

เซอ​เย​ว่​ฟังหลิว​เสี้ยน​หยาง​เล่า​เจื้อยแจ้ว​ถึงอดีต​ที่ผ่านมา​ แล้ว​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “ตอน​อิ่น​กวาน​เป็น​เด็ก​น่าสงสาร​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​ยก​นิ้วโป้ง​ชี้มาที่​ตัวเอง​ “หลังจาก​รู้จัก​สหาย​อย่าง​ข้า​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ดีขึ้น​เยอะ​เลย​ล่ะ​ ทุกครั้งที่​ข้า​กินข้าว​ข้าม​ปี​เสร็จ​แล้วก็​จะปิดประตู​บ้าน​ตัวเอง​ ไป​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​เฉิน​ผิง​อัน​ เอา​กระถาง​ไฟใบ​เล็ก​มา เอา​ที่​คีบ​ถ่าน​มาคอย​ขยับ​ถ่านไม้​ เฝ้าคืน​อยู่​ด้วยกัน​”

อันที่จริง​ส่วนใหญ่​แล้ว​หลิว​เสี้ยน​หยาง​จะหลับ​กรน​ครอก​ๆ ไป​ก่อน​ ยังคง​เป็น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​กระถาง​ไฟเงียบๆ​ เพียงลำพัง​ นั่ง​จน​ฟ้าสว่าง​

เซอ​เย​ว่​พลัน​ถามอย่าง​สงสัย​ “ถ้าอย่างนั้น​เจ้าปิดประตู​บ้าน​ของ​ตัวเอง​แล้วก็​ไม่ต้อง​คอย​รับรอง​แขก​แล้ว​ล่ะ​สิ?”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​หัวเราะ​ร่า​ “ยากจน​จน​พี่ใหญ่​พี่​รอง​ใน​กระเป๋า​ไม่เจอ​หน้า​กัน​ จะต้อง​รับรอง​แขก​อะไร​อีก​”

เซอ​เย​ว่​กลับ​เข้าใจ​ประโยค​นี้​ นี่​เป็น​คำพูด​เฉพาะตัว​ของ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ ทอง​ก็​คือ​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​ เงิน​ก็​คือ​นาย​ท่าน​ใหญ่​ เงิน​สอง​ชนิด​นี้​จึงถูก​เรียก​ว่า​พี่ใหญ่​กับ​พี่​รอง​

เมื่อก่อน​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​ ชาวบ้าน​ทั่วไป​นอกเหนือจาก​คน​ของ​ถนน​ฝูลวี่​และ​ตรอก​เถาเย่​ ใน​ครอบครัว​ธรรมดา​ การไปมาหาสู่​กัน​ระหว่าง​ทรัพย์สิน​ ไม่ค่อย​ใช้เงิน​กับ​ทอง​เท่าใด​นัก​ เว้น​เสีย​จาก​เป็น​พวก​ช่างใน​เตาเผา​มังกร​และ​พวก​ช่างผู้เฒ่า​ที่​มีฝีมือ​ยอดเยี่ยม​บางส่วน​ เงินเดือน​ของ​พวกเขา​ถึงจะคิด​เป็น​เงินก้อน​

เซอ​เย​ว่​ถาม “เฝ้าคืน​ด้วยกัน​ พวก​เจ้าสอง​คน​คุย​กัน​เรื่อง​อะไร​หรือ​? ไหน​เจ้าบอ​กว่า​อิ่น​กวาน​เวลา​นั้น​คือ​น้ำเต้า​ตัน​ที่​ขนาด​ผายลม​ก็​ยัง​ไม่ดัง​ไม่ใช่หรือ​? ไม่เบื่อ​หรือ​ไร​?”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​หัวเราะ​อย่าง​ฉุนๆ​ “เวลา​ปกติ​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่พูดมาก​ แต่​เขา​ไม่ใช่คน​ใบ้​สักหน่อย​”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ “แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ตอน​อยู่​กับ​ข้า​ เจ้าเด็ก​นี่​กลับ​เต็มใจ​จะพูดมาก​หน่อย​”

เซอ​เย​ว่​หันหน้า​มามอง​หลิว​เสี้ยน​หยาง​

มีเพียง​พูดถึง​สหาย​คน​นั้น​ของ​เขา​เท่านั้น​ เจ้าหมอ​นี่​ถึงจะมีท่าทาง​ภาคภูมิใจ​ ลำพองใจ​มาก​เป็นพิเศษ​

ข้าว​ของมีค่า​น้อย​นิด​ใน​บ้าน​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ ล้วน​ถูก​เขา​เอา​ไป​ขาย​ราคา​ถูก​ให้​กับ​โรงรับจำนำ​ตั้งแต่​ตอน​เด็ก​ๆ แล้ว​ และ​เขา​ก็​มักจะ​พูด​ความในใจ​ให้​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ฟังจริงๆ​

ยกตัวอย่างเช่น​ซ่อมแซม​สุสาน​ของ​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่ให้​ดี​ก่อน​ ที่นา​ไม่กี่​ผืน​ที่​บรรพบุรุษ​ทิ้ง​ไว้​ให้​ รวมกัน​แล้วก็​มีแค่​ไม่กี่​ไร​ ตะวันออก​หนึ่ง​ผืน​ตะวันตก​หนึ่ง​ผืน​ ทาง​ที่​ดี​ที่สุด​คือ​สามารถ​ซื้อ​คืน​กลับมา​ได้​ ราคา​อาจจะ​สูงไป​สักหน่อย​ แต่​หาก​หา​ได้​เงินได้​มากกว่า​นี้​ก็​จะเอา​มาซ่อม​บ้าน​บรรพบุรุษ​ หาก​ยัง​มีเงิน​เหลือ​ บ้าน​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เหมือนว่า​จะไม่มีคน​อยู่​มาตั้งแต่​ตอน​เขา​ยัง​เด็ก​ ก็​จะซื้อ​มาไว้​ด้วย​ อันที่จริง​ช่วงเวลา​หลาย​ปี​ที่​เฉิน​ผิง​อันเป็น​ลูกศิษย์​ของ​เตาเผา​ นอกจาก​ค่าใช้จ่าย​จุกจิก​ยิบ​ย่อย​ที่​ใช้ไป​กับ​ตัว​ของ​กู้​ช่าน​แล้ว​ เดิมที​ก็​พอ​จะสะสมเงิน​ไว้​ได้​ส่วนหนึ่ง​แล้ว​ ผล​กลายเป็น​ว่า​ถูก​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ยืม​เอา​ไป​ เจอ​หายนะ​จน​หมดเกลี้ยง​ เรื่อง​พวก​นี้​ ยาม​อยู่​กับ​เซอ​เย​ว่​ หลิว​เสี้ยน​หยาง​กลับ​ไม่เคย​คิด​จะปิดบัง​

“ภายหลัง​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ก็​มีเจ้าขี้มูก​ยืด​น้อย​ที่​เป็น​ตัวถ่วง​มาเพิ่ม​คน​หนึ่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​มีรอยยิ้ม​มากขึ้น​ เขา​เห็น​กู้​ช่าน​เป็น​เหมือน​น้องชาย​แท้ๆ​ ของ​ตัวเอง​จริงๆ​ บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​…สงสาร​ตัวเอง​ตอน​เป็น​เด็ก​กระมัง​ ก็​เลย​ยิ่ง​เอ็นดู​เจ้าขี้มูก​ยืด​น้อย​ที่อยู่​ใกล้ชิด​ทุกวัน​ อีก​ทั้ง​กู้​ช่าน​เอง​ก็​ติด​หนึบ​เฉิน​ผิง​อัน​มาตั้งแต่​ยัง​เป็น​เด็ก​ มีไม่กี่​คน​ที่​รู้​ว่า​ใน​อดีต​แทบจะ​เป็น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​สอน​ให้​กู้​ช่าน​พูด​ สอน​ให้​กู้​ช่าน​เดิน​มากับ​มือ​ตัวเอง​ ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ เด็กกำพร้า​กับ​แม่หม้าย​ แม่ของ​กู้​ช่าน​ หลาย​ปี​มานั้น​เพื่อ​เลี้ยงดู​ครอบครัว​ ทั้ง​ยัง​ไม่ยินดี​จะแต่งงาน​ใหม่​ เวลา​ปกติ​จึงแทบจะ​ไม่มีเวลาว่าง​ จึงมักจะ​โยน​กู้​ช่าน​ให้​เฉิน​ผิง​อันเป็น​คน​ดูแล​ แล้ว​นาง​ก็​ไม่สนใจ​อะไร​อีก​”

ยาก​จะจินตนาการ​ได้​ว่า​ เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​ตัวเอง​ก็​ยัง​รู้จัก​ตัวอักษร​แค่​ไม่กี่​ตัว​ หยิบ​เอา​กิ่งไม้​มา นั่ง​ยอง​บน​พื้น​ สอน​ให้​เจ้าขี้มูก​ยืด​น้อย​เขียน​อักษร​สอง​ตัว​ว่า​ ‘กู้​ช่าน’​ จะเป็น​ภาพ​เหตุการณ์​แบบ​ใด​

ทำให้​คนอื่น​รู้สึก​ขบขัน​ แต่​ก็​คล้าย​ว่า​จะหัวเราะ​ไม่ออก​

เรื่อง​ของ​การ​ทน​กับ​ความยากลำบาก​นี้​ เป็น​ความรู้​เพียง​หนึ่งเดียว​ที่​ไม่ต้อง​ให้​คนอื่น​สอน​ บางที​เรื่อง​เดียว​ที่​ขมขื่น​ยิ่งกว่า​การ​ทน​กับ​ความยากลำบาก​ ก็​คือ​รอคอย​ไม่ถึงวันที่​ความขมขื่น​หมดสิ้น​ความหวาน​ชื่น​มาเยือน​

เซอ​เย​ว่​รับฟัง​เรื่อง​ใน​ปฏิทิน​เก่าแก่​ที่​กาลเวลา​ไม่ถือว่า​ผ่าน​มายาวนาน​นัก​

หลิว​เสี้ยน​หยาง​ยิ้ม​เอ่ย​ “ไม่ต้อง​รู้สึก​ว่า​เป็น​เรื่องใหญ่​อะไร​ พูด​ไป​พูด​มา เมื่อ​เทียบ​กับ​การ​ฝึก​ตน​ของ​บน​ภูเขา​แล้ว​ ก็​เป็น​แค่​เรื่อง​ขี้หมูราขี้หมาแห้ง​ใน​ตรอก​เล็ก​เท่านั้น​ มีอยู่​ทุกปี​ มีอยู่​ใน​ทุก​ครอบครัว​ เจ้าอย่า​ได้​รู้สึก​ว่า​เพราะ​เฉิน​ผิง​อัน​ประสบ​เรื่อง​พวก​นี้​มาถึงได้​กลาย​มาเป็น​น้ำเต้า​ตัน​ เคย​ได้ยิน​พวก​เพื่อนบ้าน​ที่อยู่​ใกล้​กับ​ตรอก​หนี​ผิง​เล่า​ให้​ฟังว่า​ เจ้าหมอ​นั่น​นับแต่​เด็ก​มาก​็พูด​ไม่เก่ง​ ใน​ความทรงจำ​ของ​พวก​ผู้เฒ่า​ มีคำบอกเล่า​หลายอย่าง​ แตก​ต่างกัน​ไป​ คำกล่าว​เดียว​ที่​คล้ายคลึง​กัน​ก็​คือ​สอง​ตา​ของ​เจ้าเด็ก​นั่น​ นับแต่​เด็ก​มาก​็สว่างไสว​มาก​มาโดยตลอด​”

เซอ​เย​ว่​ท่อง​คำ​ว่า​ ‘สว่างไสว​’ นี้​อยู่​ใน​ใจหนึ่ง​รอบ​ จากนั้น​พยักหน้า​เอ่ย​ “เป็น​คำกล่าว​ที่​ดีมาก​เลย​”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​เอ่ย​อย่าง​ลำพองใจ​ “คำพูด​เก่าแก่​ของ​บ้านเกิด​ข้า​มีอีก​เยอะ​เลย​ล่ะ​”

เซอ​เย​ว่​ถามอย่าง​สงสัย​ “คำ​ว่า​สว่างไสว​นี้​ ดูเหมือนว่า​จะไม่ใช่ภาษาที่​มีเฉพาะ​ใน​เมือง​เล็ก​ของ​พวก​เจ้ากระมัง​?”

หลิว​เสี้ยน​หยาง​ยิ้ม​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​แม่นา​งอ​วี๋​ก็​คิด​ว่า​ใช่ไป​แล้วกัน​”

หลังจากนั้น​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ก็​เริ่ม​หลับตา​งีบหลับ​

ส่วน​เซอ​เย​ว่​ไป​ที่​ริม​ลำคลอง​ นาง​กลัว​ว่า​เมือง​เล็ก​จะมีคน​ที่​ชอบ​ขว้าง​หิน​แล้ว​ขโมย​เป็ด​ไป​อยู่​อีก​เหมือนกัน​

หลังจากนั้น​มีวันหนึ่ง​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​สำนัก​กระบี่​หลง​เฉวียน​ก็​ย้ายออก​ไป​ ห​ร่วน​ฉงกลับมา​ที่นี่​ครั้งหนึ่ง​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ เซอ​เย​ว่​กำลัง​เดินเล่น​อยู่​ริม​ลำคลอง​พอดี​

เซอ​เย​ว่​ถามหยั่งเชิง​ “ช่างห​ร่วน​ อยาก​กิน​เป็ด​ผัด​หน่อไม้​แห้ง​หรือไม่​?”

นาง​พลัน​คลี่​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ ทั้ง​สงสาร​ฝูงลูก​เป็ด​ที่​ตัวเอง​เลี้ยงดู​มาอย่าง​ตั้งใจ​ ทั้ง​ลำบากใจ​ “แต่​เป็ด​ยัง​ไม่แก่​เท่าไร​นะ​”

ใน​ใจกลับ​แอบ​ขอพร​ให้​ช่างห​ร่วน​โปรด​เกรงใจ​กัน​สักหน่อย​ ทำตัว​ห่างเหิน​สักนิด​ อย่า​ได้​พยักหน้า​ตกลง​เด็ดขาด​เชียว​

ห​ร่วน​ฉงถึงนึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ระหว่างทาง​ที่​เดิน​มา ใน​ลำคลอง​หลง​ซวี​ใกล้​กับ​ร้าน​ตี​เหล็ก​แห่ง​นี้​ ดูเหมือน​จะมีเป็ด​ฝูงหนึ่ง​ที่​เล่น​น้ำ​กัน​อย่าง​เบิกบาน​

ใบหน้า​ของ​บุรุษ​มีรอยยิ้ม​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ ส่ายหน้า​ปฏิเสธ​

พอ​ห​ร่วน​ฉงส่ายหน้า​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​เซอ​เย​ว่​รู้สึก​มโนธรรม​ใน​ใจไม่สงบ​ ช่างเถิด​ๆ ล้วน​ยก​ให้​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ไป​จัดการ​เอา​เอง​เถอะ​ นาง​จะทำเป็น​ว่า​มองไม่เห็น​ รอ​แค่​ให้​เป็ด​ผัด​หน่อไม้​แห้ง​ที่​ไอ​ร้อน​ลอย​กรุ่น​จาก​หม้อ​ถูก​ยก​มาวาง​บน​โต๊ะ​ นาง​ค่อย​ขยับ​ตะเกียบ​ก็แล้วกัน​

ห​ร่วน​ฉงถาม “หลิว​เสี้ยน​หยาง​ล่ะ​?”

เซอ​เย​ว่​กะพริบตา​ปริบๆ​ นาง​มิอาจ​โกหก​ช่างห​ร่วน​ได้​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​แกล้ง​โง่ไป​แล้วกัน​

ห​ร่วน​ฉงเอ่ย​อย่าง​จนใจ​ “ข้า​มีธุระ​กับ​เขา​”

ดูเหมือน​เซอ​เย​ว่​จะนึก​ขึ้น​มาได้​กะทันหัน​ว่า​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ไป​ไหน​ นาง​จึงเอ่ย​ว่า​ “ไม่รู้​เหมือนกัน​ เขา​บอก​แค่​ว่า​ ‘บ้านใกล้เรือนเคียง​มีคน​ประลอง​กำลัง​กัน​ ต้อง​รีบ​รุดหน้า​ไป​ช่วย​ไกล่เกลี่ย​’ แล้วก็​วิ่ง​ไป​ที่​เมือง​เล็ก​ทันที​ คง​มีธุระ​สำคัญ​ต้อง​ไป​ทำ​กระมัง​ ถึงอย่างไร​เขา​ก็​เป็น​บัณฑิต​คน​หนึ่ง​นี่​นะ​”

ห​ร่วน​ฉงถึงได้​มอง​ไกลๆ​ ไป​ยัง​เมือง​เล็ก​ ใน​ตรอก​แห่ง​หนึ่ง​มีหญิง​แก่​สอง​คน​กำลัง​ข่วน​หน้า​กระชาก​ผม​กัน​อยู่​

หลิว​เสี้ยน​หยาง​กับ​ชายฉกรรจ์​และ​เด็ก​ตัว​เท่า​ก้น​กลุ่ม​หนึ่ง​นั่ง​ยอง​แทะ​เมล็ด​แตง​ ชมเรื่อง​สนุก​ด้วยกัน​

ต่าง​ก็​พูด​กัน​ว่า​คนเรา​เมื่อ​โต​ขึ้น​ บ้านเกิด​จะเล็ก​ลง​

ยัง​บอก​อี​กว่า​สถานที่​ที่​ไป​เยือน​บ่อยๆ​ ไม่มีทัศนียภาพ​ที่​น่าสนใจ​อีกแล้ว​

ทว่า​สำหรับ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​กลับ​ไม่มีคำกล่าว​พวก​นี้​

เซอ​เย​ว่​ถาม “ให้​ข้า​ช่วย​เรียก​เขา​กลับมา​ไหม​?”

“ไม่ต้อง​ ไม่ใช่ธุระ​เร่งด่วน​” ห​ร่วน​ฉงโบกมือ​ ใต้​ชายคา​เรือน​วาง​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ไว้​สอง​ตัว​ ห​ร่วน​ฉงกลับ​ไป​ยก​ม้านั่งยาว​ใน​ห้อง​ออกมา​

เซอ​เย​ว่​ยังคง​ใช้เสียง​ใน​ใจบอก​เตือน​ให้​หลิว​เสี้ยน​หยาง​รีบ​กลับมา​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!